Top 8 Crypto Exchange Thailand | เปรียบเทียบ Crypto Exchange

8 นาที
อัพเดทครั้งล่าสุด 17 พ.ค. 2567 09:52 น.

ในยุคดิจิทัลนี้ คริปโตเคอร์เรนซีกลายเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ผู้คนจำนวนมากหันมาลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลเหล่านี้ เพื่อหวังผลกำไร แต่ก่อนที่จะเริ่มต้น สิ่งสำคัญคือต้องเลือกแพลตฟอร์มการซื้อขายที่เหมาะสม บทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับ 8 Crypto Exchange ในไทย เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกและเปรียบเทียบ Crypto Exchange ในประเทศไทย ที่เหมาะกับความต้องการของคุณมากที่สุด

Crypto Exchange ทำงานอย่างไร?

การทำงานของ Crypto Exchange สามารถแบ่งออกเป็นขั้นตอนหลัก ๆ ได้ดังนี้:


-การลงทะเบียนและยืนยันตัวตน (Registration and Identity Verification):

ผู้ใช้ต้องลงทะเบียนบัญชีกับ Crypto Exchange โดยให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เช่น ชื่อ, ที่อยู่, และข้อมูลการติดต่ออื่น ๆ


-การฝากเงิน (Deposit):

ผู้ใช้สามารถฝากเงินเข้าสู่บัญชีของตนได้ผ่านทางการโอนเงินจากบัญชีธนาคารหรือการใช้บัตรเครดิต เงินที่ถูกฝากจะถูกเพิ่มเข้าไปในบัญชีของผู้ใช้บน Crypto Exchange เพื่อใช้ในการซื้อขาย Crypto


-การซื้อขาย (Trading):

ผู้ใช้สามารถซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลต่าง ๆ บนแพลตฟอร์มของ Crypto Exchange

การซื้อขายนั้นจะเกิดขึ้นในรูปแบบของคู่สกุลเงิน(pair) เช่น BTCUSDT,ETHUSDT โดยผู้ใช้สามารถซื้อหรือขายสกุลเงินดิจิทัลโดยใช้สกุลเงินที่เคยฝากไว้ในบัญชีของตน


-การถอนเงิน (Withdrawal):

ผู้ใช้สามารถถอนเงินจากบัญชี Crypto Exchange เข้าสู่บัญชีธนาคารหรือบัญชีกระเป๋าเงินดิจิทัลของตน

กระบวนการถอนเงินอาจใช้เวลาต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับนโยบายและวิธีการของแต่ละ Crypto Exchange


-การรักษาความปลอดภัย (Security Measures):

Crypto Exchange จะใช้มาตรการความปลอดภัยที่เข้มงวดเพื่อปกป้องข้อมูลและเงินทุนของผู้ใช้ เช่น การใช้เทคโนโลยีการเข้ารหัส, การยืนยันตัวตนสองขั้นตอน (2FA), และการตรวจสอบและป้องกันกิจกรรมที่เป็นอันตราย


-การจัดการลูกค้า (Customer Support):

Crypto Exchange มักจะมีทีมสนับสนุนลูกค้าที่พร้อมให้ความช่วยเหลือในกรณีที่ผู้ใช้พบปัญหาหรือมีคำถามเกี่ยวกับการใช้บริการ


Top 8 Crypto Exchange Thailand

1. Binance 

Binance ไบแนนซ์ เป็นกระดานแลกเปลี่ยนคริปโทเคอร์เรนซีที่ใหญ่ที่สุดในโลกตามปริมาณการซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2560 และเป็น Crypto Exchange ที่ให้บริการครอบคลุมทุกบริการ ทั้ง SPOT/Futures/Staking โดยตอนหลังมา Binance TH ที่บริหารงานโดยกลุ่มของ GULF ประเทศไทยจดทะเบียนในเข้ามาให้บริการในไทยเช่นกัน


🔸 ค่าธรรมเนียม : Maker 0.01% ของมูลค่าธุรกรรม และ Taker 0.02% ของมูลค่าธุรกรรม

🔸 สกุลเงินดิจิตอลที่รองรับ : มีมากกว่า 600 เหรียญ

🔸 ได้รับอนุญาตและควบคุม : ส่วนของประเทศไทย ก.ล.ต.ให้การรองรับ BINANCE TH ส่วน BINANCE Global ยังไม่มีหน่วยงานรองรับในไทย


ข้อดีของ Binanceข้อเสียของ Binance

1. มีจำนวนเหรียญให้เลือกมากกว่า 600 เหรียญ

2.สภาพคล่องสุง

3.ค่ำธรรมเนียมต่ำ

4.มีฟีเจอร์ฟังก์ชั่น ให้เลือกหลากหลา

1.สำหรับ Binance Global ไม่มีใบอนุญาตในไทย

2.การรองรับลูกค้าคนไทย ยังไม่ดี

3.เคยมีปัญหาเรื่องการโดนแฮ๊คเหรียญ


2. Bitkub

Bitkub เป็นแพลตฟอร์มเทรดเหรียญดิจิทัลด้วยเงินบาทแห่งแรกของไทยก่อตั้งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 ซึ่งได้รับการรับรองอย่างถูกต้องจาก กลต. พร้อมให้บริการโดยเจ้าหน้าที่คนไทยตลอด 24 ชม. โดยให้บริการแก่บุคคลทั่วไป ให้สามารถซื้อ ขายและเก็บสินทรัพย์ดิจิทัล ได้ตามต้องการ จดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมายด้วยทุนจดทะเบียน 290 ล้านบาท และมีที่ตั้งสำนักงานอยู่ในกรุงเทพฯ ประเทศไทย


🔸 ค่าธรรมเนียม : ค่าธรรมเนียมการเทรด: 0.25% /ครั้ง ส่วนค่าธรรมเนียมการถอนเงิน 20-200 บาท

🔸 สกุลเงินดิจิตอลที่รองรับ : จำนวนสกุลที่เปิดเทรด: 65 เหรียญ

🔸 ได้รับอนุญาตและควบคุม : ก.ล.ต.


ข้อดีของ Bitkubข้อเสียของ Bitkub

1. สามารถ KYC ผ่าน 7-11 ได้

2.มีใบอนุญาตในไทย โดยกฎหมายไทย เชื่อถือได้

3.ทีมงานซัพพอร์ตคนไทย ช่วยการตอบคำถาม ประสานงาน

4. ฝากเงิน ถอนเงินฝาก ธนาคารไทยได้สะดวก

5.มี Bitkub Academy โดยให้แนวโน้ม ติดตา

1. เทรดได้เฉพาะสินค้าเหรียญ SPOT  ไม่มีเทรดฟิวเจอร์ส

2. สมัครเปิดบัญชีและยืนยันตัวตนใช้เวลานาน

3.สภาพคล่องยังไม่มากพอที่จะ Match Order ได้ทันทีเวลาตั้ง Limit Order


3. UpBit

UpBit แพลตฟอร์มเทรดคริปโทเคอร์เรนซี สัญชาติเกาหลีใต้ ที่ก่อตั้งในปี 2017 ปัจจุบันกลายเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีที่ใหญ่สุดในโลก มีเปิดให้บริการในประเทศไทยแล้วในปี 2021 ทุนจดทะเบียน 180 ล้านบาท


🔸 ค่าธรรมเนียม : ค่าธรรมเนียมการเทรด: 0.15% ครั้ง ค่าธรรมเนียมการถอน: 15 บาท

🔸 สกุลเงินดิจิตอลที่รองรับ : 23 เหรียญ

🔸 ได้รับอนุญาตและควบคุม : ก.ล.ต.


ข้อดีของ Upbitข้อเสียของ Upbit

1.มีชื่อเสียง เป็นหนึ่งใน Crypto Exchange ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

2.มีใบอนุญาตในไทย โดยกฎหมายไทย เชื่อถือได้

3.บทวิเคราะห์ และเทรนด์ของสินทรัพย์ดิจิทัลแบบเรียลไทม์

4. ฝากเงิน ถอนเงินฝาก ธนาคารไทยได้สะดวก

1. สภาพคล่องยังไม่มากพอที่จะ Match Order ได้ทันทีเวลาตั้ง Limit Order

2. เหรียญให้บริการน้อย

3.สภาพคล่องยังไม่มากพอที่จะ Match Order ได้ทันทีเวลาตั้ง Limit Order


4. OKX

OKX คือ Crypto Exchange และอนุพันธ์ระดับโลก และเป็นการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่เป็นอันดับสองตามปริมาณการซื้อขาย ซึ่งให้บริการผู้คนมากกว่า 50 ล้านคนทั่วโลก ก่อตั้งโดย Star Xu ในปี 2560 


🔸 ค่าธรรมเนียม : ค่าธรรมเนียมการเทรด: 0.15% ครั้ง ค่าธรรมเนียมการถอน: 15 บาท

🔸 สกุลเงินดิจิตอลที่รองรับ : มากกว่า 600 เหรียญ

🔸 ได้รับอนุญาตและควบคุม : ไม่รองรับ ก.ล.ต.


ข้อดีของ OKXข้อเสียของ OKX

1.มีชื่อเสียงระดับโลกในความน่าเชื่อถือ

2.รองรับการใช้งานที่หลากยหลาย Spot Future Stake

3.มีระบบนิเวศของตัวเอง OKX DEX

4. มีสภาพคล่องสูงและเหรียญให้เทรดมากเหรียญ

1.ไม่รองรับ ก.ล.ต.

2.การบริการจากในไทยยังไม่ดี

3.เคยมีประวัติถูกแฮ็คเหรียญมาก่อน


5. GATE.IO 

Gate.io ก่อตั้งขึ้นในปี 2556 และติดอันดับหนึ่งใน 10 ศูนย์ให้บริการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลชั้นนำอย่างต่อเนื่อง เป็นแพลตฟอร์มให้ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลแบบครบวงจรซึ่งครอบคลุมผู้ใช้หลายล้านคนทั่วโลก


🔸 ค่าธรรมเนียม : Maker 0.20% ของมูลค่าธุรกรรม และ Taker 0.20% ของมูลค่าธุรกรรม

🔸 สกุลเงินดิจิตอลที่รองรับ : มากกว่า 1,700 เหรียญ

🔸 ได้รับอนุญาตและควบคุม : ไม่รองรับ ก.ล.ต.


ข้อดีของ GATE.IOข้อเสียของ GATE.IO

1.ระบบความปลอดภัยสูง

2.มีค่าธรรมเนียมต่ำ

3.มีสภาพคล่องสูงและเหรียญให้เทรดมากเหรียญ

1.ไม่รองรับ ก.ล.ต.

2.การสนับสนุนลูกค้าไทบ

3.เคยมีประวัติถูกแฮ็คเหรียญมาก่อน


6. ByBit 

Bybit เป็นแพลตฟอร์มซื้อขายอนุพันธ์ Cryptocurrency จากสิงคโปร์ ที่มาพร้อมกับ User-interface ที่เรียบง่าย สะดวกต่อการใช้งาน และมาพร้อมกับธีมสีดำ-เหลือง ให้ความรู้สึกหรูหราน่าเชื่อถือ


🔸 ค่าธรรมเนียม : Maker 0.01% ของมูลค่าธุรกรรม และ Taker 0.02% ของมูลค่าธุรกรรม

🔸 สกุลเงินดิจิตอลที่รองรับ : มากกว่า 300 เหรียญ

🔸 ได้รับอนุญาตและควบคุม : ไม่รองรับ ก.ล.ต.


ข้อดีของ ByBitข้อเสียของ ByBit

1.ค่าธรรมเนียมต่ำ

2.มีฟีเจอร์การเทรดขั้นสูง 

3.มีสภาพคล่องสูงและเหรียญให้เทรดมากเหรียญ

1.ไม่รองรับ ก.ล.ต.

2.การสนับสนุนลูกค้าไทยไม่ดี

3.เคยมีประวัติถูกแฮ็คเหรียญมาก่อน


7. Orbix

Orbix เป็นศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่รองรับการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ทั้งโทเคนดิจิทัลที่ออกและเสนอขายผ่าน KUBIX (คิวบิกซ์) ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารกสิกรไทย 


🔸 ค่าธรรมเนียม : Maker 0.15% ของมูลค่าธุรกรรม และ Taker 0.25% ของมูลค่าธุรกรรม

🔸 สกุลเงินดิจิตอลที่รองรับ : 40 เหรียญ

🔸 ได้รับอนุญาตและควบคุม : ก.ล.ต.


ข้อดีของ Orbixข้อเสียของ Orbix

1.ค่าธรรมเนียมต่ำ

2.มีฟีเจอร์ช่วยคำนวณต้นทุน และ Price Alert 

3.มีรองรับ ก.ล.ต. 

1. สภาพคล่องน้อยและจำนวนเหรียญให้เทรดไม่เยอะ

2. ฟีเจอร์จำกัด

3.เคยมีประวัติถูกแฮ็คเหรียญมาก่อน


8. Kraken 

Kraken คือการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลในสหรัฐอเมริกา ก่อตั้งขึ้นในปี 2554 เป็นหนึ่งในการแลกเปลี่ยน bitcoin แรกๆ ที่จดทะเบียนใน Bloomberg Terminal และมีมูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนมกราคม 2567 


🔸 ค่าธรรมเนียม : Maker 0.10% ของมูลค่าธุรกรรม และ Taker 0.20% ของมูลค่าธุรกรรม และมี tier ตามวอลุ่ม

🔸 สกุลเงินดิจิตอลที่รองรับ : มากกว่า 500 เหรียญ

🔸 ได้รับอนุญาตและควบคุม :  ไม่รองรับ ก.ล.ต.


ข้อดีของ Krakenข้อเสียของ Kraken

1.ค่าธรรมเนียมต่ำ

2.ระบบความปลอดภัยสูงมาก 

3.แพลตฟอร์มใช้งานสะดวก เรียบง่าย 

1. ไม่มีใบอนุญาตในไทย

2. การซัพพอร์ตลูกค้าคนไทยไม่ดี


ก่อนตัดสินใจเลือก Crypto Exchange พิจารณาปัจจัยเหล่านี้:เลือก Exchange ที่มีชื่อเสียง มีความน่าเชื่อถือ มีระบบรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง และผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เปรียบเทียบค่าธรรมเนียมการฝาก ถอน เทรด และค่าธรรมเนียมอื่นๆ ของ Exchange ที่สมเหตุสมผล


เปรียบเทียบ Crypto Exchange

Crypto Exchange

ใบอนุญาตก.ล.ต.

จุดเด่น/จุดแข็ง                    

จำนวนเหรียญ

BINANCE

ไม่รองรับ

สภาพคล่องสูง

600

BITKUB

รองรับ

โอนเงินธ.ไทย

65

UPBIT

รองรับ

โอนเงินธ.ไทย

23

OKX

ไม่รองรับ

มีระบบนิเวศ DEX

600

Gate.IO

ไม่รองรับ

ค่าธรรมเนียมต่ำ

1,700

BYBIT

ไม่รองรับ

ฟีเจอรการเทรดชั้นสูง

300

ORBIX

รองรับ

ฟีเจอร์พิเศษคำนวณต้นทุน

40

KRAKEN

ไม่รองรับ

ระบบความปลอดภัยสูงมาก

500


ข้อกำหนดในการซื้อคริปโตในประเทศไทย

การซื้อขายคริปโตในประเทศไทยอาจมีข้อกำหนดต่างๆ ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามนโยบายและกฎระเบียบของรัฐบาลและหน่วยงานต่างๆ 


การลงทะเบียนและตรวจสอบตัวตน: บางแพลตฟอร์มการซื้อขายอาจจำเป็นต้องให้ข้อมูลและยืนยันตัวตนของผู้ใช้ เพื่อป้องกันการฟ้องร้องและกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย

 

ค่าธรรมเนียม: การทำธุรกรรมในแพลตฟอร์มการซื้อขายคริปโตอาจมีค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง เช่น ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย หรือค่าธรรมเนียมการถอนเงิน


การบังคับกฎหมายและภาษี: ผู้ที่ทำธุรกรรมคริปโตในประเทศไทยอาจต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น การรายงานรายได้จากการซื้อขายคริปโตในภาษี


การกำกับดูแล: มีการกำกับดูแลโดยหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่ากิจกรรมการซื้อขายคริปโตเป็นไปตามกฎหมายและมีความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้


ความเสี่ยง:การลงทุนในคริปโตมีความเสี่ยง ผู้ที่มีความสนใจควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องและพิจารณาให้ดีก่อนการลงทุน


วิธีเทรดคริปโตในประเทศไทย

สำหรับการเทรดคริปโตมีวิธีการหลักๆอยู่สองทางคือ

 

Option 1: Crypto Exchange ตัวอย่าง การเทรดคริปโตผ่าน Crypto Exchange อย่าง Binance

-หลังจากเปิดบัญชีและสมัครเรียบร้อย ให้ผ่านเงินเข้าในบัญชีให้เรียบร้อย และเลือกที่ Trade เพื่อเข้าไปฟังก์ชั่นการเทรด


-ทำการเลือกเหรียญที่สนใจจะเข้าเทรด โดยเลือกจากลิสต์เหรียญต่างๆที่ในวงกลม เช่นตัวอย่างเป็น ETH/USDT 


ตัวอย่างแพลตฟอร์ม Crypto Exchange

ที่มา: Binance


-กำหนดราคาที่จะเข้าซื้อ จำนวนเหรียญ โดยดูจากยอดเงิน USDT ที่ฝากเข้ามาไว้ แล้วกด BUY ETH โดยที่เหรียญที่ BUY มานั้น จะเข้าไปอยู่ที่ SPOT


Option 2: Crypto Trading Platform

นักลงทุนสามารถเลือกเทรดคริปโตผ่านแพลตฟอร์ม CFD ได้เช่นกันเป็นอีกหนึ่งทางเลือก


สามารถแลกเปลี่ยนสกุลเงินเสมือนจากแพลตฟอร์มสัญญาซื้อขายส่วนต่าง (CFD) ได้ และสามารถเปิดบัญชีได้ภายในไม่กี่นาที นอกจากนี้ยังมีช่องทางการฝากและถอนเงินมากมาย แพลตฟอร์มปกติสามารถฝากเงินได้อย่างรวดเร็ว และคุณยังสามารถฝากเงินด้วยบัตรเครดิตได้อีกด้วย


ความเร็วในการทำธุรกรรมนั้นดีกว่าของ Crypto Exchange in Thailand มาก แม้จะไม่รองรับจำนวนเหรียญคริปโตได้มากเหมือนใน Crypto Exchange อย่างไรก็ตามใช้งานเริ่มต้นได้ง่ายมามาก การฝากและถอนเงินในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐสะดวกมาก และไม่จำเป็นต้องเรียนรู้ความรู้การถ่ายโอนบล็อคเชนที่ซับซ้อน นักลงทุนยังสามารถมีส่วนร่วมในตลาดสกุลเงินเสมือนได้


ราคา BTCUSD แบบเรียลไทม์


ตัวอย่างเช่น Mitrade ซึ่งได้รับความนิยมในประเทศไทย มีการควบคุมดูแลทางการเงินที่เชื่อถือได้ ข้อมูลที่รับประกัน เลเวอเรจสามารถปรับเป็น 1:1 (นั่นคือ ไม่มีการเปิดใช้งานเลเวอเรจ) ต้นทุนการทำธุรกรรมต่ำมาก และผู้ใช้ใหม่ยังสามารถได้รับ โบนัส $100 ลองใช้บัญชีทดลองมูลค่า $50,000 ฟรี และเมื่อชำนาญแล้วสามารถเปิดบัญชีจริงได้ เริ่มต้นเพียง 50 USD 


Crypto ถูกควบคุมในประเทศไทยหรือไม่

มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายหน่วยงานดูแลกำกับดูแล ดังนี้


  • สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ประกาศกฎหมาย พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 กำหนดให้สินทรัพย์ดิจิทัลบางประเภท เช่น โทเคนดิจิทัล เป็นหลักทรัพย์ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น เว็บเทรดคริปโต ต้องขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจจาก ก.ล.ต.


  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำกับดูแลระบบการชำระเงิน ธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินอื่นๆออกประกาศให้ธนาคารพาณิชย์ทำธุรกรรมกับผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. เท่านั้น


  • สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)กำกับดูแลและป้องกันการฟอกเงินผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลต้องมีมาตรการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินตามที่ ปปง. กำหนด


ดังนั้นนักลงทุนควรซื้อคริปโตผ่านเว็บเทรดคริปโตที่ได้รับใบอนุญาตจาก ก.ล.ต.และ ยืนยันตัวตน (KYC) และทำตามขั้นตอนของคริปโต Exchange ให้ถูกต้อง


ภาษีคริปโตในประเทศไทยเป็นอย่างไร

สำหรับคริปโตเคอร์เรนซี ถูกจัดเป็น สินทรัพย์ดิจิทัล ตามกฎหมายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา พ.ศ. 2561 หมายความว่า รายได้จากการซื้อขายคริปโตต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ในอัตราดังนี้


  • บุคคลธรรมดา: เสียภาษีแบบก้าวหน้า ตั้งแต่ 5% ถึง 35% ของ กำไรสุทธิ จากการซื้อขายคริปโต บุคคลธรรมดา: ยื่นแบบ ภ.ง.ด. 90/91 ภายในวันที่ 31 มีนาคมของปีถัดไป

  • นิติบุคคล: เสียภาษีเงินได้นิติบุคคล ในอัตรา 20% ของ กำไรสุทธิ จากการซื้อขายคริปโต ยื่นแบบ ภ.พ. 20 ภายใน 15 วันหลังสิ้นรอบระยะบัญชี


สรุป

Crypto Exchange ในประเทศไทย มีความหลากหลายและน่าสนใจ เนื่องจากการซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีมีการเติบโตอย่างรวดเร็วในไทย หลายแพลตฟอร์มการซื้อขายคริปโตได้รับความนิยมและการยอมรับจากผู้ใช้ทั่วไป เนื่องจากความสะดวกสบายและความปลอดภัยที่มีให้ผู้ใช้ โดยที่ Crypto Exchange ในไทยได้รับการควบคุมและกำกับดูแลโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจว่าการซื้อขายและการลงทุนในคริปโตจะเป็นไปตามกฎหมายและมีความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้ทุกคน


mitrade
🎉ห้ามพลาด!!!
ค่าคอมฯ 0 สเปรดต่ำ ! เงินฝากขั้นต่ำ $50 
แจกโบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 
ฝึกเทรดด้วยเงินเสมือนจริง $50, 000 ฟรี
การลงทุนมีความเสี่ยง อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน
คำถามที่พบบ่อย
เมื่อต้องการเลือก Crypto Exchange ในประเทศไทยที่เหมาะสม มีหลักการอย่างไรบ้าง
นี่คือข้อแนะนำที่สามารถช่วยให้คุณตัดสินใจได้: -สำหรับการเลือก Crypto Exchange ควรให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือของแพลตฟอร์ม แนะนำให้เลือก Exchange ที่มีประวัติการทำงานที่เชื่อถือได้และมีมาตรฐานความปลอดภัยที่สูง - ค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมสำคัญมากในการเลือก Crypto Exchange ควรเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมในการซื้อ-ขาย การถอนเงิน และค่าบริการอื่นๆ ระวังค่าธรรมเนียมที่สูงเกินไป เพราะอาจทำให้คุณสูญเสียเงินมากกว่าที่คุณคาดหวัง -ตรวจสอบว่า Exchange มีระบบซัพพอร์ตที่ดีและบริการลูกค้าที่เป็นมิตรหรือไม่ ในกรณีที่เกิดปัญหาหรือข้อสงสัย การได้รับการช่วยเหลือและสนับสนุนอย่างทันทีมีความสำคัญ ควรตรวจสอบว่า Crypto Exchange รองรับการเทรดสกุลเงินที่คุณสนใจหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ควรจำไว้ว่าบาง Exchange อาจมีความจำกัดในการรองรับสกุลเงินบางราย
3 อันดับ Crypto Exchange ในไทย ที่มีความนิยมมากที่สุด
- Bitkub: เป็นแพลตฟอร์ม Crypto Exchange ที่ได้รับความนิยมมากในประเทศไทย มีความสะดวกสบายในการใช้งานและมีความน่าเชื่อถือจากผู้ใช้งานมากมาย -Binance เป็นกระดานแลกเปลี่ยนคริปโทเคอร์เรนซีที่ใหญ่ที่สุดในโลกตามปริมาณการซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2560 และเป็น Crypto Exchange ที่ให้บริการครอบคลุมทุกบริการ ทั้ง SPOT/Futures/Staking โดยตอนหลังมา Binance TH ประเทศไทยจดทะเบียนในเข้ามาให้บริการในไทยเช่นกัน -Satang Pro เป็น Exchange ที่เริ่มต้นให้บริการในปี 2018 และได้รับความนิยมเนื่องจากความสะดวกสบายในการใช้งาน รวมถึงมีความเชื่อถือจากผู้ใช้งานในตลาด ไทย โดยตอนหลังเปลี่ยนชื่อเป็น ORBIX นั่นเอง

*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา


การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่?
บทความที่เกี่ยวข้อง
placeholder
10 อันดับเหรียญคริปโตที่น่าลงทุนระยะสั้นในปี 2023 เหรียญที่ได้รับความนิยมในปี 2022 จะยังรักษาโมเมนตัมไว้ได้หรือไม่ จะมีเหรียญอะไรใหม่ๆ ที่มาแรงและน่าจับตามองกันบ้าง เราจะพาทุกคนไปสำรวจ 10 อันดับเหรียญคริปโตที่น่าลงทุนระยะสั้นในปี 2023
ผู้เขียน  MitradeInsights
เหรียญที่ได้รับความนิยมในปี 2022 จะยังรักษาโมเมนตัมไว้ได้หรือไม่ จะมีเหรียญอะไรใหม่ๆ ที่มาแรงและน่าจับตามองกันบ้าง เราจะพาทุกคนไปสำรวจ 10 อันดับเหรียญคริปโตที่น่าลงทุนระยะสั้นในปี 2023
placeholder
วิเคราะห์แนวโน้มราคาบิทคอยน์ 2024 จะไปในทิศทางใดบทความนี้จะเป็นการเรียบเรียงข้อข้อมูลเกี่ยวกับ “Bitcoin” โดยตรง รวมไปถึงการวิเคราะห์ราคาบิทคอยน์ 10 ปีย้อนหลัง การวิเคราะห์ราคาบิทคอยน์ปี 2023 และวิเคราะห์บทสุปราคาบิทคอยน์จะขึ้นหรือลดลงและยังน่าลงทุนอยู่ไหมในปี 2024
ผู้เขียน  MitradeInsights
บทความนี้จะเป็นการเรียบเรียงข้อข้อมูลเกี่ยวกับ “Bitcoin” โดยตรง รวมไปถึงการวิเคราะห์ราคาบิทคอยน์ 10 ปีย้อนหลัง การวิเคราะห์ราคาบิทคอยน์ปี 2023 และวิเคราะห์บทสุปราคาบิทคอยน์จะขึ้นหรือลดลงและยังน่าลงทุนอยู่ไหมในปี 2024
placeholder
Ripple (XRP) น่าลงทุนหรือไม่ในกระแสการเติบโตของสกุลเงินดิจิทัล คราวนี้เราจะมาทำความรู้จักกับสกุลเงินนี้กัน รวมถึงคำถามที่ว่า Ripple (XRP) น่าลงทุนไหม วิธีเทรด Ripple (XRP) และเมื่อเทียบกับรุ่นพี่อย่าง Bitcoin และ Ethereum แล้ว Ripple (XRP) ยังดูน่าสนใจอยู่หรือไม่ ตามไปดูกันได้เลย
ผู้เขียน  MitradeInsights
คราวนี้เราจะมาทำความรู้จักกับสกุลเงินนี้กัน รวมถึงคำถามที่ว่า Ripple (XRP) น่าลงทุนไหม วิธีเทรด Ripple (XRP) และเมื่อเทียบกับรุ่นพี่อย่าง Bitcoin และ Ethereum แล้ว Ripple (XRP) ยังดูน่าสนใจอยู่หรือไม่ ตามไปดูกันได้เลย
placeholder
ราคา Ethereum วันนี้ การคาดการณ์ราคา Ethereum เทรดอย่างไร? Ethereum ที่ว่านี้จะกลายมาเป็นอนาคตในวงการการเงินและมีการซื้อขายกันอย่างคึกคักน่าเทรดได้อย่าง Bitcoin รึเปล่า แล้วจะมีวิธีเทรด Ethereum ได้อย่างไร บทความนี้เราจะพาเทรดเดอร์ไปสำรวจสินทรัพยที่เรียกว่า Ethereum กัน
ผู้เขียน  MitradeInsights
Ethereum ที่ว่านี้จะกลายมาเป็นอนาคตในวงการการเงินและมีการซื้อขายกันอย่างคึกคักน่าเทรดได้อย่าง Bitcoin รึเปล่า แล้วจะมีวิธีเทรด Ethereum ได้อย่างไร บทความนี้เราจะพาเทรดเดอร์ไปสำรวจสินทรัพยที่เรียกว่า Ethereum กัน
placeholder
ICO (Initial Coin Offering) คืออะไร รู้ไว้ก่อนลงใน CryptoICO คือการเสนอขายหลักทรัพย์ต่อประชาชนในครั้งแรก (IPO) ของอุตสาหกรรมสกุลเงินดิจิตอล ICO เป็นช่องทางการระดมทุนซึ่งบริษัทมองหาช่องทางระดมทุนในการสร้างเหรียญ แอพหรือบริการใหม่เปิดตัว ICO
ผู้เขียน  MitradeInsights
ICO คือการเสนอขายหลักทรัพย์ต่อประชาชนในครั้งแรก (IPO) ของอุตสาหกรรมสกุลเงินดิจิตอล ICO เป็นช่องทางการระดมทุนซึ่งบริษัทมองหาช่องทางระดมทุนในการสร้างเหรียญ แอพหรือบริการใหม่เปิดตัว ICO
ราคาเสนอแบบเรียลไทม์