ข่าวคริปโต|ข่าวคริปโตวันนี้|สรุปข่าวคริปโตประจำวัน: Cathie Wood ทำนายราคา Bitcoin อาจทะลุ 1.5 ล้านดอลลาร์ ขณะที่เหรียญมีม TRUMP ทำนักลงทุนสูญกว่า 2 พันล้านดอลลาร์

ข่าวคริปโตวันนี้: วิเคราะห์ข่าวคริปโตวันนี้
ไฮไลท์ของข่าวคริปโตวันนี้
Cathie Wood ทำนาย ราคา Bitcoin อาจทะลุ 1.5 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2030
หุ้นโรบินฮูดพุ่ง หลังรายได้คริปโตไตรมาส 4 เพิ่มขึ้น 700%
Franklin Templeton เตรียมเปิดกองทุน ETF โซลาน่าในสหรัฐฯ
เหรียญมีมไม่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ SEC ขณะที่นักลงทุนขาดทุนจาก TRUMP กว่า 2 พันล้านดอลลาร์
Cathie Wood ทำนาย ราคา Bitcoin อาจทะลุ 1.5 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2030
Cathie Wood ซีอีโอของ ARK Invest เผยโอกาสที่ Bitcoin จะพุ่งแตะระดับ 1.5 ล้านดอลลาร์มีมากขึ้น เนื่องจากนักลงทุนสถาบันเพิ่มการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าในปัจจุบันราคา Bitcoin จะลดต่ำลงจากความกังวลเรื่องสงครามการค้าโลกหลังสหรัฐฯ และจีนประกาศมาตรการภาษีนำเข้าใหม่
Wood ยังเสริมว่านักลงทุนสถาบันจำนวนมากกำลังพิจารณาเพิ่ม Bitcoin ในพอร์ตการลงทุน เนื่องจากผลตอบแทนและความเสี่ยงที่แตกต่างจากสินทรัพย์อื่นๆ การที่ราคาจะพุ่งแตะ 1.5 ล้านดอลลาร์นั้น จะต้องมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 58% ในช่วง 5 ปีข้างหน้า
แหล่งที่มา: ARK Invest
บทวิเคราะห์: การคาดการณ์ของ Wood สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นต่อ Bitcoin ในฐานะสินทรัพย์ทางเลือก โดยเฉพาะจากนักลงทุนสถาบัน อย่างไรก็ตาม เป้าหมายที่ 1.5 ล้านดอลลาร์ถือว่าค่อนข้างสูง และต้องอาศัยปัจจัยสนับสนุนหลายด้าน
หุ้นโรบินฮูดพุ่ง หลังรายได้คริปโตไตรมาส 4 เพิ่มขึ้น 700%
โรบินฮูดสร้างปรากฏการณ์ในตลาดหุ้น โดยราคาหุ้นพุ่งขึ้น 17% หลังผลประกอบการไตรมาส 4 ทำลายสถิติและสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ซึ่งเป็นไตรมาสที่ทำกำไรติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 5 และสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้กว่า 9%
รายได้จากการซื้อขายคริปโตเคอเรนซีคิดเป็นกว่าครึ่งหนึ่งของรายได้จากการทำธุรกรรมทั้งหมด ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 200% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยปริมาณการซื้อขายคริปโตเพิ่มขึ้นกว่า 450%
Vlad Tenev ซีอีโอของโรบินฮูด ระบุว่าบริษัทเตรียมขยายบริการด้านคริปโตสู่ตลาดสินทรัพย์จริง นอกจากนี้ บริษัทยังวางแผนที่จะเปิดให้บริการ Crypto Staking ในสหรัฐฯ หลังจากประสบความสำเร็จในยุโรป
แหล่งที่มา: Robinhood
บทวิเคราะห์: ผลประกอบการที่โดดเด่นของโรบินฮูดสะท้อนถึงการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของตลาดคริปโตและความสำเร็จในการขยายฐานลูกค้า การเตรียมขยายบริการสู่การโทเคไนซ์สินทรัพย์จริงแสดงให้เห็นวิสัยทัศน์ในการผสานโลกการเงินแบบดั้งเดิมเข้ากับเทคโนโลยีบล็อกเชน ซึ่งอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของอุตสาหกรรม
Franklin Templeton เตรียมเปิดกองทุน ETF โซลาน่าในสหรัฐฯ
บริษัทจัดการสินทรัพย์ Franklin Templeton ได้จดทะเบียนทรัสต์ชื่อ “Franklin Solana Trust” สะท้อนความเป็นไปได้ในการเปิดตัวกองทุน ETF Solana ในสหรัฐฯ
เอกสารที่ยื่นต่อหน่วยงานกำกับดูแลแสดงให้เห็นว่า CSC Delaware Trust Company เป็นผู้จัดตั้งกองทรัสต์ ซึ่งบริษัทนี้เคยจดทะเบียนผลิตภัณฑ์ทรัสต์คริปโตให้กับผู้จัดการสินทรัพย์รายอื่น เช่น Bitwise โดยหากดำเนินการสำเร็จ Franklin Templeton จะเข้าร่วมกับ Grayscale, Bitwise, VanEck, 21Shares และ Canary Capital ในการแข่งขันเสนอกองทุน ETH Solana ซึ่งปัจจุบันเป็นคริปโตเคอเรนซีที่มีมูลค่าตลาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก
แหล่งที่มา: Delaware Division of Corporations
บทวิเคราะห์: การเข้ามาของ Franklin Templeton ในตลาด Spot Solana ETF แสดงให้เห็นถึงความสนใจที่เพิ่มขึ้นของสถาบันการเงินขนาดใหญ่ต่อสินทรัพย์ดิจิทัล การแข่งขันที่เพิ่มขึ้นในตลาดอาจนำไปสู่นวัตกรรมผลิตภัณฑ์และการลดค่าธรรมเนียม ซึ่งเป็นผลดีต่อนักลงทุนรายย่อย
เหรียญมีมไม่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ SEC ขณะที่นักลงทุนขาดทุนจาก TRUMP กว่า 2 พันล้านดอลลาร์
Hester Peirce กรรมาธิการคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) เปิดเผยว่าเหรียญมีมอย่าง Official Trump (TRUMP) ของประธานาธิบดี Donald Trump ไม่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ SEC ท่ามกลางรายงานการขาดทุนของนักลงทุนกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์
ข้อมูลจาก Chainalysis ระบุว่ากระเป๋าเงินคริปโตอย่างน้อย 813,000 กระเป๋าสูญเสียเงินรวมกันถึง 2 พันล้านดอลลาร์จากการลงทุนใน TRUMP โทเคน ซึ่งราคาได้ร่วงลงประมาณ 80% จากจุดสูงสุดที่ 72.60 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 19 มกราคม ในขณะที่องค์กรของ Trump และพันธมิตรได้รับค่าธรรมเนียมการซื้อขายราว 100 ล้านดอลลาร์
Nate Geraci ประธาน ETF Store สนับสนุนมุมมองของ Peirce โดยระบุว่า เหรียญมีมมีลักษณะคล้ายของสะสมมากกว่า ด้าน Lyn Alden นักเศรษฐศาสตร์มหภาค เปรียบเทียบเหรียญมีมกับกระแส ICO (Initial Coin Offering) และ NFT (Non-Fungible Token) โดยกล่าวว่า “นักลงทุนการเงินแบบดั้งเดิมที่มองข้าม Bitcoin เพราะ ICO, DeFi และ NFT จะมองข้ามมันอีกครั้งเพราะเหรียญมีมมี ทั้งที่พวกเขาควรซื้อมันเพื่อเอาสร้างกำไรให้พอร์ตการลงทุนของตัวเอง”
แหล่งที่มา: CoinGecko
บทวิเคราะห์: กรณีของ TRUMP สะท้อนให้เห็นความเสี่ยงในตลาดเหรียญมีมที่ขาดการกำกับดูแล การขาดทุนมหาศาลของนักลงทุนและความไม่ชัดเจนในการกำกับดูแลอาจนำไปสู่การพิจารณากฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้นในอนาคต
ดัชนี Fear & Greed ประจำวันนี้
ดัชนี Fear and Greed Index :50
Source: https://alternative.me/crypto/
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน