คาดการณ์ราคาทองแดง 2025-2030: เจาะลึกเทรนด์ และโอกาสสำหรับนักลงทุนไทย

อัพเดทครั้งล่าสุด
coverImg
แหล่งที่มา: DepositPhotos

ทองแดง กำลังถูกขนานนามว่าเป็น “น้ำมันชนิดใหม่” ในการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดและ AI นี่คือสถานการณ์ที่กำลังสร้างแนวโน้มขาขึ้นในระยะยาวให้กับ ราคาทองแดงในตลาดโลก 


บทความนี้ จะพาคุณไปดูวิธีสร้างผลกำไรจากทองแดง และสร้างความได้เปรียบจากโอกาสที่กำลังจะมาถึงในทศวรรษนี้

วิเคราะห์สถานการณ์ราคาทองแดงปัจจุบัน

กราฟราคาทองแดงแบบเรียลไทม์

เทรดทองแดงเดี๋ยวนี้ >     

*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣ 

*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰 

*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁


การทำความเข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันคือสิ่งจำเป็นอันดับแรก กราฟราคาสัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองแดง (Copper Futures) แสดงให้เห็นถึงภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาในตลาดโลก


จากข้อมูลล่าสุด ราคาทองแดงมีการซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 4.67 ดอลลาร์สหรัฐต่อปอนด์ หรือราว 10,101 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน


โดยในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ราคาได้ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 12-13% แต่ในระยะสั้นกลับมีความผันผวนสูง ซึ่งสะท้อนถึงแรงขับเคลื่อนที่ซับซ้อนในตลาด


การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis)

การวิเคราะห์ทางเทคนิคเผยให้เห็นว่าตลาดกำลังอยู่ในช่วงของการสะสมพลัง (Consolidation) ซึ่งเป็นภาวะที่ราคามีการเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ สะท้อนถึงความไม่แน่ใจของนักลงทุนระหว่างปัจจัยบวกในระยะยาวและปัจจัยลบในระยะสั้น ภาวะเช่นนี้มักเกิดขึ้นก่อนที่ราคาจะมีการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง


  • แนวโน้มและกรอบราคา: ในภาพระยะสั้นถึงกลาง ราคาทองแดงกำลังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแนวโน้มขาขึ้น โดยมีแนวรับและแนวต้านที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ราคากำลังเข้าสู่แนวต้าน ซึ่งมีต่อจับตาว่าราคาจะสามารถผ่านขึ้นไปได้หรือไม่


  • แนวรับ: อย่างไรก็ตาม ระดับราคาที่คาดว่าจะมีแรงซื้อเข้ามาพยุงราคาไว้ไม่ให้ตกลงไปจุดสำคัญที่นักลงทุนทั่วโลกจับตามองคือบริเวณ 9,685 แต่ถ้าหากราคาทะลุแนวรับเหล่านี้ลงไป อาจเป็นสัญญาณของการปรับฐานในระยะสั้น


  • แนวต้าน: ระดับราคาที่คาดว่าจะมีแรงขายออกมาสกัดกั้นการปรับตัวขึ้นของราคา จุดสำคัญอยู่ที่บริเวณ 10,116 ซึ่งเป็นแนวต้านเก่าช่วงต้นปี 2025 การที่ราคาสามารถทะลุผ่านแนวต้านเหล่านี้ขึ้นไปได้อย่างแข็งแกร่ง จะเป็นสัญญาณยืนยันการเริ่มต้นของแนวโน้มขาขึ้นรอบใหม่


  • สัญญาณจากอินดิเคเตอร์: เครื่องมือชี้วัดทางเทคนิคอย่าง Relative Strength Index (RSI) เข้าใกล้ภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) สอดคล้องกับสัญญาณของการทดสอบแนวต้านสำคัญ


ระยะสั้น เตรียมทดสอบแนวต้านสำคัญ


ภาพรวมทางเทคนิคนี้สะท้อนถึงความตึงเครียดในตลาดได้อย่างชัดเจน มุมมองที่ระมัดระวังในระยะสั้นของสถาบันการเงินอย่าง J.P. Morgan ที่กังวลผลกระทบจากการตั้งกำแพงภาษีและการระบายสต็อกสินค้าคงคลัง กำลังต่อสู้กับมุมมองเชิงบวกในระยะยาวของ Goldman Sachs และ Citi ที่มองเห็นภาวะขาดดุลเชิงโครงสร้าง


สถานการณ์เช่นนี้บ่งชี้ว่าตลาดในระยะสั้นไม่ใช่ตลาดสำหรับการ “ซื้อแล้วถือ” (Buy and Hold) แต่เป็นการใช้กลยุทธ์จับจังหวะจากกรอบแนวรับ-แนวต้านเสียมากกว่า

ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองแดงตลาดโลก

ภาวะเศรษฐกิจโลก ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่กระทบทองแดง


เพื่อเจาะลึกถึงภาพรวมปัจจัยพื้นฐาน เราจำเป็นต้องวิเคราะห์แรงขับเคลื่อนหลักในตลาด ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ส่วนสำคัญ ได้แก่ ฝั่งอุปสงค์ (ความต้องการใช้) ฝั่งอุปทาน (กำลังการผลิต) และปัจจัยเศรษฐกิจมหภาค


ฝั่งอุปสงค์

  • ยานยนต์ไฟฟ้า (EVs): จากการคาดการณ์ของสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ที่ว่ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกจะเติบโตเฉลี่ยปีละ 18.9% ในช่วงปี 2023 - 2030 และคาดว่าความต้องการทองแดงจากภาคยานยนต์ไฟฟ้าจะพุ่งสูงขึ้นจาก 204,000 ตันในปี 2020 ไปสู่ 2.2 ล้านตันภายในปี 2030


  • พลังงานหมุนเวียนและโครงข่ายไฟฟ้า: การลงทุนในโครงข่ายไฟฟ้าทั่วโลกคาดว่าจะสูงเกิน 4 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2025 และคาดว่าจะผลักดันความต้องการทองแดงเฉพาะในส่วนนี้ให้เพิ่มขึ้นจาก 12.52 ล้านตันในปี 2025 เป็น 14.87 ล้านตันภายในปี 2030


  • การประมวลผลของ AI ต้องการพลังงานและฮาร์ดแวร์อย่างมหาศาล และศูนย์ Data Center ที่รองรับ AI ที่คาดว่าจะพุ่งสูงขึ้นจาก 78,000 ตันในปี 2020 เป็นมากกว่า 650,000 ตันภายในปี 2030 และบริษัทค้าสินค้าโภคภัณฑ์ยักษ์ใหญ่อย่าง Trafigura คาดการณ์ว่า AI และ Data Center เพียงอย่างเดียวอาจสร้างความต้องการทองแดงเพิ่มขึ้นถึง 1 ล้านตันภายในสิ้นทศวรรษนี้


  • สุขภาพเศรษฐกิจจากจีน ซึ่งยังคงมีบทบาทสำคัญในฐานะผู้บริโภคทองแดงรายใหญ่ที่สุดของโลก ดังนั้น ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต ภาคอสังหาริมทรัพย์ และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของจีนยังคงเป็นตัวชี้วัดที่ต้องจับตา


ฝั่งอุปทาน

  • ภาวะวิกฤตในชิลีและเปรู: สองประเทศนี้ครองส่วนแบ่งการผลิตทองแดงรวมกันกว่า 40% ของทั้งโลก การพึ่งพิงแหล่งผลิตเพียงไม่กี่แห่งสร้างความเสี่ยงอย่างมหาศาล


  • การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยแล้ง: รายงานจาก PwC ระบุว่า ภายในปี 2050 การผลิตทองแดงของเปรูถึง 41% จะต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากภัยแล้งขั้นรุนแรง เพิ่มขึ้นจาก 0% ในปัจจุบัน นี่ไม่ใช่ปัญหาชั่วคราว แต่เป็นข้อจำกัดทางกายภาพที่คุกคามอุปทานของโลกในระยะยาว


  • อุปสรรคทางการเมืองและกฎระเบียบ: กระแสชาตินิยมด้านทรัพยากร กฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดขึ้น และการต่อต้านจากชุมชนในพื้นที่ ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้การเปิดเหมืองใหม่ล่าช้าและเพิ่มต้นทุนการดำเนินงาน


  • การลงทุนที่ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น: การจะเปิดเหมืองทองแดงแห่งใหม่ต้องใช้เวลาเฉลี่ยเกือบ 18 ปี หลังจากที่ราคาทองแดงตกต่ำมานานนับทศวรรษ ทำให้อุตสาหกรรมขาดการลงทุนในการสำรวจและพัฒนาเหมืองใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง Goldman Sachs ประเมินว่าตลาดจะขาดดุลอุปทานมากกว่าครึ่งล้านตันในปี 2027


  • คุณภาพแร่ที่ลดลง: คุณภาพของแร่ทองแดงที่ขุดได้ทั่วโลกกำลังลดลงอย่างต่อเนื่อง หมายความว่าต้องขุดหินในปริมาณที่มากขึ้นเพื่อสกัดทองแดงให้ได้เท่าเดิม ซึ่งเป็นการเพิ่มต้นทุนและปริมาณการใช้พลังงานอย่างมหาศาล


ปัจจัยเศรษฐกิจมหภาค

  • อิทธิพลของเงินดอลลาร์สหรัฐ: ราคาทองแดงซื้อขายกันในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้นจึงมีความสัมพันธ์แบบผกผัน กล่าวคือ เมื่อเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง จะทำให้ทองแดงมีราคาถูกลงสำหรับผู้ซื้อที่ใช้สกุลเงินอื่น ซึ่งจะกระตุ้นความต้องการและผลักดันให้ราคาสูงขึ้น การคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยจึงเป็นปัจจัยบวกที่สำคัญต่อราคาทองแดงอย่างเลี่ยงไม่ได้


  • ความตึงเครียดทางการค้าและกำแพงภาษี: นโยบายภาษีของสหรัฐฯ โดยเฉพาะการขู่ว่าจะขึ้นภาษีนำเข้าทองแดงถึง 50% ได้สร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดอย่างมาก นโยบายเหล่านี้กระตุ้นให้เกิดการเร่งนำเข้าสินค้าเข้าสหรัฐฯ เพื่อหลีกเลี่ยงภาษี ซึ่งส่งผลให้สต็อกสินค้าคงคลังทั่วโลกถูกดึงออกไป และสร้างส่วนต่างราคา (Premium) ระหว่างตลาด COMEX (สหรัฐฯ) และ LME (ลอนดอน) ให้ถ่างกว้างขึ้น แม้จะสร้างความผันผวนในระยะสั้น แต่ก็เป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนที่เข้าใจกลไกของตลาด

คาดการณ์ราคาทองแดงปี 2025-2030: มุมมองจากสถาบันการเงินชั้นนำ

สถาบันการเงินชั้นนำยังคงมองราคาทองแดงเป็นขาขึ้น


ภาพรวมการคาดการณ์ราคาทองแดงจากสถาบันการเงินชั้นนำชี้ไปในทิศทางเดียวกันคือแนวโน้มขาขึ้นในระยะยาว แต่จะมีความแตกต่างในรายละเอียดและจังหวะเวลาในแต่ละปี


ปี 2025: ปีแห่งความผันผวนและการปรับฐาน

ปี 2025 ถูกมองว่าเป็นปีที่ตลาดจะมีความผันผวนสูง โดยเป็นการต่อสู้กันระหว่างปัจจัยลบในระยะสั้นและปัจจัยบวกในระยะยาว


J.P. Morgan มีมุมมองที่ระมัดระวังที่สุด โดยคาดว่าตลาดจะเข้าสู่ช่วงเวลาของการชดเชย (period of payback) หลังจากการเร่งนำเข้าทองแดงจำนวนมากเข้าสหรัฐฯ ในช่วงครึ่งแรกของปีเพื่อหลีกเลี่ยงกำแพงภาษี  ซึ่งจะนำไปสู่การระบายสต็อกและลดการนำเข้าในช่วงครึ่งหลังของปี กดดันให้ราคาในตลาด LME อาจปรับตัวลงไปที่ระดับ 9,100 ต่อตัน ในไตรมาสที่ 3 ก่อนจะฟื้นตัวเล็กน้อย


ในทางกลับกัน สถาบันอย่าง Citi และ Goldman Sachs มองว่าแม้จะมีความผันผวน แต่ปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งจากการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดและการลดลงของสต็อกทั่วโลกจะช่วยพยุงราคาไว้  Citi คาดการณ์ว่าราคาอาจพุ่งสูงถึง 15,000 ต่อตัน ในกรณีที่ดีที่สุด แต่ก็อาจปรับฐานลงมาที่ 8,800 ต่อตัน ได้เช่นกันหากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว


  • คาดการณ์ราคาเฉลี่ย: อยู่ในกรอบกว้างระหว่าง $9,000 - 10,200 ต่อตัน    


ปี 2026: จุดเริ่มต้นของภาวะขาดดุลที่ชัดเจน

นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่าปี 2026 จะเป็นปีที่ภาวะขาดดุลอุปทานเริ่มส่งผลกระทบต่อราคาอย่างชัดเจนมากขึ้น หลังจากปัจจัยรบกวนระยะสั้นในปี 2025 คลี่คลายลง


UBS คาดการณ์ว่าราคาทองแดงจะปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปี 2026 โดยอาจแตะระดับ 11,000 ต่อตัน ภายในเดือนกันยายน  ปัจจัยหนุนมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกหลังจากการชะลอตัวในปี 2025 ซึ่งจะกระตุ้นความต้องการใช้ทองแดงในภาคอุตสาหกรรมขณะที่ปัญหาการขาดแคลนแร่ทองแดงเข้มข้น (concentrate) อาจส่งผลให้การผลิตทองแดงบริสุทธิ์ลดลง 1.5% ซึ่งจะทำให้ภาวะขาดดุลรุนแรงขึ้น


อย่างไรก็ตาม Red Cloud มีมุมมองที่ต่างออกไป โดยคาดว่าตลาดอาจเผชิญกับภาวะอุปทานล้นตลาดชั่วคราว (temporary surplus) ที่ 126,000 ตัน เนื่องจากผลกระทบต่อเนื่องจากกำแพงภาษีและการชะลอตัวของอุปสงค์ในสหรัฐฯ ซึ่งอาจกดดันให้ราคาปรับตัวลงชั่วคราว


  • คาดการณ์ราคาเฉลี่ย: มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น โดยอาจเคลื่อนไหวในกรอบ $9,500 - 11,000 ต่อตัน แต่ยังคงมีความผันผวนสูง


ปี 2027: ภาวะขาดดุลที่รุนแรงขึ้น

ในปี 2027 ปัจจัยพื้นฐานด้านอุปทานที่ตึงตัวจะกลายเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลักของตลาดอย่างเต็มตัว


BloombergNEF (BNEF) คาดการณ์ว่าราคาทองแดงอาจพุ่งสูงขึ้นถึง 20% ภายในปี 2027 เนื่องจากภาวะขาดดุลอุปทานจะรุนแรงขึ้นถึงจุดสูงสุดหลังจากปี 2025  Red Cloud คาดการณ์ว่าตลาดจะกลับเข้าสู่ภาวะขาดดุลอีกครั้งที่ประมาณ 19,000 ตันในปีนี้ และจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ความต้องการจากภาคส่วนใหม่ๆ เช่น ศูนย์ข้อมูล AI จะเริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญในการผลักดันอุปสงค์เพิ่มเติมจากเทรนด์พลังงานสะอาดและยานยนต์ไฟฟ้าที่มีอยู่เดิม   


  • คาดการณ์ราคาเฉลี่ย: มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นอย่างชัดเจน โดยอาจทะลุระดับ 11,500 ต่อตัน และสร้างฐานราคาใหม่ที่สูงขึ้น


ปี 2028-2030: ทศวรรษแห่งการเติบโตสู่ระดับสูงสุดใหม่

ช่วงปลายทศวรรษจะเป็นช่วงเวลาที่ภาวะขาดดุลเชิงโครงสร้างส่งผลกระทบอย่างเต็มที่และยั่งยืน


Red Cloud คาดการณ์ว่าภาวะขาดดุลจะถ่างกว้างขึ้นอย่างรวดเร็ว จาก 46,000 ตันในปี 2028 เป็น 555,000 ตันในปี 2029 และสูงถึง 766,000 ตันในปี 2030


การเติบโตนี้ได้รับแรงหนุนจากความต้องการใช้ทองแดงในศูนย์ข้อมูล AI ที่อาจเพิ่มขึ้นถึง 1 ล้านตันภายในปี 2030 ตามการคาดการณ์ของ Trafigura ในขณะที่อุปทานจากเหมืองทั่วโลกคาดว่าจะถึงจุดสูงสุดในช่วงปลายทศวรรษ 2020 แล้วจะเริ่มลดลงเนื่องจากเกรดแร่ที่ต่ำลงและการขาดการลงทุนในเหมืองใหม่ๆ


Grand View Research สนับสนุนภาพรวมนี้โดยคาดการณ์ว่าตลาดทองแดงโดยรวมจะเติบโตในอัตราเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 6.5% ในช่วงปี 2025-2030   

 

  • คาดการณ์ราคาเฉลี่ย: Red Cloud คาดการณ์ว่าราคาจะปรับตัวขึ้นไปอยู่ที่ 11,574 ต่อตัน ในปี 2028 และอาจเฉลี่ยสูงถึง 13,228 ต่อตัน ภายในปี 2030

คนไทยจะลงทุนทองแดงได้อย่างไร?

3 ช่องทางง่ายๆ ที่นักลงทุนสามารถลงทุนทองแดงได้


สำหรับนักลงทุนไทย การเข้าถึงตลาดทองแดงโดยตรง เช่น การซื้อทองแดงจริง หรือการเทรดสัญญา Futures ในตลาดต่างประเทศอย่าง LME หรือ COMEX นั้นมีความซับซ้อนและอาจไม่สะดวกนัก  อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีช่องทางการลงทุนที่ทันสมัยและเข้าถึงง่ายกว่ามาก ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 3 ช่องทางหลัก ดังนี้   


1.กองทุน ETF (Exchange-Traded Funds): เป็นวิธีที่ง่ายในการกระจายความเสี่ยง โดยลงทุนในกองทุนที่อ้างอิงกับราคาทองแดง หรือที่นิยมมากกว่าคือลงทุนในตะกร้าหุ้นของบริษัทเหมืองแร่ทองแดงทั่วโลก


ตัวอย่าง กองทุน Global X Copper Miners ETF (Ticker: COPX) เป็น ETF ที่ได้รับความนิยมและลงทุนในบริษัทเหมืองแร่ทองแดงชั้นนำของโลก เช่น Zijin Mining, Freeport-McMoRan เป็นต้น มีค่าธรรมเนียมการจัดการ (Expense Ratio) อยู่ที่ 0.65% ต่อปี  เหมาะสำหรับนักลงทุนระยะยาวที่ต้องการเติบโตไปพร้อมกับอุตสาหกรรมโดยรวม


2.หุ้นบริษัทเหมืองแร่: เป็นการลงทุนโดยตรงในบริษัทที่ทำธุรกิจเหมืองแร่ ซึ่งจะได้รับประโยชน์โดยตรงเมื่อราคาทองแดงสูงขึ้น


ตัวอย่าง บริษัทชั้นนำในตลาดโลก เช่น Freeport-McMoRan (FCX), Southern Copper (SCCO) การลงทุนในหุ้นรายตัวเปิดโอกาสให้ได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่า แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงเฉพาะตัวของบริษัทนั้นๆ และต้องอาศัยการวิเคราะห์เชิงลึก


3.สัญญาซื้อขายส่วนต่าง (CFD): เป็นเครื่องมือทางการเงินที่ทันสมัยและยืดหยุ่นสูง ช่วยให้นักลงทุนสามารถทำกำไรจาก “ส่วนต่าง” ของราคาทองแดงได้ โดยไม่จำเป็นต้องถือครองสินทรัพย์จริง ซึ่งเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในหมู่นักลงทุนรายย่อย


ตัวอย่าง Mitrade คือแพลตฟอร์มที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์นี้โดยเฉพาะ โดยเป็นโบรกเกอร์ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานชั้นนำระดับโลก รวมถึงยังสามารถเปิดบัญชีทดลองฟรี เพื่อฝึกฝนการเทรดด้วยเงินจำลอง $50,000 ได้ทันทีอีกด้วย


mitrade
💸 ห้ามพลาด!!! 💸

แจกโบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์! 🎁🎁🎁


ค่าคอมฯ 0 สเปรดต่ำ! เงินฝากขั้นต่ำ $50 🤑

ฝึกเทรดด้วยเงินเสมือนจริง $50, 000 ฟรี 💰

การลงทุนมีความเสี่ยง อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน

บทสรุป

ทองแดง ได้เปลี่ยนสถานะจากสินค้าโภคภัณฑ์อุตสาหกรรมมาเป็นสินทรัพย์เชิงกลยุทธ์แห่งอนาคต สำหรับนักลงทุนไทยที่มองหาโอกาส ทองแดงจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่ง และจากแนวโน้มทั้งทางเทคนิคและพื้นฐานแล้ว ราคาทองแดงยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากในอนาคต


ขณะที่แพลตฟอร์มที่ทันสมัยอย่าง Mitrade ก็ได้มอบเครื่องมือที่ทรงพลัง ยืดหยุ่น และเข้าถึงง่ายที่สุด เพื่อให้นักลงทุนไทยสามารถคว้าโอกาสจากสินทรัพย์แห่งทศวรรษนี้ไว้ได้

คำถามที่พบบ่อย

จะเริ่มต้นลงทุนในทองแดงได้อย่างไร?

สำหรับนักลงทุนไทย มี 3 ช่องทางหลักคือ 1.กองทุน ETF 2.ซื้อหุ้นของบริษัทเหมืองแร่โดยตรง และ 3 เทรดผ่าน CFD ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายและรวดเร็วที่สุด ผ่านโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถืออย่าง Mitrade ซึ่งได้รับใบอนุญาตระดับโลก

ทองแดงถือเป็นการลงทุนที่ดีในระยะยาวหรือไม่?

ดีมาก เนื่องจากเป็นหัวใจสำคัญของเมกะเทรนด์ระดับโลก เช่น พลังงานสะอาด, ยานยนต์ไฟฟ้า และเทคโนโลยี 5G ซึ่งจะสร้างอุปสงค์ที่แข็งแกร่งไปอีกหลายปี ในขณะที่อุปทานมีจำกัด

ความเสี่ยงหลักของการลงทุนในทองแดงคืออะไร?

ความเสี่ยงหลักคือภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวรุนแรง ซึ่งจะกระทบต่ออุปสงค์ในภาคอุตสาหกรรม และความผันผวนของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ การใช้ Leverage ที่สูงเกินไปในการเทรด CFD ก็เป็นความเสี่ยงที่ต้องจัดการอย่างระมัดระวัง

*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา


การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

goTop
quote
บทความที่เกี่ยวข้อง
placeholder
ซื้อทองร้านไหนดีสำหรับปี 2568?10 อันดับร้านทองที่เหมาะกับการลงทุนการซื้อทองเป็นการลงทุนที่เป็นที่นิยมสูงนับตั้งแต่สมัยโบราณและยังคงเป็นที่นิยมอยู่เสมอจนถึงในปัจจุบัน ซึ่งหากใครกำลังชั่งใจว่าจะซื้อทองร้านไหนดี 2568 คราวนี้เรามีวิธีเลือกซื้อทองคำและ 10 อันดับร้านทองที่เหมาะกับการลงทุนมาฝากกัน
ผู้เขียน  MitradeInsights
2 เดือน 24 วัน จันทร์
การซื้อทองเป็นการลงทุนที่เป็นที่นิยมสูงนับตั้งแต่สมัยโบราณและยังคงเป็นที่นิยมอยู่เสมอจนถึงในปัจจุบัน ซึ่งหากใครกำลังชั่งใจว่าจะซื้อทองร้านไหนดี 2568 คราวนี้เรามีวิธีเลือกซื้อทองคำและ 10 อันดับร้านทองที่เหมาะกับการลงทุนมาฝากกัน
placeholder
ซื้อทองเก็งกำไรได้ยังไง? แนะนำ 3 วิธีซื้อทองเก็งกำไร 2568ปี 2568 ถือเป็นปีที่ตลาดทองคำร้อนแรงเป็นพิเศษ ราคาทองคำทะยานขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง จนราคาทองคำแท่งในประเทศพุ่งทะยานผ่านหลัก 60,000 บาท จนหลายคนมีคำถามว่าเราจะมี วิธีซื้อทองเก็งกำไร ได้อย่างไรบ้างกับสถานการณ์แบบนี้ บทความนี้ จะพาคุณไปดูวิธีซื้อทองเก็งกำไรว่ามีรูปแบบไหนบ้าง
ผู้เขียน  MitradeInsights
10 เดือน 27 วัน จันทร์
ปี 2568 ถือเป็นปีที่ตลาดทองคำร้อนแรงเป็นพิเศษ ราคาทองคำทะยานขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง จนราคาทองคำแท่งในประเทศพุ่งทะยานผ่านหลัก 60,000 บาท จนหลายคนมีคำถามว่าเราจะมี วิธีซื้อทองเก็งกำไร ได้อย่างไรบ้างกับสถานการณ์แบบนี้ บทความนี้ จะพาคุณไปดูวิธีซื้อทองเก็งกำไรว่ามีรูปแบบไหนบ้าง
placeholder
แร่เงิน (Silver) คืออะไร? ลงทุนอย่างไรให้ได้ผลตอบแทนดีกว่าทองคำในช่วงปีที่ผ่านมา แร่เงิน (Silver) ได้พุ่งทำสถิติสูงสุดใหม่ในรอบหลายปี จนทำให้นักลงทุนระดับโลกหลายคนแนะนำให้ลงทุนใน Silver อย่างจริงจัง วันนี้ เราจะพาคุณไปดูว่าทำไม Silver ถึงอาจเป็นโอกาสครั้งสำคัญที่ให้ผลตอบแทนดีกว่าทองคำ และนักลงทุนไทยจะสามารถเริ่มต้นลงทุนใน Silver ได้อย่างไรบ้าง
ผู้เขียน  MitradeInsights
10 เดือน 23 วัน พฤหัส
ในช่วงปีที่ผ่านมา แร่เงิน (Silver) ได้พุ่งทำสถิติสูงสุดใหม่ในรอบหลายปี จนทำให้นักลงทุนระดับโลกหลายคนแนะนำให้ลงทุนใน Silver อย่างจริงจัง วันนี้ เราจะพาคุณไปดูว่าทำไม Silver ถึงอาจเป็นโอกาสครั้งสำคัญที่ให้ผลตอบแทนดีกว่าทองคำ และนักลงทุนไทยจะสามารถเริ่มต้นลงทุนใน Silver ได้อย่างไรบ้าง
placeholder
หุ้นน้ำมัน 10 อันดับแรกที่มาแรงและน่าลงทุนในปี 2025 มีหุ้นอะไรบ้างเมื่อพูดถึงการลงทุนในสินทรัพย์เราอาจจะมองถึงสินทรัพย์อย่างทองคำ สกุลเงิน หุ้น หรือคริปโทเคอร์เรนซี ว่าสามารถทำกำไรขึ้นลงตามสภาพเศรษฐกิจและฤดูกาล จนลืมไปเลยว่ายังมีสินทรัพย์อีกประเภทที่ใกล้ตัวนักลงทุนเช่นกัน และยังได้ติดตามข่าวสาร ราคาความเคลื่อนไหวเป็นประจำอีกด้วย จะเป็นอะไรไม่ได้ถ้าไม่ใช่ “น้ำมัน” ถึงขึ้นเราให้ฉายาเลยว่า ทองคำสีดำ เพราะมีมูลค่ามหาศาลในทั้งด้านของการใช้งาน ทรัพยากรธรรมชาติ และการลงทุนในหุ้นน้ำมัน เรามาทำความรู้จักหุ้นน้ำมันกันในบทความนี้
ผู้เขียน  MitradeInsights
1 เดือน 13 วัน จันทร์
เมื่อพูดถึงการลงทุนในสินทรัพย์เราอาจจะมองถึงสินทรัพย์อย่างทองคำ สกุลเงิน หุ้น หรือคริปโทเคอร์เรนซี ว่าสามารถทำกำไรขึ้นลงตามสภาพเศรษฐกิจและฤดูกาล จนลืมไปเลยว่ายังมีสินทรัพย์อีกประเภทที่ใกล้ตัวนักลงทุนเช่นกัน และยังได้ติดตามข่าวสาร ราคาความเคลื่อนไหวเป็นประจำอีกด้วย จะเป็นอะไรไม่ได้ถ้าไม่ใช่ “น้ำมัน” ถึงขึ้นเราให้ฉายาเลยว่า ทองคำสีดำ เพราะมีมูลค่ามหาศาลในทั้งด้านของการใช้งาน ทรัพยากรธรรมชาติ และการลงทุนในหุ้นน้ำมัน เรามาทำความรู้จักหุ้นน้ำมันกันในบทความนี้
placeholder
เทรดน้ำมันที่ไหนดี? 6 โบรกเกอร์เทรดน้ำมัน ในปี 2025ตลาดน้ำมันเป็นหนึ่งในสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีการซื้อขายมากที่สุดในโลก เปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถทำกำไรจากความผันผวนของราคา แต่คำถามสำคัญสำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย คือจะเลือก โบรกเกอร์เทรดน้ำมัน ที่ไหนดี? วันนี้ เราจะพาไปเจาะลึก 6 โบรกเกอร์เทรดน้ำมันในปี 2025 พร้อมเปรียบเทียบข้อมูลกันแบบชัดๆ
ผู้เขียน  MitradeInsights
9 เดือน 05 วัน ศุกร์
ตลาดน้ำมันเป็นหนึ่งในสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีการซื้อขายมากที่สุดในโลก เปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถทำกำไรจากความผันผวนของราคา แต่คำถามสำคัญสำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย คือจะเลือก โบรกเกอร์เทรดน้ำมัน ที่ไหนดี? วันนี้ เราจะพาไปเจาะลึก 6 โบรกเกอร์เทรดน้ำมันในปี 2025 พร้อมเปรียบเทียบข้อมูลกันแบบชัดๆ
ราคาเสนอแบบเรียลไทม์