การคาดการณ์และการวิเคราะห์การลงทุนในหุ้น Alibaba ในปี 2568

หุ้น Alibaba ยักษ์ใหญ่แห่งวงการ E-Commerce ของจีนที่เคยถูกยกให้เป็น 'หุ้นเต็งหนึ่ง' ของนักลงทุนทั่วโลก วันนี้ยังคงเป็นโอกาสทองหรือกลายเป็นความเสี่ยงที่ต้องจับตา? ในปี 2568 นี้ เราจะพาคุณไปเจาะลึกทุกมุมมอง ทั้งโอกาส ความท้าทาย และแนวโน้มของหุ้น Alibaba ว่ายังควรมีไว้ในพอร์ตหรือไม่ ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลยครับ
ประสิทธิภาพของหุ้น Alibaba ในห้าปีที่ผ่านมา
ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2563–2568) หุ้น Alibaba ต้องเผชิญกับความผันผวนอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นจากทางภาครัญและสงครามการค้าทั่วโลก โดยมีผลตอบแทนรวมติดลบถึง -38.03% แม้รายได้จะเติบโตอย่างต่อเนื่องก็ตาม ซึ่งในปี 2568 รายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 996.35 พันล้านหยวน หรือเพิ่มขึ้น 5.86% จากปีก่อนหน้า แต่กำไรสุทธิก็ลดลงเฉลี่ย 11.6% ต่อปีในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจคลาวด์ของ Alibaba มีการเติบโตที่โดดเด่น โดยในปี 2568 มีรายได้เพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งสะท้อนถึงความสามารถในการปรับตัวและการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ ๆ ของบริษัท แม้จะเผชิญกับความท้าทายจากสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจและการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดจีนก็ตาม
ข้อมูลสถิติหลักทรัพย์อ้างอิง (บริษัท อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด)
หน่วย: ล้านหยวน | ปี 2565 | ปี 2566 | ปี 2567 |
สินทรัพย์ | 1,675,549 | 1,732,977 | 1,775,000 |
หนี้สิน | 832,277 | 894,845 | 920,000 |
ส่วนของผู้ถือหุ้น | 843,272 | 838,132 | 855,000 |
รายได้ขาย/บริการ | 868,687 | 941,168 | 996,347 |
ต้นทุนขาย/บริการ | 549,438 | 594,409 | 630,000 |
กำไรสุทธิ | 72,509 | 71,385 | 125,976 |
รู้เบื้องต้นเกี่ยวกับ อาลีบาบา
Alibaba Group ก่อตั้งขึ้นในปี 1999 โดยมี Jack Ma เป็นผู้นำกลุ่มผู้ร่วมก่อตั้ง 18 คน เริ่มต้นจากการมุ่งเน้นธุรกิจอีคอมเมิร์ซแบบ B2B เพื่อเชื่อมโยงผู้ผลิตจีนกับผู้ซื้อทั่วโลก
ปัจจุบัน Alibaba ได้เติบโตและขยายอาณาจักรธุรกิจไปอย่างมหาศาล ครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรม โดยมีโมเดลธุรกิจที่คล้ายกับบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง Amazon หรือ Google ซึ่งรวมถึง:
ธุรกิจอีคอมเมิร์ซหลัก: ครอบคลุมทั้งแพลตฟอร์ม B2C (Business-to-Consumer) เช่น Tmall และ C2C (Consumer-to-Consumer) อย่าง Taobao ในจีน รวมถึงแพลตฟอร์ม B2B อย่าง Alibaba.com สำหรับการค้าระหว่างประเทศ
ธุรกิจโลจิสติกส์: Cainiao Network เครือข่ายโลจิสติกส์อัจฉริยะที่สนับสนุนการจัดส่งทั่วโลก
ธุรกิจฟินเทค: Ant Group (ซึ่งรวมถึง Alipay แพลตฟอร์มชำระเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก)
ธุรกิจคลาวด์คอมพิวติ้ง: Alibaba Cloud ผู้ให้บริการคลาวด์คอมพิวติ้งชั้นนำระดับโลก
ธุรกิจสื่อและความบันเทิง: Alibaba Pictures และ Youku (แพลตฟอร์มวิดีโอออนไลน์ขนาดใหญ่ในจีน)
ธุรกิจค้าปลีกแบบใหม่: เช่น Freshippo (Hema) ซูเปอร์มาร์เก็ตแนวใหม่ที่ผสานประสบการณ์ออนไลน์และออฟไลน์
ความร่วมมือกับประเทศไทยและการลงทุนที่สำคัญ
Alibaba ได้สร้างความสัมพันธ์อันดีกับประเทศไทย โดยมีการร่วมมือกับภาครัฐเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลและผู้ประกอบการ SMEs ไทย ในอดีต Jack Ma ได้ริเริ่ม 5 โครงการสำคัญที่มุ่งเน้น:
ส่งเสริมการท่องเที่ยวดิจิทัล
เปิดตัว Thai Rice Flagship Store บนเว็บไซต์ Tmall.com เพื่อโปรโมทข้าวไทย
อบรมพัฒนาดาวเด่นด้านดิจิทัล (Digital Talent)
ส่งเสริมพัฒนาทักษะอีคอมเมิร์ซสำหรับผู้ประกอบการ SME ไทย
จัดตั้งศูนย์ Smart Digital Hub ในพื้นที่ EEC เพื่อส่งเสริมการค้ากับจีนและกลุ่ม CLMV
นอกจากนี้ ในปี 2559 Alibaba ได้เข้าซื้อกิจการของ Lazada Group อย่างเป็นทางการ ถือเป็นการลงทุนเชิงกลยุทธ์ครั้งสำคัญ เพื่อขยายอิทธิพลในตลาดอีคอมเมิร์ซของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้ Lazada กลายเป็นส่วนหนึ่งของ Alibaba Group และยังคงเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำในหลายประเทศรวมถึงประเทศไทย
แม้ Jack Ma จะไม่ได้มีบทบาทในการบริหารงานประจำวันแล้ว แต่ Alibaba ยังคงเป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก ด้วยการลงทุนและการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง
สรุป ผลประกอบการประจำปีของ Alibaba
ที่มา: statista
สรุป ผลประกอบการประจำปี 2564 - 2568 ของ Alibaba
ปีงบประมาณ (Fiscal Year) | สิ้นสุดวันที่ | รายได้รวม (ล้านหยวน) | การเติบโตของรายได้ (YOY) | กำไรสุทธิ (ล้านหยวน) | การเติบโตของกำไรสุทธิ (YOY) | GAAP Diluted EPS (หยวน) | Non-GAAP Diluted EPS Per ADS (หยวน) |
2564 | 31 มี.ค. 2564 | 717,289 | +41% | 150,308 | N/A | 69.87 | 52.69 |
2565 | 31 มี.ค. 2565 | 853,062 | +19% | 61,959 | -59% | 22.74 | 52.69 |
2566 | 31 มี.ค. 2566 | 868,687 | +2% | 72,509 | +17% | 26.56 | 58.7 |
2567 | 31 มี.ค. 2567 | 941,168 | +8% | 71,385 | -1% | 31.61 (ประมาณ) | 55.12 |
2568 | 31 มี.ค. 2568 | 996,347 | +6% | 125,976 | +77% | 55.12 | 74 |
คู่แข่งหลักของอาลีบาบา
ทุกคนแทบรู้จัก Alibaba ในฐานะ Platform E-Commerce ยักษ์ใหญ่อันดับ 1 ของจีน และอันดับต้น ๆของโลกกันอยู่แล้ว แต่จะหารู้ไม่ว่า Platform E-Commerce ยักษ์ใหญ่ อย่าง อาลีบาบา ก็มีคู่แข่งในประเทศจีนเหมือนกัน โดยคู่แข่งหลักที่สำคัญ ได้แก่:
Pinduoduo เป็นภัยคุกคามอันดับต้น ๆ ด้วยโมเดล "Social Commerce" และการซื้อแบบกลุ่มที่เน้นราคาถูก ดึงดูดผู้บริโภคจำนวนมากในจีนและยังขยายสู่ตลาดโลกผ่าน Temu
JD.com คู่แข่งที่แข็งแกร่งในจีน ด้วยจุดเด่นด้านโลจิสติกส์ที่รวดเร็วและควบคุมเอง เน้นสินค้าคุณภาพและการจัดส่งที่น่าเชื่อถือ
Douyin (TikTok Shop) แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นสำคัญในตลาดอีคอมเมิร์ซอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในจีนและภูมิภาคอื่น ๆ รวมถึงไทย ด้วยการผสาน Live Commerce เข้ากับการซื้อขายโดยตรง
Amazon คู่แข่งระดับโลก โดยเฉพาะในตลาดตะวันตก Amazon มีความแข็งแกร่งด้านเครือข่ายโลจิสติกส์ บริการสมาชิก และธุรกิจคลาวด์
Shopee ผู้เล่นหลักในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทย Shopee แข่งขันอย่างดุเดือดกับ Lazada (ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Alibaba) ด้วยโปรโมชั่นและแคมเปญการตลาดที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดี
Shopify แม้ไม่ใช่แพลตฟอร์มตลาดโดยตรง แต่ Shopify เป็นคู่แข่งในฐานะผู้ให้บริการโซลูชันแก่ธุรกิจที่ต้องการสร้างร้านค้าออนไลน์ของตนเอง โดยไม่ต้องพึ่งพาแพลตฟอร์มตลาดขนาดใหญ่
หุ้น Alibaba คาดการณ์ในปี 2568
ในปี 2568 นี้ Alibaba Group นั้นยังคงเป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีนที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลก โดยผลประกอบการประจำไตรมาส มีนาคม 2568และผลประกอบการรวมทั้งปีงบประมาณ 2568 ที่ออกมาในวันที่ 15 พฤษภาคม เวลา 19.30 น. ตามเวลาฮ่องกง นั้นกลายเป็นข้อมูลสำคัญที่สะท้อนถึงแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน และความสามารถของ Alibaba ในการปรับตัวภายใต้สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่ท้าทาย
นักวิเคราะห์จากบริษัทชั้นนำให้ความเห็นว่า Alibaba จะรายงานรายได้ไตรมาส 4 ปีงบประมาณ 2568 เพิ่มขึ้น 6.4% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า (YoY) อยู่ที่ 236.1 พันล้านหยวน ขณะที่รายได้ทั้งปีคาดว่าจะอยู่ที่ 1,000.5 พันล้านหยวน ซึ่งนับเป็นหมุดหมายสำคัญของบริษัท
ราคา BABA แบบเรียลไทม์
หุ้น Alibaba จะขึ้นหรือลง?
ภายจากประกาศ ผลประกอบการประจำไตรมาส มีนาคม 2025 และผลประกอบการรวมทั้งปีงบประมาณ 2568 ที่ออกมาในวันที่ 15 พฤษภาคม ตัวเลขรายได้และกำไรออกมาต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
รายได้อยู่ที่ 236.5 พันล้านหยวน (ประมาณ 32.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ต่ำกว่าที่คาดไว้เล็กน้อยที่ 237.2 พันล้านหยวน
กำไรสุทธิอยู่ที่เพียง 12.4 พันล้านหยวน เทียบกับที่คาดการณ์ไว้ที่ 24.7 พันล้านหยวน
แม้ว่าจะต่ำกว่าคาด แต่กำไรสุทธิยังเติบโตขึ้นกว่า 279% YoY เพราะจากฐานที่ต่ำในปีก่อน โดยบริษัทรายงานว่าเกิดจากการจำหน่ายบริษัทย่อยบางแห่ง แม้จะมีแรงหนุนจากรายได้จากการดำเนินงานที่ดีขึ้นก็อตาม
จากเหตุการณ์นี้ ทำให้หุ้น BABA ร่วงลงทันทีถึง 7.6% ในวันถัดมา สะท้อนความผิดหวังของนักลงทุนที่คาดหวังผลลัพธ์จากการลงทุนใน AI และการฟื้นตัวของอีคอมเมิร์ซ
ข้อดีและข้อเสียของการลงทุนในอาลีบาบา
แม้จะพลาดเป้ากำไร แต่ ธุรกิจหลักในประเทศของ Alibaba ก็ยังคงสัญญาณบวก ไม่ว่าจะเป็นจากรายได้ Taobao และ Tmall โตขึ้น 9% YoY อยู่ที่ 101.4 พันล้านหยวน หรือ รายได้จาก บริการจัดการลูกค้า (Customer Management Revenue) ที่พุ่งสูงขึ้น 12% YoY ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของรายได้ในอีคอมเมิร์ซ นอกจากนี้ก็ยังมี
การขยายความร่วมมือกับ Rednote (Xiaohongshu) สร้างการเชื่อมโยงระหว่างโซเชียลกับอีคอมเมิร์ซ เพื่อกระตุ้นการซื้อ
กลยุทธ์ Instant Commerce ใหม่ ที่ให้บริการจัดส่งภายใน 1 ชั่วโมงในเมืองใหญ่ ๆ ของจีน ก็ได้รับการเปิดตัวใน Taobao โดยหวังเพิ่ม Engagement ของผู้ใช้แอป
การเติบโตของกลุ่ม Cloud และ AI
กลุ่ม Cloud Intelligence รายงานรายได้ 30.1 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 18% YoY
การขยายตัวของบริการ Cloud สาธารณะ
ความต้องการผลิตภัณฑ์ AI ที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตาม การลงทุนในอาลีบาบานั้นยังมีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมืองที่ส่งผลต่อพฤติกรรมผู้บริโภคและการดำเนินธุรกิจของบริษัท นอกจากนี้ Alibaba ยังเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจากคู่แข่งรายอื่นในตลาดอีคอมเมิร์ซและเทคโนโลยี เช่น JD.com, PDD และ Tencent รวมถึงการที่ผลประกอบการล่าสุดไม่เป็นไปตามคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ อาจบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนในระยะสั้น
ความเสี่ยงในการลงทุน
ความเสี่ยงและปัจจัยภายนอกที่ยังต้องจับตา
ภาวะเศรษฐกิจจีน ยังเผชิญกับแรงกดดันจากเงินฝืด แม้รัฐบาลจะออกมาตรการกระตุ้นการบริโภคออกมาอย่างต่อเนื่องก็ตาม
ความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ ยังคงเป็นความเสี่ยง โดยก่อนหน้านี้มีการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าต่ำกว่า $800 สูงถึง 120%
สภาวะการแข่งขันที่รุนแรง กับคู่แข่งอย่าง PDD, JD.com และ Tencent ในทั้งตลาดอีคอมเมิร์ซ และ AI
คนไทยอยากลงทุนในหุ้น Alibaba ต้องทำอย่างไร?
โดยปัจจุบัน นักลงทุนไทยมีโอกาสลงทุนหุ้นต่างประเทศในรูปแบบต่าง ๆ ดังนี้
1.ลงทุนผ่านตลาดหุ้นในต่างประเทศโดยตรง
โดยการเปิดบัญชีเทรดหุ้นโดยตรงกับโบรกเกอร์ไทย บางบริษัทหลักทรัพย์จะมีบริการให้ซื้อหลักทรัพย์ในต่างประเทศได้ ซึ่งเราก็จะสามารถไปซื้อหุ้น Alibaba โดยตรงในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้ โดยวิธีนี้จะเหมาะกับผู้ที่มีเงินต้นมากหน่อย
2.ลงทุนผ่านกองทุนรวมต่างประเทศ
หรือที่เรียกว่า กองทุน FIF เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ โดยผู้จัดการกองทุนจะนำเงินของนักลงทุนไปลงทุนในต่างประเทศและให้ผลตอบแทนกลับมาเป็นเงินบาท ปัจจุบันมีกองทุนรวมหุ้นต่างประเทศในไทยหลายกองที่ลงทุนในหุ้น Alibaba อยู่ มีทั้งที่เข้าไปซื้อเองโดยตรงเลย หรือที่ไปซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนต่างประเทศ ซึ่งนักลงทุนสามารถไปค้นหาได้ว่ากองทุนไหนบ้างที่ลงทุนในหุ้น Alibaba โดยดูจากข้อมูลในหนังสือชี้ชวนและสรุปรายละเอียดการลงทุนของกองทุน วิธีนี้เหมาะกับนักลงทุนที่มีเงินลงทุนเริ่มต้นไม่มาก ก็สามารถลงทุนได้
3.ลงทุนผ่านตลาดหุ้นไทย
ลงทุนในผลิตภัณฑ์ที่เชื่อมโยงกับผลตอบแทนในต่างประเทศ ได้แก่ ETF / DW และ DR & DRx โดย Alibaba DR เป็นตราสารที่ออกโดยธนาคารกรุงไทย ซึ่งเปิดโอกาสให้นักลงทุนไทย สามารถลงทุนหุ้น Alibaba ได้ด้วยสกุลเงินบาทผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งคนที่จะลงทุนได้ จะต้องมีบัญชีซื้อขายหุ้นอยู่ด้วย
ลงทุนในตราสารอนุพันธ์ CFD (Contract for Difference) จะช่วยให้นักลงทุนสามารถเก็งกำไรโดยไม่ต้องเป็นเจ้าของสินทรัพย์ แต่ซื้อขายทำกำไรจากสินทรัพย์นั้นได้จริง ๆ นอกจากนี้ยังสามารถซื้อขายสัญญา CFD ในหุ้น คริปโตเคอร์เรนซี และสินทรัพย์อื่น ๆ อีกมากมาย

สรุป หุ้น Alibaba น่าลงทุนไหมในปี 2568
จากภาพรวมทั้งหมด ผู้เขียนเล็งเห็นถึงศักยภาพของหุ้น Alibaba ในระยะยาว โดยในปี 2568 หุ้นมีโอกาสเติบโตจากการลงทุนในเทคโนโลยี AI และการฟื้นตัวของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ แต่ยังต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอก เช่น ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการแข่งขันที่รุนแรง นักลงทุนควรพิจารณาความเสี่ยงเหล่านี้และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดก่อนตัดสินใจลงทุน
โดยการเติบโตของธุรกิจ AI และคลาวด์ Alibaba ลงทุนเยอะมากๆ โดยมีการเปิดตัวโมเดลภาษา Qwen 3 และมีรายได้จากผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ AI เติบโตในระดับสามหลักติดต่อกันเจ็ดไตรมาส ซึ่งสำหรับธุรกิจคลาวด์ รายได้ในไตรมาสล่าสุดเพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยได้รับแรงหนุนจากการเติบโตของบริการคลาวด์สาธารณะและการนำผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ AI มาใช้มากขึ้น
การฟื้นตัวของธุรกิจอีคอมเมิร์ซในประเทศยังสร้างรายได้จากกลุ่มธุรกิจ Taobao และ Tmall เพิ่มขึ้น 9% โดยรายได้จากการจัดการลูกค้า (Customer Management Revenue) เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
นอกจากความเห็นของผมแล้ว ยังมีนักวิเคราะห์จำนวนมากที่ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้น Alibaba โดยมีราคาเป้าหมายเฉลี่ยในช่วง 12 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ประมาณ $160.54 ซึ่งสูงกว่าราคาปัจจุบันที่ประมาณ $120.73 (25/5/2568) อย่างไรก็ตาม มีการคาดการณ์ราคาหุ้นในปี 2025 อยู่ระหว่าง $91.66 ถึง $121.92 จากตรงนี้เองที่สะท้อนถึงความไม่แน่นอนในตลาด
Alibaba เป็นการลงทุนที่ดีหรือไม่?
ถือเป็นการลงทุนในระยะยาวที่ดี เพราะอาลีบาบาครอบคลุมตลาดการซื้อขายแบบผูกขาดอยู่หลายธุรกิจมากในประเทศจีน แต่อย่างไรก็ตามควรศึกษาข้อมูลผลการดำเนินงานของบริษัท และเลือกลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ตนเองจะรับไหวด้วย
นักลงทุนไทยรายย่อยสามารถเริ่มต้นลงทุนใน Alibaba ได้อย่างไร?
สามารถลงทุนได้หลายวิธี เช่น เปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ต่างประเทศเพื่อซื้อหุ้นโดยตรง, ลงทุนผ่านกองทุนรวมต่างประเทศ (FIF), ซื้อ DR ของ Alibaba ผ่านตลาดหุ้นไทย หรือเทรดผ่านตราสารอนุพันธ์ CFD ขึ้นอยู่กับความพร้อมและระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน