S&P ฉลองนิวไฮ ทองคำพุ่งรับสงครามเวเนซุเอลา แต่บิทคอยน์เลือดสาดรับปีใหม่ พร้อมเปิดโผ AOT เสือนอนกินตัวจริงรับอานิสงส์ภาษีท่องเที่ยว

Insights - เหตุการณ์ทางการเงินที่สำคัญ 4 ประการของวันนี้:

1.Wall Street ปาร์ตี้คริสต์มาสระเบิดระเบ้อ ท่ามกลางสัญญาณเตือนที่ถูกมองข้าม

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดฉากวันคริสต์มาสอีฟด้วยสถิติ All-Time High ใหม่อย่างบ้าคลั่ง โดยดัชนี S&P 500 ทะลุ 6,932 จุด รับแรงส่งจากตัวเลข GDP ไตรมาส 3 ที่โตระเบิดถึง 4.3% นักลงทุนต่างเทหมดหน้าตักเดิมพันกับ “Trump Trade” และความเชื่อที่ว่า Fed จะยอมจำนนลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปี 2026

ภาพที่เห็นคือเศรษฐกิจแบบ Goldilocks ที่ดูสมบูรณ์แบบเกินจริง แต่เบื้องหลังความสวยหรูนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคกลับเริ่มสั่นคลอนจากพิษเงินเฟ้อที่ยังดื้อด้าน  นี่อาจเป็นภาพลวงครั้งใหญ่ที่นักลงทุนต้องระวัง เพราะเมื่อไหร่ที่เงินออมส่วนเกินหมดลง งานเลี้ยงนี้อาจจบลงเร็วกว่าที่คิด

2.ทองคำผงาดเหนือโลก พุ่งทะลุ $4,500 จาก “หลุมหลบภัย” สู่ “สินทรัพย์สงคราม”

ในขณะที่หุ้นพุ่ง ทองคำกลับไม่ได้ถูกขายทำกำไรแต่กลับพุ่งแรงยิ่งกว่าจนทะลุ 4,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนแร่เงิน (Silver) บินแตะ 70 ดอลลาร์

นี่ไม่ใช่แค่การเก็งกำไรธรรมดา แต่มันคือ Panic Buy ของจริงจากความเดือดดาลทางภูมิรัฐศาสตร์ สหรัฐฯ สั่งปิดล้อมทางทะเลเวเนซุเอลาจนตึงเครียดถึงขีดสุด ผสมโรงกับยูเครนที่เปิดฉากถล่มกองเรือเงารัสเซีย

โลกกำลังส่งสัญญาณว่า “เงินกระดาษ” อาจไม่ปลอดภัยเท่า “ทองคำ” ในยามที่สงครามจ่อคอหอย ทำให้ธนาคารกลางทั่วโลกและนักลงทุนสถาบันต้องเร่งตุนทองคำเข้าพอร์ตเพื่อเป็นเกราะกำบังความเสี่ยงที่มองไม่เห็น

3.วาฬหนีตาย! Bitcoin ร่วงยับ -30% สังเวยความผันผวนรับปีใหม่

คริปโตเคอร์เรนซีกลายเป็นผู้แพ้ที่เจ็บปวดที่สุดในรอบนี้ Bitcoin ร่วงหลุดจากโซนบนลงมากองที่ระดับ $87,400 หรือหายไปกว่า 30% จากจุดสูงสุด เกิดปรากฏการณ์ “Whale Panic” ที่วาฬรายใหญ่แห่เทขายเพื่อล็อกกำไรและหนีความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ โยกเงินจากสินทรัพย์ดิจิทัลเข้าสู่สินทรัพย์ที่จับต้องได้อย่างทองคำแทน

กราฟราคาที่ดิ่งลงนี้อาจเป็นสัญญาณเตือนว่ารอบ Bull Run ของคริปโตอาจกำลังเข้าสู่ช่วงพักฐานยาว หรือที่เรียกว่า Correction ครั้งใหญ่ ใครที่ถืออยู่ต้องจับตาโซนรับสำคัญให้ดี เพราะนี่อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของแรงเทขายหากสถานการณ์โลกยังไม่คลี่คลาย

4.เจาะลึกหุ้นไทย ภาษีเที่ยวเมืองรอง 2 หมื่น ใครคือ “เสือนอนกิน” ตัวจริง

ตัดภาพมาที่ตลาดหุ้นไทยที่ยังคง Underperform แต่มีประเด็นร้อนเรื่องมาตรการ “Quick Big Win” ลดหย่อนภาษีเที่ยวเมืองรอง 20,000 บาท  หลายคนอาจกระโจนเข้าใส่หุ้นโรงแรม

แต่ช้าก่อน! การวิเคราะห์เชิงลึกชี้ว่า AOT ต่างหากคือผู้ชนะตัวจริงที่มีเป้าหมายราคา 72 บาท เพราะ AOT กินรวบยอดนักท่องเที่ยว 40 ล้านคนโดยไม่ต้องแบกรับต้นทุนค่าแรงหรือค่าไฟที่สูงขึ้นเหมือนกลุ่มโรงแรมอย่าง CENTEL หรือ ERW ที่แม้อาจได้อานิสงส์ภาษี แต่กลับโดนกดดันจาก Margin ที่บางลงและการปิดปรับปรุงโรงแรม

ในสมรภูมินี้ การเลือกหุ้นที่เป็น “โครงสร้างพื้นฐาน” อย่างสนามบิน จึงเป็นการลงทุนที่ฉลาดและปลอดภัยกว่าการเดิมพันกับผู้ประกอบการที่กำลังเผชิญศึกรอบด้าน