Netflix ก่อตั้ง เมื่อไหร่? ซื้อหุ้น Netflix ได้ที่ไหน ซื้อยังไง
ในช่วง 5-10 ปีที่ผ่านมา ต้องยอมรับเลยว่าอีกหนึ่งตัวแทนของการเปลี่ยนแปลงในวงการหนัง ซี่รี่ย์ ภาพยนตร์ออนไลน์ ที่เข้ามามีอิทธิพลต่อพวกเรานั้นเปลี่ยนไปแบบหน้ามือเป็นหลังมือ ลองนึกดูถ้าคุณเคยได้ยินซีรี่ย์อย่าง Game of Throne / Vicenzo / Stranger Things หรือแม้แต่ The Squid game แสดงว่าคุณควรจะต้องหาทางครอบครองหุ้นอย่าง NETFLIX (NFLX) และเก็บเข้าลิสต์ที่ต้อง It is a must ! เพื่อที่จะลงทุนให้เติบโตไปพร้อมกัน
Netflix ก่อตั้ง เมื่อไหร่?
NETFLIX คือบริษัทที่ให้บริการ Streaming โดยจะส่งเนื้อหาที่มีทั้ง ภาพยนตร์ สารคดี ซีรี่ย์ และสื่อบันเทิงต่าง ๆ หลายหลายภาษา โดยใช้ช่องทางของการสมัครเป็นสมาชิก เพื่อสามารถเลือกดูผ่าน TV คอมพิวเตอร์ แท็ปเลต หรือโทรศัพท์มือถือของสมาชิกนั่นเอง
NETFLIX ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1997 โดยสองหนุ่ม มาร์ค แรนดอล์ฟ วัย 39 ปี และรีด เฮสติ้งส์ วัย 38 ปี ในช่วงที่เริ่มต้น รู้หรือไม่ สาเหตุที่แรนดอล์ฟและเฮสติ้งส์ได้ไอเดียในการเปิดธุรกิจภาพยนตร์ออนไลน์คือ เฮสติ้งค์ลืมคืนวีดีโอของ Blockbuster ให้ตรงเวลา และโดนปรับไปเหนาะๆ 40 USD และแรนดอล์ฟชอบโมเดลธุรกิจของ AMAZON ด้านขายออนไลน์เป็นทุนเดิมด้วยเริ่มจากส่ง DVD ไปให้กับลูกค้าที่สั่งเช่าผ่านทางเว็ปไซต์ และพัฒนาเป็นระบบสมาชิกและเริ่มแนวทางสตรีมมิ่งออนไลน์ต่อมา
หุ้น Netflix: เงินปันผล
รู้ไหมไม่ว่าทาง Netflix เริ่มออกหุ้น IPO และเผยแพร่สู่สาธารณะในปี 2002 แต่ทางบริษัทก็ไม่ได้จ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นแต่อย่างใด ซึ่งข้อมูลด้านนี้นักลงทุนที่เข้าลงทุนใน NETFLIX จะทราบข้อมูลพื้นฐานกันอยู่แล้ว เนื่องจาก Netflix ต้องการที่จะนำผลกำไรไปลงทุนต่อในธุรกิจตัวเอง ไปซื้อกิจการอื่น จ่ายคืนหนี้ ซื้อหุ้นคืน หรือแม้แต่เก็บเงินสดไว้ เพื่อรักษาสภาพคล่องทางการเงินดังนั้น
ก่อนที่เราจะปฏิเสธไม่ลงทุนในบริษัทที่ไม่จ่ายเงินปันผล เราต้องดูให้ดีก่อนว่า ที่บริษัทไม่ยอมจ่ายเงินปันผลนั้น เพราะอะไร หรือมีแผนเอาเงินที่ไม่จ่ายออกมาเป็นปันผลนั้น ไปต่อยอดได้ดีแค่ไหน เพราะล่าสุดนั้นกำไรสุทธิต่อหุ้นของ Netflix ดีกว่าที่คาดไว้ที่ 3.53 ดอลลาร์ เทียบกับ 2.89 ดอลลาร์ ดังนั้นนักลงทุนควรจะต้องเลือกชั่งน้ำหนักในแง่ของการลงทุนเพื่อ Capital gain หรือส่วนต่างราคาและเทรนของอุตสาหกรรมในอีก 3-5 ปีข้างหน้าควบคู่กัน
หุ้น Netflix: คู่แข่ง
ในโลกของธุรกิจแล้ว เมื่อผู้นำตลาดได้นำเทรนหรือสินค้าที่สร้างอิมแพคให้กับตลาดแล้ว แน่นอนต้องมีคู่แข่งทั้งทางตรงและทางอ้อม ที่สามารถให้บริการโดยอาศัยจุดแข็งของตัวเองที่มีอยู่แล้ว มาลงสนามเช่นกัน
ผู้ให้บริการ | อัตราค่าบริการ รายเดือน | ลักษณะและจุดเด่น |
NETFLIX | เริ่มต้นที่ 5.99$ / เดือน | ผู้นำตลาดและลูกค้าคุ้นชื่อติดแบรนด์จนเป็นคำสแลงในโลกออนไลน์ มีคอนเทนต์ให้เลือกหลายหลายทั้งสารคดี ซีรี่ย์ ภาพยนตร์ มี Original Series ที่โด่งดัง |
Amazon Prime Video | เริ่มต้นที่ 5.99$ / เดือน | เป็นคู่แข่งหลักของ Netflix ในตลาดสตรีมมิ่ง โดยมีไลบรารีของหนัง ซีรีส์ และเนื้อหาดังทั้งของ Amazon และผลิตภัณฑ์เสริมอื่นๆ ให้บริการพร้อมกับการสั่งซื้อออนไลน์บน Amazon Prime |
Disney+ | เริ่มต้นที่ 6.99$ / เดือน | เป็นผู้แข่งขันที่แข็งแกร่งของ Netflix ที่มุ่งเน้นเนื้อหาของดิสนีย์ พิกซาร์ มาร์เวล สตาร์วอร์ส และ National Geographic |
Apple TV | เริ่มต้นที่ 4.99$ / เดือน | เป็นบริการสตรีมมิ่งที่ จากค่าย Apple ซึ่งมีเนื้อหาต้นฉบับ ภาพยนตร์ ซีรีส์ สารคดี และโปรแกรมสำหรับเด็ก และทาง Apple เองก็ใช้แบรนด์และนิวแอพลิเคชันของตนเพื่อสนับสนุน Apple TV+ |
HBO Max | เริ่มต้นที่ 2.99$ / เดือน | เป็นบริการสตรีมมิ่งที่เป็นเจ้าของโดย WarnerMedia โดยมีเนื้อหาที่หลากหลายอย่าง รวมถึงซีรีส์ HBO ภาพยนตร์ |
Hulu | เริ่มต้นที่ 7.99$ / เดือน | เป็นบริการสตรีมมิ่งที่ให้บริการซีรีส์ที่กำลังออกอากาศ ภาพยนตร์ และเนื้อหาต้นฉบับ ฮูลูมีพันธมิตรกับสถานีโทรทัศน์ชั้นนำเพื่อให้บริการการสตรีมมิ่งเนื้อหาที่กำลังออกอากาศในวันถัดไป |
คุ้มค่ากับการลงทุนหุ้น Netflix หรือไม่
คุ้มค่าแน่นอนกับการลงทุนในหุ้น Netflix ไปในทิศทางเดียวกับนักวิเคราะห์หลายคน ยืนยันว่าการตอบสนองของบริษัทสร้างการเติบโตของผู้ใช้ซึ่งมีแนวโน้มที่จะทำให้หุ้นฟื้นตัวอย่างยั่งยืน โดยแผนการปล่อยแพ็กเกจแบบมีโฆษณาที่กำลังจะเกิดขึ้น รวมถึง การปราบปราม Password Sharing รวมถึงการลดการใช้จ่ายด้าน Original Content เป็นปัจจัยขับเคลื่อนบางส่วนที่อยู่เบื้องหลังการเพิ่มขึ้นของกำไร ทำให้บริษัทมีทิศทางที่ดีขึ้น และความนิยมของการรับชมสื่อออนไลน์
Netflix จะมีธุรกิจที่เป็น B2B หรือก็คือ กลุ่มแบรนด์ ที่ต้องการเข้ามาโฆษณาบนแพลตฟอร์มแบบ YouTube อีกด้วย
เนื้อหาเด่นและคุณภาพ: Netflix มีความสามารถในการสร้างเนื้อหาเด่นที่ได้รับความนิยม และเนื้อหาคุณภาพสูงที่มีคุณภาพสูง ด้วยการผลิตซีรีส์และภาพยนตร์ที่มีการแสดงที่มีชื่อเสียง และการสร้างเนื้อหาที่เป็นเอกลักษณ์เป็นต้น ซึ่งช่วยสร้างความพึงพอใจให้กับผู้ชมและช่วยเพิ่มจำนวนสมาชิกของ Netflix
แบรนด์และความรู้จักที่แข็งแกร่ง: Netflix เป็นแบรนด์ที่รู้จักทั่วโลกและเป็นที่รู้จักในวงการสตรีมมิ่ง มีฐานผู้ใช้ที่ใหญ่และผู้ชมที่ภาคภูมิใจที่ได้รับการยอมรับ ความเชื่อมั่นและความรู้จักนี้ช่วยให้ Netflix มีตำแหน่งที่แข็งแกร่งในตลาดสตรีมมิ่ง
วิธีซื้อหุ้น Netflix ซื้อยังไง
หลังจากที่ได้วิเคราะห์ข้อมูลต่างๆด้านต้นถี่ถ้วนแล้ว จะมาถึงขั้นตอนต่อไป สามารถเลือกลงทุนซื้อขายหุ้น NETFLIX ผ่านช่องทางต่าง ๆ ดังนี้
แนะนำ 2 ช่องทางในการซื้อหุ้น Netflix
1)ผ่านทางบริษัทหลักทรัพย์ต่าง ๆ
ในส่วนของหุ้นต่างประเทศ มีหลากหลาย บล. เช่น บริษัทหลักทรัพย์กสิกร บริษัทหลักทรัพย์.กรุงศรี หรือ บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ที่ให้บริการเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นต่างประเทศอยู่ โดยแต่ละที่ก็มีความแตกต่างกัน ข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไปด้วย โดยสามารถเลือกผ่านการซื้อหุ้นเป็นเจ้าของหรือซื้อผ่านกองทุน ETF ดูเรื่องของ
- ความสะดวกในการเปิดบัญชี ตอนนี้หลายที่มีให้บริการแบบออนไลน์แล้ว
- มีค่าธรรมเนียมและเงินขั้นต่ำ การฝาก-ถอน
- บริการต่าง ๆ เช่น บทวิเคราะห์ เจ้าหน้าที่ดูแลปรึกษา หรือ แอพพลิเคชั่น
2)โบรกเกอร์ต่างประเทศ
เป็นช่องทางที่ยอดนิยมสำหรับนักเทรด เพราะสะดวกกว่า และมีให้เลือกหลากหลายโบรกเกอร์ โดยจะให้บริการในรูปแบบของการเทรด CFD หรือสัญญาส่วนต่าง (Contract for difference) ซึ่งทางนักลงทุนจะใช้ส่วนที่ได้เปรียบในเรื่องดังนี้
- เปิดบัญชีสะดวกรวดเร็ว บางที่สามารถใช้เพียง 3 นาทีแบบออนไลน์
- ใช้เงินทุนเริ่มต้นที่น้อยลง เริ่มต้นตั้งแต่ 50$ เป็นต้นไป
- มีการใช้เลเวอเรจ หรืออัตราทด เข้ามาช่วยให้เงินทุนทวีคูณในการเทรด
- สามารถเทรดได้ทั้งสองฝั่ง คือ ทั้งฝั่งขาขึ้น (BUY) และฝั่งขาลง (SELL)
ยกตัวอย่างขั้นตอนการซื้อหุ้น Netflix กับโบรกเกอร์ MiTrade
Mitrade เป็นโบรกเกอร์สัญชาติออสเตรเลีย เป็นอีกหนึ่งโบรกเกอร์ที่มีเทรดเดอร์นิยมใช้งาน โดยมีอายุมากกว่า 12 ปี ได้รับอนุญาตและควบคุมอย่างเคร่งครัดโดยหน่วยงานกำกับดูแลหลายแห่งทั้ง (CIMA) และ (ASIC) มีระบบป้องกันเงินทุนของลูกค้า เพื่อให้มั่นใจทุกครั้งที่ฝากเงินเข้าไปลงทุน ขั้นตอนในการซื้อหรือขายหุ้นผ่าน MiTrade ทำดังนี้
1. ลงทะเบียนบัญชี (เลือกบัญชีทดลองหรือบัญชีจริง)
2. เลือกวิธีการฝากเงินที่คุณต้องการ (เช่น Visa, Mastercard, Skrill, Wire transfer)
3. ค้นหาผลิตภัณฑ์ที่คุณต้องการซื้อขาย (NFLX)
4. ป้อนขนาดตำแหน่งที่คุณต้องการซื้อขาย ตั้งค่าจุดทำกำไรและจุดหยุดขาดทุน ฯลฯ
หากมือใหม่อยากการเทรดหุ้น Netflix มีเงินทุนไม่เพียงพอหรือไม่คุ้นเคยกับระบบ แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ไม่ต้องเป็นกังวลเลย!! เทรดด้วยบัญชีทดลองที่ไร้ความเสี่ยงเพื่อให้แน่ใจว่าเราเหมาะกับการเทรด CFD!!
หุ้น Netflix: การวิเคราะห์ทางเทคนิค
ปัจจุบันราคาหุ้นของ อยู่ที่ 626$ ต่อหุ้น ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ยกไฮและยกโลว์ ( Higher High & Higher Low) มาตลอดตั้งแต่เดือนกันยายน 2022 เรียกได้ว่าอยู่ในหุ้นขาขึ้นเต็มตัว (Uptrend) ในภาพของ Time Frame Day และ Week หลังจากที่ลงมาทำฐานบริเวณราคา 200$ ในช่วงปรับฐานครั้งใหญ่ แต่จะเหมาะกับการลงทุนสไตล์ไหนนั้น ขอแยกเป็นสองกรณี
1.สำหรับนักลงทุนระยะสั้น ราคาของ Netflix สามารถเล่นรอบสั้นได้เสมอในจังหวะที่เราเรียกว่า รอย่อแนวรับ จะเห็นว่าราคาหุ้นจะมีการเด้งกลับเสมอเมื่อลงมาทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 14 วัน ดังนั้นจึงสามารถใช้เส้นนี้วางแผนหาแนวรับ-แนวต้านได้ กรอบตอนนี้คือบริเวณ 550-580$ ถ้าหลุดจาก 530$ ลงมาเราจะทำการ Stop loss โดยมีเป้าราคาขายที่ 625 และ 650 ตามลำดับ
2.สำหรับนักลงทุนระยะยาว ตอนนี้คงไม่ใช่จุดที่น่าซื้อลงทุนที่ดีแน่นอน เพราะราคาค่อนข้างไกลจากราคาฐานแนวรับใหญ่ ราคาที่คาดหวังสำหรับนักลงทุนระยะยาว ซื้อถือปิดจอ แนวรับแรกจะอยู่ที่เส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน (MA50) 460-480$ และแนวรับถัดไปอยู่ที่ MA100 400-425$ ในการเฉลี่ยทุนให้ต่ำลง โดยมีเป้าหมายที่บริเวณราคา 550/600$ และกลับไปจุดบนราคา 600$ อีกครั้ง ถ้าหลุดราคา 400$ มีโอกาสจะกลับเป็นแนวโน้มขาลงหรือ Downtrend
ราคา NFLX แบบเรียลไทม์
*ห้ามพลาด!! กิจกรรมแจกโบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100*
วิธีลดความเสี่ยงในการซื้อหุ้น Netflix
แนวทางลดความเสี่ยงมีหลากหลายวิธี เพื่อให้การลงทุนซื้อขายหุ้น NETFLIX นั้นเป็นไปตามแผนการ เราจะไม่มองเฉพาะในด้านของกำไรเท่านั้น เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่เป็นไปตามแผน นักลงทุนสามารถใช้แนวทางดังต่อไปนี้
วางจุดตัดขาดทุนให้เหมาะสมกับสไตล์การเทรด เช่น นักลงทุนที่เล่นสั้น จะใช้จุดตัดขาดทุนที่เร็วกว่า นักลงทุนที่ลงทุนระยะยาว เนื่องจากจุดเข้า-ออก และการรับความเสี่ยงแตกต่างกัน โดยทั่วไปนักลงทุนที่เล่นสั้นมักจะ ตัดขาดทุน 3-5% และเล่นระยะยาวประมาณ 10-20% เพื่อรักษาเงินลงทุนนั่นเอง
กระจายความเสี่ยงไปยังสินทรัพย์หรือหุ้นในอุตสาหกรรมอื่น ๆ เพื่อให้บาลานซ์กระจายเงินลงทุนและช่วยลดความเสี่ยงในกรณีที่บริษัทหรือกลุ่มอุตสาหกรรมบางอย่างประสบปัญหาหรือสถานการณ์ที่ผิดปกติ เช่น 30% ลงทุนใน NETFLIX 40% ลงทุนใน WALMART 30% ลงทุนในทองคำเป็นต้น
ตั้งแผนการลงทุนระยะยาว การลงทุนในหุ้นโดยมองในระยะยาวช่วยลดความผันผวนและความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในระยะสั้น ๆ การตั้งแผนการลงทุนระยะยาวช่วยให้นักลงทุนรับมือกับความผันผวนในตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
การศึกษาความเคลื่อนไหวในตลาด หมั่นติดตามข่าวสารทางการเงินและข่าวสารตลาดหุ้นช่วยให้นักลงทุนทราบถึงเหตุการณ์ที่อาจมีผลต่อราคาหุ้น เช่น ความขัดแย้งระหว่างประเทศ คู่แข่งในอุตสาหกรรม หรือแม้แต่ข่าววิเคราะห์ผลประกอบการ การเสี่ยงความเคลื่อนไหวในตลาดสามารถลดลงโดยการทำความเข้าใจและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การลงทุนของหุ้นได้อย่างเหมาะสม
สรุป
เป็นเรื่องที่น่ายินมาก ที่นักลงทุนที่เห็นโอกาสในการเติบโตหรือทำกำไรจากหุ้นที่ได้ศึกษาไม่ว่าด้านพื้นฐานหุ้นเองหรือทางเทคนิคอล ในมาพิจารณาวางแผนจุดเข้าออก ความเสี่ยงในการลงทุน และสามารถเริ่มต้นซื้อขายหุ้นชื่อดังอย่าง NETFLIX ที่มาเป็นผู้นำอุตสาหกรรม ภาพยนตร์ ซีรี่ย์ ออนไลน์ ได้ง่ายขึ้นและสะดวกผ่านแอพลิเคชันเทรดหุ้นออนไลน์ของ Mitrade และที่สำคัญใช้ประโยชน์จากสินค้า CFD ช่วยให้ใช้เงินทุนที่น้อยลงในการเริ่มต้นลงทุนในหุ้น
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน