หุ้นท่องเที่ยวตัวไหนดี? แนะนำ 9 หุ้นท่องเที่ยวที่น่าจับตามอง
หลังจากหมดช่วงโควิดในปีที่ผ่านมาที่ทำให้การท่องเที่ยวหยุดชะงักไปกว่า 1-2ปีนั้น ณ ตอนนี้ อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเริ่มกลับมาเดินหน้าได้อย่างเต็มที่ จากทั้งนักท่องเที่ยวเดินทางรอบโลก การจับจ่ายใช้สอย และการเข้าพักตามโรงแรมที่พักต่างๆ นักลงทุนส่วนน้อยคงสงสัยว่าหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวมีอะไรบ้าง มีดังนี้ 1.กลุ่มสนามบินและสายการบิน 2.กลุ่มโรงแรม และ 3.กลุ่มค้าปลีก ซึ่งมีแบ่งกันไปตามบริษัทและสินค้าที่นำเสนอ บทความนี้เราจะมีรู้จักหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวที่น่าสนใจกัน
วิธีเลือกหุ้นท่องเที่ยว
ตลาดและแนวโน้ม: ศึกษาแนวโน้มของตลาดการท่องเที่ยว รวมถึงการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในปัจจุบันและในอนาคต ความเจริญรุ่นพันธุ์อายุหรือเทรนด์ใหม่ ๆ ที่อาจมีผลต่อราคาหุ้นของบริษัทท่องเที่ยว
สถานการณ์เศรษฐกิจ: ควรตรวจสอบสถานการณ์เศรษฐกิจที่ส่งผลต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เช่นความเจริญเศรษฐกิจ,อัตราแลกเปลี่ยน,และอัตราดอกเบี้ย
ความเสี่ยงทางการเมือง: การเกิดความไม่แน่นอนในสถานการณ์ทางการเมือง อาจส่งผลต่อการลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว
สภาพการเงินของบริษัท: ศึกษาสภาพการเงินของบริษัทที่คุณสนใจ รวมถึงรายงานการเงิน, กำไรสุทธิ, และหนี้สิน การท่องเที่ยวมักมีความนอกเสี่ยงและการเตรียมความพร้อมการเงินเป็นสิ่งสำคัญ
ความสามารถในการดำเนินธุรกิจ: การตรวจสอบความสามารถในการดำเนินธุรกิจของบริษัท อย่างต่อเนื่องและเป็นประจำ รวมถึงวัฒนธรรมองค์กร
การแข่งขันในอุตสาหกรรม: ในหมู่บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน หากมีการแข่งขันรุนแรงอาจส่งผลต่อผลกำไรและเพิ่มความเสี่ยงในการลงทุน
การเปลี่ยนแปลงในเทรนด์การท่องเที่ยว: การเปลี่ยนแปลงในการนำเทรนด์การท่องเที่ยว อาจส่งผลต่อบริษัท ควรตรวจสอบว่าบริษัทนั้นสามารถปรับตัวตามเทรนด์ใหม่ ๆ ได้อย่างรวดเร็ว
แนะนำ 9 หุ้นท่องเที่ยวที่น่าจับตามอง
1.Airbnb Inc (ABNB)
Airbnb, Inc. เป็นบริษัทในอเมริกาที่ตั้งอยู่ในซานฟรานซิสโก ซึ่งดำเนินธุรกิจตลาดออนไลน์สำหรับโฮมสเตย์และประสบการณ์ระยะสั้นและระยะยาว บริษัททำหน้าที่เป็นนายหน้าและเรียกเก็บค่าคอมมิชชั่นจากการจองแต่ละครั้ง บริษัทก่อตั้งขึ้นในปี 2551
Market capitalization: 75.48 billion USD
P/E ratio: 32.70 เท่า
PEG ratio: 1.4
2.WALT DISNEY (DIS)
บริษัทเดอะวอลต์ดิสนีย์ หรือเรียกกันทั่วไปว่า ดิสนีย์ เป็นกลุ่มบริษัทสื่อมวลชนและความบันเทิงข้ามชาติที่หลากหลายของอเมริกา สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ วอลต์ดิสนีย์สตูดิโอส์คอมเพลกซ์ในเบอร์แบงก์, รัฐแคลิฟอร์เนีย, สหรัฐ ดิสนีย์ก่อตั้งเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ค.ศ. 1923
Market capitalization: 148.87 Billion USD
P/E ratio: 66.26 เท่า
PEG ratio: 1.43
3. Hilton Worldwide (HLT)
ฮิลตัน เวิลด์ไวด์ โฮลดิงส์ อิงค์ เป็นบริษัทธุรกิจบริการข้ามชาติสัญชาติอเมริกันที่บริหารจัดการและแฟรนไชส์กลุ่มโรงแรมและรีสอร์ทมากมาย ก่อตั้งโดยคอนราด ฮิลตันในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2462 ปัจจุบันบริษัทนี้นำโดยคริสโตเฟอร์ เจ. นัสเซ็ตตา ฮิลตันมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองไทสัน รัฐเวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา
Market capitalization: 38.79 billion USD
P/E ratio: 30.50 เท่า
PEG ratio: 1.61
4.Carnival Corporation (CCL)
Carnival Corporation Limited (CCL) เป็นบริษัทเรือสำราญชั้นนำระดับโลกที่มีแบรนด์ต่างๆ มากมาย เช่น Carnival Cruise Line, Holland America Line, Princess Cruises และ Costa Cruises CCL มีประวัติอันยาวนานในการเป็นพันธมิตรกับองค์กรอื่น ๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครสำหรับแขก
Market capitalization: 12.96 billion USD
P/E ratio: -7.95 เท่า
PEG ratio: 0
5.Delta Air Lines (DAL)
เดลตาแอร์ไลน์ เป็นสายการบินสัญชาติอเมริกัน มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองแอตแลนต้า รัฐจอร์เจีย เที่ยวบินแรกของเดลต้าคือในปี พ.ศ. 2472 ในปี 1972 เดลต้าได้รวมกิจการกับ นอร์ทเวสต์แอร์ไลน์ ในปี 1987 เดลต้าได้รวมกิจการกับเวสเทิร์นแอร์ไลน์ ในปีพ.ศ. 2553 พวกเขาได้รวมกิจการกับ นอร์ทเวสต์แอร์ไลน์ ณ ปีพ.ศ. 2565
Market capitalization: 20.01 billion USD
P/E ratio: 5.89 เท่า
PEG ratio: 0.17
6.Expedia Group (EXPE)
บริษัทเอ็กซ์พีเดียกรุ๊ป รับทำทะเบียนการค้า เป็นบริษัทสัญชาติอเมริกาที่ให้บริการด้านการท่องเที่ยวออนไลน์ระดับโลก โดยมีธุรกิจในเครือหลากหลายแบรนด์ ได้แก่ Expedia.com, Hotels.com, Hotwire.com, trivago, Egencia, Venere.com, Expedia Local Expert, Classic Vacations, Expedia CruiseShipCenters, Travelocity, Orbitz และ HomeAway
Market capitalization: 15.71 billion USD
P/E ratio: 20.4 เท่า
PEG ratio: 0.61
7.Marriott International (MAR)
แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นกลุ่มบริษัทอเมริกันที่บริหาร ลงทุน และเป็นเจ้าของธุรกิจที่พักอาศัยรวมถึง โรงแรม ที่พักอาศัย และไทม์แชร์ โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เบเธสดา รัฐแมรีแลนด์ โดยก่อตั้งโดยเจ วิลลาร์ด แมริออท และภรรยาแอลิซ แมริออท
Market capitalization: 13.58 billion USD
P/E ratio: 16.24เท่า
PEG ratio: 1.3
8.Marriot Vacations Worldwide (VAC)
Marriott Vacations Worldwide Corp. เป็นบริษัทท่องเที่ยวระดับโลกที่ดำเนินธุรกิจด้านการดูแลเรื่องการท่องเที่ยว สถานที่พักผ่อน การแลกเปลี่ยน การเช่า และการจัดการรีสอร์ทและทรัพย์สิน ตลอดจนธุรกิจ ผลิตภัณฑ์ และบริการที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการผ่านการเป็นเจ้าของวันหยุดและการแลกเปลี่ยนและการจัดการบุคคลที่สาม ส่วนการเป็นเจ้าของวันหยุดพัฒนา ทำการตลาด ขายและจัดการการเป็นเจ้าของวันหยุดและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
Market capitalization: 3.24 billion USD
P/E ratio: 9.00 เท่า
PEG ratio: 0
9.Booking Holdings (BKNG)
Booking Holdings Inc. เป็นบริษัทเทคโนโลยีการเดินทางสัญชาติอเมริกันที่จัดตั้งขึ้นภายใต้กฎหมาย Delaware General Corporation Law และตั้งอยู่ในนอร์วอล์ค รัฐคอนเนตทิคัต ซึ่งเป็นเจ้าของและดำเนินการเครื่องมือรวบรวมค่าโดยสารและเครื่องมือค้นหาเมตาค่าโดยสารหลายแห่ง รวมถึง Booking.com, Priceline.com, Agoda ที่เป็นชื่อเดียวกัน
Market capitalization: 99.77 billion USD
P/E ratio: 23.75 เท่า
PEG ratio: 0.94
ตารางเปรียบเทียบสัดส่วนทางการเงินหุ้นท่องเที่ยว
ชื่อหุ้น | ชื่อหุ้น | Market Cap (Billion USD) | P/E (เท่า) | PEG | Target Price 2023 (USD) |
Airbnb Inc | ANBN | 75.48 | 30.70 | 1.4 | 139.50 |
WALT DISNEY | DIS | 148.87 | 66.26 | 1.43 | 105.80 |
HiltonWorldwide | HLT | 38.79 | 30.50 | 1.61 | 168.25 |
Carnival Corporation | CCL | 12.96 | -7.95 | 0 | 18.27 |
Delta Air Lines | DAL | 20.01 | 5.89 | 0.17 | 55.23 |
Expedia Group | EXPE | 15.7 | 20.41 | 0.61 | 125.75 |
Marriott International | MAR | 13.58 | 16.24 | 1.3 | 215.86 |
Marriot Vacations Worldwide | VAC | 3.24 | 9 | 0 | 121 |
Booking Holdings | BKNG | 99.77 | 23.75 | 0.94 | 403.10 |
หุ้นท่องเที่ยวน่าลงทุนหรือไม่
หลังจากที่ผ่านโควิดมาเข้าปีที่สาม มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง ในปีนี้ที่ชัดเจนที่ทำให้หุ้นท่องเที่ยวยังมีเสน่ห์เสมอ
🔸 พฤติกรรมด้านการใช้เทคโนโลยีของผู้บริโภค จะปรับเปลี่ยนไปจากเดิม กล่าวคือ ยังเสพติดการใช้เทคโนโลยี Everything Everywhere เพราะไลฟ์สไตล์ของพวกเขาเปลี่ยนแปลงไปแล้ว
🔸 การอำนวยความสะดวกให้กับการเดินทางและขอวีซ่า แบบที่เรียกว่า Long Term Resident VISA หรือ LTR ซึ่งไม่เพียงสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังช่วยดึงดูดแรงงานทักษะสูงเข้ามาทำงานในประเทศอีกด้วย
🔸 เทรนด์การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness tourism) ได้หันมามองหากิจกรรมใหม่ ๆ อย่างศาสตร์จักระบำบัด มากกว่ากีฬา สปา โยคะแบบเดิม
🔸 ท่องเที่ยวตามรอยหนังดัง หรือที่เรียกว่า Set-Jetter ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ยกตัวอย่างเช่น ปรากฎการณ์ตามรอยซีรีส์เกาหลีชื่อดัง “ Hometown Cha Cha Cha” สะท้อนถึงพลังของการทำการตลาดผ่านสิ่งที่เรียกว่า Soft Power นั่นเอง
ฉะนั้นหุ้นที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวต่างๆ โรงแรม ที่พัก รีสอร์ท สายการบิน การจองตั๋ว สถานที่ท่องเที่ยว แอพลิเคชั่น ต้องไม่พลาดที่เข้าเก็บลงทุนในหุ้นท่องเที่ยว โรงแรม สายการบิน ที่ได้รับผลดีอย่างเช่นที่เกริ่นไว้ด้านบน สามารถมีติดพอร์ตการลงทุนไว้เพื่อเกาะจังหวะที่หุ้นฟื้นตัว และมีแนวโน้มโตขึ้นอีกในอนาคต
1) การจองอัตโนมัติเพิ่มขึ้น เช่น BOOKING.COM EXPEDIA AIRBNB
2) การจองผ่านมือถือเร็วขึ้น BOOKING.COM EXPEDIA
3) การปรับเปลี่ยนในแบบของความเป็นส่วนตัวมากขึ้น แทนที่จะเป็นกลุ่ม
4) ทริปพักผ่อนที่ใหญ่กว่าและยาวนานกว่า HILTON MARRIOTT
5) การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แนวสุขภาพ หรือรักษารรมชาติ
6) การเดินทางที่เปลี่ยนแปลงมากขึ้น มีการวางแผนที่ซับซ้อนขึ้น AIRBNB DELTA
การฟื้นตัวและการเติบโตมีแนวโน้มที่จะดำเนินต่อไป ตามการประมาณการขององค์การการท่องเที่ยวโลก (UNWTO) ในปี 2566 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติอาจสูงถึง 80 ถึง 95 เปอร์เซ็นต์ของระดับก่อนการแพร่ระบาด ขึ้นอยู่กับขอบเขตของการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ การฟื้นตัวของการเดินทางในเอเชียแปซิฟิก และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ รวมถึงปัจจัยอื่นๆ ในทำนองเดียวกัน สภาการเดินทางและการท่องเที่ยวโลก (WTTC) คาดการณ์ว่าภายในสิ้นปี 2566 เกือบครึ่งหนึ่งของประเทศ 185 ที่องค์กรทำการวิจัยจะฟื้นตัวสู่ระดับก่อนการแพร่ระบาดหรืออยู่ภายในร้อยละ 95 ของการฟื้นตัวทั้งหมด
และ การคาดการณ์ในระยะยาวยังชี้ให้เห็นถึงการมองโลกในแง่ดีสำหรับทศวรรษข้างหน้าด้วย GDP การเดินทางและการท่องเที่ยวคาดว่าจะเติบโตโดยเฉลี่ยร้อยละ 5.8 ต่อปีระหว่างปี 2023 ถึง 2030 ซึ่งแซงหน้าการเติบโตของเศรษฐกิจโดยรวมที่คาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 2.7 ต่อปี
วิธีลงทุนในหุ้นท่องเที่ยว
มีวิธีการที่เข้าลงทุนในหุ้นท่องเที่ยวอย่างหลากหลาย ทั้งซื้อหุ้นโดยตรงผ่านโบรกเกอร์ต่างประเทศ ผ่านกองทุนหุ้น และ ETF ต่างๆ แต่วิธีที่เป็นที่นิยมในปัจจุบันของนักลงทุนคือ รูปแบบของ Contract For Difference หรือ CFD ซึ่งลงทุนในสัญญาส่วนต่าง โดยการซื้อหุ้นต่างประเทศผ่านระบบ CFD นักลงทุนจะไม่เสียค่าธรรมเนียมใดๆ สามารถซื้อได้ทั้งสองฝั่ง คือ ขาขึ้นและขาลง อาศัยข้อได้เปรียบในเรื่องของ Leverage ที่ให้มาสูงสุดถึง 10 เท่า เมื่อเทียบกับซื้อหุ้นในช่องทางปกติแล้ว
ตัวอย่างถ้านักลงทุนต้องการเข้าซื้อขายหุ้นของบริษัท Airbnb Inc (ABNB)
1.ลงทะเบียนบัญชีผู้ใช้งานให้เรียบร้อย
ใช้เวลาเพียง 3 นาที สามารถเปิดบัญชีจริง เริ่มต้นที่ 50 USD หรือสามารถใช้งานบัญชีเดโม่(มูลค่า 50,000 USD) เพื่อฝึกฝนการใช้งานก่อนได้เช่นกัน
2.เลือกที่คำสั่ง Deposit เพื่อฝากเงินเข้าบัญชีเทรด
มีให้เลือกหลายช่องทาง ไม่ว่าจ QR Code/ บัตรเครดิต และอื่นๆ
3.ค้นหาหุ้น ABNB ในช่องเลือกหุ้น
4.ใส่จำนวนขนาดของสัญญา
ขนาดของเลเวอเรจ และตั้งค่าราคาที่จะทำกำไร (Take Profit) และราคาตัดขาดทุน (Stop Loss) หรือคำสั่งตั้งราคาซื้อขายล่วงหน้าเป็นต้น
จากรูปข้างบนจะเห็นว่า นักลงทุนเตรียมตัวจะซื้อหุ้น ABNB ที่ราคา 115 USD เป็นคำสั่ง Pending คือรอซื้อที่ราคา ขนาดของสัญญา 20 Lot size และใช้เลเวอเรจขนาด 10 เท่า ดังนั้นนักลงทุนต้องเตรียมเงินไว้ในบัญชี 230 USD เพื่อให้สามารถทำการซื้อขายได้ ถ้าราคาไปถึงเป้าหมาย (Take Profit) ที่ตั้งไว้ 130 USD จะกำไร 300 USD แต่ถ้าราคาไม่เป็นไปตามที่ตั้งใจ มาถึงราคาตัดขาดทุน (Stop Loss) 110 USD จะขาดทุนที่ -100 USD
สรุป
หุ้นท่องเที่ยวเป็นอีกกลุ่มหุ้นที่น่าติดพอร์ตไว้ส่วนหนึ่งสำหรับนักลงทุน เพราะหลังจากโควิดหมดสิ้นไป หุ้นหลายตัวยังคงอยู่ในระหว่างราคาฟื้นตัวตามอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ปรับเปลี่ยนรูปแบบตามไลฟ์สไตล์และเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทมากขึ้นในตั้งแต่กระบวนการวางแผนเที่ยว จองตั๋ว เข้าใช้สินค้าและบริการของบริษัทในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ดังนั้นนักลงทุนที่กำลังมองหาหุ้นที่กำลังฟื้นตัว หุ้นท่องเที่ยวเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเลยทีเดียว
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน