หุ้นญี่ปุ่นตัวไหนดี? ส่อง 10 หุ้นญี่ปุ่นเด็ดน่าลงทุนปี 2025

อัพเดทครั้งล่าสุด
coverImg
แหล่งที่มา: DepositPhotos

ช่วงนี้ถ้าใครตามข่าวการลงทุนต่างประเทศ น่าจะได้ยินเสียงฮือฮาเกี่ยวกับ หุ้นญี่ปุ่น กันหนาหูเลย ก็แหม… ดัชนี Nikkei 225 ทะยานฟ้าทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 34 ปี! บทความนี้ เราจะพาไปส่อง 10 หุ้นญี่ปุ่นเด็ดน่าลงทุนปี 2025 พร้อมบทวิเคราะห์ เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปตะลุยแดนซากุระพร้อมกันเลย

ทำความรู้จักกับ “ตลาดหุ้นญี่ปุ่น” ก่อนลงทุน

ตลาดหุ้นโตเกียว หรือ TSE นี่แหละคือเวทีหลัก ใหญ่เบิ้มติดอันดับโลก มีบริษัทจดทะเบียนเกือบ 4,000 แห่ง  และมูลค่าตลาดรวมมหาศาลถือเป็นศูนย์กลางทางการเงินที่สำคัญไม่แพ้ใครในโลก   แต่เวลาพูดถึงหุ้นญี่ปุ่น เรามักจะได้ยินชื่อดัชนีสองตัวนี้บ่อยๆ


  • Nikkei 225 ตัวนี้ดังสุด เหมือนเป็นหน้าเป็นตาของตลาดหุ้นญี่ปุ่น คล้ายๆ กับ SET50 ของไทยเรา คัดเอาหุ้นบริษัทชั้นนำ (Blue Chip) 225 ตัวแรกมาคำนวณ แต่มีข้อสังเกตนิดนึงคือ Nikkei ใช้วิธีถ่วงน้ำหนักด้วย ราคาหุ้น  หมายความว่าหุ้นที่ราคาต่อหน่วยแพงๆ จะมีอิทธิพลต่อดัชนีเยอะหน่อย


  • TOPIX ตัวนี้ครอบคลุมกว่าเยอะ เอาหุ้นทุกตัวในกลุ่มตลาดหลักมาคำนวณ ที่สำคัญคือ TOPIX ใช้วิธีถ่วงน้ำหนักตาม มูลค่าตลาด และปรับด้วยสัดส่วนหุ้นที่ซื้อขายได้จริง ทำให้นักวิเคราะห์หลายคนมองว่า TOPIX สะท้อนภาพรวมของตลาดหุ้นญี่ปุ่นได้ดีและเป็นธรรมกว่า Nikkei 225  

ทำไมต้องหุ้นญี่ปุ่น 2025? เหตุผลเด็ดๆ ที่นักลงทุนห้ามพลาด!

รู้จักตลาดกันพอหอมปากหอมคอแล้ว มาถึงคำถามสำคัญ ทำไมปี 2025 ถึงเป็นปีที่น่าจับตามองสำหรับหุ้นญี่ปุ่น? มีเหตุผลเด็ดๆ เพียบเลย!


1. เศรษฐกิจติดเครื่อง

ญี่ปุ่นติดอยู่ในภาวะเงินฝืด (Deflation) หรือข้าวของราคาถูกลงเรื่อยๆ มานานหลายสิบปี ซึ่งฟังดูดี แต่จริงๆ แล้วมันทำให้คนไม่อยากใช้จ่าย บริษัทไม่อยากลงทุน เศรษฐกิจเลยไม่โต แต่ตอนนี้ ญี่ปุ่นกำลังก้าวเข้าสู่ยุคเงินเฟ้ออ่อนๆ (Mild Reflation) โดยธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ตั้งเป้าเงินเฟ้อไว้ที่ประมาณ 2% ต่อปี เงินเฟ้อระดับนี้ถือว่าดีต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นนะ เพราะมันกระตุ้นให้คนเริ่มจับจ่ายใช้สอย บริษัทก็กล้าขึ้นราคาสินค้า และมีกำไรไปลงทุนต่อ


2. BOJ ขยับเบาๆ: ขึ้นดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป

หลังจากใช้นโยบายดอกเบี้ยติดลบและควบคุมผลตอบแทนพันธบัตรมานาน ในที่สุด BOJ ก็เริ่มขยับตัวออกจากนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายสุดขั้ว มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเล็กน้อย และส่งสัญญาณว่าจะทยอยขึ้นต่ออย่างค่อยเป็นค่อยไปในปี 2025 การขยับแบบนี้เป็นการส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังจะกลับสู่ภาวะปกติ ซึ่งเป็นเรื่องดีในระยะยาว


3.ปฏิรูปบริษัทครั้งใหญ่ เน้นกำไรผู้ถือหุ้น

นี่คือพระเอกตัวจริงของเรื่อง! รัฐบาลญี่ปุ่นและตลาดหลักทรัพย์โตเกียว (TSE) กำลังผลักดันการปฏิรูปบริษัทครั้งใหญ่ เป้าหมายคือทำให้บริษัทญี่ปุ่นเน้น สร้างมูลค่าให้ผู้ถือหุ้น มากขึ้น ไม่ใช่แค่ขยายขนาดหรือแย่งส่วนแบ่งตลาดเหมือนในอดีต


หลายคนมองว่าครั้งนี้ต่างจากครั้งก่อนๆ เพราะบริษัทต่างๆ ดูเต็มใจที่จะเปลี่ยนแปลงมากขึ้น และการเปลี่ยนแปลงนี้อาจกลายเป็นเรื่องจำเป็นเพื่อความอยู่รอด ในภาวะที่ต้นทุนสูงขึ้น ไม่ใช่แค่ทำก็ดี ไม่ทำก็ได้เหมือนเมื่อก่อน 


4. Valuation ยังน่าคบหา

ถึงแม้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นจะวิ่งขึ้นมาเยอะ แต่เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นอื่นๆ โดยเฉพาะอเมริกา หุ้นญี่ปุ่นหลายตัวอาจจะยังดู ไม่แพง หรือมี Valuation ที่น่าสนใจกว่า ไม่ว่าจะเป็นอัตราส่วน P/E (Price-to-Earnings), P/B (Price-to-Book Value) หรือแม้แต่อัตราเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) ที่บางทีสูงกว่าหุ้นเมกาซะอีก นี่อาจเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนที่มองหาหุ้นดีในราคาที่สมเหตุสมผล

หุ้นญี่ปุ่นตัวไหนดี : คัดเน้นๆ 10 หุ้นญี่ปุ่นน่าโดน ประจำปี 2025

เอาล่ะ! มาถึงช่วงไฮไลท์ที่ทุกคนรอคอย เราคัดหุ้นญี่ปุ่น 10 ตัวที่น่าจับตามองสุดๆ ในปี 2025 มาให้เพื่อนๆ ได้ส่องกันแบบเน้นๆ


1. Toyota Motor Corporation

พูดถึงหุ้นญี่ปุ่น จะไม่พูดถึง Toyota คงไม่ได้ พี่เบิ้มแห่งวงการยานยนต์ระดับโลก ที่ใครๆ ก็รู้จัก  ความเจ๋งของ Toyota คือความเป็นผู้นำที่เก๋าเกมสุดๆ โดยเฉพาะเรื่องรถยนต์ไฮบริดที่ครองตลาดมานาน ตอนนี้ก็กำลังเร่งเครื่องเต็มสูบเพื่อพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า (EV) และเทคโนโลยีแบตเตอรี่แห่งอนาคตอย่าง Solid-state  ความน่าสนใจคือการที่ยักษ์ใหญ่ตัวนี้กำลังปรับตัวเข้าสู่ยุคใหม่ของยานยนต์ แถมยังอาจได้อานิสงส์จากค่าเงินเยนที่อ่อนค่า ช่วยให้ส่งออกได้เปรียบอีกด้วย    


ถึงแม้กำไรในปีงบประมาณ 2025 (สิ้นสุด มี.ค. 2025) อาจจะดูแผ่วลงเล็กน้อยจากปีก่อนหน้า  แต่โดยรวมพื้นฐานยังแน่นปึ้ก รายได้ยังคงเติบโต และมีอัตราผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น (ROE) ที่น่าพอใจ  แถมยังจ่ายปันผลสม่ำเสมอ ประมาณ 2.5-3.0%  ในแง่ Valuation ค่า P/E อยู่ที่ประมาณ 9-10 เท่า  ซึ่งถือว่าไม่แพงเลยเมื่อเทียบกับความเป็นผู้นำตลาด


Toyota Motor Corporation

ที่มา : TradingView


2. Sony Group Corporation

Sony ไม่ใช่แค่บริษัทอิเล็กทรอนิกส์ธรรมดาๆ แต่คืออาณาจักรความบันเทิงและเทคโนโลยีตัวจริงเสียงจริง  มีธุรกิจในมือหลากหลายมาก ตั้งแต่เครื่องเกม PlayStation ที่ครองใจเกมเมอร์ทั่วโลก, เซ็นเซอร์กล้องคุณภาพเทพที่หลายแบรนด์ดังเลือกใช้, ธุรกิจเพลงและภาพยนตร์สุดปัง, ไปจนถึงธุรกิจการเงิน  จุดแข็งคือความสามารถในการสร้างสรรค์คอนเทนต์และเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์คนทั้งโลกได้อย่างต่อเนื่อง    


ในแง่พื้นฐาน Sony ดูดีทีเดียว นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ากำไรจะเติบโตได้ดีในอีก 2 ปีข้างหน้า  และมี ROE ที่คาดว่าจะอยู่ในระดับที่ดี  ค่า P/E อยู่ที่ประมาณ 17-18 เท่า  ถือว่ากลางๆ ไม่ถูกไม่แพงเกินไป ส่วนปันผลอาจจะไม่สูงมากนัก ประมาณ 1.1%


Sony Group Corporation

ที่มา : TradingView


3. Mitsubishi UFJ Financial Group, Inc.

มาถึงคิวพี่ใหญ่แห่งวงการธนาคารญี่ปุ่น MUFG!  ความน่าสนใจของหุ้นกลุ่มธนาคารตอนนี้คือ การที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เริ่มส่งสัญญาณทยอยขึ้นดอกเบี้ย  ซึ่งเป็นผลดีโดยตรงต่อธนาคาร เพราะจะช่วยเพิ่มส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ย (Net Interest Margin) ให้สูงขึ้น  นอกจากนี้ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการปฏิรูปบริษัทต่างๆ ก็น่าจะทำให้ความต้องการสินเชื่อและการลงทุนเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลดีต่อธุรกิจของ MUFG ด้วย


นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ากำไรและรายได้ของ MUFG จะเติบโตต่อเนื่อง และ ROE ก็มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น  ค่า P/E ยังถือว่าไม่สูงนัก อยู่ที่ประมาณ 10-11 เท่า  เมื่อเทียบกับธนาคารระดับโลกอื่นๆ แถมยังมีอัตราปันผลที่น่าดึงดูดใจราว 3.0%


Mitsubishi UFJ Financial Group, Inc.

ที่มา : TradingView


4. Fast Retailing Co., Ltd. (9983.T)

นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก UNIQLO และ Fast Retailing ก็คือบริษัทแม่ของแบรนด์เสื้อผ้าสุดฮิตนี้นั่นเอง  ถือเป็นผู้นำในตลาด Fast Fashion ระดับโลก ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในญี่ปุ่นและขยายสาขาไปทั่วโลก สะท้อนกำลังซื้อของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี ใครๆ ก็อยากเป็นเจ้าของแบรนด์ระดับโลกแบบนี้


แม้ว่ากำไรต่อหุ้นในปี 2025 อาจจะดูทรงๆ หรือลดลงเล็กน้อย แต่รายได้ยังคงเติบโตต่อเนื่องจากการขยายสาขาและยอดขายออนไลน์  จุดที่ต้องพิจารณาคือค่า P/E ที่ค่อนข้างสูง ประมาณ 38 เท่า  ซึ่งสะท้อนความคาดหวังของตลาดต่อการเติบโตในอนาคต ส่วนปันผลอาจจะไม่สูงนัก ประมาณ 0.9%  เพราะบริษัทเน้นนำกำไรไปลงทุนต่อยอดธุรกิจมากกว่า


Fast Retailing Co., Ltd. (9983.T)

ที่มา : TradingView


5. Keyence Corporation (6861.T)

ถ้าพูดถึงบริษัทญี่ปุ่นที่ทำกำไรเก่งสุดๆ ต้องมีชื่อ Keyence บริษัทนี้คือเจ้าพ่อแห่งวงการเซ็นเซอร์ ระบบวัด และอุปกรณ์สำหรับโรงงานอัตโนมัติ ความเจ๋งอยู่ที่โมเดลธุรกิจแบบขายตรงที่ไม่เหมือนใคร ทำให้มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงปรี๊ด ได้ประโยชน์เต็มๆ จากเทรนด์การลงทุนในระบบอัตโนมัติและ AI ที่กำลังมาแรงทั่วโลก ใครๆ ก็อยากได้หุ้นเทพแบบนี้ไว้ในพอร์ต   


Keyence มีประวัติการเติบโตที่แข็งแกร่งมาตลอด มีกำไรและ ROE สูงลิ่ว สมกับเป็นหุ้น Growth คุณภาพเยี่ยม แต่ก็ต้องแลกมาด้วยค่า P/E ที่สูงเช่นกัน ประมาณ 35 เท่า ส่วนปันผลอาจจะน้อยหน่อย ประมาณ 0.5% เพราะบริษัทเน้นการเติบโตเป็นหลัก


Keyence Corporation (6861.T)

ที่มา : TradingView


6. Mitsubishi Heavy Industries, Ltd. (MHI)

MHI คือบริษัทอุตสาหกรรมหนักแบบครบวงจรตัวจริง มีธุรกิจหลากหลายตั้งแต่พลังงาน (โรงไฟฟ้า, กังหันลม), ระบบป้องกันประเทศ, การบินและอวกาศ, ไปจนถึงเครื่องจักรกลต่างๆ ความน่าสนใจคือ MHI กำลังได้ประโยชน์เต็มๆ จากเทรนด์ใหญ่ 2 เรื่อง คือ งบประมาณด้านความมั่นคงที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก และการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสะอาด ทำให้มีโอกาสเติบโตอีกมากในอนาคต


พื้นฐานดูดีทีเดียว คาดการณ์ว่ากำไรและรายได้มีแนวโน้มเติบโตได้ดี จากคำสั่งซื้อที่ไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และ ROE ก็กำลังปรับตัวดีขึ้น  ค่า P/E อาจจะดูสูงหน่อย ประมาณ 34-38 เท่า แต่ก็สะท้อนความคาดหวังของตลาดต่อการเติบโตในอนาคต บริษัทมีการจ่ายปันผลด้วย ประมาณ 0.8-1.0%


Mitsubishi Heavy Industries, Ltd. (MHI)

ที่มา : TradingView


7. Tokyo Electron Limited (TEL)

ใครอยากเกาะกระแสเทคโนโลยี AI และเซมิคอนดักเตอร์ ต้องรู้จัก TEL บริษัทนี้คือหนึ่งในผู้ผลิตเครื่องจักรและอุปกรณ์สำหรับผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของโลก เรียกว่าเป็นหัวใจสำคัญของอุตสาหกรรมเลยก็ว่าได้ ความน่าสนใจคือ TEL ได้รับประโยชน์โดยตรงจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมชิป และการลงทุนมหาศาลในเทคโนโลยี AI และ Data Center ทั่วโลก ถือเป็นหุ้นเติบโตที่เกาะไปกับเมกะเทรนด์อย่างแท้จริง  


พื้นฐานแข็งแกร่งมาก นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ากำไรจะเติบโตก้าวกระโดดในปีงบประมาณ 2025 และ 2026 มี ROE อยู่ในระดับสูง และมีการจ่ายปันผลในระดับที่ดี ประมาณ 2.1% ค่า P/E อาจจะสูงหน่อย ประมาณ 30-35 เท่า ตามสไตล์หุ้นเทคฯ ผู้นำตลาด


Tokyo Electron Limited (TEL)

ที่มา : TradingView


8. Advantest Corporation

ยังคงอยู่ในวงการเซมิคอนดักเตอร์ Advantest คือผู้นำระดับโลกด้านเครื่องมือทดสอบชิป เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่จะได้ประโยชน์เต็มๆ จากการเติบโตของอุตสาหกรรมชิป โดยเฉพาะชิปสำหรับ AI และยานยนต์ไฟฟ้า ที่นับวันยิ่งซับซ้อนและต้องการการทดสอบที่แม่นยำมากขึ้นเรื่อยๆ  ถือเป็นหุ้นอีกตัวที่น่าจับตาในยุคที่ชิปครองโลก 


หลังจากผ่านช่วงชะลอตัว นักวิเคราะห์คาดว่ากำไรและรายได้ของ Advantest จะกลับมาเติบโตได้ดีในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า และ ROE ก็คาดว่าจะกลับมาอยู่ในระดับสูงอีกครั้ง ค่า P/E อาจจะยังดูสูงบ้าง ประมาณ 19-29 เท่า แต่ก็สะท้อนการฟื้นตัวและการเติบโตในอนาคต บริษัทมีการจ่ายปันผลด้วย ประมาณ 0.6-1.2%


Advantest Corporation

ที่มา : TradingView


9. Nintendo Co., Ltd.

สาวก Mario, Zelda, Pokemon ต้องกรี๊ด Nintendo คือบริษัทเกมระดับตำนานที่มีทรัพย์สินทางปัญญา (IP) แข็งแกร่งที่สุดในโลกบริษัทหนึ่ง ความน่าตื่นเต้นสุดๆ ในปี 2025 คือ ข่าวลือหนาหูเรื่องการเปิดตัวเครื่องเกมคอนโซลรุ่นใหม่ที่คาดว่าจะเป็น Switch 2 ซึ่งถ้ามาจริง รับรองว่ากระตุ้นยอดขายทั้งเครื่องและเกมแบบถล่มทลายแน่นอน ไม่ใช่แค่นั้น Nintendo ยังขยายอาณาจักรความสนุกไปสู่โลกภาพยนตร์ และสวนสนุก (Super Nintendo World เปิดเพิ่มอีก) ช่วยเสริมแกร่งให้แบรนด์และสร้างรายได้เพิ่มไปอีก


นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ากำไรและรายได้ของ Nintendo จะเติบโตก้าวกระโดดในปี 2025-2026 จากการมาของ Switch 2 ROE อยู่ในระดับดีและคาดว่าจะดีขึ้นอีก ค่า P/E ประมาณ 18-20 เท่า  อาจจะดูไม่ถูกนัก แต่ก็สมเหตุสมผลเมื่อเทียบกับศักยภาพการเติบโตมหาศาลที่รออยู่ บริษัทจ่ายปันผลสม่ำเสมอด้วย ประมาณ 1.6%


Nintendo Co., Ltd.

ที่มา : TradingView


10. Itochu Corporation

ปิดท้ายด้วย Itochu หนึ่งในบริษัทการค้าครบวงจรที่ใหญ่และเก๋าที่สุดของญี่ปุ่น  มีธุรกิจในมือเยอะมาก ตั้งแต่พลังงาน, โลหะ, เครื่องจักร, เคมีภัณฑ์, อาหาร, สิ่งทอ, ไปจนถึงไอทีและการเงิน  จุดเด่นคือความสามารถในการปรับตัว กระจายความเสี่ยง และที่สำคัญคือเป็นหนึ่งในหุ้นที่นักลงทุนระดับตำนานอย่าง Warren Buffett เข้าลงทุน!  ทำให้ได้รับความสนใจเป็นพิเศษ แถมบริษัทยังหันมาเน้นการคืนกำไรให้ผู้ถือหุ้นมากขึ้นด้วยนะ    


พื้นฐานถือว่าแข็งแกร่ง กำไรเติบโตสม่ำเสมอ โดยในปีงบประมาณ 2025 คาดการณ์กำไรสุทธิถึง 880 พันล้านเยน เพิ่มขึ้น 9.7% จากปีก่อน  ROE อยู่ในระดับที่ดี ประมาณ 16% และมีเป้าหมายจะเพิ่มขึ้นอีก ค่า P/E ถือว่าค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับคุณภาพธุรกิจ อยู่ที่ประมาณ 10-11 เท่า  และจ่ายปันผลสม่ำเสมอ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นด้วย โดยคาดการณ์ปันผลปี 2025 ที่ 200 เยนต่อหุ้น เพิ่มขึ้นถึง 25% จากปีก่อน


Itochu Corporation

ที่มา : TradingView

ซื้อหุ้นญี่ปุ่นยังไง? : 2 วิธีง่ายๆ สไตล์คนไทย

เห็นหุ้นน่าสนใจแล้ว คำถามต่อไปคือ แล้วเราคนไทยจะไปซื้อหุ้นญี่ปุ่นได้ยังไง? ไม่ยากอย่างที่คิด! มี 2 วิธีหลักๆ ที่นิยมกัน มาดูกันเลย


1.ลงทุนตรง & ผ่าน ETF: ทางเลือกคลาสสิก ปลอดภัย สบายใจ

วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่อยากลงทุนระยะยาว ต้องการเป็นเจ้าของหุ้นจริงๆ หรืออยากกระจายความเสี่ยงแบบไม่ซับซ้อน


ซื้อหุ้นรายตัวโดยตรง (Direct Stock Purchase)

เราสามารถเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศ (Global Trading Account) กับบริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) ในไทยที่ให้บริการนี้ได้เลย โบรกเกอร์ที่หลายคนคุ้นเคยก็มีให้บริการ เช่น หลักทรัพย์กสิกรไทย (KS), TISCO Securities, Finansia Syrus เป็นต้น เหมาะกับ คนที่อยากเลือกหุ้นเอง มีเวลาศึกษาข้อมูล และลงทุนระยะยาว


ลงทุนผ่านกองทุน ETF (Exchange Traded Funds)

ETF คือกองทุนที่ซื้อขายในตลาดหุ้นเหมือนหุ้นตัวหนึ่ง แต่ข้างในถือหุ้นหลายตัวตามดัชนีอ้างอิง เช่น Nikkei 225 หรือ TOPIX. การลงทุนใน ETF ญี่ปุ่นทำได้ 2 แบบ


  • ซื้อ ETF ญี่ปุ่นโดยตรง ผ่านบัญชีเทรดหุ้นต่างประเทศกับโบรกเกอร์ไทย (เหมือนซื้อหุ้นรายตัว) มี ETF ญี่ปุ่นให้เลือกเยอะมาก แต่ต้องเช็คกับโบรกเกอร์ว่าตัวไหนซื้อได้บ้าง


  • ซื้อกองทุนรวมไทย (Feeder Fund) ที่ไปลงทุนใน ETF ญี่ปุ่น อันนี้ง่ายหน่อย คือซื้อผ่าน บลจ. ในไทยได้เลย กองทุนไทยจะเอาเงินเราไปลงทุนในกองทุน ETF แม่ในต่างประเทศอีกที. ตัวอย่างเช่น กองทุน KT-JPFUND-A ของ บลจ.กรุงไทย ที่ไปลงทุนใน iShares Core Nikkei 225 ETF  


เหมาะกับ คนที่อยากลงทุนในภาพรวมตลาดญี่ปุ่น กระจายความเสี่ยง ไม่ต้องการเลือกหุ้นเอง


2.เทรดทำกำไรระยะสั้นด้วย CFD

วิธีนี้กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น สำหรับคนที่สนใจเทรด ทำกำไรจากความเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้นๆ


CFD หลักการง่ายๆ คือ เราไม่ได้ซื้อหุ้นจริงๆ มาเป็นเจ้าของ แต่เราทำสัญญากับโบรกเกอร์เพื่อ เก็งกำไร จากส่วนต่างของราคาตอนเปิดสัญญา (ซื้อ/ขาย) กับตอนปิดสัญญา เหมือนเราทายว่าราคาสินทรัพย์นั้น (อาจจะเป็นดัชนีหุ้น, หุ้นรายตัว, ค่าเงิน, ทองคำ, น้ำมัน) จะขึ้นหรือลง ถ้าทายถูกก็ได้กำไรจากส่วนต่างราคา ถ้าทายผิดก็ขาดทุน


ข้อดีคือใช้ทุนน้อย ทำกำไรได้ทั้งขาขึ้น และขาลง เหมาะกับนักลงทุนหน้าใหม่ที่มีเงินทุนไม่มาก แต่อย่าลืมว่าการลงทุนมีความเสี่ยง อย่าลืมตั้งราคา Stop Loss ด้วย


ถ้าเพื่อนๆ อ่านเรื่อง CFD แล้วรู้สึกว่าเออ น่าสนใจแฮะ อยากลองดู แต่ก็ยังกล้าๆ กลัวๆ หรือกำลังมองหาโบรกเกอร์ที่ใช้ง่ายๆ สำหรับคนไทย Mitrade ก็เป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าพิจารณา


mitrade    
💸 ห้ามพลาด!!! 💸    
แจกโบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์! 🎁🎁🎁    

ค่าคอมฯ 0 สเปรดต่ำ! เงินฝากขั้นต่ำ $50 🤑    
ฝึกเทรดด้วยเงินเสมือนจริง $50, 000 ฟรี 💰
การลงทุนมีความเสี่ยง อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน

*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา


การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

goTop
quote
บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่?
บทความที่เกี่ยวข้อง
placeholder
How to วิธีเทรดหุ้นแบบละเอียดสำหรับมือใหม่หัดเทรด 2024การเริ่มต้นเทรดหุ้นอาจดูซับซ้อนสำหรับนักเทรดหุ้นมือใหม่ แต่ด้วยความเข้าใจพื้นฐานและการวางแผนอย่างรอบคอบ จะช่วยให้คุณก้าวเข้าสู่โลกของการลงทุนได้อย่างมั่นใจ บทความนี้จะช่วยแนะนำวิธีเทรดหุ้นแบบละเอียด พร้อมทั้งวิธีการจัดการความเสี่ยง เพื่อให้คุณเริ่มต้นการเล่นหุ้นได้อย่างมั่นใจและมีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้นในเส้นทางการลงทุน
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 12 พ.ค. 2023
การเริ่มต้นเทรดหุ้นอาจดูซับซ้อนสำหรับนักเทรดหุ้นมือใหม่ แต่ด้วยความเข้าใจพื้นฐานและการวางแผนอย่างรอบคอบ จะช่วยให้คุณก้าวเข้าสู่โลกของการลงทุนได้อย่างมั่นใจ บทความนี้จะช่วยแนะนำวิธีเทรดหุ้นแบบละเอียด พร้อมทั้งวิธีการจัดการความเสี่ยง เพื่อให้คุณเริ่มต้นการเล่นหุ้นได้อย่างมั่นใจและมีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้นในเส้นทางการลงทุน
placeholder
เปรียบเทียบค่าธรรมเนียมโบรกเกอร์ โบรกไหนค่าคอมถูกสุด 2568การลงทุนในหุ้น คือการดำเนินกลยุทธทางธุรกิจเพื่อให้ได้ผลกำไรที่งดงามที่สุด หัวใจสำคัญของการทำธุรกิจคือ ลงทุนให้น้อยที่สุด เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่มากที่สุด เช่นเดียวกัน การลงทุนหุ้น แม้ว่าเงินทุนหลักของเราคือการจ่ายค่าซื้อหุ้นเข้ามาเก็บไว้ในพอร์ต แต่ในความเป็นจริงแล้วยังมีรายจ่ายแอบแฝงที่ถือเป็นรายจ่ายที่เกิดขึ้น นั่นคือ ค่าธรรมเนียมการเทรดหุ้น แต่โบรกเกอร์แต่ละแห่ง มีรูปแบบการเก็บค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันไป วันนี้เราจึงได้ทำการเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมโบรกเกอร์ โบรกไหนค่าคอมถูกสุด 2568 เพื่อช่วยสำหรับในการที่จะทำให้รายได้เราเพิ่มพูนขึ้น เรามาเลือกไปพร้อมๆ กันครับ
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 25 พ.ค. 2023
การลงทุนในหุ้น คือการดำเนินกลยุทธทางธุรกิจเพื่อให้ได้ผลกำไรที่งดงามที่สุด หัวใจสำคัญของการทำธุรกิจคือ ลงทุนให้น้อยที่สุด เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่มากที่สุด เช่นเดียวกัน การลงทุนหุ้น แม้ว่าเงินทุนหลักของเราคือการจ่ายค่าซื้อหุ้นเข้ามาเก็บไว้ในพอร์ต แต่ในความเป็นจริงแล้วยังมีรายจ่ายแอบแฝงที่ถือเป็นรายจ่ายที่เกิดขึ้น นั่นคือ ค่าธรรมเนียมการเทรดหุ้น แต่โบรกเกอร์แต่ละแห่ง มีรูปแบบการเก็บค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันไป วันนี้เราจึงได้ทำการเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมโบรกเกอร์ โบรกไหนค่าคอมถูกสุด 2568 เพื่อช่วยสำหรับในการที่จะทำให้รายได้เราเพิ่มพูนขึ้น เรามาเลือกไปพร้อมๆ กันครับ
placeholder
เปิดพอร์ตหุ้นที่ไหนดี? 8 โบรกเกอร์หุ้นที่น่าเปิดพอร์ตหุ้นในปี 2024ใครที่กำลังมองหาโบรกเกอร์หุ้นหรือกำลังเริ่มต้นลงทุนแล้วมองหาที่เปิดพอร์ตหุ้นที่ไหนดี คราวนี้เราจะมาทำความรู้จักวิธีการลงทุนในหุ้นผ่านผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่าง ๆ เพื่อมาประกอบการตัดสินใจว่าจะเลือกโบรกเกอร์หุ้นโบรกเกอร์ไหนดี คราวนี้เราได้รวบรวม 8 โบรกเกอร์หุ้นน่าสนใจปี 2024 มาไว้ให้แล้ว ตามไปดูกัน!
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 24 พ.ค. 2023
ใครที่กำลังมองหาโบรกเกอร์หุ้นหรือกำลังเริ่มต้นลงทุนแล้วมองหาที่เปิดพอร์ตหุ้นที่ไหนดี คราวนี้เราจะมาทำความรู้จักวิธีการลงทุนในหุ้นผ่านผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่าง ๆ เพื่อมาประกอบการตัดสินใจว่าจะเลือกโบรกเกอร์หุ้นโบรกเกอร์ไหนดี คราวนี้เราได้รวบรวม 8 โบรกเกอร์หุ้นน่าสนใจปี 2024 มาไว้ให้แล้ว ตามไปดูกัน!
placeholder
แนะนำ 12 หุ้นน่าลงทุน! หุ้นตัวไหนน่าลงทุนที่สุดในปี 2568ต้อนรับเข้าสู่โลกของโอกาสทางการเงินและการลงทุน ท่ามกลางเทรนด์ พฤติกรรมผู้บริโภคต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น มีทั้งมาใหม่และจบไป สินค้าและบริการต่าง ๆ ต้องปรับตัวเพื่อนำเสนอสิ่งที่เป็นประโยชน์สูงสุดต่อลูกค้า และผู้ถือหุ้น และเมื่อไหร่ที่เราสามารถจับโอกาสและเข้าใจของการเปลี่ยนแปลงนั้น จากคนธรรมดาสามารถแปรเปลี่ยนเป็นนักลงทุนที่สามารถลงทุนในหุ้นของบริษัทที่มีผลประกอบการดี รายได้เติบโตหรือแม้แต่จับกระแสสั้น ๆ เพื่อหาโอกาสเก็งกำไร จึงแนะนำ 12 หุ้นน่าลงทุนในบทความนี้
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 14 ก.ค. 2023
ต้อนรับเข้าสู่โลกของโอกาสทางการเงินและการลงทุน ท่ามกลางเทรนด์ พฤติกรรมผู้บริโภคต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น มีทั้งมาใหม่และจบไป สินค้าและบริการต่าง ๆ ต้องปรับตัวเพื่อนำเสนอสิ่งที่เป็นประโยชน์สูงสุดต่อลูกค้า และผู้ถือหุ้น และเมื่อไหร่ที่เราสามารถจับโอกาสและเข้าใจของการเปลี่ยนแปลงนั้น จากคนธรรมดาสามารถแปรเปลี่ยนเป็นนักลงทุนที่สามารถลงทุนในหุ้นของบริษัทที่มีผลประกอบการดี รายได้เติบโตหรือแม้แต่จับกระแสสั้น ๆ เพื่อหาโอกาสเก็งกำไร จึงแนะนำ 12 หุ้นน่าลงทุนในบทความนี้
placeholder
ตลาดหุ้นเปิดกี่โมง?ก่อนเทรดหุ้นต้องรู้การรู้ว่าตลาดหุ้นเปิดกี่โมงเป็นเรื่องสำคัญและถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักเก็งกำไร สำหรับใครที่อยากรู้แล้วว่าตลาดหุ้นเปิดกี่โมงสำหรับการซื้อขายหุ้นในประเทศไทยก็อย่าได้รอช้า เราเตรียมข้อมูลมาให้แล้ว
ผู้เขียน  MitradeInsights
วันที่ 15 มี.ค. 2023
การรู้ว่าตลาดหุ้นเปิดกี่โมงเป็นเรื่องสำคัญและถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักเก็งกำไร สำหรับใครที่อยากรู้แล้วว่าตลาดหุ้นเปิดกี่โมงสำหรับการซื้อขายหุ้นในประเทศไทยก็อย่าได้รอช้า เราเตรียมข้อมูลมาให้แล้ว
ราคาเสนอแบบเรียลไทม์