TradingKey - นักลงทุนอยู่ภายใต้แรงกดดันอยู่แล้วในสัปดาห์นี้ จากการขาดความโปร่งใสของข้อมูลเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง และความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่ทวีความรุนแรงอีกครั้ง จนเมื่อธนาคารภูมิภาคสองแห่งเปิดเผยข้อกล่าวหาเรื่องการทุจริตสินเชื่อ จึงเหมือนกับการโยนก้อนหินลงในตลาดที่เปราะบางอยู่แล้ว ทำให้เกิดคลื่นแห่งความตื่นตระหนกและความปั่นป่วนครั้งใหญ่
ธนาคาร Zions ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในเมืองซอลต์เลกซิตี้ เปิดเผยว่า ได้ยื่นฟ้องกองทุนการลงทุน Cantor II และ Cantor IV เพื่อเรียกคืนเงินกู้มูลค่ามากกว่า 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ธนาคารระบุว่า กองทุนเหล่านี้ใช้วงเงินสินเชื่อหมุนเวียน (revolving credit lines) ในการซื้อสินเชื่อจำนองเชิงพาณิชย์ที่มีปัญหา (distressed commercial mortgage loans) โดยประมาณ 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อาจไม่สามารถเรียกคืนได้ Zions ได้ยื่นดำเนินคดีทางกฎหมายกับผู้กู้ที่ไม่เปิดเผยชื่อสองราย แต่ย้ำว่าเหตุการณ์นี้เป็น “กรณีโดดๆ” (isolated incident)
เกือบพร้อมกันนั้น Western Alliance ซึ่งตั้งอยู่ในฟีนิกซ์ เปิดเผยว่า ธนาคารก็ได้ให้สินเชื่อกับผู้กู้รายเดียวกันนี้เช่นกัน
ตอบโต้ข้อกล่าวหาจากทั้งสองธนาคาร ทนายความที่เป็นตัวแทนของนายแอนดรูว์ สตูปิน (Andrew Stupin) และเจอรัลด์ มาร์ซิล (Gerald Marcil) จาก Cantor Fund Group คือนายแบรนดอน ทราน (Brandon Tran) ได้ออกแถลงการณ์ปฏิเสธข้อกล่าวหาการประพฤติมิชอบทั้งหมดอย่างหนักแน่น
“ข้อกล่าวหานี้ไม่มีมูล และบิดเบือนข้อเท็จจริง” ทรานกล่าว “เราเชื่อมั่นว่า เมื่อหลักฐานทั้งหมดถูกเปิดเผย ลูกค้าของเราจะได้รับการพิสูจน์ความบริสุทธิ์อย่างเต็มที่”
แม้เหตุการณ์เหล่านี้จะมีขนาดค่อนข้างเล็ก — มูลค่าเพียงหลายสิบล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับเหตุการณ์เครดิตล้มเหลวอื่นๆ ในช่วงหลัง — แต่ปฏิกิริยาของตลาดรุนแรงเกินกว่าเหตุ
หุ้นของ Zions และ Western Alliance ร่วงลง 13% และ 11% ตามลำดับ หลังข่าวเผยแพร่ กลายเป็นเหยื่อโดยตรงจากความตื่นตระหนกของตลาด
ความตื่นตระหนกนี้แพร่กระจายอย่างรวดเร็วไปทั่วทั้งภาคธนาคารภูมิภาค โดยดัชนี S&P Regional Banks Select Industry Index ร่วงลง 6.3% เมื่อวันพฤหัสบดี — ถือเป็นผลการดำเนินงานแย่ที่สุดในวันเดียวนับตั้งแต่เดือนเมษายน แม้แต่สถาบันการเงินขนาดใหญ่ก็ไม่รอดพ้น ดัชนี S&P 500 Financials ร่วงลง 2.8% ในวันพฤหัสบดี ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงรายวันมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน โดยหุ้นการเงินหลักทุกตัวปิดตลาดในแดนลบในวันดังกล่าว
ปฏิกิริยาสุดโต่งของตลาดนี้เกิดจากความกังวลลึกๆ ของนักลงทุนเกี่ยวกับวิกฤติสินเชื่อในวงกว้าง ความกังวลเหล่านี้สะสมมานานจากความไม่แน่นอนของข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดและความตึงเครียดทางการค้าที่ทวีความรุนแรง และเหตุการณ์นี้กลายเป็นชนวนที่จุดระเบิดหัวเชื้อเพลิง
คำเตือนของเจมี ไดมอน (Jamie Dimon) ซีอีโอของ JPMorgan เรื่อง “แมลงสาบ” — ที่ว่า “เมื่อคุณเห็นแมลงสาบตัวหนึ่ง นั่นหมายความว่าน่าจะมีอีกหลายตัว” — ดูเหมือนจะแม่นยำเป็นพิเศษในเวลานี้
“จนถึงตอนนี้ ดูเหมือนจะเป็นกรณีโดดๆ แต่เมื่อคุณมีกรณีโดดๆ มากพอ คนก็เริ่มมองหาอีก” นายไมค์ เมโย (Mike Mayo) กรรมการผู้จัดการของ Wells Fargo กล่าว “ในช่วงที่ตลาดสินเชื่อคึกคักแบบนี้ คุณไม่มีพื้นที่ให้ผิดพลาดมากนัก — ช่วงเวลาที่ดีมากๆ นี่แหละที่มักก่อให้เกิดสินเชื่อเสีย และผมคิดว่าวันนี้ ความระมัดระวังชนะเหนือความหวัง”
ผลรวมของ “เหตุการณ์โดดๆ” เหล่านี้เพิ่มความเสี่ยงรังเกียจ (risk aversion) ของนักลงทุนอย่างรวดเร็ว ทำให้แนวคิด “ขายก่อน ถามทีหลัง” แพร่กระจายอย่างรวดเร็วในหมู่ผู้เข้าร่วมตลาด ส่งผลให้เกิดแรงเทขายมหาศาล
นักวิเคราะห์ของ JPMorgan ชี้ว่า ภาคธนาคารเป็นภาคส่วนที่นักลงทุนมีแนวโน้ม “ขายก่อน ถามทีหลัง” โดยธรรมชาติ เมื่อสัญญาณเชิงลบปรากฏขึ้น การเสื่อมถอยอย่างรวดเร็วของความเชื่อมั่นตลาดและการเทขายแบบรวมหมู่ที่ไร้เหตุผล กลายเป็นปัญหาที่น่ากังวลมากกว่าความเสี่ยงที่แท้จริงต่อฐานะการเงินของธนาคาร
สำหรับนักลงทุนจำนวนมาก ความทรงจำอันเจ็บปวดจากการล้มละลายของธนาคารภูมิภาค เช่น Silicon Valley Bank ในปี 2023 ยังคงสดใหม่ และความปั่นป่วนของตลาดรวมถึงผลกระทบต่อเสถียรภาพของระบบการเงินจากวิกฤตินั้น ยังไม่ได้หายไปอย่างสมบูรณ์
สตีฟ โซสนิก (Steve Sosnick) นักกลยุทธ์หลักของ Interactive Brokers ชี้ว่า ความทรงจำฝังลึกจากบทเรียนในอดีตนี้ อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่อยู่เบื้องหลังปฏิกิริยาตื่นตระหนกอย่างรุนแรงของนักลงทุน และการร่วงลงอย่างมากของตลาดหุ้นในวันพฤหัสบดี
เนื้อหานี้แปลโดย AI ซึ่งอาจมีข้อผิดพลาดจากข้อจำกัดทางเทคโนโลยีและภาษา จึงไม่สามารถรับประกันความถูกต้อง และความสมบูรณ์ของเนื้อหาได้ทั้งหมด ในการนำข้อมูลไปใช้ โปรดอ้างอิงจากต้นฉบับ และใช้วิจารณญาณประกอบการตัดสินใจ ทั้งนี้ บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายหรือความเข้าใจผิดใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการใช้เนื้อหาดังกล่าว
ลิงก์บทความต้นฉบับ