TradingKey - Baidu ผู้ให้บริการเสิร์ชเอนจินรายใหญ่ของจีนและผู้พัฒนาแชตบอต Ernie Bot รายงานว่ารายได้ในไตรมาสที่สองปี 2025 ลดลง 4% อยู่ที่ระดับ 32,700 ล้านหยวน (ประมาณ 4,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) นับเป็นการหดตัวที่รุนแรงที่สุดในรอบสามปี ซึ่งสะท้อนถึงผลกระทบจากเศรษฐกิจจีนที่ซบเซาและการแข่งขันที่เพิ่มมากขึ้นในตลาด AI และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย
อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิของบริษัทกลับโตสวนทาง โดยพุ่งขึ้นถึง 33% เมื่อเทียบกับปีก่อน และสูงกว่าคาดการณ์ เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากการลงทุนระยะยาว ฟังก์ชั่นหลักของธุรกิจค้นหา (search) ของ Baidu ถูกแย่งส่วนแบ่งโดยแพลตฟอร์มวิดีโอสั้น เช่น เสี่ยวหงสู่ (Xiaohongshu) และ โต่วอิน (Douyin) ซึ่งส่งผลให้รายได้โฆษณาออนไลน์ลดลงถึง 15%. ขณะที่ธุรกิจอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับด้านการตลาดกลับเติบโตอย่างน่าสนใจถึง34%.
เฮนรี เหอ (Henry He) ประธานเจ้าหน้าที่การเงินของบริษัท กล่าวว่า แม้ว่าอัตรากำไรจะถูกกดดันในระยะสั้น โดยเฉพาะในไตรมาสที่สามเพราะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่คาดว่าอัตรากำไรจะฟื้นตัวเมื่อธุรกิจโฆษณาหลักกลับมาเสถียร ในปัจจุบัน Baidu กำลังเร่งสร้างระบบนิเวศ AI ผ่าน Ernie เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจคลาวด์ พร้อมเร่งขยายบริการแท็กซี่ไร้คนขับ Apollo Go สู่ตลาดต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์และมาเลเซียภายในปีนี้ หลังจากเปิดให้บริการแล้วในกรุงปักกิ่ง นครกว่างโจว และนครอู่ฮั่น โดยมีเที่ยวบินรวมกันมากกว่า2.2ล้านเที่ยว
แน่นอนว่าจะต้องมีความท้าทายในการแข่งขัน เพราะ Baidu ต้องเผชิญหน้ากับยักษ์ใหญ่อินเทอร์เน็ตอย่าง Alibaba และ Tencent ที่มีศักยภาพทางการเงินเหนือกว่า รวมไปถึงการแข่งขันจากรุ่นใหม่ อย่างByteDance นอกจากนี้ ยังต้องปรับเปลี่ยนโมเดลสมัครสมาชิกแบบเสียเงิน เพื่อที่จะนำเสนอErnieเป็นโอเพ่นซอร์สในการแข่งขัน
โรบิน หลี่ (Robin Li) ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท ได้กล่าวรับทราบว่าการสร้างรายได้จาก AI ยังไม่มา ณ จุดที่จะสามารถทำเงินได้อย่างกว้างขวาง รวมทั้งยังต้องใช้เวลาในการปรับปรุงประสิทธิภาพในการส่งผ่านด้าน AI ซึ่งยังอยู่ระยะเริ่มต้น มีช่องว่างเกิดขึ้นอีกมากที่ต้องพัฒนาภายในองค์กร ขณะเดียวกัน iQIYI แพลตฟอร์มสตรีมมิ้งอยู่ภายใต้พันธกิจเดียวกันยังมีรายงานเรื่องรายได้รับลดลง11% พร้อมทั้งจะแนะนำมาตรการระดมทุนจำนวน300ล้านเหรียญเพื่อนำไปเข้าตลาดหุ้นฮ่องกงภายในปีนี้
หุ้นของ Baidu ปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ6% จากต้นปีที่ผ่านมา แม้ว่ายังต่ำหากเปรียบเทียบกับคู่แข่งหลักอย่าง Alibaba หรือ Tencent ซึ่งสะท้อนถึงแรง压力ทางเศรษฐกิจและการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้น ในสนามตลาด AI ที่เข้มข้นมากยิ่งขึ้