ข่าวคริปโต|ข่าวคริปโตวันนี้|สรุปข่าวคริปโตประจำวัน: แบงก์สหรัฐฯ เตรียมใช้ Lightning ด้าน Polkadot กับ Tron ก็เคลื่อนไหวครั้งใหญ่ ท่ามกลางรายใหญ่เข้าช้อน Ethereum

ไฮไลท์ของข่าวคริปโตวันนี้

• พลิกวงการโอนเงิน! แบงก์สหรัฐฯ ใช้ Bitcoin Lightning ส่งเงินข้ามโลก ค่าธรรมเนียมถูกเว่อร์

• Polkadot เปิดแผนกใหม่ ล่าสถาบันการเงินเข้าวงการเต็มตัว

• ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง! MetaMask เปิดบ้านต้อนรับ Tron เข้าสู่ Wallet

• ของจริงไม่พูดเยอะ! SharpLink ทุ่ม 667 ล้านเหรียญ ช้อนซื้อ Ethereum แบบไม่สนดอย!

พลิกวงการโอนเงิน! แบงก์สหรัฐฯ ใช้ Bitcoin Lightning ส่งเงินข้ามโลก ค่าธรรมเนียมถูกเว่อร์

SoFi Technologies กำลังจะกลายเป็นธนาคารแห่งแรกในอเมริกาที่นำระบบ Bitcoin Lightning Network มาใช้จริงจัง สำหรับการโอนเงินข้ามประเทศ โดยจับมือกับ Lightspark บริษัทโครงสร้างพื้นฐานของ Bitcoin ที่ก่อตั้งโดย David Marcus อดีตประธาน PayPal

บริการนี้จะเริ่มที่เม็กซิโกก่อนภายในปีนี้ โดยสมาชิก SoFi ทั้ง 11.7 ล้านคน จะสามารถส่งเงินจากอเมริกาเป็นดอลลาร์ ผ่านเน็ตเวิร์คของ Bitcoin แล้วไปแลกเป็นเงินสกุลท้องถิ่นที่ปลายทางได้แบบเรียลไทม์ ตลอด 24 ชั่วโมง

Anthony Noto ซีอีโอของ SoFi บอกว่านี่ไม่ใช่แค่ความสะดวกสบาย แต่มันคือการยกระดับเพราะค่าธรรมเนียมจะถูกกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศ และโปร่งใสสุดๆ งานนี้ตลาดโอนเงินระดับโลกมีสะเทือนแน่นอน

ที่มา: Lightspark

บทวิเคราะห์: นี่เป็นการพิสูจน์ว่า Bitcoin ไม่ใช่แค่สินทรัพย์เก็งกำไรอีกต่อไป แต่เป็นเครื่องมือทางการเงินที่มีประสิทธิภาพจริงในการแก้ปัญหาโลกแห่งความจริง (Real-world use case) การที่ธนาคารระดับนี้ลงมาเล่นเอง ทำให้ภาพลักษณ์ของ Bitcoin ดูดีขึ้นอีกหลายเท่าตัว และอาจเป็นจุดเริ่มต้นให้ธนาคารอื่นๆ ต้องหันมามองเทคโนโลยีนี้อย่างจริงจัง

Polkadot เปิดแผนกใหม่ ล่าสถาบันการเงินเข้าวงการเต็มตัว

เมื่อเงินก้อนใหญ่กำลังจะมา Polkadot ก็ไม่รอช้า ประกาศเปิดตัว Polkadot Capital Group แผนกใหม่แกะกล่องที่ตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นสะพานเชื่อมระหว่างโลกการเงินแบบดั้งเดิม (TradFi) กับระบบนิเวศของ Polkadot โดยเฉพาะ เป้าหมายชัดเจนคือการดึงดูดผู้เล่นระดับสถาบัน ทั้งบริษัทจัดการสินทรัพย์, ธนาคาร, VC ไปจนถึงโบรกเกอร์ ให้เข้ามาใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีบล็อกเชนของตัวเอง

โดยจะเน้นโชว์เคสการใช้งานจริงในด้าน DeFi, Staking และที่กำลังมาแรงสุดๆ อย่างการแปลงสินทรัพย์ในโลกจริงให้เป็นโทเคน (Real-World Asset Tokenization หรือ RWA) ซึ่งตลาดนี้มีมูลค่าสูงถึง 26.4 พันล้านดอลลาร์แล้ว การเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่กฎระเบียบในสหรัฐฯ เริ่มชัดเจนขึ้นด้วย ยิ่งทำให้สถาบันการเงินกล้าที่จะขยับตัวเข้ามาในตลาดคริปโตมากขึ้น

 ที่มา: RWA.xyz

บทวิเคราะห์: Polkadot กำลังเดินเกมถูกทาง การตั้งทีมที่พูดภาษาเดียวกับสถาบันการเงิน จะสร้างความเชื่อมั่นและทำให้การเข้ามาลงทุนในระบบนิเวศเป็นไปได้ง่ายขึ้น นี่คือสัญญาณว่าคริปโตกำลังโตจากสนามเด็กเล่นไปสู่ลีกผู้ใหญ่เต็มตัว

ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง! MetaMask เปิดบ้านต้อนรับ Tron เข้าสู่ Wallet

ในที่สุดเครือข่าย Tron ก็ได้ถูกผนวกรวมเข้ากับ MetaMask กระเป๋าเงินคริปโตที่ฮิตที่สุดในโลกอย่างเป็นทางการแล้ว ทำให้ Tron กลายเป็นหนึ่งในไม่กี่เชนที่ไม่ใช่เครือข่ายบน Ethereum ที่ได้รับการซัพพอร์ตโดยตรง เรื่องนี้ถือว่ารอมานาน เพราะ Tron เป็นบล็อกเชน Top 10 มาตลอด ทาง MetaMask ให้เหตุผลว่าการจะเพิ่มเชนใหม่เข้ามา ต้องผ่านการประเมินที่เข้มข้นทั้งด้านความปลอดภัย, เทคนิค และประสบการณ์ผู้ใช้ ซึ่ง Tron ผ่านเกณฑ์ทั้งหมดในเวลานี้พอดี

การจับมือครั้งนี้จะช่วยให้ผู้ใช้ MetaMask หลายสิบล้านคนเข้าถึงแอปพลิเคชันบนเครือข่าย Tron ได้ง่ายขึ้นมาก และยังเป็นจังหวะที่ดี หลังจากที่ Tron เริ่มเข้าไปมีบทบาทในแวดวงการเมืองสหรัฐฯ ผ่าน Justin Sun ผู้ก่อตั้งอีกด้วย

 ที่มา: tradingview

บทวิเคราะห์: การเคลื่อนไหวนี้แสดงให้เห็นเทรนด์ของวงการที่กำลังมุ่งสู่การทำงานร่วมกันของเชนต่างๆ มากขึ้น ในอนาคตผู้ใช้อาจไม่จำเป็นต้องสนใจด้วยซ้ำว่าแอปที่ใช้รันอยู่บนเชนไหน ขอแค่ใช้งานง่ายและปลอดภัยก็พอ

ของจริงไม่พูดเยอะ! SharpLink ทุ่ม 667 ล้านเหรียญ ช้อนซื้อ Ethereum แบบไม่สนดอย!

SharpLink Gaming แพลตฟอร์มพนันกีฬา สร้างความฮือฮาด้วยการเข้าซื้อเหรียญ ETH เพิ่มอีก 143,593 ETH คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 667.4 ล้านดอลลาร์ โดยเป็นการซื้อที่ราคาเฉลี่ย $4,648 ต่อ ETH ซึ่งเป็นช่วงที่ราคาสูงเกือบทำลายสถิติใหม่เลยทีเดียว

การซื้อครั้งนี้ทำให้ตอนนี้ SharpLink ถือครอง ETH รวมทั้งหมด 740,760 ETH หรือราว 3.2 พันล้านดอลลาร์ และที่เด็ดกว่านั้นคือ พวกเขาเอา ETH เกือบทั้งหมด ไปทำ Staking เพื่อรับผลตอบแทนอีกด้วย!

แต่ยังไม่จบ คู่แข่งอย่าง BitMine ก็ประกาศซื้อเพิ่ม 373,000 ETH ทำให้ยอดรวมของพวกเขากลายเป็น 1.52 ล้าน ETH (ประมาณ 6.6 พันล้านดอลลาร์) แซงขึ้นเป็นบริษัทที่ถือคริปโตมากเป็นอันดับ 2 ของโลก เป็นรองแค่ Strategy ของ Michael Saylor เท่านั้น

 ที่มา: SharpLink

บทวิเคราะห์: การที่บริษัทใหญ่ๆ กล้าทุ่มเงินมหาศาลซื้อ ETH ที่ราคาสูงปรี๊ด แถมยังเอาไป Staking ต่อ แสดงว่าพวกเขามอง ETH เป็นสินทรัพย์คลัง (Treasury Asset) ที่มีอนาคตไกล และเชื่อมั่นในระบบ Proof-of-Stake อย่างมาก นี่คือการส่งสัญญาณความเชื่อมั่นที่ทรงพลังสุดๆ ไปยังตลาด

ดัชนี Fear and Greed Index:44

Source: https://alternative.me/crypto/