วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 19 ส.ค. 2568

กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้

เทรดทองเดี๋ยวนี้ >     

*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣ 

*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰 

*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁

ราคาทองคำ XAUUSD วันนี้เปิดตลาดมาด้วยความเคลื่อนไหวที่ค่อนข้างทรงตัว โดยขยับขึ้นลงในกรอบแคบๆ สลับบวกลบเล็กน้อย นักลงทุนทั่วโลกต่างอยู่ในภาวะ “รอดู” เพื่อรอคอยสัญญาณสำคัญที่จะชี้ชะตาทิศทางตลาดในช่วงปลายสัปดาห์นี้ บรรยากาศการซื้อขายจึงเปรียบเสมือนความสงบก่อนพายุลูกใหญ่จะมาถึง โดยราคาทองคำเคลื่อนไหวล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 3,333 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ขณะที่แนวรับสำคัญที่พิสูจน์ความแข็งแกร่งมาตลอด 4 เดือนยังคงอยู่ที่ระดับ 3,300 ดอลลาร์สหรัฐ

จับตา Jackson Hole ทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ ชี้ชะตาราคาทอง

ทุกสายตาในแวดวงการเงินกำลังจับจ้องไปที่การประชุมสัมมนานโยบายเศรษฐกิจประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “Jackson Hole Symposium” ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันพฤหัสบดีนี้ ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่สุนทรพจน์ของ Jerome Powell ประธานเฟด ซึ่งคาดกันว่าอาจมีการเปิดเผยกรอบนโยบายใหม่ของเฟด และที่สำคัญที่สุดคือการส่งสัญญาณที่ชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้

สถานการณ์ปัจจุบันเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน เนื่องจากท่าทีของคณะกรรมการเฟดเองยังคงเสียงแตก ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจก็ออกมาในทิศทางที่ขัดแย้งกัน ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนกรกฎาคมล่าสุดยังคงยืนสูงอยู่ที่ 2.7% และเงินเฟ้อพื้นฐานพุ่งไปถึง 3.1% ซึ่งสูงกว่าเป้าหมาย 2% ของเฟดอย่างชัดเจน

ตามหลักการแล้ว ตัวเลขเงินเฟ้อระดับนี้ไม่เอื้อต่อการลดดอกเบี้ย แต่ในอีกด้านหนึ่งก็มีแรงกดดันทางการเมืองจากฝั่งรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ต้องการเห็นการลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ตลาดซื้อขายล่วงหน้าเองก็ได้สะท้อนความคาดหวังของนักลงทุนไปแล้ว โดยให้น้ำหนักสูงถึง 96% ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนกันยายนนี้

ดังนั้น คำพูดของ Powell ที่ Jackson Hole จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะจะเป็นตัวกำหนดทิศทางราคาทองคำในระยะสั้นว่าจะทะยานขึ้นต่อหรือจะถูกแรงกดดันให้ย่อตัวลง

ธนาคารกลางชะลอซื้อ แต่ทำไมตลาดยังน่าจะเป็นแนวโน้มกระทิง?

ข้อมูลที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่ง คือแรงซื้อทองคำจากกลุ่มธนาคารกลางทั่วโลกเริ่มมีสัญญาณแผ่วลง หลังจากที่เข้าซื้ออย่างหนักหน่วงติดต่อกันมานานกว่า 2 ปี โดยข้อมูลจากสภาทองคำโลก (World Gold Council) ระบุว่าปริมาณการซื้อทองคำของธนาคารกลางในไตรมาสที่ 2 ของปี 2025 ถือว่าต่ำที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ของปี 2022 และยอดซื้อสะสมในช่วงครึ่งแรกของปี 2025 ก็ลดลงถึง 21% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า แม้แต่ธนาคารกลางจีนที่ซื้อต่อเนื่องมาตลอดก็เริ่มลดปริมาณการซื้อลง

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์จากสถาบันชั้นนำอย่าง BCA Research โดย Roukaya Ibrahim หัวหน้านักยุทธศาสตร์ กลับมองว่านี่ไม่ใช่สัญญาณอันตราย แต่เป็นเครื่องยืนยันว่าตลาดกระทิงของทองคำในรอบนี้เป็น “ตลาดกระทิงเชิงโครงสร้าง” ไม่ใช่แค่ “วัฏจักรระยะสั้น”

เหตุผลคือราคาทองคำสามารถยืนหยัดเหนือแนวรับสำคัญที่ $3,300 ดอลลาร์สหรัฐได้อย่างแข็งแกร่งท่ามกลางปัจจัยลบมากมาย ไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้นที่ทำสถิติสูงสุดใหม่ตลอดกาล หรืออัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่อยู่ในระดับสูง การที่ทองคำไม่ปรับตัวลงแรงสะท้อนให้เห็นว่ามีแรงซื้อ หรือนักลงทุนระยะยาวที่เชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐาน คอยเข้าช้อนซื้อทุกครั้งที่ราคาย่อตัวลง ซึ่งแรงซื้อเหล่านี้มาจากความต้องการลงทุนที่แท้จริง ไม่ใช่แค่การเก็งกำไร

ปัจจัยหนุนที่รอวันระเบิด เมื่อกำแพงดอลลาร์และดอกเบี้ยพังทลาย

ภาพในระยะกลางถึงยาวสำหรับราคาทองคำยังคงสดใสอย่างยิ่ง นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองตรงกัน ว่าปัจจัยที่เคยกดดันราคาทองคำมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงที่อยู่ในระดับสูงและค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งแกร่ง กำลังจะแปรเปลี่ยนจาก “ลมต้าน” มาเป็น “ลมส่ง” ในไม่ช้า จุดเปลี่ยนสำคัญก็คือการเริ่มต้นวัฏจักรการลดดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนกันยายนนี้

นอกจากนี้ BCA Research ยังคาดการณ์ว่าเงินดอลลาร์มีแนวโน้มจะอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องจากปัจจัยเชิงโครงสร้างอื่นๆ เช่น ปัญหาการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของสหรัฐฯ ขณะเดียวกัน ในภาวะที่เศรษฐกิจโลกส่งสัญญาณชะลอตัว ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจะยิ่งทวีความน่าสนใจและมีโอกาสที่จะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าตลาดหุ้นทั่วโลกอีกด้วย

สำหรับนักลงทุนที่มองการณ์ไกลและยอมรับความเสี่ยงได้สูงขึ้น Roukaya Ibrahim ได้ให้มุมมองที่น่าสนใจว่า “หุ้นเหมืองทองคำ” อาจเป็นโอกาสการลงทุนที่ซ่อนอยู่ เนื่องจากที่ผ่านมาแม้ราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรง แต่ราคาหุ้นของบริษัทเหมืองทองคำกลับยังปรับตัวขึ้นไม่ทันกัน ทำให้มูลค่า (Valuation) ของหุ้นกลุ่มนี้ยังอยู่ในระดับที่ต่ำเมื่อเทียบกับกำไรและกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง ซึ่งหากวัฏจักรขาขึ้นของทองคำยังดำเนินต่อไป หุ้นเหมืองทองคำก็มีโอกาสที่จะให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าการลงทุนในทองคำโดยตรงอย่างมีนัยสำคัญ

เมื่อวานที่เราได้ประเมินว่าราคาทองคำมีโอกาสสูงที่จะเกิด Technical Rebound ซึ่งตลาดก็ได้เคลื่อนไหวตามที่คาดการณ์ไว้ โดยมีแรงซื้อพยุงราคาขึ้นจากโซนแนวรับ $3,325 ได้สำเร็จ

แต่การดีดตัวที่เกิดขึ้นนั้นก็ผลักดันให้ราคาสามารถขยับขึ้นไปได้เพียงแค่บริเวณ $3,350 ก่อนจะถูกแรงเทขายกดดันอย่างหนักจนไม่สามารถผ่านแนวต้านสำคัญซึ่งเป็นโซนกลุ่มเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (EMA) ไปได้

สัญญาณจากอินดิเคเตอร์ต่างๆ ก็ยืนยันภาพของแรงขายที่กลับมามีอำนาจอีกครั้งอย่างชัดเจน ดัชนี RSI ที่เคยมีความหวังว่าจะดีดตัวกลับขึ้นไป ก็ทำได้เพียงขยับขึ้นเล็กน้อยก่อนจะหักหัวลงและยังคงเคลื่อนไหวอยู่ใต้ระดับ 50 สะท้อนว่าโมเมนตัมโดยรวมยังคงเป็นของฝั่งขาย

แต่สัญญาณที่ชัดเจนที่สุดมาจาก Stochastic RSI ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ให้สัญญาณซื้อจากการตัดกันขึ้นในเขต Oversold และผลักดันให้ราคาดีดตัวขึ้นมารอบหนึ่ง แต่ล่าสุด สัญญาณดังกล่าวได้สิ้นสุดลงแล้ว โดยเส้น %K ได้ตัดเส้น %D ลงมาในโซนกลางถึงโซนบน ซึ่งถือเป็นสัญญาณขายในระยะสั้น บ่งชี้ว่าพลังในการดีดตัวได้หมดลงแล้ว และตลาดพร้อมที่จะเคลื่อนตัวลงต่อตามทิศทางเดิม

สำหรับแนวโน้มในอีก 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาพรวมทางเทคนิคได้เปลี่ยนไปอย่างมีนัยสำคัญ ความล้มเหลวในการทะลุผ่านแนวต้าน $3,350 ดอลลาร์ ได้เปลี่ยนมุมมองจากการลุ้นดีดตัวกลับเป็นการให้น้ำหนักกับการปรับตัวลงเพื่อทดสอบแนวรับสำคัญอีกครั้ง

เป้าหมายแรกของฝั่งหมีคือการผลักดันราคาทองคำให้กลับลงไปทดสอบแนวรับเดิมที่ $3,325 ซึ่งการลงไปทดสอบในรอบนี้อาจมีความเสี่ยงที่จะถูกทำลายสูงกว่าครั้งก่อน และหากแนวรับนี้ต้านทานไม่อยู่ ประตูสู่แนวรับถัดไปที่บริเวณ $3,310 ก็จะเปิดออกทันที

ในทางกลับกัน หากฝั่งกระทิงต้องการพลิกสถานการณ์กลับมาเป็นต่อ ต้องรวบรวมกำลังซื้อให้มากกว่าเดิมและผลักดันราคาให้ทะลุผ่านแนวต้าน $3,350 ดอลลาร์ขึ้นไปยืนให้ได้สถานเดียว ไม่อย่างนั้นแล้ว การดีดตัวขึ้นในระยะสั้นจะยังคงถูกมองว่าเป็นเพียงโอกาสในการเปิดสถานะขายเท่านั้น

แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $3,325

• $3,310

• $3,293

แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $3,338

• $3,350

• $3,372