Nvidia หุ้น ：Nvidia กับโอกาสที่เติบโตต่อไปอีกในอนาคต

ถ้าพูดว่า “NVIDIA” เกมเมอร์หรือสายคอมพิวเตอร์กราฟฟิคอาจจะงงๆ แต่ถ้าเอ่ยถึง จีฟอร์ซในตำนาน GeForce ผลิตภัณฑ์ประมวลผลทางด้านกราฟิกสำหรับการประมวลกราฟิกเกม ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำให้อินวิเดียเป็นที่ยอมรับ รับรองว่าหลายๆคนต้องรู้จักอย่างดีแน่นอน ในอนาคตทิศทางของ NVIDIA หรือถ้าในตลาดหุ้นตัวย่อว่า NVDA จะเติบโตได้อีกแค่ไหน ในอนาคต เรามารู้จัก NVIDIA ให้มากขึ้นและเหตุผลที่เราควรต้องจับตามองหนึ่งในหุ้นแรงแห่งปีตัวนี้

อินวิเดีย (NVIDIA Corporation) เป็นบริษัทสัญชาติสหรัฐฯ ที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่รู้จักของบริษัทนี้คือ "หน่วยประมวลผลทางด้านกราฟิก (GPUs)" สำหรับคอมพิวเตอร์  เป็นบริษัทที่มีธุรกิจหลากหลายในด้านเทคโนโลยีและคอมพิวเตอร์ ธุรกิจหลักของ NVIDIA เน้นไปที่การออกแบบและผลิตหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) ที่ใช้ในการประมวลผลกราฟิก การ์ดจอ และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องธุรกิจ เช่น

• กราฟิกการ์ด (Graphics Cards) NVIDIA เป็นผู้ผลิตสำคัญของกราฟิกการ์ดที่ใช้ในเกมคอมพิวเตอร์และการประมวลผลกราฟิกในงานอื่น ๆ พวกเขามีรุ่นและเทคโนโลยีที่หลากหลาย เช่น GeForce สำหรับผู้ใช้ทั่วไปและ Quadro และ RTX สำหรับงานด้านกราฟิกเชิงลึก (Deep Learning) และการประมวลผลทางวิทยาศาสตร์.

  
  

• เทคโนโลยี AI และ Deep Learning  NVIDIA เป็นผู้บุกเบิกในการพัฒนาเทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผล AI และ Deep Learning พวกเขาได้เริ่มทำ GPU แบบพิเศษสำหรับการประมวลผล Deep Learning ที่ชื่อว่า NVIDIA Tesla และกลายเป็นที่เชื่อถือสำหรับการศึกษาและการวิจัยในด้านนี้.

  
  

• เทคโนโลยีเกมและการเทรนนิ่ง : ผลิตภัณฑ์ NVIDIA ในกลุ่ม RTX มาพร้อมกับเทคโนโลยีการ์ดจอที่รองรับการระดับสีไดนามิก (Ray Tracing) และ AI ที่มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มความสวยงามและความสมจริงในเกมคอมพิวเตอร์ 

  
  

• เซิร์ฟเวอร์และคลาวด์ NVIDIA ได้พัฒนาเทคโนโลยี GPU ที่เหมาะสำหรับการใช้งานในเซิร์ฟเวอร์และสภาวะคลาวด์ อันนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผลและการทำงานที่ใช้ความสามารถในการคำนวณมาก

หุ้น NVIDIA อยู่ในช่วงการเติบโตในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการแพร่ระบาดของโควิดในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังคงเป็นหนึ่งในหุ้นที่สามารถจ่ายเงินปันผลให้กับนักลงทุนได้อย่างต่อเนื่องมา พร้อมๆกับราคาหุ้นที่ได้ Capital Gain หรือส่วนต่างราคาหุ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือมาตั้งแต่ต้นปี2020 เป็นต้นมา 

การจ่ายเงินปันผลครั้งต่อไปยังไม่มีการประกาศแต่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าอาจเพิ่มขึ้นในอนาคต

แน่นอนว่าเทคโนโลยีหรือสินค้า NVIDIA จะทำยากแต่ก็ไม่ใช่จะไม่มีคู่แข่งเลย แต่ที่ต้องตกใจมากกว่า นั้นคู่แข่งที่แท้จริงคือลูกค้าของ NVIDIA นั่นเอง เพราะลูกค้าของ NVIDIA คือบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Google, Microsoft, Tesla ซึ่งให้ความสำคัญกับเรื่อง AI หรือปัญญาประดิษฐ์อย่างมาก การจะซื้อซิบใช้จาก NVIDIA ก็คงไม่ได้แตกต่าง และไม่ได้มีข้อได้เปรียบเหนือบริษัทอื่นๆซักเท่าไหร่ ดังนั้นจึงลูกค้าของ NVIDIA หลายรายจึงเริ่มพัฒนาซิบของตนเองขึ้นมา

• Google - ชิบที่ Google พัฒนาคือ Tensor Processing Unit หรือเรียกว่า TPU ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นในปี 2016 TPU เป็น ASICs ประเภทหนึ่งที่ถูกพัฒนาขึ้นสำหรับงาน Neural Network Machine Learning โดยเฉพาะ เพื่อใช้กับ Software Tensorflow ของ Google ข้อดีคือมันทำงานได้เร็วกว่า GPU ปกติเยอะมาก (ที่ไม่ได้ Optimize สำหรับ Cloud) ข้อเสียคือมันเอาไว้ใช้กับ Software Tensorflow ของ Google เท่านั้น 

  
  

• Microsoft - ซิบที่ Microsoft ไม่ได้คิดค้น แต่เป็นคนริเริ่มใช้บน Azure คือ FPGA (Field-Programmable Gate Arrays) FPGA คือ ซิบที่ใช้ใน Project Deep Learning ที่ต้องการ Low Latency และ Reprogram ได้ ต่างกับ ASICs ที่ Reprogram ไม่ได้ Performance ดีกว่า GPU ในอดีต 

  
  

• Tesla - เมื่อก่อนใช้ ซิบเซ็ตของ Nvidia แต่ก็เปลี่ยนไปออกแบบซิบ ของตนเอง เพราะต้องการให้ซิบที่ได้ Optimize เพื่องาน Autonomous Vehicle และสำหรับรถ Tesla โดยเฉพาะ ตัวล่าสุดจะผลิตโดย Samsung ซึ่ง Elon Musk บอกว่าเป็นระบบที่ดีที่สุดในโลก โดยมีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 72 TOPS (Chip 2 ตัว)

  
  

• AMD - เป็นคู่แข่งที่สำคัญของ NVIDIA ในตลาดกราฟิกการ์ดและหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) และมีสถาปัตยกรรมในการผลิตการ์ดจอที่แข็งแกร่ง รวมถึงเทคโนโลยีขั้นสูงเช่นการระดับสีไดนามิก (Ray Tracing) และการ์ดจอที่รองรับการประมวลผลของเทคโนโลยีเทียบเท่า (Parallel Computing) เช่นระบบ AMD Radeon

  
  

• Intel - เป็นบริษัทชั้นนำในด้านหน่วยประมวลผลและเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ พวกเขากำลังพยายามเข้าสู่ตลาดกราฟิกการ์ดและผลิต GPU ด้วยเทคโนโลยี Intel Xe ซึ่งเป็นการสร้างแพลตฟอร์มที่มีความหลากหลายทั้งในด้านผู้ใช้และใช้งานต่าง ๆ

NVIDIA ได้รายงานผลประกอบการช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนเมษายน 2023 ที่ผ่านมา

โดยมีรายได้และกำไรลดลง แต่นักลงทุนต่างพากันเข้าซื้อหุ้น ในช่วง After-hours หรือหลังตลาดปิด จน +24% ดันมูลค่าบริษัท สูงถึง 32,000,000 ล้านบาท เป็นมูลค่าสูงสุด ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา โดยมีมูลค่าเป็นรองเพียง Apple, Microsoft, Saudi Aramco, Alphabet และ Amazon โดยปัจจุบัน NVIDIA เป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุด อันดับที่ 6 บนโลกนี้ ใหญ่กว่าทั้ง Berkshire Hathaway, Meta, Tesla และ TSMC 

แต่หากเรามาดูโครงสร้างรายได้ล่าสุดของบริษัท 60% มาจากธุรกิจ Data Center  32% มาจากธุรกิจเกม 4% มาจากธุรกิจแพลตฟอร์มสำหรับ Metaverse และ  4% มาจากธุรกิจชิปประมวลผลสำหรับรถยนต์ จากโครงสร้างรายได้ จะเห็นได้ว่าธุรกิจ Data Center กลายมาเป็นธุรกิจใหญ่สุดของ Nvidia ในปัจจุบันเป็นที่เรียบร้อย ก็เรียกได้ว่าเป็นไฮไลต์สำคัญสำหรับผลประกอบการไตรมาสนี้ด้วย โดยหากเรามาดูเฉพาะธุรกิจกลุ่ม Data Center จะมีรายได้ 149,000 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโต 14% เมื่อเทียบกับปีก่อน สวนทางกับรายได้ธุรกิจดั้งเดิมอย่างการ์ดจอเกม ที่มีรายได้ลดลง 38% ในช่วงเวลาเดียวกัน

นักวิเคราะห์ชั้นนำทั้ง 50 รายที่ให้การคาดการณ์ราคาหุ้น NVIDIA ในช่วง 12 เดือน มีแนะนำซื้อการซื้อ 43 ราย แนะนำถือ 6 ราย และแนะนำการขาย 1 ราย โดย NVIDIA ราคาหุ้นมีราคาเป้าหมายสูงสุดในอีก 12 เดือนข้างหน้าที่ราคา $ 513 และมีเป้าหมายราคาต่ำสุดที่ราคา $370

โดยนัยยะว่าราคาหุ้นปัจจุบัน $452 (ณ วันที่ 7 สิงหาคม 2023) ยังซื้อขายต่ำกว่าเป้าหมายราคาเฉลี่ยของการการคาดการณ์ แต่ที่น่าสนใจคือในช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายน 2023 เป็นต้นมาราคาของหุ้นได้พุ่งขึ้นมาซึ่งเป็นตัวเลขที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในเวลาเพียง 2- เดือน คือจาก$250 ไปกว่า$440 หรือเพิ่มขึ้น 76% เนื่องจากความร้อนแรงในกลุ่มอุตสาหกรรม AI ทำให้นักวิเคราะห์ต้องปรับคาดการณ์การจัดอันดับอย่างรวดเร็ว

ส่วนการคาดการณ์ราคาหุ้น Nvidia ในอีก 5 ปีข้างหน้าหรือแนวโน้มหุ้น Nvidia ที่จะสามารถซื้อขายได้ที่ไหนในปี 2025 และ 2030 เพื่อการวางแผนระยะยาวจะเป็นอย่างไรนั้น ซึ่งธีม ก็ได้กลายมาเป็นที่ฮือฮากันในปีนี้อย่าง Generative AI นำโดย ChatGPT ที่เติบโตได้แบบก้าวกระโดด พาเอาบริษัทเทคโนโลยีอื่น ๆ เข้ามาร่วมวงนี้ด้วย

ที่มา: Tradingview

หุ้นของ Nvidia Corporation (NVDA) พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบปีเมื่อวันอังคารที่ 18 เมษายน 2023 หลังจาก Frank Lee นักวิเคราะห์ของ HSBC Holdings plc (HSBC) ปรับอันดับเครดิตของบริษัทเป็น "buy" จาก "reduce และ คาดว่าจะเติบโตอย่างรวดเร็วต่อไปในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า บริษัทอยู่ในสถานะที่ดีที่จะได้รับประโยชน์จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับ GPU ในตลาด AI และศูนย์ข้อมูล

ปัจจัยหนึ่ง คือความต้องการ GPU ที่เพิ่มขึ้นในตลาด AI AI เป็นสาขาที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และ GPU เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการขับเคลื่อนแอปพลิเคชัน AI Nvidia เป็นผู้ให้บริการ GPU สำหรับ AI ชั้นนำ และบริษัทอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่จะได้รับประโยชน์จากการเติบโตของตลาด AI

ปัจจัยสอง คือความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับ GPU ในตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ ศูนย์ข้อมูลกำลังใช้ GPU มากขึ้นในการขับเคลื่อนแอปพลิเคชันต่างๆ เช่น การเรียนรู้ของเครื่องและการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ Nvidia เป็นผู้ให้บริการ GPU ชั้นนำสำหรับศูนย์ข้อมูล และบริษัทอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่จะได้รับประโยชน์จากการเติบโตของตลาดศูนย์ข้อมูล

ปัจจัยทางพื้นฐาน  นักลงทุนหลายคนคงสงสัยว่าหุ้นของ Nvidia ราคาพุ่งแรงมากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาแล้ว ตอนนี้ควรจะเข้าซื้อ ดีไหม แล้ว NVIDIA หุ้นจะพุ่งขึ้นอีกหรือไม่ หรือรอให้จังหวะราคาหุ้นลงมาถึงควรจะเข้าเก็บดีกว่า  ? นักลงทุนมือใหม่อาจจะมีความกังวลต่อความผันผวนของราคาหุ้น  แต่คำถามที่ต้องคิดถึงไม่แพ้กันคือ หุ้น NVIDIA  ในระยะยาวทิศทางจะเป็นอย่างไร ในแง่ของโอกาสการเติบโต และเทรนด์ของความต้องการใช้งานสินค้าและนวัตกรรมจาก NVIDIA 

จากมุมมองการวิเคราะห์พื้นฐาน รายงานรายได้ล่าสุดแสดงให้เห็นถึง Nvidia หุ้นที่กำลังเติบโตและความต้องการชิปในภาค AI ก็เติบโตอย่างรวดเร็ว

เมื่อดูกราฟราคาระยะยาวระดับรายเดือน(Month) ของ NVIDIA  แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มขาขึ้นและขาลงที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีการเทขายครั้งใหญ่ในภาคเทคโนโลยีในปี 2022 ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่า NVIDIA ยังสามารถกลับมาทำราคาสูงสุดตลอดกาลได้ (All Time High) แต่การลดลงครั้งสำคัญครั้งสุดท้ายในปี 2022 นั้นมีสาเหตุหลักมาจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องของ FED หลังจากวิกฤตโควิดเริ่มคลี่คลายและเงินเฟ้อสูง ทำให้ต้นทุนการกู้ยืมแพงขึ้น และส่งผลกระทบต่อผลกำไรของบริษัทเทคโนโลยี แต่เมื่อไหร่ที่เงินเฟ้อเริ่มถึงเป้าหมายของ FED และเริ่มหยุดการขึ้นดอกเบี้ยหรือช้าลง อาจจะส่งผลดีต่อตัว NVIDIA ในอนาคต

ปัจจัยทางเทคนิค ปัจจุบัน ราคาหุ้น NVDA อยู่ที่ 452.8$ ต่อหุ้น (update 7 สิงหาคม 2566)

ระยะกลาง ราคาหุ้น NVDIA อยู่ในแนวโน้มขาขึ้นชัดเจน มีการเรียงตัวของเส้นค่าเฉลี่ยสำคัญ MA50 และ MA100 ได้อย่างแข็งแรง จุดที่นักลงทุนสนใจจะเข้าลงทุนควรเป็นเมื่อราคาย่อหรือพักตัวลงมา ใกล้เส้นแนวโน้มทั้งสอง หรือสามารถแบ่งซื้อสะสมเพื่อบริหารต้นทุนราคาให้เหมาะสม แนวรับสำคัญ $430 และ $390 แนวต้านสำคัญ $480 และ $520 ตัดขาดทุนที่บริเวณ $ 370 หรือตามที่รับความเสี่ยงได้

ระยะสั้น ราคาหุ้น NVDIA ในระยะสั้น ราคาอยู่บนกรอบขาขึ้น หลังจากพักตัวลงมาจากบริเวณราคาที่ทำไฮไว้ $480 มาถึงบริเวณจุดน่าสนใจที่ราคาเบรกขึ้นไป $440 จึงเป็นโซนราคาที่ใช้เป็นแนวรับสำคัญของการเทรดสั้น เป้าหมาย $460 และ $480 ตามลำดับ 

• เป็นผู้นำในตลาด  NVIDIA เป็นผู้นำในตลาดกราฟิกการ์ดและเทคโนโลยีประมวลผลกราฟิก ที่มีบทบาทสำคัญในเกมคอมพิวเตอร์ การประมวลผล AI และงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอาจสร้างโอกาสในการเติบโตอย่างมากในอนาคต.

  
  

• การพัฒนาที่น่าตื่นตาตื่นใจ NVIDIA กำลังพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ AI, Deep Learning, และการระดับสีไดนามิก เช่นเทคโนโลยี Ray Tracing ที่มีศักยภาพในการเพิ่มความสวยงามในเกมและการใช้งานอื่น ๆ ที่ใช้กราฟิก.

  
  

• การเติบโตในตลาด AI และ Deep Learning  เทคโนโลยี AI และ Deep Learning กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และ NVIDIA เป็นผู้เลิศเลือกในการให้การรองรับทางฮาร์ดแวร์สำหรับการประมวลผล AI ซึ่งอาจสร้างโอกาสในการเพิ่มรายได้ในสาขานี้.

  
  

• การใช้งานในงานทางวิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรมอื่น ๆ: NVIDIA เคยใช้เทคโนโลยี GPU ในการประมวลผลข้อมูลในงานวิทยาศาสตร์ข้อมูลใหญ่และอุตสาหกรรมอื่น ๆ ซึ่งอาจเป็นแหล่งรายได้สำคัญสำหรับบริษัท.

  
  

• การเข้าสู่ตลาดใหม่ NVIDIA กำลังพยายามเข้าสู่ตลาดอื่น ๆ เช่นรถยนต์อัตโนมัติ ที่สามารถเป็นโอกาสในการขยายกิจการและเพิ่มรายได้.

1.ตลาดหลักทรัพย์ เช่นการซื้อผ่านโบรกเกอร์หลักทรัพย์หรือการเข้าร่วมกิจกรรมแลกเปลี่ยนหุ้น(IPO)หรือขายหุ้นแบบเฉพาะเวลาเมื่อบริษัทเปิดขายหุ้นในตลาดสาธารณะ

2.ลงทุนผ่านกองทุนรวม ผ่านกองทุนรวมที่ลงทุนในหุ้นของบริษัท นี่เป็นวิธีที่สะดวกและที่ไม่ต้องจัดการโดยตรงกับการซื้อขายหุ้น.

3.การซื้อผ่านโบรกเกอร์หุ้นที่มีใบอนุญาต หากคุณต้องการความคุ้มครองและการแนะนำในการลงทุน คุณสามารถเลือกใช้โบรกเกอร์หลักทรัพย์ที่ได้รับใบอนุญาตและมีประสบการณ์ในการจัดการการลงทุนในหุ้น ซึ่งนักลงทุนสามารถเล่นหุ้นออนไลน์ได้ง่ายๆรูปแบบของ CFD (Contract for Difference) เทรดได้ทั้งสองฝั่ง คือขาขึ้นและขาลง 

หมายเหตุ การลงทุนในรูปแบบของ CFD หรือ (Contract for Difference) เป็นรูปแบบหนึ่งที่สามารถเข้าซื้อ (BUY) เมื่อมองว่าราคาจะขึ้ น และขาย (SELL) เมื่อมองว่าราคาจะส่ง โดยราคาส่วนต่างของหุ้น  ทำให้เกิดกำไรและขาดทุน

*** นอกจากนั้นที่แอฟพลิเคชั่นการลงทุนของ MiTrade ยังสามารถเลือกเปิดบัญชีจำลอง(เดโม่) ด้วยเงินเสมือนจริง $50,000 เพื่อทดลองเทรด และฟังก์ชั่นต่างๆให้คุ้นเคยก่อนจะไปทำการเทรดเงินจริง

เทรด หุ้น Nvidia กับ Mitrade!！ ฟรี!！$50,000 จาก Mitrade ฝึกฝนเทรดผ่าน บัญชีทดลอง แบบไร้ความเสี่ยง!!

ลองใช้บัญชีทดลองฟรี!!