ขุด Bitcoin ยังไง?วิธีขุด Bitcoin สำหรับมือใหม่ 2023

ไม่ว่าจะปรับฐานกันมาแล้วกี่ครั้ง ราคาปรับตัวลงไปลึกแค่ไหน ความสนใจของนักลงทุนก็ยังไม่หายไปจากสินทรัพย์ตัวนี้กับ Bitcoin ซึ่งพิสูจน์ได้จากราคา Bitcoin ที่ยังมุ่งหน้าทำจุดสูงสุดใหม่ได้เรื่อย ๆ หากเพื่อน ๆ กำลังมองหาคำตอบว่าต้องขุด Bitcoin ยังไง ก็ตามมาเลย เพราะในบทความนี้เราได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับวิธีขุด Bitcoin สำหรับมือใหม่ 2023 ไว้ให้เรียบร้อยแล้ว!
การขุด bitcoin คืออะไร?
การขุด Bitcoin เป็นกระบวนการตรวจสอบความถูกต้องและเพิ่มธุรกรรมใหม่ให้กับ Bitcoin blockchain ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการดำเนินงานและความปลอดภัยของเครือข่าย Bitcoin การขุด Bitcoin แตกต่างจากการขุดแร่อื่น ๆ ตรงที่ไม่ได้มีการขุดในเชิงกายภาพ แต่ใช้การถอดสรหัสสมการทางคณิตศาสตร์ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อให้ได้มา
Bitcoin ทำงานบนเครือข่ายแบบกระจายอำนาจ หมายความว่าไม่มีหน่วยงานกลางที่ดูแลการทำธุรกรรม ธุรกรรมจะถูกตรวจสอบและบันทึกโดยผู้เข้าร่วมในเครือข่ายที่เรียกว่านักขุดแทน นักขุดใช้ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์พิเศษเพื่อแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อนซึ่งยืนยันความถูกต้องของธุรกรรมและจัดกลุ่มเป็นบล็อก
เมื่อนักขุดสามารถแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ได้สำเร็จ ก็จะสร้างบล็อกธุรกรรมใหม่และเพิ่มเข้าไปในบล็อกเชน กระบวนการนี้ต้องใช้พลังในการคำนวณและการใช้พลังงานอย่างมาก ความยากของปัญหาทางคณิตศาสตร์ได้รับการปรับอย่างสม่ำเสมอเพื่อรักษาอัตราการสร้างบล็อกที่สม่ำเสมอประมาณหนึ่งบล็อกทุกๆ 10 นาที
หากคุณประสบความสำเร็จในการแก้ไขสมการเหล่านั้น คุณก็จะได้รับ “Block Reward” หรือรางวัลที่เป็นเหรียญ Bitcoin เหรียญใหม่ที่เพิ่งถูกสร้างขึ้นพร้อมกับการเติมบล็อกใหม่ลงในเครือข่าย ซึ่งคุณจะสามารถนำไปเก็บรักษา โอนย้าย หรือนำไปซื้อขายแลกเปลี่ยนต่อไปได้ กระบวนการนี้สร้างแรงจูงใจให้นักขุดยังคงสนับสนุนทรัพยากรการคำนวณของพวกเขาไปยังเครือข่าย
เดิมทีในปี 2009 การขุดบล็อกใหม่ 1 บล็อก นักขุดจะได้รับ Bitcoin เป็นรางวัล 50 BTC แต่การจ่ายรางวัลต่อบล็อกนี้จะมีค่าลดลง (Halving) เรื่อย ๆ ราวครึ่งหนึ่งในทุก 4 ปี ล่าสุดเมื่อมีการลดลงครึ่งหนึ่งในปี 2020 รางวัลสำหรับบล็อกใหม่ก็ลดลงเหลือ 6.25 BTC เท่านั้น และจะลดลงเช่นนี้เรื่อยๆ จนกว่าปริมาณ Bitcoin ในระบบจะมีจำนวนครบ 21 ล้าน BTC ตามที่กำหนดไว้ตั้งแต่แรกเริ่ม เทียบกับปัจจุบันที่มี Bitcoin ผลิตออกมาหมุนเวียนในระบบแล้วกว่า 19 ล้าน BTC
ปี | รางวัล |
2009 | 50 BTC |
2012 | 25 BTC |
2016 | 12.5 BTC |
2020 | 6.25 BTC |
การขุด Bitcoin ทำงานอย่างไร?
เพื่อให้เข้าใจอย่างง่าย เราจะอธิบายการทำงานของการขุด Bitcoin โดยยกตัวอย่างนะครับ
สมมติว่า นาย ก ต้องการซื้อของจากนาย ข ทำให้นาย ก โอนเงินค่าของให้นาย ข จำนวน 2 Bitcoin
1) ประกาศ
วอลเล็ตของนาย ก ประกาศการชำระเงิน 2 Bitcoin ยังวอลเล็ตของนาย ข (ธุรกรรม) ไปยัง Full Node ทั้งหมดที่เชื่อมโยงกับวอลเล็ตของนาย ก ซึ่ง Full Node คือวอลเล็ตพิเศษที่รับ-ส่งธุรกรรมซึ่งบรรจุข้อมูลทั้งหมดของบล็อกเชน
2) กระจายข้อมูล
Full Node จะทำการตรวจสอบธุรกรรมของนาย ก กับธุรกรรมอื่น ๆ ที่รอดำเนินการ หากธุรกรรมของนาย ก ไม่ขัดแย้งกับธุรกรรมอื่น ๆ Full Node จะทำการเผยแพร่ข้อมูลธุรกรรมนาย ก ผ่านเครือข่าย Bitcoin
นาย ข จะยังไม่ได้รับ Bitcoin จากนาย ก ในขั้นตอนนี้ เนื่องจากธุรกรรมของนาย ก ยังไม่ได้ถูกเพิ่มลงในบล็อกเชน
3) นักขุดทำงาน
นักขุดมีข้อมูลทั้งหมดของบล็อกเชนและทำการตรวจสอบธุรกรรมใหม่ที่เพิ่งประกาศบนเครือข่าย นักขุดจะทำงานเพื่อรวบรวมธุรกรรมที่ถูกต้องและใหม่ทั้งหมดลงในบล็อกปัจจุบัน
นักขุดจะแข่งขันกันเพื่อหาคำตอบที่ถูกต้องของบล็อกปัจจุบัน โดยที่ผู้ชนะจะมีเพียงแค่หนึ่งเดียว ซึ่งนักขุดที่มีพลังขุดสูงจะมีโอกาสหาคำตอบที่ถูกต้องได้เร็วกว่า
4) ยืนยันบล็อกเชน
หลังจากนักขุดสามารถแก้โจทย์ของบล็อกปัจจุบันที่มีธุรกรรมของนาย ก สำเร็จแล้วจะทำประกาศบล็อกดังกล่าวไปยังเครือข่าย หาก Full Node ส่วนใหญ่เห็นชอบกับบล็อกดังกล่าว บล็อกดังกล่าวจะถูกเพิ่มลงในบล็อกเชน สถานะธุรกรรมของนาย ก ได้รับการยืนยันแล้วหนึ่งครั้ง
ตอนนี้นาย ข จะได้รับ 2 Bitcoin จากนาย ก และนาย ข สามารถส่งของให้นาย ก ได้แล้ว
วิธีขุด Bitcoin เป็นอย่างไร?
การขุด Bitcoin เป็นการแข่งขัน ที่หากใครแก้สมการทางคณิตศาสตร์ได้ก่อนก็จะเป็นผู้ชนะ และได้รับส่วนแบ่งของรางวัลที่เป็นเหรียญ BTC ไป ดังนั้นอุปกรณ์ที่นำมาใช้ขุด Bitcoin จึงควรมีประสิทธิภาพขั้นต่ำที่สุดคือ มีความสามารถในการประมวลผลสูง
นอกเหนือไปจากความสามารถในการประมวลผล พลังงานไฟฟ้าก็เป็นปัจจัยสำคัญในการขุดอีกอย่างหนึ่ง และเนื่องจากเราต้องใช้คอมพิวเตอร์ในการขุดแทบจะตลอดวัน การใช้พลังงานไฟฟ้าได้ในราคาถูกจะช่วยประหยัดต้นทุนในการขุดได้ ขณะที่ตัวอย่างเช่นในประเทศไทยที่ราคาค่าไฟไม่ถูกนัก การขุด Bitcoin จึงต้องคำนวณต้นทุนตรงนี้เข้าไปด้วยเพื่อประเมินว่าการขุดจะคุ้มทุนจากค่าไฟได้หรือไม่ ซึ่งค่าไฟฟ้าก็ถือเป็นต้นทุนตัวหลัก ๆ เลยสำหรับการขุด Bitcoin
สภาพอากาศสำหรับการขุด Bitcoin ก็เป็นอีกปัจจัยที่สามารถสร้างความได้เปรียบจากการขุด Bitcoin ได้ ประเทศในเมืองหนาวจึงค่อนข้างเป็นที่ที่ได้เปรียบสำหรับกิจกรรมนี้ เพราะอากาศเย็นสามารถช่วยลดความร้อนของอุปกรณ์ขณะขุดได้เป็นอย่างดี และช่วยไม่ให้อุณหภูมิของเครื่องคอมฯ ร้อนเกินไปจนเสื่อมได้เร็วกว่าปกติ ขณะที่ประเทศในเมืองร้อนอาจต้องหาอุปกรณ์สำหรับลดอุณหภูมิมาใช้ ซึ่งจะเป็นต้นทุนอีกตัวที่ต้องแบกรับ
เมื่อพิจารณาถึงปัจจัยที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้ว เราลองมาดูกันต่อเลยว่าจะมีวิธีขุด Bitcoin กันอย่างไรบ้าง
1) เตรียมเครื่องมือขุดให้เหมาะสม
สิ่งแรกก่อนเริ่มขุดคือการเตรียมเครื่องมือสำหรับการขุด ซึ่งสองสามปีก่อนขณะที่กระแสดิจิทัลยังไม่บูมเหมือนปัจจุบัน การมีแค่เครื่องคอมพิวเตอร์และการ์ดจอแรง ๆ ก็เพียงพอจะขุด Bitcoin จำนวนมากได้แล้ว แต่สำหรับปัจจุบันการขุด Bitcoin อาจไม่ได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าเหมือนเดิมเนื่องจากส่วนแบ่งเหรียญที่ขุดได้จะลดลงตามเวลา ขณะที่การแข่งขันขุดเป็นไปอย่างดุเดือดมากขึ้น
เพื่อให้การขุด Bitcoin เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า นักขุดจำเป็นต้องหาอุปกรณ์ที่ให้คุณภาพการประมวลผลแรงเป็นพิเศษ ในแบบที่เพียงพอสำหรับการแข่งขันขุดกับนักขุดอื่น ๆ ซึ่งมักจะตามมาด้วยราคาที่แพงถึงหลายหมื่นบาทได้เลย
อุปกรณ์ที่ตอบสนองความต้องการนี้และเป็นที่รู้จักกันดีในวงการก็คือ ASIC ที่เป็นเครื่องประมวลผลที่กินไฟน้อยกว่า แต่มีความสามารถในการขุดเหรียญมากกว่าคอมพิวเตอร์ปกติทั่วไป
2) เตรียมกระเป๋าเหรียญคริปโต
เมื่อเตรียมอุปกรณ์ได้เรียบร้อยแล้ว ขั้นต่อมาคือการติดตั้งกระเป๋าเหรียญคริปโต ซึ่งเป็นแหล่งที่จะเอาไว้สำหรับเก็บรักษาเหรียญที่ขุดได้ มีให้เลือกทั้งกระเป๋าเงินแบบออนไลน์ (Hot Wallet) และกระเป๋าเงินแบบออฟไลน์ (Cold Wallet) ซึ่งกระเป๋าเหรียญแต่ละชนิดก็มีจุดเด่นจุดด้อยแตกต่างกัน
กระเป๋าเงินเสมือนจริงนี้ทำให้คุณสามารถจัดการ “Bitcoin Adress” ที่มีรหัสตามมา 2 แบบ นั่นคือ Public Key และ Private Key ได้
Public Key เป็นการประกอบกันขึ้นจากตัวเลขและอักษรที่มักจะมาในรูปแบบหน้าตา
“18ukxpD1eqnVjux13ehEz8r4d8py1dSdzw"
ซึ่งมักจะใช้เป็นรหัสบ่งชี้บัญชีคล้าย ๆ กับเลขบัญชีหรือเลขหน้าบัตรเครดิต และมักเป็นรหัสที่ใช้สำหรับการตรวจสอบย้อนกลับธุรกรรมที่เกิดขึ้นได้ด้วย ในขณะที่การใช้งานผ่าน Private Key จะรองรับเฉพาะการทำธุรกรรมเท่านั้น
อย่างไรก็ดี การใช้กระเป๋าเหรียญคริปโตมีข้อควรระวังหลัก ๆ คือ การทำ Private Key หายจะทำให้คุณไม่สามารถเข้าใช้งานกระเป๋าเงินดิจิทัลนั้น ๆ ได้โดยไม่มีวิธีช่วยเหลือใด ๆ อีก และคุณจะต้องสูญเสียเหรียญในกระเป๋านั้นตลอดไป
3) เข้าร่วมกลุ่มกับนักขุดอื่น ๆ
ปัจจุบันลำพังแค่การใช้เครื่องคอมประสิทธิภาพสูงอย่าง ASIC เพียงลำพังนั้นเป็นเรื่องยากมากที่จะขุดเหรียญได้เป็นคนแรก เนื่องจากพลังการประมวลผลของคนเดียวนั้นยากที่จะสู้พลังการประมวลผลเป็นกลุ่มของนักขุดจากทั่วโลกได้
ดังนั้นการเข้าร่วมกลุ่มกับนักขุดอื่น ๆ หรือ “Mining Pool” จะเป็นทางเลือกที่ดี
ซึ่งการเข้ารวมกลุ่มแบบนี้นักขุดจะให้พลังการประมวลผลให้กับกลุ่ม ขณะที่ Bitcoin ที่ได้รับกลับมาจะถูกแบ่งกระจายให้สมาชิกในกลุ่มตามกำลังการประมวลผลที่ให้กับกลุ่ม ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มโอกาสชนะในการแข่งขันขุด Bitcoin นี้ได้
4) ลงโปรแกรมขุด Bitcoin ในเครื่องคอมฯ
ภายหลังจากที่คุณจัดเตรียมอุปกรณ์ที่เป็นฮาร์ดแวร์ ติดตั้งกระเป๋าเงินดิจิทัล และเข้ารวมกลุ่มกับนักขุดอื่น ๆ เรียบร้อยแล้ว ในทางทฤษฎีคุณก็ยังต้องลงโปรแกรมที่จะช่วยให้คุณเชื่อมต่อเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายบล็อกเชนของ Bitcoin เพื่อให้สามารถเข้าเป็นส่วนหนึ่งในผู้ขุดเหรียญได้
ปัจจุบันมีทางเลือกหลากหลายและไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับลงโปรแกรมนี้และสามารถรองรับการทำงานได้ในหลากหลายระบบปฏิบัติการ
5) พร้อมสำหรับการขุด Bitcoin
เมื่อจัดเตรียมทุกอย่างได้เรียบร้อยแล้วก็เริ่มเปิดเครื่อง เชื่อมต่อเข้าสู่โปรแกรมการขุด ซึ่งหลังจากกรอกข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับพอร์ตและกลุ่มการขุด (Mining Pool) เรียบร้อยแล้ว ก็เพียงแค่เลือกอุปกรณ์ ASIC และปล่อยให้ระบบทำการขุดไปเท่านั้น
เคล็ดลับ การขุดบิทคอยน์ไม่ใช่วิธีที่เก็งกำไรจากบิทคอยน์ที่เร็วที่สุด วิธีการเก็งกำไรที่เร็วที่สุดจากบิทคอยน์คือการเทรดบิทคอยน์ ข้อมูลเพิ่มเติม>> สอนการเล่นบิทคอยน์สำหรับมือใหม่ |

จะขุด Bitcoin ผ่านคลาวด์ (Cloud Mining) ได้อย่างไร?
การขุด Bitcoin ผ่านคลาวด์ (Cloud Mining) เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ทำให้การขุด Bitcoin กลายเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น ขณะที่เดิมนักขุด Bitcoin จำเป็นต้องลงทุนในอุปกรณ์การขุดต่าง ๆ แต่สำหรับการขุดผ่านคลาวด์นั้นนักขุดแทบไม่จำเป็นต้องกังวลถึงเรื่องอุปกรณ์การขุดแพง ๆ เลย
ในการขุดผ่านคลาวด์นั้นแค่คอมพิวเตอร์รุ่นเก่า ๆ ก็สามารถเข้าเป็นส่วนหนึ่งในการขุด Bitcoin ที่มีประสิทธิภาพได้ ซึ่งทำได้โดยการหาผู้ให้บริการขุด Bitcoin ผ่านคลาวด์ ซึ่งผู้ให้บริการส่วนใหญ่มักจะเปิดให้ลงทุนผ่านกองทุนขุด Bitcoin ด้วย และได้รับเงินเป็นผลตอบแทน ยิ่งลงทุนมากก็จะได้ผลตอบแทนมากเป็นเงาตามตัว
โดยมากแล้วแพลตฟอร์มผู้ให้บริการเหล่านี้มักมีฟาร์มขุดเหรียญคริปโตอยู่แล้ว และสิ่งที่ต้องการเพิ่มเติมก็คือเงินลงทุนที่จะมาเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับบำรุงรักษาอุปกรณ์และต้นทุนอื่น ๆ ของการขุด
จะขุด Bitcoin บนมือถือได้อย่างไร?
ในปัจจุบันเรามีโทรศัพท์มือถือที่มีความสามารถในการประมวลผลที่ทรงพลังมากขึ้นและก็สามารถใช้เป็นเครื่องในการขุดผ่านคลาวด์ (Cloud Mining) ด้วย
แต่วิธีแบบนี้ค่อนข้างทำงานได้ดีเลย แม้จะมีขั้นตอนที่ดูซับซ้อนอยู่บ้างคือต้องมีการลงแอปพลิเคชั่นสำหรับขุด Bitcoin โดยเฉพาะ เช่น iPhone จำเป็นต้องมีการลงทะเบียนเป็น Apple Developer เพื่อให้สามารถใช้งานได้
โดยเฉลี่ยแล้วหากคุณปล่อยให้ iPhone รุ่นปัจจุบันขุด Bitcoin ตลอด 24 ชั่วโมงคาดว่าจะสามารถขุด Bitcoin ได้ราว 0,000852 ต่อเดือน อย่างไรก็ดีด้วยผลตอบแทน เล็กน้อยแบบนี้คงไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนักที่คุณจะนำโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ ๆ คุณภาพดี ๆ มาขุด Bitcoin ตลอดเวลาแบบนี้
จะขุด Bitcoin แบบไม่เสียค่าใช้จ่ายได้อย่างไร
ยังมีบางเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชั่นที่แจกเหรียญคริปโตเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กับผู้ใช้งานโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งแม้เรามองว่าเหรียญ Bitcoin 1 เหรียญจะมีค่ามาก แต่ตัวเหรียญก็สามารถแบ่งแยกออกเป็นหน่วยย่อย ๆ ได้อีกในจำนวนที่น้อยที่สุดถึงทศนิยม 8 หลัก หรือที่เรียกว่า 1 ซาโตชินั่นเอง และหน่วยย่อย ๆ เหล่านี้ก็สามารถนำออกมาแจกจ่ายได้แบบฟรี ๆ บนแพลตฟอร์มเหล่านี้
ตัวอย่างเช่น Freebtico.in เป็นรูปแบบของล็อตเตอรี่เสมือนจริงที่มอบรางวัลออกมาเป็นรายชั่วโมง ซึ่งผู้ที่เข้าร่วมเล่นอาจต้องเข้าไปแลกเหรียญหรือซื้อตั๋วเพื่อเข้าร่วมกิจกรรม หรือแพลตฟอร์มที่มีลักษณะใกล้เคียงกันก็เช่น 777Bitco.in ที่เป็นแพลตฟอร์มแจก Bitcoin ในจำนวนที่มากกว่า 11 ล้านซาโตชิในรูปแบบเดียวกัน
นอกจากนี้ยังมีบริการเช่น Paidbooks ที่ให้ผู้ใช้ได้รับ 150 ซาโตชิในการอ่านทุก ๆ 10 นาที ส่วน Bitvisitor ก็ให้โบนัส Bitcoin ทุก ๆ 5 นาทีที่ผู้ใช้งานเข้าไปเยี่ยมเว็บในจำนวนที่กำหนดไว้
นอกจากนี้ยังมีเกมและบริการจำนวนมากที่เสนอผลตอบแทนเป็น Bitcoin เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ดีจำนวน Bitcoin ที่ได้มากมักจะเป็นมูลค่าไม่มากและไม่ค่อยคุ้มค่า ซึ่งหากนักลงทุนต้องการสร้างผลกำไรที่สมน้ำสมเนื้อมากขึ้นการลงทุนในตลาดซื้อขาย Bitcoin จะเป็นไอเดียที่ดีกว่า
ขุด Bitcoin คุ้มไหมในปี 2023? การขุด Bitcoin มีต้นทุนอะไรที่ต้องคำนึงถึงบ้าง?
จากที่เราไปดูวิธีขุด Bitcoin กันมาแล้ว หลายคนอาจเริ่มรู้สึกว่าวิธีนี้จะเป็นคล้ายกับการสร้างเงินขึ้นจากความว่างเปล่า แต่ความเข้าใจนี้ไม่ถูกต้อง เพราะยังมีต้นทุนอีกหลายตัวที่ยังไม่ถูกรวมเข้าไป
เดิมทีสาวกเหรียญคริปโตสามารถขุดเหรียญได้จากแลปท็อปในบ้านหรืออะพาร์ทเมนต์ แต่นับจากปี 2012 เครื่องขุดก็เริ่มกระโดดเข้ามาอยู่ในความสนใจของผู้คนและการขุดเหรียญก็เริ่มบูม บริษัทขนาดใหญ่สามารถขุดเหรียญได้ด้วยอุปกรณ์เป็นพัน ๆ เครื่อง ทิ้งนักขุดธรรมดา ๆ ให้งมอยู่กับอุปกรณ์ราคาแพงและมีโอกาสน้อยที่จะขุดได้ Bitcoin สักครั้ง
“การขุดเหรียญที่บ้านไม่ได้มีความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์” ฮันนะ ฮาลาเบอร์ดา ผู้ช่วยศาสตราจารย์ประจำวิทยาลัยธุรกิจ Stern มหาวิทยาลัยนิวยอร์คเคยกล่าวไว้
สำหรับการขุด Bitcoin จะมีบล็อกหนึ่งบล็อกสร้างขึ้นในทุก ๆ 10 นาทีโดยเฉลี่ย หากคุณร่วมแข่งขุด Bitcoin กับนักขุดมากมายข้างนอกนั่น และพวกเขาส่วนใหญ่ เช่น บริษัทขนาดใหญ่ ก็มักจะมีศักยภาพและความสามารถในการประมวลผลที่มากกว่า จึงเป็นการยากมากที่คนคนหนึ่งจะเข้าไปแย่งชิงส่วนแบ่งรางวัลในการขุดออกมาได้ และหากคุณโชคดีพอที่จะได้มันมา ก็เป็นไปได้ยากที่คุณจะชนะซ้ำอีก แล้วอุปกรณ์การขุดของคุณก็เริ่มที่จะล้าสมัย และกลายเป็นการขุดที่ไม่คุ้มค่า ซึ่งนี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมนักขุดส่วนใหญ่จึงเข้าร่วมกลุ่มการขุด (Mining Pool) ที่สามารถรวบรวมพลังการประมวลผลของกลุ่มไว้ด้วยกัน จึงมีโอกาสในการชนะในการขุดครั้งใดครั้งหนึ่งได้มากกว่า และสมาชิกในกลุ่มก็จะได้เหรียญรางวัลเป็นส่วนแบ่งตามความสามารถในการประมวลผลของแต่ละคน
นอกจากนี้เพื่อที่จะขุดเหรียญคุณสามารถคาดเดาบิลค่าไฟแพง ๆ ได้เลย จากหนังสือพิมพ์ The New York Times อ้างว่าในปี 2009 เราจะต้องใช้ไฟบ้านราว 2 เท่าของไฟที่ใช้ในหนึ่งปีสำหรับการขุด Bitcoin 1 เหรียญ แต่สำหรับปัจจุบันต้องใช้ไฟฟ้ามากขึ้นเป็น 9 ปี ซึ่งคิดเป็นตัวเงินก็ประมาณ $12,500 ต่อเดือนเลยทีเดียว
ในส่วนของอุปกรณ์ขุดก็ไม่ได้มีราคาถูก ขณะที่บริษัทใหญ่ ๆ สามารถซื้ออุปกรณ์เป็นพัน ๆ เครื่องได้ในครั้งเดียว ทำให้สามารถซื้อได้ในราคาที่ถูก แต่นักขุดตัวคนเดียวไม่สามารถทำได้อย่างนั้น และการซื้ออุปกรณ์จำนวนไม่มากมักจะตามมาด้วยราคาที่แพงกว่า ซึ่งเป็นต้นทุนที่ต้องแบกรับ
ดังนั้นการทำเงินจากการขุด Bitcoin นั้นจะเป็นภาพในระยะยาวที่ต้องอาศัยเวลา และคุณจำเป็นต้องจ่ายเงินไปเป็นต้นทุนด้วยในระหว่างขั้นตอนการขุดเหล่านั้น
ยิ่งในปัจจุบันความเป็นไปได้นี้ก็ยิ่งน้อยลงไปอีกจนแทบจะเป็นไปไม่ได้เนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น
อย่าลืมว่าปัจจุบันเรามีนักขุดเป็นร้อยเป็นพันในเครือข่าย ซึ่งนักขุดแต่ละคนก็จะแข่งขันกันเดาค่า “แฮช” ซึ่งเป็นผลลัพทธ์ของสมการทางคณิตศาสตร์ที่ประกอบขึ้นจากเลขฐานสิบหกและมีได้มากถึง 64 หลัก
การขุด Bitcoin มีข้อเสียยังไง?
อ้างจากดัชนีการเผาผลาญพลังงานไฟฟ้าจาก Bitcoin ของ Cambridge (Cambridge Bitcoin Electricity Consumption Index) เครือข่ายการขุด Bitcoin ทั้งหมดใช้พลังงานไฟฟ้าต่อปีเทียบเท่าการใช้งานไฟฟ้าของประเทศอาร์เจนตินาทั้งประเทศในหนึ่งปี ข้อมูลดังกล่าวจึงเริ่มจุดประเด็นที่การขุด Bitcoin มีการใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก และพลังงานไฟฟ้าส่วนใหญ่ของโลกยังผลิตขึ้นจากเชื้อเพลิงฟอสซิลและถ่านหินเป็นส่วนใหญ่
และนี่ก็เป็นหนึ่งในปัญหาที่สำคัญปัญหาหนึ่งของสกุลเงินดิจิทัลที่เมื่อมีการประมวลผลพลังงานไฟฟ้าก็จะถูกใช้ไป ยิ่งมีการขุดเหรียญมากขึ้นเท่าไหร่ กิจกรรมนี้ก็จะกลายเป็นตัวร้ายหลักในทรรศนคนดู เนื่องจากกิจกรรมนี้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
เพื่อบรรเทาการใช้พลังงานที่สูงขึ้นนี้นักขุดบางส่วนถึงกับมีการหันไปใช้เครื่องผลผิตกระแสไฟฟ้าเองเพื่อให้กระบวนการขุดยังดำเนินต่อไปได้
กลลวงของมิจฉาชีพต่อนักขุด Bitcoin มีอะไรบ้าง
เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ได้รับความนิยมชนิดอื่น ๆ Bitcoin ก็มักจะถูกมิจฉาชีพนำมาใช้ในการหลอกลวงเงินทุนจากนักลงทุนในหลากหลายวิธี และเราควรรู้ให้เท่าทันเพื่อป้องกันการสูญเสียเงินทุนอย่างไม่ควร เช่น
1) หลอกให้ขุด Bitcoin ผ่านคลาวด์แบบเปล่า ๆ
การหลอกให้ขุด Bitcoin ผ่านคลาวด์แบบเปล่า ๆ เป็นหนึ่งในกลลวงที่เก่าแก่ที่สุด และมักจะใช้ได้ผลเสมอในการขโมยเงินทุนจากนักลงทุนหน้าใหม่ที่ไร้ประสบการณ์ กลโกงแบบคลาสสิคของการหลอกให้ขุด Bitcoin ผ่านคลาวด์จะเริ่มต้นด้วยการที่บริษัทผู้ให้บริการเรียกให้คุณวางเงินลงทุนใน Bitcoin ในอีกด้านหนึ่งคุณก็จะมีส่วนในแพลตฟอร์มการขุดที่มีการแชร์พลังในการประมวลผลกับบริษัท ซึ่งพลังในการประมวลผลนี้สามารรถนำไปใช้ในการขุด Bitcoin แล้วนำผลกำไรมาแบ่งกันระหว่างสมาชิกในกลุ่ม Pool Mining ได้
อย่างไรก็ดี เงินทุนที่นักลงทุนส่งไปยังบริษัทนั้นเป็นเพียงการจ่ายให้กับนักลงทุนคนก่อนหน้า และบริษัทก็ดูเหมือนน่าเชื่อถือและถูกกฎหมายในช่วงเวลาหนึ่ง เพื่อให้มีผู้เข้าร่วมลงทุนและโอนเงินมาให้กับบริษัทมากขึ้น บริษัทเจ้าของแพลตฟอร์มจะมีการให้สัญญาด้านผลตอบแทนที่ดีอย่างไม่น่าจะเป็นไปได้โดยมีข้อตกลงที่มีเงื่อนเวลาไม่จำกัด เมื่อไหร่ก็ตามที่บริษัทรวบรวมเงินทุนได้ตามต้องการแล้ว เว็บไซต์ของบริษัทก็อาจจะเริ่มเข้าไม่ได้ ติดต่อไปก็ไม่ได้รับการตอบรับ
บริษัทหลอกให้ขุด Bitcoin ผ่านคลาวด์ที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดเกิดขึ้นในปี 2019 ในกรณีนี้มีผู้ถูกจับกุม 3 ราย มีมูลค่าความเสียหายกว่า $722 ล้านผ่านเครือข่าย BitClub ศาลตัดสินว่าคนเหล่านี้ร้องขอเงินทุนจากนักลงทุนเพื่อแลกกับส่วนแบ่งพลังการขุดจาก Mining Pool แต่ทั้งพลังการขุดและ Mining Pool นี้ไม่มีจริง บริษัทเพียงแค่หอบเงินหนีไป และบางครั้งยังจ่ายผลตอบแทนให้กับนักลงทุนเพื่อเป็นการชักจูงนักลงทุนรายใหม่ ๆ เข้ามาด้วย
2) หลอกโจรกรรมเหรียญในกระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์
การโจรกรรมเหรียญในกระเป๋าเงินเป็นเรื่องที่เศร้าที่สุดสำหรับนักลงทุนในเหรียญคริปโต เพราะเป็นเหตุการณ์ที่มีมิจฉาชีพพยายามเจาะระบบความปลอดภัยของกระเป๋าเงินเข้าไปเพื่อล้วงเอาเหรียญทั้งหมดที่เก็บรักษาไว้ในกระเป๋าเงินนั้นออกมา เหลือไว้แต่กระเป๋าเปล่า ๆ
การโจรกรรมเหรียญแบบนี้มักเกิดขึ้นได้จากสองสามวิธี ความเป็นไปได้แรกคือ มิจฉาชีพจะขายกระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์ให้กับผู้ใช้พร้อมกับ Secret SEED แอบซ่อนไว้ข้างใน และเมื่อผู้ใช้ติดตั้งการใช้งานกระเป๋าเงิน มิจฉาชีพก็สามารถเข้าถึงกระเป๋าเงินนี้ได้ไม่ว่าอยู่ที่ใดบนโลกใบนี้และสามารถสูบเงินจนหมดได้ในเวลาไม่กี่วินาทีเท่านั้น
นอกจากนี้ยังมีการโจรกรรมเหรียญจากกระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์จากผู้ผลิตที่ไม่เป็นที่รู้จัก ซึ่งจะใช้วิธีเดียวกันในการดูดเงินออกจากกระเป๋าเงินของผู้ใช้จนไม่เหลือแม้แต่ซาโตชิเดียว
3) อุปกรณ์ขุดปลอม
กลลวงของมิจฉาชีพอีกอย่างที่มักจะเกาะมากับกระแสกความนิยมการขุด Bitcoin ก็คือการสร้างอุปกรณ์ขุดปลอม ๆ ขึ้นมาหลอกขาย โดยเมื่อไหร่ก็ตามที่มูลค่าของ Bitcoin เพิ่มขึ้น มิจฉาชีพเหล่านี้จะเข้าจู่โจมตลาดด้วยอุปกรณ์ขุดที่รับประกันผลตอบแทนอันน่าเหลือเชื่อ ในบางกรณีอาจมีการส่งอุปกรณ์บางอย่างมาให้ แต่ก็เป็นอุปกรณ์ที่ใช้งานไม่ได้จริงหรือใช้งานได้ที่ประสิทธิภาพต่ำกว่าที่ควรเป็น
จะมีตัวอย่างเช่น เวลาที่พวกมิจฉาชีพเหล่านี้ใช้บัญชีที่ดูมีความน่าเชื่อถือบนมาร์เก็ตเพลส เช่น Alibaba และเริ่มขายผลิตภัณฑ์ปลอม ๆ ให้ ซึ่งจริงอยู่ที่ผู้ใช้ส่วนใหญ่มักจะตรวจสอบประวัติของผู้ขายและเดาว่าพวกเขาจะไม่ทำให้ชื่อเสียงของบริษัทต้องเสื่อมเสีย แต่ในที่สุดในภายหลังก็ปรากฎว่าบริษัทได้สูญเสียการควบคุมเหนือมาร์เก็ตเพลสไป
บทสรุป
ตอนนี้เราก็ทำความรู้จักกับการขุด Bitcoin และวิธีการขุด Bitcoin กันมาแล้ว ตอนนี้ก็ถึงคราวที่ต้องประเมินความได้เปรียบเสียเปรียบของการขุด Bitcoin นี้ก่อนที่จะเริ่มต้นลงทุนด้วยเงินทุนจริง ๆ ในลำดับถัดไป
แม้ว่าคุณจะมีทรัพยากรในการขุดบิทคอยน์ที่เพรียบพร้อมแล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องทำการขุดบิทคอยน์ไปอย่างต่อเนื่อง เพราะจากที่กล่าวมาข้างต้นจะเห็นว่า หากเราเลือกวิธีการขุดบิทคอยน์ในปัจจุบันนี้ผลตอบแทนที่ได้รับไม่คุ้มค่าเลยแม้แต่น้อย เพราะต้นทุนที่สูงขึ้นนั่นเอง เราจะต้องมองถึงภาพว่าเป็นจริงแล้วนั้น การขุด Bitcoin ไม่ได้กำไรให้กับนักขุดมือใหม่ได้อย่างจริงจัง
สำหรับทางเลือกในการสร้างผลกำไรจาก Bitcoin นอกเหนือไปจากการขุดก็สามารถทำได้ด้วยการเข้าสู่ตลาดซื้อขายสกุลเงินคริปโต เช่น
การซื้อ Bitcoin ในตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยน หรือก็แค่เทรด Bitcoin ผ่านเครื่องมือทางการเงินอย่าง CFD (สัญญาซื้อขายส่วนต่าง) โดยที่ไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของหรือถือครองสกุลเงินดิจิทัลใด ๆ ซึ่งช่วยลดความซับซ้อนในการจัดเก็บและการย้ายเข้าย้ายออกเหรียญ ที่สำคัญยังมีความปลอดภัยสูงกว่าเพราะได้หลีกเหลี่ยงความเสี่ยงที่ถูกแฮก เทรด Bitcoin ผ่านโบรกเกอร์ CFD ที่มีความน่าเชื่อถือสูงอย่าง Mitrade ฝึกฝนเทรดด้วยเงินเสมือนจริง $50,000 ดอลลาร์ >>>





*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน