TradingKey - เมื่อวันพุธ ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของสหรัฐฯ IBM เปิดเผยรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ซึ่งทำรายได้และกำไรต่อหุ้นเกินความคาดหมายของวอลล์สตรีท พร้อมปรับเพิ่มเป้าหมายกระแสเงินสดอิสระทั้งปี — ถือเป็นข่าวดีอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม การชะลอตัวของธุรกิจ Red Hat ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ตลาดจับตาอย่างใกล้ชิด ได้สร้างความกังวลลึกซึ้งให้กับนักลงทุน ผู้ซึ่งมองว่าธุรกิจซอฟต์แวร์คือหนึ่งในเครื่องยนต์เติบโตหลักในอนาคตของ IBM ส่งผลให้หุ้นบริษัทร่วงลงประมาณ 6% ในการซื้อขายหลังตลาดปิด แม้ตัวเลขภาพรวมจะดูดีก็ตาม
รายงานระบุว่า IBM ทำรายได้ไตรมาส 3 ที่ 16.33 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงกว่าค่าเฉลี่ยที่นักวิเคราะห์จาก LSEG คาดไว้ที่ 16.09 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และกำไรต่อหุ้นแบบปรับแล้ว (adjusted EPS) อยู่ที่ 2.65 ดอลลาร์สหรัฐ สูงกว่าที่คาดไว้ที่ 2.45 ดอลลาร์สหรัฐอย่างมีนัยสำคัญ
IBM ยังปรับเพิ่มเป้าหมายกระแสเงินสดอิสระ (free cash flow) ทั้งปี โดยคาดว่าจะแตะระดับ 14,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงกว่าเป้าหมายเดิมที่ 13,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และสูงกว่าที่วอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้ที่ 13,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ตามข้อมูลจาก FactSet) นอกจากนี้ IBM ยังย้ำอีกครั้งว่า อัตราการเติบโตของรายได้ในแง่สกุลเงินคงที่ (constant currency) จะ “เกิน” 5% — ซึ่งเป็นมุมมองที่มองในแง่บวกมากกว่าคำคาดการณ์ก่อนหน้าที่ว่า “อย่างน้อย” 5%
“ลูกค้าทั่วโลกยังคงใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านของเรา เพื่อขับเคลื่อนประสิทธิภาพการดำเนินงานและสร้างมูลค่าทางธุรกิจที่เป็นรูปธรรมด้วย AI” นายอาร์วินด์ กฤษณะ (Arvind Krishna) ซีอีโอ กล่าวในแถลงการณ์
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หน่วยงานที่ปรึกษาของ IBM ได้รับผลกระทบจากความกังวลของลูกค้าเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมเศรษฐกิจโดยรวม ทำให้การเติบโตของธุรกิจซอฟต์แวร์กลายเป็นจุดโฟกัสหลักของนักลงทุน
อย่างไรก็ตาม Red Hat ซึ่งเป็นเสาหลักสำคัญของกลยุทธ์ซอฟต์แวร์ของ IBM กลับเห็นการชะลอตัวของการเติบโตยอดขาย จาก 16% ในไตรมาสก่อน เหลือ 14% ในไตรมาสนี้
ก่อนการประกาศผลประกอบการ นักวิเคราะห์จาก Stifel ชี้ว่า การเติบโตของธุรกิจซอฟต์แวร์ของ IBM คือ “ประเด็นที่ตลาดจับตา” ก่อนรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ซึ่งเป็นไตรมาสที่มีแนวโน้มอ่อนตัวตามฤดูกาล
“การชะลอตัวของรายได้ Red Hat และยอดขายซอฟต์แวร์... จะทำให้บางคนผิดหวัง ซึ่งคาดหวังว่าจะเห็นการเร่งตัวของการเติบโตในส่วนที่มีอัตรากำไรสูงเช่นนี้” นายไมเคิล แอชลีย์ ชูลแมน (Michael Ashley Schulman) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ Running Point Capital กล่าว
นายจิม คาวานอห์ (Jim Kavanaugh) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน พยายามปลอบใจตลาด โดยระบุว่า บริษัทยังคาดว่าการเติบโตของ Red Hat จะ “อยู่ที่ประมาณ 15% แม้จะอยู่ในระดับต่ำสุดของช่วงที่คาดไว้” และย้ำอีกครั้งว่า Red Hat คือ “หัวใจหลัก” (cornerstone) ของกลยุทธ์การเติบโตด้านซอฟต์แวร์ของ IBM
สำหรับธุรกิจ AI ซึ่งได้รับความสนใจสูง ซีอีโออาร์วินด์ กฤษณะ เปิดเผยว่า ธุรกิจ AI ของบริษัทขณะนี้มีมูลค่าเกิน 9,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจาก 7,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาส 2
อย่างไรก็ตาม การวิเคราะห์เชิงลึกโครงสร้างรายได้ดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า รายได้จากธุรกิจ AI ประมาณ 80% มาจากหน่วยงานที่ปรึกษา ส่วนอีก 20% เท่านั้นที่มาจากหน่วยงานซอฟต์แวร์ ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่า ธุรกิจที่ปรึกษามักมีอัตรากำไรต่ำกว่าธุรกิจซอฟต์แวร์ และเกี่ยวข้องกับวงจรโครงการที่ยาวนานกว่า รวมถึงความเสี่ยงในการดำเนินงานที่สูงกว่า
“บริษัทเห็นว่า การจองบริการ (bookings) กำลังแปลงเป็นรายได้มากขึ้น เนื่องจากลูกค้าเริ่มนำโครงการ AI ไปใช้งานจริง” คาวานอห์กล่าว และเสริมว่า สิ่งนี้กำลังช่วยผลักดันให้เกิด “จุดเปลี่ยน” (inflection) ของการเติบโตในธุรกิจที่ปรึกษา
นอกจากนี้ รายงานยังแสดงให้เห็นว่า หน่วยงานโครงสร้างพื้นฐานของ IBM ทำผลงานแข็งแกร่งในไตรมาสนี้ โดยรายได้พุ่งขึ้น 17% เมื่อเทียบปีต่อปี เป็น 3.56 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
คาวานอห์อธิบายว่า คอมพิวเตอร์เมนเฟรมรุ่นใหม่ ซึ่งติดตั้งชิปที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับการประมวลผล AI กำลังได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากภาคการเงิน ช่วยให้พวกเขาสามารถรักษาข้อกำหนดด้านการจัดเก็บข้อมูลภายในประเทศ (data residency) และการเข้ารหัส (encryption) อย่างเข้มงวด ขณะที่ยังคงนำเทคโนโลยี AI มาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เนื้อหานี้แปลโดย AI ซึ่งอาจมีข้อผิดพลาดจากข้อจำกัดทางเทคโนโลยีและภาษา จึงไม่สามารถรับประกันความถูกต้อง และความสมบูรณ์ของเนื้อหาได้ทั้งหมด ในการนำข้อมูลไปใช้ โปรดอ้างอิงจากต้นฉบับ และใช้วิจารณญาณประกอบการตัดสินใจ ทั้งนี้ บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายหรือความเข้าใจผิดใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการใช้เนื้อหาดังกล่าว
ลิงก์บทความต้นฉบับ