ไนกี้ (NKE): แผนพร้อมแล้ว เหลือเพียงการดำเนินการ

แหล่งที่มา Tradingkey

TradingKey - ไนกี้เตรียมประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกหลังตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการวันที่ 30 กันยายน ยักษ์ใหญ่ด้านเครื่องแต่งกายกีฬาแห่งนี้กำลังเผชิญช่วงเวลาที่ลำบากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ เนื่องจากความผิดพลาดเชิงกลยุทธ์หลายครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ราคาหุ้นร่วงลงกว่า 60% จากจุดสูงสุดปี 2021 และปรับลดลงสะสม 6% ตั้งแต่ต้นปี สร้างผลตอบแทนที่ต่ำกว่าตลาดโดยรวม

ในมุมมองทางการเงิน ความคาดหวังของตลาดต่อไนกี้ถือว่าต่ำ นักวิเคราะห์ประเมินว่าตัวชี้วัดทางการเงินสำคัญแทบทั้งหมดจะลดลง ทั้งรายได้ กำไรต่อหุ้น อัตรากำไรขั้นต้น และกำไรจากการดำเนินงาน อย่างไรก็ตาม ความคาดหวังเชิงลบนี้ได้สะท้อนอยู่ในราคาหุ้นไปแล้ว เนื่องจากหุ้นไนกี้ปัจจุบันถูกจัดเป็น “หุ้นฟื้นตัว” ความสนใจของตลาดจะมุ่งไปที่สัญญาณบวกใด ๆ เกี่ยวกับการเติบโตของรายได้และการขยายตัวของอัตรากำไรในปีหน้า ปัจจุบันฝ่ายบริหารได้ให้กรอบประมาณการปีงบประมาณ 2026 ไว้อย่างคร่าว ๆ ได้แก่ รายได้จะหดตัวในระดับกลางหลักเดียว และกำไรต่อหุ้น (EPS) อยู่ที่ 1.68 ดอลลาร์ ไม่ว่าฝ่ายบริหารจะปรับตัวเลขนี้หรือไม่ ย่อมส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นอย่างมีนัยสำคัญ


ประเด็นที่น่าจับตา

1. การพัฒนาแบรนด์ กลยุทธ์ใหม่ “Win Now” มุ่งเน้นไปที่นวัตกรรมสินค้า ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ช่วยยกระดับประสิทธิภาพในกีฬาต่าง ๆ เช่น การวิ่ง บาสเกตบอล และฟิตเนส ไนกี้ต้องการกลับคืนสู่แก่นแท้ของการกีฬา พร้อมทั้งสร้างความร่วมมือกับแบรนด์และนักกีฬามากขึ้น ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่เคยทำให้ไนกี้ครองตลาด กลยุทธ์นี้ยังเป็นการตอบโต้คู่แข่งรายใหม่อย่าง Hoka และ On อีกด้วย ในรายงานผลประกอบการที่จะถึง ฝ่ายบริหารอาจเปิดเผยผลงานของสินค้าใหม่ เช่น Nike Pegasus Premium, Nike Air Max Dn8 และ NikeSKIMS รวมถึงผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่อยู่ระหว่างการเปิดตัว

2. การกลับสู่ช่องทางค้าส่ง หนึ่งในสาเหตุหลักของปัญหาที่ไนกี้เผชิญ คือการยกเลิกความร่วมมือกับผู้ค้าส่งรายใหญ่ เช่น Footlocker เพื่อผลักดันกลยุทธ์ “ขายตรงถึงผู้บริโภค” ปัจจุบัน CEO คนใหม่ Elliot Hill กำลังเดินหน้าฟื้นฟูความสัมพันธ์กับพันธมิตรด้านการจัดจำหน่าย รายงานสำรวจภาคสนามของ JPMorgan ระบุว่าการจัดวางสินค้าของไนกี้ในร้าน Footlocker ดีขึ้นต่อเนื่อง ไตรมาสเดียวกันปีก่อน ธุรกิจค้าส่งมีสัดส่วนถึง 58% ของรายได้รวม และคาดว่าตัวเลขนี้จะยังคงปรับสูงขึ้น

3. สถานะสินค้าคงคลัง รายงานล่าสุดระบุว่าสินค้าคงคลังอยู่ที่ 7.5 พันล้านดอลลาร์ ลดลงจากจุดสูงสุด 8.5 พันล้านดอลลาร์ในปี 2023 นักลงทุนจะจับตาทิศทางการเคลียร์สต็อก หากความเร็วในการระบายสินค้าคงคลังไม่เพียงพอ ไนกี้อาจต้องใช้กลยุทธ์การลดราคาที่รุนแรงขึ้น ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อการฟื้นตัวของอัตรากำไร

4. ตลาดจีน ตลาดจีนกำลังกลายเป็นอีกหนึ่งความท้าทายสำคัญ ไนกี้ต้องเผชิญการแข่งขันรุนแรงจากแบรนด์ท้องถิ่นอย่าง Anta และ Li-Ning แม้จีนมีสัดส่วนเพียง 15% ของรายได้รวม แต่รายได้หดตัวแรง โดยปีงบประมาณ 2025 ลดลงถึง 9% ในกลยุทธ์ “Win Now” การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ท้องถิ่นถูกวางเป็นหัวใจสำคัญ เช่นรองเท้าบาสเกตบอล Nike S.T. Flare ที่ออกแบบเฉพาะสำหรับตลาดจีน


บทสรุปและความเสี่ยง

ในด้านบวก ไนกี้ได้กำหนดแผนฟื้นตัวอย่างชัดเจน ผ่านการเสริมสร้างนวัตกรรมผลิตภัณฑ์และการกลับสู่ช่องทางค้าส่ง ซึ่งสร้างความหวังให้แก่นักลงทุน อย่างไรก็ตาม ดังที่สะท้อนผ่านความคาดหวังที่ต่ำจากนักวิเคราะห์ เส้นทางการฟื้นตัวย่อมไม่อาจเกิดขึ้นในทันที กระบวนการนี้เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน และปัจจัยมหภาคที่ซับซ้อน รวมถึงปัญหาภาษีนำเข้า จะยิ่งยืดเยื้อระยะเวลาการฟื้นตัวออกไป

ลิงค์เดิม

เนื้อหานี้แปลโดย AI ซึ่งอาจมีข้อผิดพลาดจากข้อจำกัดทางเทคโนโลยีและภาษา จึงไม่สามารถรับประกันความถูกต้อง และความสมบูรณ์ของเนื้อหาได้ทั้งหมด ในการนำข้อมูลไปใช้ โปรดอ้างอิงจากต้นฉบับ และใช้วิจารณญาณประกอบการตัดสินใจ ทั้งนี้ บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายหรือความเข้าใจผิดใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการใช้เนื้อหาดังกล่าว

Stock Score(TH)

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: เพื่อการอ้างอิงเท่านั้น ผลการดำเนินงานในอดีตไม่ได้บ่งบอกถึงผลลัพธ์ในอนาคต
placeholder
คว้าโอกาสในการกู้คืนชิป: หุ้น Semiconductor 10 ตัวที่น่าลงทุนในปี 2566หากปี 2564 เป็นปีเก็บเกี่ยวของนักลงทุน semiconductor หลังจากประสบปัญหาผลประกอบการตกต่ำในปี 2565 ที่ผ่านมานี้ นักลงทุนจะลงทุนในหุ้นเซมิคอนดักเตอร์ในปี 2566 อย่างไร บทความนี้มีคำตอบ หุ้นเซมิคอนดักเตอร์ 10 ตัวที่ควรค่าแก่การลงทุน
ผู้เขียน  Mitrade
วันที่ 13 มิ.ย. 2023
หากปี 2564 เป็นปีเก็บเกี่ยวของนักลงทุน semiconductor หลังจากประสบปัญหาผลประกอบการตกต่ำในปี 2565 ที่ผ่านมานี้ นักลงทุนจะลงทุนในหุ้นเซมิคอนดักเตอร์ในปี 2566 อย่างไร บทความนี้มีคำตอบ หุ้นเซมิคอนดักเตอร์ 10 ตัวที่ควรค่าแก่การลงทุน
placeholder
คาดการณ์ XAUUSD: ราคาทองคำเคลื่อนตัวสูงขึ้นใกล้ $3,750 ท่ามกลางการเก็งการลดดอกเบี้ยและความเสี่ยงทางภูมิศาสตร์ในช่วงเช้าของตลาดลงทุนเอเชียวันพฤหัสบดี ราคาทองคํา (XAUUSD) เคลื่อนไหวในแดนบวกที่บริเวณ $3,750 ทองคำปรับตัวสูงขึ้นท่ามกลางความคาดหวังเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ จากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในปีนี้และความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงมีอยู่
ผู้เขียน  FXStreet
9 เดือน 25 วัน พฤหัส
ในช่วงเช้าของตลาดลงทุนเอเชียวันพฤหัสบดี ราคาทองคํา (XAUUSD) เคลื่อนไหวในแดนบวกที่บริเวณ $3,750 ทองคำปรับตัวสูงขึ้นท่ามกลางความคาดหวังเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ จากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในปีนี้และความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงมีอยู่
placeholder
คาดการณ์ราคาเงิน: XAG/USD ยังคงอยู่เหนือ $45.00 ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 14 ปีใหม่ในช่วงเช้าของตลาดลงทุนยุโรป ราคาเงิน (XAG/USD) ยังคงอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 14 ปีใหม่ที่ $45.29 ซึ่งทำได้เมื่อวันศุกร์ ซื้อขายอยู่ที่ประมาณ $45.20 โลหะมีค่าเงินยังคงเป้นขาลงหลัเพิ่มขึ้นเกือบ 3% ในเซสชันก่อนหน้า นักลงทุนรอข้อมูลดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐฯ ในเดือนสิงหาค
ผู้เขียน  FXStreet
9 เดือน 26 วัน ศุกร์
ในช่วงเช้าของตลาดลงทุนยุโรป ราคาเงิน (XAG/USD) ยังคงอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 14 ปีใหม่ที่ $45.29 ซึ่งทำได้เมื่อวันศุกร์ ซื้อขายอยู่ที่ประมาณ $45.20 โลหะมีค่าเงินยังคงเป้นขาลงหลัเพิ่มขึ้นเกือบ 3% ในเซสชันก่อนหน้า นักลงทุนรอข้อมูลดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐฯ ในเดือนสิงหาค
placeholder
XPL พุ่งแรงต่อเนื่องกว่า 14% วันนี้! นักลงทุนแห่ไล่ซื้อ กระแส FOMO ถาโถมตลาดTradingKey - ราคาของ XPL ทะยานต่อเนื่องทะลุ 1.7 ดอลลาร์ บรรยากาศ FOMO ในตลาดหนาแน่น นักลงทุนควรระวังความเสี่ยงจากการปรับฐานในวันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน Plasma (XPL) เดินหน้าปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง พุ่งแตะ
ผู้เขียน  TradingKey
เมื่อวาน 07: 27
TradingKey - ราคาของ XPL ทะยานต่อเนื่องทะลุ 1.7 ดอลลาร์ บรรยากาศ FOMO ในตลาดหนาแน่น นักลงทุนควรระวังความเสี่ยงจากการปรับฐานในวันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน Plasma (XPL) เดินหน้าปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง พุ่งแตะ
placeholder
บิตคอยน์หลังการเทขาย: สูงสุดใหม่ไม่น่าเกิดในปี 2025 นักวิเคราะห์ชี้ตัวกระตุ้นสำคัญอยู่ที่ประธานเฟดคนใหม่TradingKey - บิตคอยน์ร่วงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 วัน (100-day moving average) สัปดาห์นี้ ในขณะที่ ETF อีเทอร์เนียมแบบสปอตบันทึกการไหลออกสัปดาห์ละสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่งสัญญาณว่าตลาดคริปโทเคอ
ผู้เขียน  TradingKey
เมื่อวาน 08: 47
TradingKey - บิตคอยน์ร่วงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 วัน (100-day moving average) สัปดาห์นี้ ในขณะที่ ETF อีเทอร์เนียมแบบสปอตบันทึกการไหลออกสัปดาห์ละสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่งสัญญาณว่าตลาดคริปโทเคอ
goTop
quote