อัลวิน หลิว นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของกลุ่มยูโอบีกล่าวว่ารายงานการจ้างงานล่าสุดของสหรัฐฯ โดยสํานักงานสถิติแรงงาน (BLS) เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (2 สิงหาคม) อาจเป็นการพลิกผันต่อความเชื่อมั่นในตลาดแรงงานสหรัฐฯ รายงานว่าการจ้างงานในเดือนก.ค. แย่กว่าที่คาดการณ์ไว้ (แต่ยังคงเป็นบวก) ในขณะที่อัตราการว่างงานขยับสูงขึ้นอย่างน่าประหลาดใจเป็น 4.3% และการเติบโตของค่าจ้างลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้
"รายงานการจ้างงานของสหรัฐฯ ในเดือนก.ค. เป็นเรื่องที่น่ากังวล เนื่องจากการจ้างงานชะลอตัวลงอย่างรวดเร็วเป็น 114,000 ตําแหน่ง แต่ความเสียหายที่มากกว่านั้นคืออัตราการว่างงานที่พุ่งสูงขึ้นเป็น 4.3% (สูงสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2021) เนื่องจากจํานวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้นอีก 352,000 คนในเดือนกรกฎาคม ในขณะเดียวกัน อัตราการมีส่วนร่วมในตลาดแรงงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 62.7% การเติบโตของค่าจ้างลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 0.2% m/m, 3.6% y/y ในเดือนกรกฎาคม ทําให้ความกังวลเรื่องเงินเฟ้อลดลง"
"ในขณะที่การจ้างงานในช่วง 7 เดือนแรกมีแนวโน้มปานกลางอย่างชัดเจน (เมื่อเทียบกับสามปีก่อนหน้า) แต่ในเดือนกรกฎาคม ก็มีฐานการสร้างงานในภาคส่วนต่างๆ ที่แคบลง โดยมีคนในภาคบริการจํานวนมากที่ตกงาน"
"ปัจจัย 'กระตุ้น' ตลาดอย่างกฎของ Sahm เกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐฯ กลายเป็นที่สนใจ เนื่องจากอัตราการว่างงานที่พุ่งสูงขึ้นทําให้เกิดการเทขายในตลาดหุ้น และการเก็งการปรับดอกเบี้ยของเฟดอย่างรวดเร็ว นักวิเคราะห์หลายๆ คนกลับลำมาเรียกร้องให้เฟดลดอัตราดอกเบี้ยมากขึ้นและลึกขึ้นในปีนี้ เรายังคงคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลด 25 bps สองครั้งในเดือนกันยายนและธันวาคม แต่เรายอมรับว่าความสมดุลของความเสี่ยงได้แกว่งไปอย่างรวดเร็วจากการปรับลดดอกเบี้ยน้อยลง (หรือไม่มีเลย) ไปสู่การปรับลดดอกเบี้ยมากขึ้นและลึกขึ้นอย่างเห็นได้ชัด"