วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 29 เม.ย. 2567

กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้

เทรดทองเดี๋ยวนี้ >     

*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣ 

*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰 

*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁

วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 29 เมษายน 2567 ราคาทองคำปรับตัวลงเล็กน้อย ท่ามกลางข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แสดงให้เห็นแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ ราคาทองคำ (XAU/USD) ซื้อขายอยู่ที่ระดับ 2,327 ดอลลาร์ในช่วงเช้าวันจันทร์นี้ โดยปรับตัวลงเล็กน้อยจากวันศุกร์ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ล่าสุดแสดงให้เห็นว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง ซึ่งทำให้ตลาดมีข้อสงสัยเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในระยะใกล้ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed)

ในวันพุธนี้ การประกาศผลการประชุมและการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของ Fed จะเป็นสิ่งที่ตลาดจับตามองอย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกัน ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ซึ่งเป็นตัววัดมูลค่าของดอลลาร์สหรัฐเทียบกับตะกร้าเงินสกุลหลักที่ใช้ในการค้าของสหรัฐฯ ปรับตัวลงสู่ระดับต่ำกว่า 106.00 อีกครั้ง ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับลดลงเล็กน้อย โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะ 10 ปี อยู่ที่ 4.667%

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) และดัชนี Core PCE สำหรับเดือนมีนาคม ออกมาตรงตามที่คาดการณ์ไว้ โดยเพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบรายเดือน อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานรายปีอยู่ที่ 2.7% ในเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้นจาก 2.5% ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งร้อนแรงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 2.6% ส่วนเงินเฟ้อ Core PCE เพิ่มขึ้น 2.8% เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 2.6%

ตลาด Futures ได้ตั้งราคาไว้ว่ามีโอกาสเกือบ 60% ที่ Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายน ซึ่งสูงกว่าเล็กน้อยก่อนที่จะมีรายงานดังกล่าว ตามเครื่องมือ CME FedWatch คาดการณ์ว่า Fed จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในช่วง 5.25% - 5.5% ในวันพุธนี้ และจะส่งสัญญาณต่อไปว่ายังไม่จำเป็นต้องรีบลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งท่าทีแบบนี้อาจลดความน่าสนใจของโลหะมีค่าที่ไม่ให้ผลตอบแทน และกดดันราคาทองคำได้

เหตุการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำ

ในวันเสาร์ที่ผ่านมา ฮามาสระบุว่ากำลังพิจารณาข้อเสนอล่าสุดของอิสราเอลเกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิงในกาซา ขณะที่อียิปต์พยายามอย่างหนักเพื่อให้อิสราเอลและฮามาสบรรลุข้อตกลงหยุดยิง เพื่อหลีกเลี่ยงการบุกรุกทางทหารของอิสราเอลในเมืองราฟาห์ ทางใต้ของกาซา ตามรายงานของ The Guardian นักลงทุนทองคำควรจับตาดูพัฒนาการเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลาง หากสถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้น อาจส่งผลดีต่อสินทรัพย์ปลอดภัยดั้งเดิมอย่างทองคำ

การตัดสินใจของ Fed ในสัปดาห์นี้เพิ่มความผันผวนให้ราคาทองคำ

นักลงทุนทองคำอาจเห็นความผันผวนเพิ่มขึ้นในสัปดาห์นี้ เนื่องจากคาดการณ์ว่า Fed จะส่งสัญญาณว่าจะยังไม่พร้อมปรับลดอัตราดอกเบี้ยก่อนช่วงกลางปี ในขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์ระบุว่า หากการลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงหลังกลางปีถูกตัดออกไป เป็นไปได้ยากที่ Fed จะเริ่มวัฏจักรผ่อนคลายก่อนการเลือกตั้งสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายน 2024 ที่ผ่านมา ท่าทีของธนาคารกลางจะเป็นปัจจัยลบต่อทองคำ หลังจากที่ราคาทองคำไม่สามารถรักษาระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เหนือ 2,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้

นักลงทุนบางส่วนเริ่มทำกำไร อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางคนกล่าวว่านักลงทุนจำนวนมากยังคงยึดถือกำไรที่มีอย่างมั่นคงแม้ว่าราคาจะร่วงลงอย่างรุนแรงก็ตาม นักวิเคราะห์ยังระบุว่าข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดทำให้ธนาคารกลางอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก เนื่องจากเงินเฟ้อยังคงสูงอย่างดื้อรั้น ขณะที่การเติบโตชะลอตัวลงซึ่งให้การสนับสนุนทองคำได้บางส่วน

Phillip Streible หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ตลาดของ Blue Line Futures กล่าวว่าเขายังคงมีมุมมองในเชิงบวกต่อทองคำ เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ดูเหมือนจะเข้าสู่ช่วงของภาวะเศรษฐกิจถดถอย อย่างไรก็ตาม เขาเสริมว่านักลงทุนจะต้องติดตามข้อมูลในสัปดาห์นี้อย่างใกล้ชิด รวมถึงตัวเลขการจ้างงานภาครัฐเดือนเมษายน Streible กล่าวเพิ่มเติมว่ารายงานจำนวนการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่น่าผิดหวัง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเติบโตของการจ้างงานที่อ่อนแอและค่าจ้างที่สูง จะทำให้ภาพภาวะเศรษฐกิจถดถอยชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งอาจผลักดันให้ราคาทองคำออกจากการเคลื่อนไหวในกรอบปัจจุบัน

ปัจจัยสนับสนุนให้ราคาทองคำยังอยู่ในระดับสูง นอกเหนือจากนโยบาย Fed

แม้ว่าข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ และอัตราดอกเบี้ยจะสร้างความผันผวนระยะสั้นให้กับตลาดทองคำ แต่นักวิเคราะห์ระบุว่าปัจจัยเหล่านี้ยังคงเป็นปัจจัยรองสำหรับโลหะมีค่า แม้ว่าจะประสบภาวะขาลงที่รุนแรงที่สุดในรอบประมาณ 2 ปีเมื่อต้นสัปดาห์ก่อน แต่การปรับฐานของราคาทองคำจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ก็ยังค่อนข้างตื้น นักวิเคราะห์ยังระบุว่ามีปัจจัยอื่นๆ ที่สนับสนุนทองคำ เช่น หนี้และการขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

Ole Hansen หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์ของ Saxo Bank กล่าวว่าพฤติกรรมล่าสุดแสดงให้เห็นว่านักลงทุนมีความกังวลเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับเงินเฟ้อและวิกฤตหนี้ที่อาจเกิดขึ้น ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐยังคงเพิ่มสูงขึ้น

Robert Minter ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนของ abrdn คาดว่าราคาทองคำจะได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดี ในขณะที่สถาบันการเงินกังวลเกี่ยวกับหนี้ที่เพิ่มขึ้นของรัฐบาลสหรัฐฯ เขาเสริมว่าในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ ธนาคารกลางจะยังคงจำกัดการเปิดรับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐและหนี้สินสหรัฐฯ

Minter กล่าวว่าในที่สุดกลุ่มผู้ปกป้องตลาดพันธบัตรจะกลับมา เพราะการใช้จ่ายของรัฐบาลควบคุมไม่ได้ ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยสำหรับหนี้รัฐบาลสหรัฐฯ มากกว่าค่าใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศของสหรัฐฯ เสียอีก ซึ่งมีทางเลือกอื่นนอกจากการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ นั่นก็คือการถือครองทองคำ นักลงทุนทั่วไปอาจยังไม่เห็นสิ่งนี้ แต่พวกเขาจะเห็นได้ในบางจุด และราคา 2,400 ดอลลาร์ ไม่ใช่จุดสูงสุดของทองคำอย่างแน่นอน

James Stanley กลยุทธ์การตลาดอาวุโสของ Forex.com กล่าวว่า แม้คาดว่า Fed จะรักษานโยบายการเงินแบบเข้มงวดไว้จนถึงช่วงหลังของปี แต่น้ำเสียงแบบ Hawkish จะผ่อนคลายลง  “พื้นฐานคือ Fed ไม่ต้องการขึ้นดอกเบี้ย พวกเขาจะเปิดประตูสำหรับการลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะสนับสนุนราคาทองคำ” เขากล่าว

อย่างไรก็ตาม Stanley กล่าวว่าเขาให้ความสนใจกับการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในทางเทคนิคในระยะใกล้มากกว่าแนวโน้มพื้นฐานของทองคำ เขาเสริมว่าสัปดาห์นี้จะเป็นการทดสอบที่สำคัญสำหรับทองคำ หากราคาปิดเดือนต่ำกว่า 2,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยระบุว่าระดับนี้กลายเป็นจุดกลับตัวที่สำคัญ

“ทองคำดูซื้อมากเกินไปในกราฟรายเดือน และการปิดตลาดต่ำกว่า 2,300 ดอลลาร์กลางสัปดาห์ อาจทำให้แนวโน้มขาขึ้นมีปัญหา” เขากล่าว

Hansen อธิบายการเคลื่อนไหวของราคาทองคำจนถึงปัจจุบันว่าเป็นการปรับฐานที่ดี เขาเสริมว่าเขามองเห็นระดับแนวรับสำคัญถัดไปราว 2,255 ดอลลาร์ต่อออนซ์ การยืนเหนือระดับนี้จะส่งสัญญาณไปยังตลาดว่าการลดลงของราคาเป็นเพียงการย่อตัวเล็น้อยภายในแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง

สัปดาห์นี้จะเต็มไปด้วยการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่จะเพิ่มความผันผวน แม้ว่าจุดสนใจหลักจะอยู่ที่การประชุมของ Fed และรายงานจำนวนการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์ก็ตาม แต่นักวิเคราะห์กล่าวว่าธีมหลักยังคงเป็นการชักเย่อระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจกับเงินเฟ้อ

วิเคราะห์กราฟทองคำประจำวัน ณ ราคาปัจจุบันที่ $2,327 ซึ่งอยู่ต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย EMA 12 ที่ $2,333 และ EMA 26 ที่ $2,335 แสดงให้เห็นถึงแรงขายที่เข้ามากดดันราคาในระยะสั้น

อย่างไรก็ตาม ราคายังคงอยู่เหนือเส้น EMA 200 ที่ระดับ $2,280 ซึ่งถือเป็นแนวรับสำคัญในภาพรวม หากราคาสามารถยืนเหนือแนวรับนี้ได้ ก็มีโอกาสดีดตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่บริเวณ EMA 12 และ EMA 26 อีกครั้ง ขณะที่เครื่องมือ RSI ปรับตัวลงต่ำกว่าระดับ 50 และมีแนวโน้มชี้ลง แสดงถึงโมเมนตัมของราคาที่อ่อนแอในระยะสั้นซึ่งอาจจำกัดการดีดตัวขึ้นของราคา แต่ยังไม่ถึงขั้นเข้าสู่ภาวะ Oversold

สำหรับแนวต้านสำคัญในอีกวันนี้ได้แก่บริเวณ EMA 12 ที่ $2,333 และ EMA 26 ที่ $2,335 ซึ่งเป็นแนวต้านระยะสั้น และถัดไปจะเป็นระดับ $2,350 - $2,366

ส่วนแนวรับสำคัญได้แก่ บริเวณ $2,311 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดของราคาในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาและแนวรับ EMA 200 ที่ $2,280

โดยสรุปคาดว่าในวันนี้ราคาทองคำมีแนวโน้มแกว่งตัวในกรอบ $2,310 - $2,350 โดยต้องจับตาดูว่าราคาจะสามารถยืนเหนือเส้น EMA ระยะสั้นได้หรือไม่ หากหลุดลงมาจะเป็นสัญญาณลบ และอาจเห็นการย่อตัวลงต่อเนื่อง

ในทางกลับกัน หากราคาสามารถดีดกลับขึ้นไปยืนเหนือ EMA 12 และ 26 ได้ ก็จะเป็นสัญญาณบวกที่จะผลักดันให้ราคาปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายที่แนวต้าน $2,350 - $2,366

นักลงทุนจึงควรติดตามบริเวณแนวรับ EMA 200 ที่ $2,280 และแนวต้าน EMA 12, 26 ที่ $2,333 - $2,335 เป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นระดับราคาที่มีนัยสำคัญต่อทิศทางระยะสั้นของราคา รวมถึงควรติดตาม Divergence ของ RSI ซึ่งอาจส่งสัญญาณเตือนล่วงหน้าถึงการกลับตัวของราคาในอนาคต

ภาพประกอบวิเคราะห์กราฟทองคำ

แนวรับ ในวันนี้จะอยู่ที่บริเวณ $2,311 / $2,294 - $2,280

แนวต้าน ในวันนี้จะอยู่ที่บริเวณ $2,350 - $2,366 / $2,380