วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 5 ม.ค. 2567

กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้

เทรดทองเดี๋ยวนี้ >      

*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣ 

*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰 

*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁

Gold Spot ในปัจจุบันอยู่ที่บริเวณ $2,047 ขณะที่ Gold Futures อยู่ที่บริเวณ $2,053.2

ราคาทองคำค่อนข้างทรงตัวในวันที่ผ่านมาหลังจากลดลงมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงปลายปี ขณะที่ตลาดเตรียมพร้อมสำหรับข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ที่อาจส่งผลต่อเส้นทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม รายงานการประชุมคณะกรรมการตลาดกลางสหรัฐ (FOMC) ที่เผยแพร่ออกมาแสดงถึงความไม่แน่นอนว่าเมื่อใดที่ Fed จะประกาศการตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งอาจทำให้ราคาทองคำมีความผันผวนสูง

ในขณะเดียวกัน แนวโน้มทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจบังคับให้ผู้กำหนดนโยบายชะลอการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ แม้ว่าพวกเขาจะกังวลเกี่ยวกับนโยบายที่เข้มงวดมากเกินไปก็ตาม

ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงการจ้างงานของ ADP ที่สหรัฐฯ ในเดือนธันวาคมและการขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์สำหรับสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 29 ธันวาคม ยังคงเป็นไปในทิศทางที่ดี 

ในวันที่ผ่านมา ADP กล่าวว่ามีการสร้างงาน 164,000 ตำแหน่งในเดือนสุดท้ายของปี รายงานดังกล่าวเหนือความคาดการณ์ของตลาด โดยการจ้างงานเพิ่มขึ้น 120,000 ตำแหน่ง

“การจ้างงานเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน นำโดยการจ้างงานด้านสันทนาการและการต้อนรับที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก การก่อสร้างยังคงแข็งแกร่งเมื่อเผชิญกับอัตราดอกเบี้ยที่สูง แต่การผลิตยังคงต้องดิ้นรนซึ่งส่งผลให้ติดลบอีกเดือนหนึ่ง” รายงานกล่าว

แม้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะยังคงสร้างงานได้มากกว่าที่คาดไว้ แต่รายงานระบุว่าอัตราเงินเฟ้อด้านค่าจ้างกำลังเป็นภัยคุกคามต่อเศรษฐกิจน้อยลง

รายงานระบุว่าสำหรับคนงานที่ยังคงทำงานอยู่นั้น ค่าจ้างของพวกเขาเพิ่มขึ้น 5.6% ในเดือนที่แล้ว ซึ่งลดลงเมื่อเทียบกับที่เพิ่มขึ้น 5.6% ในเดือนพฤศจิกายน ค่าจ้างลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนกันยายน 2022

“เรากำลังกลับไปสู่ตลาดแรงงานที่สอดคล้องกับการจ้างงานก่อนการแพร่ระบาดอย่างมาก” Nela Richardson หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ ADP กล่าว 

“แม้ว่าค่าแรงไม่ได้ผลักดันให้เกิดภาวะเงินเฟ้อเมื่อเร็วๆ นี้ แต่ตอนนี้การเติบโตของค่าจ้างได้ลดลงแล้ว ความเสี่ยงใดๆ ของราคาค่าจ้างก็หายไปหมดแล้ว”

นักวิเคราะห์บางคนได้อธิบายข้อมูลการจ้างงานล่าสุดว่าเป็น “ความตึงเครียดของทองคำ” เนื่องจากการจ้างงานยังคงมีความแข็งแกร่ง แต่อัตราเงินเฟ้อยังคงผ่อนคลายลง อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางคนกล่าวว่ารายงานดังกล่าวไม่สนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐที่กำลังจะเกิดขึ้น

ขณะที่ทางฝั่งกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ระบุว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 18,000 รายเป็น 202,000 รายในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 30 ธันวาคม ลดลงจากตัวเลขประมาณการในสัปดาห์ก่อนซึ่งอยู่ที่ 220,000 ราย

ตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าการคาดการณ์โดยนักเศรษฐศาสตร์ ซึ่งคาดการณ์ว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานจะลดลงเล็กน้อยเป็น 216,000 ราย

ขณะที่ตลาดทองคำยังคงติดอยู่ในบริเวณราคาต่ำกว่า 2,050 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตาม BCA Research ระบุว่าทองคำยังคงเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่สำคัญต่ออัตราเงินเฟ้อและความเสี่ยงด้านตลาดการเงิน และโลหะมีค่าก็มีแนวโน้มจะปรับตัวสูงขึ้นทุกปี

ในการคาดการณ์แนวโน้มปี 2024 นักวิเคราะห์จาก BCA คาดว่าราคาทองคำจะพุ่งขึ้นไปที่ 2,200 ดอลลาร์ในปีนี้ ในขณะที่นักลงทุนทองคำจำนวนมากยังคงจับตาดูสัญญาณการผ่อนปรนของธนาคารกลางสหรัฐ นักวิเคราะห์ที่ BCA กล่าวว่ายังมีปัจจัยอื่นๆ อีกมากมายที่จะสนับสนุนราคาทองคำให้สูงขึ้นในปีใหม่

เมื่อพิจารณานโยบายการเงินของสหรัฐฯ BCA คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยช้ากว่าที่ตลาดคาดไว้ ปัจจุบัน ธนาคารกลางได้ส่งสัญญาณถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสามครั้งในปีนี้ ในขณะที่ CME FedWatch Tool แสดงให้เห็นว่าตลาดต่างๆ เห็นว่าอัตรา Fed Funds จะลดลงต่ำกว่า 4.00% ภายในสิ้นปีนี้

ในเวลาเดียวกัน BCA ไม่คาดหวังว่าอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นเป็นเวลานานจะผลักดันเศรษฐกิจให้เข้าสู่ภาวะถดถอย แม้ว่ากิจกรรมจะชะลอตัวก็ตาม BCA กล่าวว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ลดลงและค่าจ้างที่ดีควรผลักดันการบริโภคที่แท้จริง และสนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจ

“ค่าจ้างได้เพิ่มขึ้นหลังการระบาดใหญ่ ส่งผลให้ครัวเรือนมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น กล่าวคือ รายได้ที่แท้จริงจะเพิ่มขึ้น” นักวิเคราะห์กล่าว 

“สิ่งนี้ควรจะคงอยู่ต่อไปในระยะสั้น แม้ว่าจำนวนผู้ว่างงานต่อตำแหน่งงานว่างดูเหมือนจะกลับมาสู่ระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาด จากอัตราเกือบสองเท่าของอัตราก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19”

แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อคาดว่าจะลดลง แต่ BCA กล่าวว่าไม่น่าจะบรรลุเป้าหมายของธนาคารกลางที่ 2% ซึ่งจะทำให้ทองคำเป็นการป้องกันความเสี่ยงเงินเฟ้อในระยะยาวที่น่าดึงดูด ในขณะเดียวกัน หนี้รัฐบาลที่เพิ่มขึ้น ความไม่แน่นอนทางภูมิศาสตร์การเมือง และแนวโน้มโลกาภิวัตน์ที่เปลี่ยนแปลงไป คาดว่าจะช่วยสนับสนุนอัตราเงินเฟ้อในระยะยาวอีกด้วย

“หนี้ของรัฐบาลกลางที่เพิ่มขึ้นยังคงเป็นความเสี่ยงเงินเฟ้อระยะกลางถึงระยะยาว เนื่องจากจะเพิ่มโอกาสที่ Fed จะถูกบังคับให้เข้าสู่โหมดการดำเนินงานแบบครอบงำทางการคลัง” พวกเขากล่าว 

“การกระจายตัวของเศรษฐกิจโลกยังคงเป็นความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อในระยะกลางถึงระยะยาว เนื่องจากจะทำให้ห่วงโซ่อุปทานที่มีการพัฒนาอ่อนแอลง และทำให้การจัดสรรทรัพยากรไม่มีประสิทธิภาพมากขึ้น”

นักวิเคราะห์ยังคาดหวังว่าความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์จะช่วยสนับสนุนการดึงดูดสินทรัพย์ปลอดภัยของทองคำได้จนถึงปี 2024 พวกเขากล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงพลังงานสีเขียวและการแข่งขันเพื่อให้ได้มาซึ่งวัตถุดิบเพื่อให้บรรลุเป้าหมายระยะยาวจะกระชับความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ทั่วโลก

“ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง ยุโรปตะวันออก รวมถึงทะเลตะวันออกและจีนใต้ยังคงเพิ่มสูงขึ้น และจะเพิ่มขึ้นไปอีก สิ่งนี้ก็เป็นความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อเช่นกัน เนื่องจากสงครามยังคงมีอยู่และโอกาสในการแพร่กระจายในวงกว้างก็เพิ่มขึ้น” นักวิเคราะห์กล่าว

ปัจจัยสุดท้ายที่สนับสนุนราคาทองคำในปี 2024 คืออุปสงค์ของธนาคารกลางที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง นักวิเคราะห์ตั้งข้อสังเกตว่าความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้นจะสร้างแรงกดดันต่อดอลลาร์สหรัฐในฐานะสกุลเงินสำรองของโลก ส่งผลให้ทองคำเป็นโลหะทางการเงินที่น่าดึงดูด

“ในขณะที่โลกแยกออกเป็นกลุ่มการค้าระหว่างตะวันออกและตะวันตก แนวโน้มอย่างต่อเนื่องของการกระจายตัวของการค้าจะท้าทายความต้องการระบบการเงินที่เน้นดอลลาร์สหรัฐเป็นศูนย์กลาง และจะเห็น ธนาคารกลางหันไปหาทองคำในฐานะที่หลบภัย ท่ามกลางความไม่แน่นอนของนโยบายเศรษฐกิจโลกที่เพิ่มขึ้น ” นักวิเคราะห์กล่าว

การไม่มีสัญญาณว่าเมื่อใดที่ธนาคารกลางจะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยได้ส่งผลกระทบเล็กน้อยต่อแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเดือนมีนาคม ตามเครื่องมือ CME Fedwatch โอกาสในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม 25 จุดพื้นฐาน เป็น 5.00 - 5.25% ลดลงเหลือ 66.5%

รายงานการประชุใเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจากผู้กำหนดนโยบายของ Fed บ่งชี้ว่าแรงกดดันด้านราคาพื้นฐานกำลังกลับมาสู่เป้าหมาย 2% อย่างชัดเจน และพวกเขามั่นใจว่าจะบรรลุเสถียรภาพด้านราคาโดยไม่ทำให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย

ดัชนีค่าเงินดอลลาร์พักตัว หลังจากขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบสองสัปดาห์ที่ 102.70 เนื่องจากมีสิ่งหนึ่งที่ชัดเจนในใจของนักลงทุนนั่นคือ Fed จะเป็นผู้เริ่มใช้วงจรการลดอัตราดอกเบี้ยในกลุ่มเศรษฐกิจ G7 กลุ่มแรกๆ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ลดลงอย่างมากมาอยู่ใกล้ระดับ 3.91%

อย่างไรก็ตาม อารมณ์ของตลาดอาจมีความผันผวนในตอนนี้ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับรายงาน การจ้างงานนอกภาคการเกษตร และ ISM Services PMI ประจำเดือนธันวาคม ซึ่งจะประกาศในวันนี้

ราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้เล็กน้อย หลังจากปรับฐานลงมาถึงแนวรับที่มีนัยสำคัญ แต่แรงขายอาจจะยังมีอยู่ซึ่งมีโอกาสทำให้ราคาปรับตัวลงอีกครั้ง

ราคาที่ปรับตัวลงเมื่อวันก่อน ลงมาถึงบริเวณ Fibonacci 50% ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ราคาเด้งขึ้นได้เล็กน้อยในวันที่ผ่านมา แต่โดยปกติ เมื่อเกิดการปรับฐาน เรามักจะเห็นการย่อลงระดับ 61.8% - 78.8% เป็นอย่างน้อย ซึ่งทำให้มีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวลงอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันที่มีกำหนดการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อความผันผวนในตลาด

ขณะที่ราคากำลังวิ่งในกรอบสามเหลี่ยม Triangle อีกครั้ง แนวรับระยะสั้นภายในวันนี้จะเริ่มที่บริเวณ $2,040 จนถึง $2,030 ก่อนที่จะเป็นแนว Fibonacci ถัดไปที่ $2,017

ในทางด้านของแนวต้าน จะเริ่มต้นที่ $2,046 -  $2,052 และอีกบริเวณที่ $2,067

กราฟทองคำ 4 ชั่วโมง

แนวรับ ในวันนี้จะอยู่ที่บริเวณ $2,040 - $2,030

แนวต้าน ในวันนี้จะอยู่ที่บริเวณ $2,046 -  $2,052 และ $2,067