วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 13 มี.ค. 2567

กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้

เทรดทองเดี๋ยวนี้ >      

*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣ 

*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰 

*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁

Gold Spot ในปัจจุบันอยู่ที่บริเวณ $2,157.99 ขณะที่ Gold Futures อยู่ที่บริเวณ $2,163.1

ราคาทองคำเผชิญกับแรงกดดันในการขายอย่างรุนแรง หลังจากสำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐ (BLS) รายงานข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ยังคงตึงตัวในเดือนกุมภาพันธ์ ข้อมูล CPI ที่แข็งแกร่งส่งผลให้ความคาดหวังของตลาดสำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในการประชุมนโยบายเดือนมิถุนายนลดลง แรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ยังคงดื้อรั้นทำให้ทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนถูกดึงดูดความสนใจออกไป

อัตราเงินเฟ้อร้อนแรงขึ้นอีกครั้งในเดือนกุมภาพันธ์ ทำให้ Federal Reserve น่าจะต้องชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยออกไปจากในเดือนมิถุนายน

ดัชนีราคาผู้บริโภค ซึ่งเป็นตัวชี้วัดต้นทุนสินค้าและบริการในวงกว้าง เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้น 3.2% จากปีที่แล้ว สำนักงานสถิติแรงงานของกระทรวงแรงงานรายงานเมื่อวันอังคารว่าการเพิ่มขึ้นรายเดือนเป็นไปตามการคาดการณ์ แต่อัตรารายปีนั้นสูงกว่าการคาดการณ์ที่ 3.1% เล็กน้อย

หากไม่รวมราคาอาหารและพลังงานที่ผันผวน CPI พื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนนี้ และเพิ่มขึ้น 3.8% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งทั้งสองสูงกว่าที่คาดการณ์

ต้นทุนพลังงานที่เพิ่มขึ้น 2.3% เป็นตัวเพิ่มอัตราเงินเฟ้อทั่วไป ค่าอาหารทรงตัวในขณะที่ค่าที่พักเพิ่มขึ้นอีก 0.4%

BLS รายงานว่าการเพิ่มขึ้นของพลังงานและที่พักพิงคิดเป็นมากกว่า 60% ของจำนวนทั้งหมด น้ำมันเบนซินพุ่งขึ้น 3.8% ขณะที่ค่าเช่าซึ่งเป็นมาตรวัดสมมุติว่าเจ้าของบ้านสามารถเช่าทรัพย์สินของตนได้เพิ่มขึ้น 0.4%

“อัตราเงินเฟ้อยังคงสูงเกินกว่า 3% และค่าใช้จ่ายด้านที่พักพิงเป็นตัวการหลักอีกครั้ง ด้วยราคาบ้านที่คาดว่าจะสูงขึ้นในปีนี้และค่าเช่าลดลงอย่างช้าๆ ราคาที่พักพิงที่รอคอยมานานก็ไม่สามารถช่วยได้ในเร็วๆ นี้” Robert Frick นักเศรษฐศาสตร์องค์กรของ Navy Federal Credit Union กล่าว 

“รายงานเช่นเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์จะไม่กระตุ้นให้ Fed ลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างรวดเร็วอย่างแน่นอน”

ค่าโดยสารสายการบินเพิ่มขึ้น 3.6% ราคาเครื่องแต่งกายเพิ่มขึ้น 0.6% และยานพาหนะมือสองเพิ่มขึ้น 0.5% บริการทางการแพทย์ซึ่งช่วยให้ CPI เพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนมกราคม ลดลง 0.1% เมื่อเดือนที่แล้ว

CPI ทั่วไปเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบเป็นรายปี สูงกว่าเดือนมกราคม 0.1%

ค่าเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวขึ้นตอบรับข้อมูลของ CPI ตรงกันข้ามกับราคาทองคำที่ปรับตัวลดลง

แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อในช่วง 12 เดือนจะต่ำกว่าจุดสูงสุดในช่วงกลางปี 2022 แต่อัตราเงินเฟ้อยังคงสูงกว่าเป้าหมายของ Fed ที่ 2% ขณะที่ธนาคารกลางกำลังจะเริ่มประชุมนโยบายในช่วงสัปดาห์หน้า

ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ของ Fed ต่างส่งสัญญาณว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในช่วงใดช่วงหนึ่งในปีนี้ และแสดงความระมัดระวังเกี่ยวกับการลดอัตราที่เร็วเกินไปในการต่อสู้กับเงินเฟ้อที่สูงขึ้น คำแถลงหลังการประชุมเดือนมกราคมระบุว่าผู้กำหนดนโยบายจำเป็นต้องมี “ความมั่นใจมากขึ้น” ว่าอัตราเงินเฟ้อกำลังกลับไปสู่เป้าหมาย

ประธาน Jerome Powell กล่าวในคำให้การของรัฐสภาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสะท้อนข้อกังวลเหล่านั้น แม้ว่าเขาจะกล่าวว่า Fed น่าจะ “อยู่ไม่ไกล” จากจุดที่จะเริ่มผ่อนคลายนโยบายการเงินได้

แต่รายงานเมื่อวันอังคารทำให้ Fed ไม่สามารถบรรลุ “ความเชื่อมั่นที่มากขึ้น” ที่จำเป็นในการเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยได้

สำหรับตลาดการเงิน การเปลี่ยนจุดยืนของ Fed จากจุดเปลี่ยนนโยบายที่ชัดเจนในช่วงปลายปี 2023 ส่งผลให้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง จากเดิมตลาดล่วงหน้าคาดว่าจะมีการเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม โดยมีจำนวนครั้งในการปรับนโยบายหกถึงเจ็ดครั้งในปีนี้

แต่แล้ว ความหวังก็ถึงผลักออกไปเป็นเดือนมิถุนายน และจำนวนการปรับอัตราในปีนี้ก็ลดลง

ความเคลื่อนไหวของเศรษฐกิจทำให้ Fed มุ่งเน้นไปที่ข้อมูลที่เข้ามา และทำให้ผู้กำหนดนโยบายไม่ต้องเร่งรีบที่จะลดอัตราดอกเบี้ยลง

ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศสหรัฐฯ ขยายตัวที่ 2.5% ต่อปีในปี 2023 และเพิ่มขึ้นที่ 2.5% ในไตรมาสแรกของปี 2024 ตามรายงานของ GDPNow ของ Atlanta Fed

องค์ประกอบสำคัญอย่างหนึ่งในการเติบโตดังกล่าวคือผู้บริโภคที่มีความยืดหยุ่นซึ่งได้รับแรงหนุนจากตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง ข้อมูลระบุว่าจำนวนงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นอีก 275,000 ตำแหน่งในเดือนกุมภาพันธ์ แม้ว่าการเพิ่มขึ้นจะแตกต่างไปอย่างมากสำหรับตำแหน่งงานนอกเวลา และอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นเป็น 3.9%

แต่ความเข้มแข็งดังกล่าวอาจเป็นดาบสองคมได้ แม้ว่าจะเติบโตได้เมื่อเผชิญกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่รุนแรงได้ซื้อเวลาให้กับ Fed ในเรื่องนโยบาย แต่ก็ยังทำให้เกิดความกังวลว่าอัตราเงินเฟ้ออาจมีความดื้อรั้นมากกว่าที่คาดไว้ โดยเฉพาะค่าที่อยู่อาศัยที่ทำให้เกิดความกังวล

ที่พักพิงเป็นส่วนประกอบประมาณหนึ่งในสามของน้ำหนัก CPI และมีการชะลอตัวลงอย่างช้าๆ ตามมาตรการ BLS เจ้าหน้าที่ของ Fed มองว่าราคาค่าเช่าลดลงตลอดทั้งปี และมาตรการอื่นๆ นอกเหนือจากการคำนวณ CPI ของค่าเช่าที่เทียบเท่ากับเจ้าของได้แสดงให้เห็นถึงแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ผ่อนคลายลง

อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นเกินคาด ทำให้นักเศรษฐศาสตร์คาดหวังว่า Federal Reserve จะเริ่มวงจรผ่อนคลายในเดือนมิถุนายน

“เราเชื่อว่ายังมีแรงกดดันจากเงินเฟ้ออีกมากที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้นทุนแรงงานต่อหน่วยกลับลดลงจนเท่ากับอัตราก่อนเกิดโรคระบาด เราคาดว่า Fed จะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นก็จะมีหลักฐานเพิ่มเติมว่าอัตราเงินเฟ้อ PCE หลักขยับเข้าใกล้เป้าหมาย 2% แต่นั่นจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงในข้อมูล CPI เดือนมีนาคม” Paul Ashworth หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Capital Economics กล่าว

ในเวลาเดียวกัน แม้ว่าความคาดหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายนจะลดลงเล็กน้อย แต่ตลาดยังคงมองเห็นโอกาสมากกว่า 70% ที่จะผ่อนคลายในเดือนมิถุนายน ตามข้อมูลจาก CME FedWatch Tool

แต่ถึงแม้ตลาดทองคำจะเผชิญกับแรงกดดันในการขายตามตัวเลขเงินเฟ้อที่ร้อนเกินคาด อย่างไรก็ตาม การปรับฐานนี้อาจเป็นโอกาสในการซื้อในช่วงสั้น ๆ สำหรับนักลงทุนที่พลาดการปรับตัวขึ้นครั้งแรก

Christopher Vecchio หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ฟิวเจอร์สและฟอเร็กซ์ของ Deliciouslive.com กล่าวว่าทองคำยังมีพื้นที่ให้ปรับตัวลดลงได้อีก แต่เขามองว่าเป็นเรื่องยากที่ทองคำจะเป็นขาลง เขาชี้ให้เห็นว่าทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เนื่องจากหุ้นยังคงมีการซื้อขายในโซนมีการซื้อมากเกินไป เขาเสริมว่าทองคำยังคงได้รับการความเชื่อมั่นอย่างดีในสภาพแวดล้อมที่มีความวุ่นวายทางภูมิรัฐศาสตร์และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่เพิ่มสูงขึ้น

นอกจากนี้เขายังกล่าวอีกว่าทองคำยังได้รับการสนับสนุนจากความเชื่อมั่นว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ าจะเริ่มวงจรการผ่อนคลายที่คาดไว้เร็วกว่าในภายหลัง

“ทองคำดูเหมือนจะเคลื่อนไหวด้วยความคาดหวังของการลดอัตราดอกเบี้ยในที่สุด และที่สำคัญกว่านั้น มันเป็นสินทรัพย์ที่ยอดเยี่ยมที่จะถือครองหากธนาคารกลางสหรัฐไม่สามารถที่จะทำเมื่อสิ้นสุดวงจรการขึ้นอัตราดอกเบี้ย” เขากล่าว

“ทิศทางของอัตราดอกเบี้ยต่ำยังคงเดินหน้าต่อไป และนั่นเป็นประเด็นสำคัญจากคำพูดของ Powell ต่อรัฐสภา ไม่สำคัญว่าการลดครั้งแรกจะมาในเดือนพฤษภาคมหรือมิถุนายน ที่สำคัญคือจะต้องเกิดขึ้นแน่ๆ”

Vecchio คาดว่าเดือนมิถุนายนจะเป็นจุดเริ่มต้นของวงจรการผ่อนคลายครั้งใหม่ เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐกำลังจะหมดเวลาก่อนการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน 2024

“หลังจากเดือนมิถุนายน ปฏิทินจะสั้นลงอย่างรวดเร็วมาก” เขากล่าว

หลังการประชุมวันที่ 12 มิถุนายน ธนาคารกลางสหรัฐจะทำการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงินครั้งต่อไปในวันที่ 31 กรกฎาคม และครั้งต่อไปในวันที่ 18 กันยายน Vecchio ชี้ให้เห็นว่าการประชุมในเดือนกรกฎาคมจะใกล้เคียงกับการประชุมที่ Jackson Hole ของธนาคารกลางมากเกินไป และการประชุมในเดือนกันยายนก็จะใกล้การเลือกตั้งเดือนพฤศจิกายนมากเกินไป

การตัดสินใจในเดือนพฤศจิกายนจะเกิดขึ้นหลังการเลือกตั้ง แต่นั่นไม่ได้ให้ความยืดหยุ่นแก่ธนาคารกลาง หากพวกเขาจำเป็นต้องดำเนินการเชิงรุกเพื่อสนับสนุนความอ่อนแอที่อาจเกิดขึ้นในเศรษฐกิจ

ซึ่งหาก Fed ไม่ลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ พวกเขาจะเหลือการประชุมเพียงสามครั้งในช่วงที่เหลือของปีเพื่อลดอัตราดอกเบี้ยทั้งสามครั้งในปีนี้

ราคาทองคำปรับตัวลดลงหลังยืดเยื้อมานานหลายวัน อย่างไรก็ตาม ยังไม่ถึงเวลาของการปรับตัวลงอย่างเต็มที่ แต่เป็นการพักฐานที่เป็นโอกาสในการเข้าซื้ออีกครั้งสำหรับสถานะกระทิง

ราคาปรับตัวหลังจากโมเมนตัมในระดับชั่วโมงเริ่มอ่อนลงอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้จะมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้บ้าง แต่ราคาน่าจะสามารถย่อตัวได้มากกว่านี้

แนวรับแรกของราคาจะอยู่ที่บริเวณ $2,157 ขณะที่แนวรับสำคัญจะอยู่ที่บริเวณ $2,125

ในฝั่งของแนวต้านจะอยู่ที่เส้นค่าเฉลี่ย EMA 12 ในระดับชั่วโมงบริเวณ $2,165 และแนวต้านใกล้กับจุดสูงสุดตลอดกาลบริเวณ $2,184 - $2,200

กราฟทองคำ 1 วัน และกราฟทองคำ 4 ชั่วโมง

แนวรับ ในวันนี้จะอยู่ที่บริเวณ $2,157 - $2,125

แนวต้าน ในวันนี้จะอยู่ที่บริเวณ $2,184 - $2,200