วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 17 พ.ค. 2567

กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้

เทรดทองเดี๋ยวนี้ >     

*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣ 

*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰 

*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁

วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 17 พฤษภาคม 2567 ราคาทองคำปรับตัวลดลงในวันที่ผ่านมา โดยปัจจุบันราคาอยู่ต่ำกว่าระดับ 2,380 ดอลลาร์ เนื่องจากผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ฟื้นตัวและเป็นแรงหนุนค่าเงินดอลลาร์ให้ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ถึงแม้รายงานเงินเฟ้อของสหรัฐฯ เมื่อวันพุธสนับสนุนการเพิ่มขึ้นของราคาทองคำ แต่ข้อมูลในวันพฤหัสบดีเป็นไปในทิศทางที่หลากหลาย ซึ่งอาจกระตุ้นให้เกิดการทำกำไรก่อนสุดสัปดาห์

สถานการณ์การจ้างงานในสหรัฐฯ

ตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ยังคงชะลอตัว โดยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม ตลาดทองคำแทบไม่ตอบสนองต่อข้อมูลตลาดแรงงานล่าสุด กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ระบุว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ลดลง 10,000 ราย สู่ระดับ 222,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 11 พฤษภาคม ลดลงจากตัวเลขประมาณการของสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 232,000 ราย ซึ่งตัวเลขลดลงน้อยกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 219,000 ราย

ตลาดที่อยู่อาศัยสหรัฐฯ ยังไม่มีเสถียรภาพ

ในวันเดียวกันกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานว่า การเริ่มสร้างบ้าน (Housing starts) เพิ่มขึ้น 5.7% ในเดือนเมษายน สู่อัตราเฉลี่ยต่อปีตามฤดูกาลที่ 1.36 ล้านยูนิต อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 1.42 ล้านยูนิต และเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว การก่อสร้างที่อยู่อาศัยลดลง 0.6%

ภาคที่อยู่อาศัยประสบความยากลำบากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจาก Fed ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรง ผู้ซื้อบ้านในอนาคตยังต้องเผชิญกับราคาที่สูงขึ้นเนื่องจากอุปทานต่ำ ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์บางคนกล่าวว่า จำนวนการก่อสร้างจำเป็นต้องปรับปรุงเพื่อให้สินค้าคงคลังเพิ่มขึ้นและราคาลดลง

Fed และแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย

ในวันที่ผ่านมายังมีการออกมาให้ความเห็นจากเจ้าหน้าที่ของ Fed เพิ่มเติม โดย Loretta Mester ซึ่งเป็นประธานธนาคารกลางสหรัฐจากคลีฟแลนด์ ระบุว่าการคงนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในระดับปัจจุบันจะช่วยให้อัตราเงินเฟ้อที่ยังคงสูงอยู่กลับสู่เป้าหมาย 2%

Mester ระบุว่านโยบายการเงินอยู่ในตำแหน่งที่ดีในการบริหารความเสี่ยง ในขณะที่ Fed รวบรวมหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจ

และยังกล่าวอีกว่าความเสี่ยงต่ออัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น ความเสี่ยงต่อการเติบโตที่อ่อนแอและการจ้างงานลดลง ซึ่งหมายความว่าในเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง Fed มีพื้นที่ให้มองหาหลักฐานเพิ่มเติมว่าอัตราเงินเฟ้อกำลังเคลื่อนกลับสู่เป้าหมายก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย

Mester กล่าวว่าการขาดความคืบหน้าในการลดอัตราเงินเฟ้อนั้น “น่าผิดหวัง” และเสริมว่า ตอนนี้เธอเชื่อว่าจะใช้เวลานานมากขึ้นในการบรรลุเป้าหมาย 2% จากที่คิดไว้ก่อนหน้านี้ ก่อนจะปิดท้ายว่า ข้อมูลเงินเฟ้อระดับผู้บริโภคในเดือนเมษายนที่อ่อนตัวลงเป็นสิ่งที่น่ายินดี

ขณะที่ทางด้าน นักวิเคราะห์บางรายระบุว่า การเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของการขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกส่งผลให้ทองคำมีโอกาสดีดตัวสู่ระดับ 2,400 ดอลลาร์ ซึ่งสนับสนุนความคาดหวังว่า Fed อยู่ในเส้นทางที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

Michele Schneider ผู้อำนวยการฝ่ายการศึกษาและวิจัยด้านการเทรดของ MarketGauge กล่าวว่า แม้ Fed จะยังไม่พร้อมส่งสัญญาณการเริ่มต้นวงจรผ่อนคลายในเร็วๆ นี้ แต่ก็เห็นได้ชัดว่าอัตราดอกเบี้ยจะไม่ปรับสูงขึ้นอีก ซึ่งสุดท้ายแล้วจะให้การสนับสนุนที่แข็งแกร่งสำหรับโลหะมีค่า

อย่างไรก็ตาม Schneider ระบุว่า การถกเถียงเรื่องนโยบายการเงินของสหรัฐฯ เป็นเพียงส่วนประกอบหนึ่งสำหรับทองคำ โดยความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์เป็นปัจจัยสนับสนุนเงินเฟ้อที่สูงขึ้นและกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอลง

ปัจจัยที่ส่งผลต่อเงินเฟ้อ

Schneider กล่าวว่า นักเศรษฐศาสตร์ยังมองเงินเฟ้อในสิ่งที่ผิดพลาด โดยระบุว่า เงินเฟ้อที่เราเห็นมีความละเอียดอ่อนอย่างมาก ซึ่งก่อให้เกิดสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย โดยตัวชี้วัดเงินเฟ้อแบบดั้งเดิมไม่อาจบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมด

ภูมิทัศน์ทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เปลี่ยนแปลงไปเป็นภัยคุกคามด้านเงินเฟ้อที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งจะให้การสนับสนุนทองคำ โดยประธานาธิบดี Joe Biden ของสหรัฐฯ ได้กำหนดภาษีนำเข้ายานยนต์ไฟฟ้าจากจีน 100% รวมถึงกำหนดภาษีที่สูงขึ้นสำหรับเทคโนโลยีแบตเตอรี่ แผงโซลาร์เซลล์ และแร่สำคัญอื่นๆ ซึ่ง Schneider ชี้ให้เห็นว่าสหรัฐฯ พยายามยืนยันความเป็นอิสระด้วยกระบวนการเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม เธอกล่าวเสริมว่าสิ่งนี้ไม่อาจสามารถดำรงอยู่ได้สำหรับการเติบโตในระยะยาว

Schneider ระบุว่า แนวทางของความเป็นอิสระนี้ไม่จำเป็นต้องดีเสมอไป สหรัฐฯ กำลังแยกตัวเองออกจากโลกภายนอก ซึ่งทำให้ดอลลาร์สหรัฐฯ และตลาดพันธบัตรตกอยู่ในความเสี่ยง เธอเห็นประเทศที่ไม่ยึดติดกับสหรัฐฯ ขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และซื้อทองคำ หลายประเทศกำลังสะสมทองคำเพื่อปกป้องตัวเอง

ในขณะเดียวกัน Schneider กล่าวว่าแผนของ Joe Biden ในการสนับสนุนการผลิตภายในประเทศจะทำให้ราคาผู้บริโภคสูงขึ้นด้วย เนื่องจากบริษัทต้องเผชิญกับค่าจ้างที่สูงขึ้น

ท่าทีการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย

เมื่อเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้น การบริโภคของผู้บริโภคจะชะลอตัวลงในที่สุด และเป็นตัวฉุดเศรษฐกิจลง โดยเรากำลังเคลื่อนไปสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Stagflation) อย่างรวดเร็ว และนี่คือเวลาที่ควรถือครองสินทรัพย์อย่างทองคำ Schneider ระบุ

สำหรับแนวโน้มราคาทองคำจากนี้ไป Schneider กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของราคาทองคำดูเหมือนจะกำลังก่อตัวเป็นรูปแบบ Inverted head and shoulders โดยการทะลุผ่านระดับ 2,400 ดอลลาร์อาจผลักดันราคาสู่ระดับ 2,600 ดอลลาร์

เป้าหมายราคาทองคำ

ทางด้าน James Stanley นักกลยุทธ์อาวุโสของ Forex.com กล่าวว่า ราคาทองคำทะลุผ่านรูปแบบทางเทคนิคที่เป็นขาลงในระยะสั้นและพร้อมที่จะทะลุระดับสูงสุดตลอดกาลอีกครั้ง

เขากล่าวว่า ราคาทองคำทดสอบแนวต้านที่ระดับ 2,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์มาหลายครั้ง แต่ไม่สามารถปิดราคาสัปดาห์เหนือระดับนี้ได้ ซึ่งจะเป็นสิ่งที่นักลงทุนจับตามองว่าแนวโน้มของกระทิงจะมีแรงผลักดันมากพอที่จะดันราคาให้ปิดเหนือระดับ 2,400 ดอลลาร์ได้หรือไม่

Stanley ชี้ให้เห็นจุดเปลี่ยนสำคัญก่อนหน้านี้ที่ระดับ 2,417 และ 2,431 ดอลลาร์ ซึ่งหากราคาผ่านระดับเหล่านี้ไปได้ ก็จะไม่มีอุปสรรคใดขวางกั้นการพุ่งทะยานสู่ระดับ 2,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์

เขากล่าวว่า “เนื่องจากราคาจะอยู่ในระดับสูงสุดใหม่ตลอดกาลเกินกว่า 2,431 ดอลลาร์ จึงต้องมีการคาดการณ์ระดับแนวต้านระยะสั้นเพิ่มเติม” โดยอาจให้ความสำคัญกับจุดต่างๆ เช่น 2,450 หรือ 2,475 ดอลลาร์ก่อนที่จะมีการทดสอบระดับ 2,500 ดอลลาร์

เงินดอลลาร์ปรับตัวขึ้นตามสัญญาณทางเทคนิค

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะมีนักวิเคราะห์รายหลายที่มองเป้าหมายราคาทองคำที่ปรับตัวขึ้น แต่ในช่วงระยะสั้น ราคาทองคำยังคงมีโอกาสที่จะปรับตัวลดลง หลังจากการขยับขึ้นของค่าเงินดอลลาร์ที่ลงมาเจอกับแนวรับทางเทคนิค โดยในวันที่ผ่านมา ดัชนี DXY ได้ลงมาแตะระดับของเส้นค่าเฉลี่ย EMA 200 วัน บริเวณ 104.24 ซึ่งก็เกิดการดีดตัวกลับขึ้นไปสู่ระดับ 104.55 ทันที โดยการที่ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นมาอีกครั้ง ยังคงเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำในระยะสั้น

วิเคราะห์กราฟทองคำประจำวัน ราคาทองคำ Gold Spot เทียบกับดอลลาร์สหรัฐ (XAU/USD) ในกรอบเวลา 4 ชั่วโมง ราคาทองคำปรับตัวลดลง หลังจากไม่สามารถผ่านแนวต้านสำคัญบริเวณ $2,400 ได้ในวันก่อน ส่งผลให้มีแรงขายออกมาพอสมควร

เส้นค่าเฉลี่ย EMA กำลังเป็นแนวรับสำคัญ โดยเฉพาะ EMA 12 และ EMA 26 ที่ $2,375 และ $2,365 โดยหากราคาร่วงหลุดจุดนี้ อาจมีแรงขายตามมาเพิ่มเติม ซึ่งแนวรับถัดไปจะอยู่บริเวณ $2,350

อีกสิ่งหนึ่งที่อาจจะเป็นตัวชี้วัดถึงการย่อของราคาคือ RSI ที่ล่าสุดได้เกิดสัญญาณ Bearish Divergence ขึ้น โดยแสดงถึงแรงซื้อที่เริ่มอ่อนแรงลง แนวโน้มขาขึ้นสั้นๆ อาจเริ่มหมดและราคาอาจกลับมาปรับฐานเพื่อลดภาวะ Overbought ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้

จากภาพรวมทั้งหมดนี้ แนวโน้มในระยะสั้นของราคาทองคำดูเหมือนจะเป็นลบ ราคามีแนวโน้มที่จะอ่อนตัวลงมาทดสอบแนวรับสำคัญ โดยมีแนวรับที่ $2,375 - $2,365  ซึ่งใกล้เคียงกับเส้น EMA 12, 26 และถัดลงมาที่ $2,350 แต่หากราคาทองคำสามารถยืนเหนือ $2,375 ได้ และผ่านแนวต้านที่ $2,385 ขึ้นไปได้ ก็จะเป็นสัญญาณบวกที่ทำให้แนวโน้มกลับมาเป็นขาขึ้นอีกครั้ง โดยมีเป้าหมายถัดไปที่ $2,400

สรุปแนวโน้มโดยรวมของราคาทองคำในระยะสั้นข้างหน้า คาดว่าอาจจะมีการย่อตัว โดยมีแนวรับสำคัญที่ $2,375 - $2,365 และ $2,350 ส่วนแนวต้านสำคัญอยู่ที่ $2,385 และ $2,400 ซึ่งต้องติดตามว่าราคาจะสามารถผ่านขึ้นไปได้หรือไม่ ถ้าผ่านได้ก็จะเป็นสัญญาณบวกที่ทำให้แนวโน้มกลับมาเป็นขาขึ้นอีกครั้ง

แนวรับ ในวันนี้จะอยู่ที่บริเวณ $2,375 - $2,365 / $2,350

แนวต้าน ในวันนี้จะอยู่ที่บริเวณ $2,385 - $2,400