วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 19 ส.ค. 2567

กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้

เทรดทองเดี๋ยวนี้ >     

*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣ 

*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰 

*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁

วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 19 สิงหาคม 2567 ราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ที่ $2,510 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ท่ามกลางความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายนนี้ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนราคาทองคำให้ปรับตัวสูงขึ้น

ตลาดคาดการณ์ว่ามีโอกาสถึง 76% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนกันยายน ตามข้อมูลจาก CME FedWatch Tool โดยปัจจัยที่สนับสนุนการคาดการณ์นี้มาจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาในสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ยอดค้าปลีก (Retail Sales) จะสูงกว่าที่คาด แต่ดัชนีราคาผู้ผลิต (Producer Price Index) และดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index) บ่งชี้ว่าเงินเฟ้อกำลังชะลอตัวลง

นอกจากนี้ ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านใหม่ (Housing Starts) ในเดือนกรกฎาคมลดลง 6.8% สู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2020 ซึ่งสร้างความกังวลเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะหลังจากรายงานเงินเฟ้อและตลาดแรงงานที่อ่อนแอลงก่อนหน้านี้ ปัจจัยเหล่านี้ยิ่งเพิ่มแรงกดดันให้เฟดต้องพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างลึก ซึ่งเป็นผลดีต่อราคาทองคำ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงจะช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทน

ความเคลื่อนไหวของราคาทองคำในสัปดาห์ที่ผ่านมา

ราคาทองคำในตลาดสปอตเปิดตลาดต้นสัปดาห์ที่ $2,429 ก่อนที่ราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบระหว่าง $2,458 ถึง $2,478 ก่อนที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะทำให้ราคาปรับตัวลงสู่ระดับต่ำสุดของวันที่ $2,440 อย่างไรก็ตาม ราคาก็ฟื้นตัวขึ้นมาอยู่ในกรอบเดิมอย่างรวดเร็ว

จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นในวันศุกร์ หลังการเปิดเผยตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านที่น่าผิดหวัง ราคาทองคำในตลาดสปอตทะลุระดับ $2,500 เป็นครั้งแรก ก่อนจะปรับตัวลงมาต่ำกว่า $2,479 ชั่วคราว แล้วจึงกลับมาเหนือระดับ $2,500 อีกครั้ง

มุมมองของผู้เชี่ยวชาญต่อแนวโน้มราคาทองคำ

ผลสำรวจความคิดเห็นประจำสัปดาห์แสดงให้เห็นว่าผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมและนักลงทุนรายย่อยส่วนใหญ่เชื่อว่าราคาทองคำจะยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อไปในสัปดาห์นี้

Mark Leibovit จาก VR Metals/Resource Letter มองว่าไม่มีเหตุผลที่จะสงสัยในแนวโน้มขาขึ้นของทองคำในระยะสั้น และเชื่อว่าราคาเงินก็อาจปรับตัวสูงขึ้นด้วยเช่นกัน

Adrian Day ประธานบริษัท Adrian Day Asset Management มองว่าราคาทองคำจะทรงตัวในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีความเป็นไปได้ที่ข่าวเศรษฐกิจหรือความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟดอาจทำให้ความกระตือรือร้นในการคาดการณ์การลดอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งในปีนี้ลดลง ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงในระยะสั้น แต่ทิศทางในระยะยาวของทองคำยังคงเป็นขาขึ้นอย่างแน่นอน

Marc Chandler ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารของ Bannockburn Global Forex มองว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหวในกรอบใกล้จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในระยะสั้น ก่อนที่จะสร้างจุดสูงสุดใหม่ โดยเขาคาดว่าการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐในวงกว้างจะเป็นปัจจัยสนับสนุนราคาทองคำ

Bob Haberkorn นายหน้าซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์อาวุโสที่ RJO Futures มองว่าราคาทองคำอาจปรับตัวลงเล็กน้อยในระยะสั้น เนื่องจากราคาปรับตัวขึ้นมามากแล้ว แต่เชื่อว่าระดับ $2,500 จะกลายเป็นแนวรับสำคัญ โดยคาดว่าในสัปดาห์นี้ ราคาทองคำจะทรงตัวหรือปรับตัวลงเล็กน้อย

ปัจจัยสำคัญที่ต้องจับตามองในสัปดาห์นี้

การกล่าวสุนทรพจน์ของประธานเฟด Jerome Powell ในการประชุม Jackson Hole Symposium วันศุกร์ ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญที่สุดที่ตลาดจะให้ความสนใจอย่างใกล้ชิด โดยนักลงทุนจะจับตาดูถ้อยคำของ Powell เพื่อหาสัญญาณยืนยันการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน

นอกจากนี้ ตลาดยังจะติดตามดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการของสหรัฐฯ สำหรับเดือนสิงหาคม ซึ่งจะเปิดเผยในวันพฤหัสบดี รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับตลาดที่อยู่อาศัย ได้แก่ ยอดขายบ้านมือสองเดือนกรกฎาคม (วันพฤหัสบดี) และยอดขายบ้านใหม่เดือนกรกฎาคม (วันศุกร์) ซึ่งจะเป็นตัวบ่งชี้สำคัญถึงสภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ

รายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด ประจำเดือนกรกฎาคม ซึ่งจะเปิดเผยในวันพุธ ก็เป็นอีกหนึ่งข้อมูลสำคัญที่นักลงทุนจะให้ความสนใจ เพื่อหาแนวโน้มนโยบายการเงินในอนาคต

ในขณะเดียวกัน ตลาดยังจะจับตาดูความเคลื่อนไหวของเศรษฐกิจจีนและนโยบายของธนาคารกลางจีน (PBoC) ซึ่งอาจส่งผลต่อความต้องการทองคำในตลาดโลก โดย Adam Button หัวหน้ากลยุทธ์ด้านสกุลเงินของ Forexlive.com ระบุว่าความแข็งแกร่งของราคาทองคำในวันศุกร์อาจได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่าธนาคารจีนได้รับโควตาเพิ่มขึ้นในการซื้อทองคำ ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการลงทุนในทองคำที่เพิ่มขึ้นของนักลงทุนจีน ท่ามกลางวิกฤตความเชื่อมั่นต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์และตลาดหุ้นในประเทศ

Button ยังเสริมว่า การที่ราคาทองคำทะลุระดับ $2,500 ได้ก่อนที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรก เป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าราคาทองคำอาจยังมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นอีกในอนาคต โดยเขามองว่าช่วงสุดท้ายของการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำจะเกิดขึ้นเมื่อดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง ซึ่งอาจต้องรอจนถึงปี 2025 หรือ 2026 เมื่อรัฐสภาสหรัฐฯ เริ่มตัดสินใจลดการใช้จ่าย ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มประสบปัญหา

ปัจจัยเสี่ยงและความไม่แน่นอนในตลาดทองคำ

แม้ว่าแนวโน้มราคาทองคำจะเป็นบวก แต่ยังมีปัจจัยเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่นักลงทุนควรคำนึงถึง Darin Newsom นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสที่ Barchart.com มองว่าราคาทองคำอาจปรับตัวลงในระยะสั้น โดยอ้างอิงจากการวิเคราะห์ทางเทคนิค เขาระบุว่าสัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำเดือนธันวาคม 2024 อยู่ในภาวะซื้อมากเกินไป (overbought) และอาจใกล้ถึงจุดสูงสุดของแนวโน้มขาขึ้นระยะสั้น นอกจากนี้ เขายังสังเกตเห็นรูปแบบ “double top” บนกราฟรายวัน ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการปรับฐานในอนาคต

ความเสี่ยงอีกประการหนึ่งคือความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางอื่นๆ อาจดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากกว่าเฟด ซึ่งอาจส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ และกดดันราคาทองคำ Button กล่าวว่าความเสี่ยงในตอนนี้คือธนาคารกลางอื่นๆ อาจปรับนโยบายให้ผ่อนคลายมากกว่าเฟด ซึ่งอาจทำให้การปรับตัวลงของดอลลาร์สหรัฐล่าช้าออกไป

นอกจากนี้ ยังมีความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เฟดอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไป ซึ่งอาจนำไปสู่การกลับมาของภาวะเงินเฟ้อ Haberkorn แสดงความเห็นว่าแม้ข้อมูลจะแสดงตัวเลขเงินเฟ้อที่ลดลง แต่ระดับราคาสินค้าและบริการโดยทั่วไปยังคงสูงกว่าปกติ ดังนั้น การปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วอาจทำให้เงินเฟ้อกลับมาสูงขึ้นอีกครั้งในอนาคต

ราคาทองคำได้พุ่งทะยานขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมา ปัจจุบันราคาทองคำอยู่ที่ระดับ $2,500 ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดในรอบหลายเดือน การเคลื่อนไหวของราคาในช่วงนี้แสดงให้เห็นถึงแรงซื้อที่แข็งแกร่ง โดยราคาได้ทะลุผ่านแนวต้านสำคัญหลายระดับขึ้นมาได้

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรระมัดระวังเนื่องจากมีสัญญาณ Divergence ที่ชัดเจนระหว่างราคาและดัชนี RSI ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงการอ่อนแรงลงของแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้น นอกจากนี้ ราคาปัจจุบันอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ทั้ง EMA 12, EMA 26 และ EMA 200 อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งอาจทำให้เกิดแรงขายทำกำไรในระยะสั้นได้

แนวรับสำคัญที่ควรจับตามองอยู่ที่ระดับ $2,493 และ $2,483 ซึ่งเป็นระดับที่ราคาเคยพักตัวมาก่อน หากราคาสามารถยืนเหนือระดับเหล่านี้ได้ จะเป็นสัญญาณบวกสำหรับแนวโน้มขาขึ้นต่อไป ในทางกลับกัน แนวต้านสำคัญอยู่ที่ระดับ $2,510 และ $2,520 ซึ่งเป็นระดับที่อาจมีแรงขายทำกำไรเข้ามา

สำหรับแนวโน้มใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า คาดว่าราคาทองคำอาจจะเผชิญกับแรงขายทำกำไรในระยะสั้น เนื่องจากราคาปรับตัวขึ้นมาเร็วและแรงเกินไป อย่างไรก็ตาม แนวโน้มหลักยังคงเป็นขาขึ้น หากราคาสามารถยืนเหนือแนวรับที่ $2,493 ได้อย่างแข็งแกร่ง ก็อาจมีโอกาสที่จะทดสอบแนวต้านที่ $2,510 อีกครั้ง

นักลงทุนควรติดตามการเคลื่อนไหวของราคาอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะบริเวณแนวรับและแนวต้านสำคัญ รวมถึงสังเกตสัญญาณจาก RSI และรูปแบบ Divergence ที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ากังวลต่อราคาหลังจากนี้

แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $2,493

• $2,483

• $2,477

แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $2,500

• $2,510

• $2,520