วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 27 พ.ย. 2566

กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้

เทรดทองเดี๋ยวนี้ >      

*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣ 

*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰 

*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁

Gold Spot ในปัจจุบันอยู่ที่บริเวณ $2,012 ขณะที่ Gold Futures อยู่ที่บริเวณ $2,013.3

ราคาทองคำปิดแท่งเทียนด้วยผลบวกเป็นสัปดาห์ที่สอง หลังจากขึ้นมายืนเหนือระดับ $2,000 ได้ในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และกำลังทดสอบแนวต้านสำคัญในเช้าวันจันทร์นี้ ท่ามกลางการอ่อนตัวลงของค่าเงินดอลลาร์ ขณะที่ตลาดเดิมพันว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจจะยุติวงจรการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในไม่ช้า

ข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมาล่าสุดคือข้อมูล PMI ภาคการผลิตของ S&P Global Flash ของสหรัฐฯ ซึ่งลดลงเหลือ 49.4 จากข้อมูลเมื่อเดือนตุลาคมที่ 50.0 โดยตัวเลขออกมาใกล้เคียงกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ที่ 49.9

กิจกรรมภายในภาคการผลิตลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบสามเดือน นั่นคือสิ่งที่รายงานระบุ

ในขณะเดียวกัน PMI ภาคบริการยังคงอยู่ในขอบเขตการขยายตัว โดยเพิ่มขึ้นเป็น 50.8 จากข้อมูลเมื่อเดือนตุลาคมที่ 50.6 ซึ่งข้อมูลดังกล่าวเกินความคาดหมาย

รายงานระบุว่ากิจกรรมภายในภาคบริการเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบสี่เดือน

ในขณะที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยังคงทรงตัว Siân Jones นักเศรษฐศาสตร์หลักของ S&P Global Market Intelligence กล่าวว่าสภาวะต่างๆ กำลังเข้าใกล้ความจริงสำหรับความคาดหวังของธนาคารกลางสหรัฐมากขึ้น เนื่องจากตลาดแรงงานและอัตราเงินเฟ้อแสดงสัญญาณการเย็นตัวลง

“ภาคธุรกิจต่างๆ ปรับลดการจ้างงานเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 3 ปีครึ่ง ซึ่งตอบสนองต่อความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มดังกล่าว การปลดพนักงานได้แพร่กระจายออกไปนอกเหนือจากภาคการผลิต เนื่องจากบริษัทผู้ให้บริการส่งสัญญาณถึงการลดจำนวนพนักงานใหม่ในเดือนพฤศจิกายน เนื่องจากการประหยัดต้นทุน” Jones กล่าวในรายงาน

ในเวลาเดียวกัน นักเศรษฐศาสตร์ตั้งข้อสังเกตว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อก็เริ่มผ่อนคลายลงเช่นกัน

“อัตราเงินเฟ้อราคาวัตถุดิบอ่อนตัวลงอีกครั้ง โดยภาระต้นทุนเพิ่มขึ้นในอัตราที่ช้าที่สุดในรอบ 3 ปี ผลกระทบของการปรับขึ้นราคาน้ำมันดูเหมือนจะคลี่คลายในภาคการผลิตซึ่งอัตราเงินเฟ้อของต้นทุนชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัดแม้ว่าจะขยับขึ้นเล็กน้อยก็ตาม อัตราเงินเฟ้อของราคาขายยังคงอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และสอดคล้องกับอัตราการเพิ่มขึ้นที่ใกล้เคียงกับเป้าหมาย 2% ของ Fed” Jones กล่าว

ตลาดทองคำสามารถฟื้นคืนระดับ 2,000 ดอลลาร์ได้ หลังจากปิดเป็นบวกเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์กล่าวว่าโมเมนตัมของทองคำยังคงมีจำกัด และราคายังคงต้องเจอกับบททดสอบหากต้องการจะทะลุระดับแนวต้านในปัจจุบัน เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐยังคงมีอคติต่อนโยบายการเงินที่เข้มงวด

นักวิเคราะห์ตั้งข้อสังเกตว่าการที่อิสราเอลและฮามาสตกลงหยุดยิง ทำให้เสน่ห์ของโลหะมีค่าอ่อนลง นโยบายการเงินของสหรัฐฯ คาดว่าจะเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่ผลักดันการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในระยะสั้น

“นักเศรษฐศาสตร์ของเราคาดว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกจะเกิดขึ้นในช่วงกลางปีหน้า ดังนั้นเมื่อถึงเวลานั้น ราคาทองคำ 1 ทรอยออนซ์จึงมีแนวโน้มที่จะไต่ระดับเหนือ 2,000 ดอลลาร์อย่างยั่งยืน” Barbara Lambrecht นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์ของ Commerzbank กล่าวในบันทึก

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าทองคำมีแนวโน้มที่จะติดอยู่ต่ำกว่า 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่นักวิเคราะห์หลายคนไม่กังวลว่าจะเห็นความเสี่ยงขาลงมากนัก เนื่องจากปัจจัยตามฤดูกาลเริ่มเข้ามา

ในข้อมูลล่าสุด Nicky Shiels หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์โลหะมีค่าที่ MKS PAMP กล่าวว่าในช่วงห้าปีที่ผ่านมา ทองคำเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 2.7% ในช่วงวันขอบคุณพระเจ้า (24 พฤศจิกายน) ถึง 31 ธันวาคม

Ole Hansen หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์ที่ Saxo Bank กล่าวว่าความเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุดสำหรับทองคำคืออัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้นซึ่งทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น

“ทองคำดูได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดี และมีเพียงดอลลาร์ที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็วเท่านั้นที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลง” เขากล่าว 

“ยังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มของราคา เว้นเสียแต่ว่าราคาทองคำสามารถปิดเหนือ $2,010 ได้ ซึ่งนั่นจะกระตุ้นให้มีเกิดการ FOMO (fear of missing out) ได้”

ด้วยการมุ่งเน้นไปที่นโยบายการเงินของสหรัฐฯ อีกครั้ง ตลาดทองคำจะมีความอ่อนไหวต่อ GDP ของสหรัฐฯ และข้อมูลเงินเฟ้อ แม้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ คาดว่าจะเติบโตเป็นพิเศษในไตรมาสที่สาม แต่ก็มีความกลัวมากขึ้นว่ากิจกรรมจะชะลอตัวลงในไตรมาสที่สี่ ในขณะเดียวกัน การเติบโตที่ช้าลงคาดว่าจะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อช้าลงต่อไป

ตลาดให้ความสนใจกับคำพูดของเจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางจำนวนมากในวันอังคาร ในขณะที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ Jerome Powell จะพูดปิดท้ายสัปดาห์ ในขณะที่เขาเข้าร่วมการประชุมในหัวข้อ “Navigating Pathways to Economic Mobility” ที่แอตแลนตา

ในความคิดเห็นล่าสุด Powell ค่อนข้างตรงไปตรงมาว่าอัตราดอกเบี้ยจะยังคงอยู่ในขอบเขตจำกัด เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังไม่อยู่ภายใต้การควบคุม

อย่างไรก็ตาม ราคาพลังงานและการประชุม OPEC+ ในสัปดาห์นี้อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงต่ออัตราเงินเฟ้อ

เป็นที่คาดว่ากลุ่มพันธมิตรน้ำมันจะประกาศลดการผลิตครั้งใหม่ แต่หากสิ่งเหล่านี้ต่ำกว่าความคาดหวัง ราคาน้ำมันก็จะยังคงอยู่ในแนวโน้มขาลงในปัจจุบัน

Daniel Ghali นักยุทธศาสตร์สินค้าโภคภัณฑ์อาวุโสของ TD Securities กล่าวว่า ราคาน้ำมันที่ลดลงตามความเป็นจริงสามารถให้การสนับสนุนทองคำได้ในระยะสั้น เขาอธิบายว่าราคาพลังงานที่ลดลงจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐมีช่องทางในการผ่อนคลายอคติที่ตึงตัวในปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม Ghali กล่าวว่าเขาไม่เห็นว่าราคาทองคำจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในเร็วๆ นี้ เขาตั้งข้อสังเกตว่าความต้องการของตลาดเอเชียและตลาดเกิดใหม่ยังคงให้การสนับสนุนโลหะมีค่า แต่เสริมว่าทองคำยังคงมีอุปสรรคอยู่เนื่องจากนักลงทุนตะวันตกยังคงหลีกเลี่ยงมัน

“เราคาดว่านักลงทุนตะวันตกจะเพิกเฉยต่อตลาดทองคำต่อไปจนกว่าสหรัฐฯ จะเข้าสู่ภาวะถดถอยในครึ่งแรกของปีหน้า ซึ่งทำให้ธนาคารกลางสหรัฐต้องลดอัตราดอกเบี้ยอย่างจริงจัง” เขากล่าว

ขณะที่ทองคำอยู่เหนือ $2,000 ก็จริง แต่แนวต้านยังคงอยู่ เมื่อพิจารณาภาพรวมทางเทคนิคของทองคำ นักวิเคราะห์กล่าวว่านักลงทุนจำเป็นต้องจับตาดูแนวต้านเริ่มต้นที่ $2,010

“หากราคาปิดเหนือระดับ 2,009 ดอลลาร์ ราคาอาจขยายแนวต้านขึ้นไปที่ $2,050 ซึ่งเป็นจุดสูงสุดในเดือนเมษายน ก่อนที่จะถึงบริเวณ $2,082 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตลอดกาล” Fiona Cincotta นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสของ City Index กล่าว

ในด้านลบ นักวิเคราะห์ได้เน้นย้ำแนวรับเบื้องต้นระหว่าง 1,945 ถึง 1,930 ดอลลาร์ต่อออนซ์

“หากเราเห็นราคาทองคำกลับมาต่ำกว่า 1,940 ดอลลาร์ แนวโน้มขาขึ้นใหม่นี้จะสิ้นสุดลง และเราจะต้องรอโอกาสในการซื้ออีกครั้ง” Phillip Streible หัวหน้านักยุทธศาสตร์การตลาดของ Blue Line Futures กล่าว

อย่างไรก็ตาม Streible กล่าวว่าเขายังคงมีภาวะกระทิงในทองคำ เนื่องจากตลาดดูเหมือนจะเตรียมพร้อมสำหรับการเคลื่อนไหวในช่วงคริสต์มาส

ทองคำก็กำลังเข้าสู่ช่วงฤดูกาลที่ดีที่สุดของปี ในรายงานทองคำล่าสุดของเขา Ole Hansen 

โดยเขาตั้งข้อสังเกตว่าในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา ราคาทองคำในเดือนธันวาคมได้รับผลตอบแทนเฉลี่ย 4% ในขณะที่ราคาโลหะเงินได้รับผลตอบแทนเฉลี่ย 7.25%

แม้ว่าตลาดยังคงมีการมองโลกในแง่ดี แต่ก็มีความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น เช่น การหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและฮามาส ซึ่งจะลดความต้องการทองคำที่ปลอดภัย ท้ายที่สุดแล้ว โลหะมีค่ายังคงอยู่ในภายใต้ความเคลื่อนไหวของธนาคารกลางสหรัฐ

สัปดาห์ที่ผ่านมา รายงานการประชุมนโยบายการเงินเดือนพฤศจิกายนแสดงให้เห็นว่าธนาคารกลางยังคงมุ่งมั่นที่จะต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อ ธนาคารกลางสหรัฐส่งสัญญาณว่าจะคงนโยบายการเงินที่เข้มงวดไว้ในอนาคตอันใกล้

ตามที่นักเศรษฐศาสตร์หลายคนกล่าวไว้ นักลงทุนจะไม่รู้สึกสบายใจที่จะกระโดดกลับเข้าสู่ทองคำอีกครั้ง จนกว่าจะมีสัญญาณที่ชัดเจนว่า Federal Reserve พร้อมที่จะผ่อนคลายอัตราดอกเบี้ย

ราคาทองคำทะลุแนวต้านที่สำคัญบริเวณ $2,000 - $2,009 ขึ้นมาได้ และได้เป็นการยืนยันความต่อเนื่องของแนวโน้มขาขึ้นระยะสั้นอีกครั้ง

ภาพรวมของราคากลับมาดูชัดเจนอีกครั้ง แนวต้านหลักของราคาคือบริเวณ $2,050 และถัดไปคือจุดสูงสุดตลอดกาลที่ $2,082

โดยราคายังคงมีแนวต้านย่อยๆ ภายในวัน หรือภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะอยู่ที่บริเวณ $2,021 - $2,033

อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำยังคงมีโอกาสย่อตัวเพื่อทดสอบฐานของราคา ทำให้แนวรับในวันนี้จะอยู่ที่บริเวณ $2,009 - $1,993 ซึ่งเป็นกรอบแนวต้านเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่ราคาพึ่งสามารถผ่านขึ้นมาได้

กราฟทองคำ ระดับ 1 วัน

แนวรับ ในวันนี้จะอยู่ที่บริเวณ $2,009 - $1,993

แนวต้าน ในวันนี้จะอยู่ที่บริเวณ $2,021 - $2,033 และ $2,050