วิธีลงทุนในอาณาจักรแบรนด์หรูระดับโลก LVMH แค่อ่านบทความนี้!

หากคุณกำลังมองหาโอกาสในการลงทุนในหุ้นกลุ่มสินค้าหรูอย่าง Louis Vuitton, Dior, และ Moët & Chandon หุ้น LVMH อาจเป็นคำตอบที่คุณตามหา บทความนี้จะพาคุณไปวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานที่ทำให้ LVMH กลายเป็นหนึ่งในหุ้นดาวเด่นที่นักลงทุนให้ความสนใจ รวมไปถึงโอกาสและความเสี่ยงในการลงทุนที่นักลงทุนควรรู้ก่อนซื้อหุ้น LVMH

LVMH หรือ Louis Vuitton Moët Hennessy คือบริษัทข้ามชาติสัญชาติฝรั่งเศสที่เป็นผู้นำในการดำเนินธุรกิจสินค้าหรูหราระดับโลกหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นแฟชั่น เครื่องประดับ นาฬิกา เครื่องสำอาง ไวน์ และสุรา ซึ่งประวัติของบริษัทนี้สามารถย้อนกลับไปได้เกือบ 200 ปี

ในปี 1854 Louis Vuitton ได้ก่อตั้งแบรนด์ Louis Vuitton ขึ้นโดยเน้นการผลิตกระเป๋าเดินทางและสินค้าเครื่องหนังเพื่อความหรูหรา และแบรนด์ Louis Vuitton นี้เองที่ในภายหลังได้กลายมาเป็นหนึ่งในแบรนด์แฟชั่นที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก ถัดมาในปี 1743 ได้มีการก่อตั้ง Moët & Chandon ผู้ผลิตแชมเปญที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักในฐานะแบรนด์ที่นำเสนอแชมเปญชั้นเลิศที่ใช้ในงานเลี้ยงและพิธีสำคัญ ๆ ทั่วโลก อีก 20 ปีถัดมา Richard Hennessy ได้ก่อตั้งแบรนด์ Hennessy ขึ้นในฝรั่งเศสและในภายหลังแบรนด์นี้ก็กลายมาเป็นหนึ่งในผู้ผลิตคอนยัคที่มีชื่อเสียงและมีอิทธิพลมากที่สุดในโลก

LVMH ก่อตั้งขึ้นในปี 1987 จากการควบรวมแบรนด์สินค้าทรงอิทธิพลทั้งสามและเข้าจะทะเบียนในตลาดหุ้นปารีส  (Euronext Paris stock exchange) ซึ่งการรวมตัวกันครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างอาณาจักรสินค้าหรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ครอบคลุมสินค้าหรูหลายประเภท นับตั้งแต่แฟชั่น เครื่องประดับ นาฬิกา น้ำหอม เครื่องสำอาง ไปจนถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และสินค้าเพื่อความหรูหราประเภทอื่น ๆ

ภายหลังการควบรวมและเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นปารีส หุ้น LVMH ยังคงมีธุรกิจครอบครัวเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่กว่า 40% ทำให้การบริหารงานยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และได้เดินหน้าขยายธุรกิจด้วยการเน้นกลยุทธ์เข้าซื้อกิจการแบรนด์หรูอื่นๆ ทั่วโลก

ปัจจุบัน LVMH ทำธุรกิจหลักเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าหรูหราซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 5 กลุ่ม ได้แก่

1. ไวน์และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แบ่งเป็นสินค้าประเภทแชมเปญและไวน์ ภายใต้แบรนด์ Moët & Chandon, Hennessy, Dom Pérignon, Ruinart ฯลฯ และเครื่องดื่มประเภทวิสกี้และคอนยักภายใต้แบรนด์ Belvedere, Glenmorangie, Ardbeg เป็นต้น คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 8% ของรายได้ที่ LVMH ทำได้ในปี 2023

   
   

2. สินค้าแฟชั่นและเครื่องหนัง เป็นประเภทสินค้าที่สร้างรายได้เป็นสัดส่วนสูงสุดของ LVMH เช่น สินค้าจากแบรนด์ Louis Vuitton, Christian Dior, Celine, Loewe, Fendi ฯลฯ ซึ่งสร้างรายได้เป็นสัดส่วน 49% ในปี 2023

   
   

3. น้ำหอมและเครื่องสำอาง ได้แก่ น้ำหอมและเครื่องสำอางภายใต้แบรนด์ Christian Dior, Guerlain, Givenchy ฯลฯ สร้างรายได้ให้ LVMH เป็นสัดส่วน 9% ในปี 2023

   
   

4. นาฬิกาและเครื่องประดับ ได้แก่ สินค้านาฬิกาและเครื่องประดับจากแบรนด์ Tiffany & Co., Bulgari, TAG Heuer ฯลฯ สร้างรายได้ให้ LVMH เป็นสัดส่วน 13% ในปี 2023

   
   

5. ค้าปลีกเฉพาะทางและอื่น ๆ ได้แก่บริการค้าปลีกสินค้าหรูหราต่าง ๆ เช่น Sephora, DFS, Le Bon Marche สร้างรายได้ให้ LVMH เป็นสัดส่วน 21% ของรายได้ทั้งหมดในปี 2023

ที่มา: https://www.lvmh.com

หุ้น LVMH เป็นหุ้นที่มีความแข็งแกร่งและเป็นตัวเลือกลำดับต้น ๆ สำหรับการลงทุนในตลาดหุ้นยุโรปเสมอ เนื่องจากการเป็นกลุ่มบริษัทข้ามชาติที่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมแฟชั่นและสินค้าหรูหรา รวมถึงเป็นบริษัททีมีการเติบโตของรายได้สูงในระดับสิบเปอร์เซ็นต์ต่อปี

ในปี 2023 LVMH รายงานรายได้รวมที่ 86.2 พันล้านยูโร เติบโตขึ้น 13% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยมีผลกำไร 22.8 พันล้านยูโร เติบโต 8% จากปีก่อนหน้า คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นที่ 26.5% และถูกจัดอันดับเครดิตในระดับ AA โดยในปีดังกล่าวบริษัทมีการเติบโตของรายได้นำโดยกลุ่มค้าปลีกเฉพาะทางและสินค้าแฟชั่น/เครื่องหนังที่เติบโตได้ 25% และ 14% จากปีก่อนหน้า ขณะที่กลุ่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยังคงเป็นจุดอ่อนที่รายได้หดตัว 4% อันเป็นผลมาจากการหดตัวลงในตลาดสหรัฐอเมริกาและสภาพเศรษฐกิจที่เพิ่งฟื้นตัวจากโควิด-19

สำหรับครึ่งแรกของปี 2024 การเติบโตของ LVMH เริ่มชะลอตัวลงซึ่งได้รับผลกระทบจากความผันผวนของค่าเงิน โดยรายได้รวมผลักดันจากการเติบโตในกลุ่มค้าปลีกและกลุ่มเครื่องสำอางที่โตได้ 8% และ 6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยชะลอตัวลงในกลุ่มไวน์และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ความต้องการเริ่มคงตัวตั้งแต่ปี 2023 อย่างไรก็ดีทางนักวิเคราะห์ยังมองว่ายอดขายในประเทศเหล่านี้จะกลับมาฟื้นตัวได้ในไตรมาส 3 ของปี 2024 เป็นต้นไปโดยเฉพาะการขยายตัวจากนักท่องเที่ยวจีนที่มีกำลังซื้อสูง

อย่างไรก็ดี หุ้น LVMH มักจะเทรดบนพรีเมียมที่ให้ราคาแพงกว่ามูลค่าพื้นฐานอันเนื่องมาจากความเชื่อมั่นและความแข็งแกร่งของแบรนด์ นอกจากนี้สินค้าที่มีแบรนด์เป็นที่รู้จักมักทำผลงานได้ดีกว่าในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัวทำให้ LVMH ยังเป็นที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน โดย Morningstar ยังประเมินมูลค่าพื้นฐานของหุ้นตัวนี้ไว้ที่ 670 ยูโร ขณะที่นักวิเคราะห์อื่นให้เป้าหมายราคาเฉลี่ยที่ 820.59 ยูโร

ปัจจุบันหุ้น LVMH เทรดอยู่ที่ราคา 683.00 ยูโร โดยมีกำไรต่อหุ้นที่ 27.97 ยูโรต่อหุ้น คิดเป็น PE 24.42เท่า และให้ปันผลที่ 1.92% ต่อปี ซึ่งแม้ราคาหุ้นจะเทรดอยู่บน PE ที่แพงกว่าคู่แข่งอื่น ๆ ในอุตสาหกรรม เช่น Christian Dior SE ( PE 19.13 เท่า) Burberry Group (PE 9.38 เท่า) ซึ่งแม้หุ้น LVMH จะดูว่ามีราคาสูงและเทรดบนพรีเมี่ยม แต่หุ้น LVMH ยังมีข้อได้เปรียบจากการเติบโตของกำไรและความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่เป็นแหล่งรายได้ โดยนักวิเคราะห์หลายเจ้ามองว่าโซนราคา 690 – 700 ยูโรยังเป็นระดับที่ส่าสนใจสำหรับการลงทุน

ราคา LVMH แบบเรียลไทม์

เทรดหุ้น LVMH เดี๋ยวนี้ > 

สำหรับนักลงทุนไทยสามารถเลือกซื้อหุ้น LVMH เพื่อการลงทุนได้หลายวิธี เช่น 

1.ซื้อ DRx

DRx หรือ Depositary Receipt คือตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ ที่ถูกตราขึ้นโดยผู้ออกตราสารและเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ได้เหมือนหุ้นตัวหนึ่ง ซึ่งรวมถึงหุ้น LVMH ที่เทรดในชื่อ LVMH01 ด้วย การเริ่มต้นเทรด DRx บนหุ้น LVMH ทำได้โดย

• เปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ ซึ่งเปิดได้กับโบรกเกอร์ทุกแห่งในไทย เช่น ฟิลลิปส์ ธนชาต โดยใช้เวลา 1 – 5 วันทำการ

  
  

• โอนเงินเข้าบัญชี เมื่อได้รับการยืนยันเปิดบัญชีแล้วนักลงทุนสามารถโอนเงินเข้าบัญชีเพื่อเป็นทุนในการซื้อหุ้นได้ เมื่อปรากฏวงเงินในบัญชีแล้วก็สามารถเริ่มซื้อขายได้

  
  

• ส่งคำสั่งซื้อขาย ค้นหา DRx ชื่อย่อ LVMH01 และติดตามราคา เมื่อราคา LVMH01 อยู่ในระดับที่สนใจ นักลงทุนสามารถส่งคำสั่งซื้อขายหุ้น LVMH01 ผ่านแอป Streaming หรือ แอปของโบรกเกอร์ที่ให้บริการได้ ด้วยการกำหนดจำนวนและราคาที่ต้องการส่งคำสั่งซื้อ และรอการยืนยันการจับคู่ เมื่อได้รับการยืนยันเรียบร้อยแล้วนักลงทุนจะได้ DRx ของ LVMH มาเก็บไว้ในพอร์ตเพื่อให้ได้สิทธิของผู้ถือหุ้นหรือขายออกเมื่อได้กำไร

การซื้อขายหุ้น LVMH ด้วย DRx ช่วยให้นักลงทุนได้เป็นเจ้าของและมีสิทธิเหมือนผู้ถือหุ้นจริง ๆ โดยมีวิธีที่สะดวกขึ้นคือสามารถซื้อขายในตลาดหุ้นไทยได้เลย แต่ยังมีข้อจำกัดที่ต้องวางเงินเต็มจำนวนและใช้ทำกำไรได้เพียงในทิศทางราคาขาขึ้นเท่านั้น

2.ซื้อตราสารอนุพันธ์

การซื้อขายตราสารอนุพันธ์ เช่น CFDs เป็นตราสารที่อ้างอิงราคาสินค้าอ้างอิง เช่น หุ้น LVMH โดยให้สิทธิกับผู้ซื้อตราสารที่จะทำกำไรจากส่วนต่างของราคาสินทรัพย์ได้โดยที่ไม่ต้องมีการถือสินทรัพย์มาก่อน ซึ่งนักลงทุนสามารถซื้อขายตราสารอนุพันธ์ CFDs ได้จาก

• เปิดบัญชี ทำได้กับโบรกเกอร์ผู้ให้บริการ โดยเลือกโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือและมีรีวิวดี เช่น Mitrade IC Markets

  
  

• โอนเงินเข้าบัญชี เมื่อได้รับการยืนยันเปิดบัญชีแล้วนักลงทุนสามารถเริ่มโอนเงินเข้าบัญชีเพื่อใช้เป็นทุนเบื้องต้น

  
  

• ติดตามราคาหุ้น LVMH เพื่อกำหนดกลยุทธ์ในการซื้อขาย โดยสามารถใช้บทวิเคราะห์และข้อมูลอินไซด์จากโบรกเกอร์ผู้ให้บริการ เช่น อินไซด์หุ้น LVMH จาก Mitrade 

  
  

• ส่งคำสั่งเปิดสถานะ เมื่อราคาหุ้น LVMH อยู่ในระดับที่วางแผนไว้ นักลงทุนสามารถเปิดสถานะเพื่อคาดหวังผลกำไรจากการเปลี่ยนแปลงราคาหุ้นได้ทั้งในทิศทางราคาขาขึ้นและขาลง โดยเลือกคำสั่ง ซื้อ เมื่อมองว่าราคาหุ้น LVMH กำลังเป็นขาขึ้น หรือ เลือกคำสั่ง ขาย เมื่อมองว่าราคาหุ้น LVMH กำลังเป็นขาลง จากนั้นเลือกระดับราคาที่ต้องการเปิดสถานะ ปริมาณ และเลเวอเรจที่ต้องการ เมื่อมีการยืนยันคำสั่งเปิดสถานะเรียบร้อยแล้วก็สามารถทำกำไรจากสถานะที่เปิดได้ต่อไป

• ส่งคำสั่งปิดสถานะ เมื่อราคาหุ้นปรับตัวไปในทิศทางที่ต้องการก็สามารถปิดสถานะเพื่อรับรู้ผลกำไร หรือตัดขาดทุนเมื่อทิศทางราคาไม่เป็นไปตามที่ต้องการ

การซื้อขายหุ้น LVMH ด้วยสัญญาอนุพันธ์หรือ CFDs จะไม่ทำให้นักลงทุนได้เป็นเจ้าของหุ้นและไม่มีสิทธิได้รับปันผล/เข้าประชุมผู้ถือหุ้น แต่มีจุดเด่นที่สภาพคล่องสูงและมีการใช้อัตราทด ทำให้นักลงทุนสามารถทำกำไรได้จากการเปลี่ยนแปลงของราคาแม้เพียงเล็กน้อย ทั้งยังสามารถทำกำไรได้ทั้งทิศทางราคาขาขึ้นและขาลง จึงเหมาะกับนักลงทุนที่ไม่ต้องการใช้เงินลงทุนมากและเน้นการเทรดระยะสั้นเป็นพิเศษ

💸 ห้ามพลาด!!! 💸

แจกโบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์! 🎁🎁🎁

ค่าคอมฯ 0 สเปรดต่ำ! เงินฝากขั้นต่ำ $50 🤑

ฝึกเทรดด้วยเงินเสมือนจริง $50, 000 ฟรี 💰

เทรดเดี๋ยวนี้

การลงทุนมีความเสี่ยง อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน

การลงทุนในหุ้น LVMH ก็ไม่ต่างจากการลงทุนในหุ้นอื่น ๆ ซึ่งนักลงทุนจำเป็นต้องคำนึงถึงจุดเด่นที่เป็นข้อได้เปรียบและความเสี่ยงที่ต้องระมัดระวังให้รอบด้าน ได้แก่

โอกาสในการลงทุนหุ้น LVMH

• ความแข็งแกร่งของแบรนด์: LVMH เป็นเจ้าของแบรนด์ชั้นนำระดับโลกมากมาย เช่น Louis Vuitton, Dior, Bulgari, Moët & Chandon ซึ่งเป็นที่รู้จักและต้องการของผู้บริโภคทั่วโลก ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบสำหรับการแข่งขันในตลาดสินค้าหรูหรา

  
  

• ความหลากหลายของธุรกิจ: LVMH มีธุรกิจที่หลากหลายช่วยกระจายความเสี่ยงและสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับบริษัท

  
  

• ศักยภาพการเติบโต: ตลาดสินค้าหรูยังคงมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนาที่กำลังซื้อกำลังขยายตัว

  
  

• การบริหารจัดการที่แข็งแกร่ง: LVMH มีประวัติการบริหารจัดการที่ดีเยี่ยม และมีความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลง

  
  

• ปันผล: LVMH มีการจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้น ซึ่งเป็นการสร้างกระแสเงินสดให้กับผู้ถือหุ้นนอกเหนือไปจากการเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นเพียงอย่างเดียว

ความเสี่ยงในการลงทุนหุ้น LVMH

• ราคาหุ้นมักเทรดบนพรีเมี่ยม: หุ้น LVMH มักจะซื้อขายที่ราคาพรีเมียม ซึ่งหมายความว่านักลงทุนอาจต้องจ่ายมากกว่ามูลค่าที่แท้จริงของบริษัทในปัจจุบัน ทำให้การซื้อหุ้นในราคาที่แพงกว่าปกติซึ่งส่งผลให้ผลตอบแทนลดลง

  
  

• ความเสี่ยงจากตลาดโลก: เนื่องจาก LVMH เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจทั่วโลก จึงมีความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอก เช่น ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมผู้บริโภค

  
  

• การแข่งขันสูง: แม้ว่า LVMH จะเป็นผู้นำตลาด แต่ยังมีการแข่งขันสูงจากบริษัทอื่น ๆ ในอุตสาหกรรมสินค้าหรูหรา เช่น Richemont และ Kering

  
  

• ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของเทรนด์: แนวโน้มการบริโภคสินค้าหรูอาจเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อยอดขายของ LVMH

LVMH เป็นบริษัทผู้นำระดับโลกในอุตสาหกรรมสินค้าหรูหราที่ครอบคลุมแบรนด์ที่มีชื่อเสียงไว้มากมาย ด้วยจุดยืนทางการตลาดที่แข็งแกร่ง การเติบโตอย่างต่อเนื่องในตลาดเอเชีย และการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ LVMH เป็นหุ้นที่น่าลงทุนสำหรับผู้ที่มองหาโอกาสจากการลงทุนระยะยาว ซึ่งแม้จะมีความเสี่ยงจากมูลค่าหุ้นที่สูง แต่ความมั่นคงทางการเงินและศักยภาพในการเติบโตยังคงเป็นปัจจัยดึงดูดสำหรับนักลงทุนได้เป็นอย่างดี