คาดการณ์ราคาเงิน: XAGUSD คงที่ก่อนการตัดสินใจอัตราดอกเบี้ยของเฟด
- โลหะเงินปรับลดการขาดทุนก่อนหน้านี้หลังจากลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบห้าวัน โดยเทรดเดอร์มีความระมัดระวังในช่วงก่อนการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของเฟด
- คาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 25 bps โดยคำแนะนำของพาวเวลล์น่าจะมีผลต่อแนวทางในระยะสั้นของตลาด
- ดัชนีโมเมนตัมแสดงถึงการปรับฐาน โดย RSI อยู่ที่ 64 และ ADX ที่ 34 ยังคงรักษาแนวโน้มขาขึ้นโดยรวมไว้ได้
โลหะเงิน (XAG/USD) ปรับลดการขาดทุนบางส่วนในวันพุธหลังจากลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบห้าวัน โดยเทรดเดอร์ไม่ค่อยกล้าที่จะเปิดตำแหน่งใหม่ในช่วงก่อนการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในเวลา 18:00 GMT
โลหะเงินแตะระดับสูงสุดในรอบ 14 ปีที่ $42.97 เมื่อวันอังคารก่อนที่จะถอยกลับ โดยถูกกดดันจากการปิดออเดอร์เพื่อทำกำไรและค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) ที่แข็งค่าขึ้น ในขณะที่เขียนบทความนี้ XAG/USD ซื้อขายอยู่ที่ประมาณ $41.90 ลดลงเกือบ 1.70% ในวันดังกล่าว โดยตลาดมุ่งเน้นไปที่การปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกที่คาดหวังของเฟดในปี 2025
เฟดคาดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 25 จุดพื้นฐานสู่ช่วง 4.00%-4.25% แม้ว่าการเคลื่อนไหวนี้จะถูกคำนวณไว้ทั้งหมดแล้ว แต่ความสนใจจะอยู่ที่การอัปเดต dot plot และการแถลงข่าวของประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ เพื่อหาสัญญาณเกี่ยวกับจังหวะและความลึกของรอบการผ่อนคลาย หากมีน้ำเสียงที่เป็นขาลงอาจกระตุ้นความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยและดันโลหะเงินกลับไปสู่ระดับสูงสุดล่าสุด ในขณะที่ข้อความที่มีความระมัดระวังมากขึ้นอาจเสี่ยงที่จะขยายการปรับตัวลดลงต่ำกว่า $41.50
จากมุมมองทางเทคนิค โลหะเงินกำลังซื้อขายอยู่ใกล้จุดกึ่งกลางของช่องทางที่เพิ่มขึ้น ซึ่งตรงกับแนวรับทันทีที่ $41.50 การรักษาระดับเหนือโซนนี้อย่างต่อเนื่องจะช่วยรักษาโมเมนตัมขาขึ้น โดยมีเป้าหมายที่ระดับ $42.50 และจุดสูงสุดที่ $42.97 หากทะลุผ่านไปได้อย่างเด็ดขาดอาจเปิดทางไปสู่ระดับจิตวิทยาที่ $44.00
ในด้านลบ แนวรับที่แข็งแกร่งจะอยู่ที่ประมาณ $39.50 ซึ่งมีปัจจัยหลายอย่างรวมกัน เช่น ขอบล่างของช่องทางที่เพิ่มขึ้น ระดับแนวต้านที่เปลี่ยนเป็นแนวรับ และเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อย่างง่าย (SMA) 50 วัน ซึ่งสร้างฐานที่สำคัญ การหลุดผ่านกลุ่มนี้จะทำให้โครงสร้างตลาดเปลี่ยนแปลงและเปิดเผยการขาดทุนที่ลึกลงไป
ดัชนีโมเมนตัมสะท้อนถึงการปรับฐานหลังจากการวิ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI) ลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 64 ซึ่งเย็นลงจากเขตซื้อมากเกินไป แต่ยังสนับสนุนแนวโน้มขาขึ้น ขณะเดียวกัน ดัชนีทิศทางเฉลี่ย (ADX) ที่ 34 ยืนยันว่าแรงของแนวโน้มยังคงแข็งแกร่ง การรวมกันนี้บ่งชี้ว่าโลหะเงินอยู่ในรูปแบบการถือครอง รอสัญญาณนโยบายจากเฟดเป็นตัวกระตุ้นการเคลื่อนไหวในทิศทางถัดไป
โลหะเงิน: คำถามที่พบบ่อย
แร่เงินเป็นโลหะมีค่าที่มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนอย่างมากในหมู่นักลงทุน ในอดีต โลหะเงินถูกใช้เป็นสินทรัพย์สะสมมูลค่าและเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน แม้ว่าจะได้รับความนิยมน้อยกว่าทองคํา แต่นักลงทุนอาจหันไปใช้โลหะเงินเพื่อกระจายพอร์ตการลงทุนของตนเพื่อสะสมมูลค่า หรือเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในช่วงที่มีอัตราเงินเฟ้อสูง นักลงทุนสามารถซื้อโลหะเงินจริงในรูปแบบของเหรียญ ในรูปแบบของแท่งหรือซื้อขายผ่านตัวกลางเช่น Exchange Traded Funds ซึ่งอ้างอิงราคาโลหะเงินในตลาดต่างประเทศ
ราคาโลหะเงินสามารถเคลื่อนไหวได้จากปัจจัยหลายประการ ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์หรือความกลัวต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงอาจทําให้ราคาโลหะเงินเพิ่มขึ้นจากสถานะสินทรัพย์ปลอดภัย แม้ว่าจะได้รับความสนใจน้อยกว่าทองคําก็ตาม ในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทน โลหะเงินมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง การเคลื่อนไหวของโลหะเงินยังขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของดอลลาร์สหรัฐ (USD) เพราะสินทรัพย์โลหะเงินซื้อขายด้วยราคาเป็นดอลลาร์ (XAGUSD) ดอลลาร์ที่แข็งค่ามีแนวโน้มที่จะรักษาราคาโลหะเงินไว้ แต่หากดอลลาร์อ่อนค่าลง มีแนวโน้มที่จะผลักดันราคาโลหะเงินให้สูงขึ้น ปัจจัยอื่นๆ เช่น อุปสงค์การลงทุน อุปทานการขุด (โลหะเงินมีมากกว่าทองคํามาก) และอัตราการนำกลับมาใช้ก็อาจส่งผลต่อราคาโลหะเงินได้เช่นกัน
โลหะเงินมีการใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคส่วนต่างๆ เช่น อิเล็กทรอนิกส์หรือพลังงานแสงอาทิตย์ เนื่องจากโลหะเงินสามารถนําไฟฟ้าได้สูงที่สุดชนิดหนึ่งเมื่อเทียบกับโลหะทั้งหมด มากกว่าทองแดงและทองคํา ความต้องการโลหะที่เพิ่มขึ้นสามารถทำให้ราคาโลหะเงินเพิ่มขึ้นได้ การเปลี่ยนแปลงในระบบเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จีน และอินเดียยังสามารถส่งผลต่อการแกว่งตัวของราคาโลหะเงิน ในสหรัฐฯ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจีน ภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของพวกเขาใช้โลหะเงินในกระบวนการต่างๆ ในอินเดีย ความต้องการโลหะมีค่าของผู้บริโภคเพื่อเอาไปสร้างเครื่องประดับก็มีบทบาทสําคัญในการกําหนดราคาโลหะเงินเช่นกัน
ราคาโลหะเงินมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวตามราคาทองคํา เมื่อราคาทองคําสูงขึ้น โลหะเงินมักจะเคลื่อนไหวามความเหมาะสม อย่างไรก็ตาม สถานะของสินทรัพย์ทั้งสองไม่ได้อยู่ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยที่มีความคล้ายคลึงกัน อัตราส่วนเปรียบเทียบทองคําและโลหะเงินจะให้ข้อมูลของจํานวนออนซ์ของโลหะเงินที่จําเป็นเพื่อให้เท่ากับมูลค่าของทองคําหนึ่งออนซ์ อัตราส่วนเปรียบทียบนี้อาจช่วยในการกําหนดการประเมินมูลค่าสัมพัทธ์ระหว่างโลหะทั้งสอง นักลงทุนบางคนอาจพิจารณาว่าหากอัตราส่วนนี้สูง จะหมายความว่าโลหะเงินมีมูลค่าต่ำเกินไป หรือทองคํามีมูลค่าสูงเกินไป ในทางตรงกันข้าม อัตราส่วนที่ต่ำอาจบ่งบอกว่าทองคํามีมูลค่าต่ำกินไปเมื่อเทียบกับโลหะเงิน
บทความแนะนำ
