CFD เป็นการลงทุนตราสารซับซ้อนและมีความเสี่ยงสูงที่อาจทำให้สูญเสียเงินทุนได้อย่างรวดเร็วเนื่องจากมีเลเวอเรจ คุณควรตรวจสอบตนเองว่าคุณเข้าใจวิธีการทำงานของ CFD หรือไม่ และคุณสามารถที่จะรับความเสี่ยงในการสูญเสียเงินทุนที่สูงนี้ได้หรือไม่
    Mitrade Insights ทุ่มเทเพื่อให้นักลงทุนได้รับข้อมูลทางการเงินที่ครบถ้วน ทันเวลา และมีคุณค่ามากที่สุด เพื่อช่วยให้นักลงทุนเข้าใจสถานการณ์ตลาดและคว้าโอกาสในการซื้อขายได้ทันท่วงที
    2021
    ผู้ให้บริการข่าวและการวิเคราะห์ที่ดีที่สุด
    FxDailyInfo
    2022
    แหล่งข้อมูลการศึกษา Forex ที่ดีที่สุดทั่วโลก
    International Business Magazine

    วิธีตรวจสุขภาพทางการเงินด้วยตัวเองผ่านการเงิน 4 ด้าน

    10 นาที
    อัพเดทครั้งล่าสุด 05 พ.ค. 2566 03:37 น.

    หลายคน ทุกๆ ปีจะไปตรวจสุขภาพประจำปี ว่าเราสุขภาพร่างกายแข็งแรงรึปล่าว? อันไหนไม่ดี เช่น ค่าความดัน น้ำตาล ไขมันต่างๆ ไม่ดี เพียงแค่ ออกกำลังกาย ทานอาหารให้เป็นประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ กินยาบรรเทาอาการทำให้ผลเหล่านั่นมันดีขึ้น “ความแข็งแรงของร่างกายจึงวัดผ่านการตรวจสุขภาพประจำปี”


    แต่สิ่งที่สำคัญที่คนส่วนใหญ่หลายคนละเลยไม่เคยได้ตรวจเลย คือ การตรวจสุขภาพการเงินของตัวเองเลย ผ่าน 2 งบการเงิน ทั้งงบรายรับจ่าย และงบทรัพย์สินและหนี้สิน  “ความแข็งแรงของการเงินจึงต้องวัดผ่านการตรวจสุขภาพการเงินประจำปีเช่นกัน”


    เวลาเราป่วยเราต้องไปหาหมอ เพื่อไปตรวจว่าร่างกายผิดปกติเป็นอะไรไหม เช่นเดียวกัน การตรวจสุขภาพการเงิน เหมือนกับการหาหมอด้านการเงิน เพื่อดูการเงิน 4 ด้าน แต่ละด้านเป็นเช่นไร?  ทั้งด้าน สถานะทางการเงิน สภาพคล่อง หนี้สินและโอกาสความมั่งคั่งในอนาคตจะเป็นอย่างไร 


    และถ้าถามว่าเราควรวิธีตรวจสุขภาพทางการเงิน ปีละกี่ครั้งดี คำตอบคือ อย่างน้อยปีละครั้งครับที่เหลือ ก็จะเป็นเหตุการณ์อะไรที่กระทบต่อการเงินที่สำคัญก็ควรมาตรวจก่อนครับ

    มาทำความรู้จักงบรายรับ รายจ่าย

    งบรายรับ รายจ่ายคือ งบที่แสดงถึงว่า เรามีรายรับมาจากไหนบ้าง? รายจ่ายเป็นเท่าไหร่? มีเงินคงเหลืออะไรบ้าง?


    งบนี้จะช่วยแก้ปัญหาคือ เราหาเงินมาตั้งนานเงินหายไปไหนหมด? จากสมการ รายรับ – รายจ่าย = เงินคงเหลือ


    ซึ่ง การทำงบตัวเองอาจจะเริ่มนึกว่าเรามีรายรับ / รายจ่ายต่อเดือนกี่บาท และลองประมาณการณ์เป็นรายปีตามตัวอย่าง


    รายรับ มี 2 แหล่ง คือ จากการทำงาน และ จากการลงทุน


    รายจ่าย มี 3 แหล่ง คือ จ่ายคงที่ จ่ายผันแปร จ่ายเพื่อการลงทุน


    มาลองดูงบรายรับ รายจ่ายตัวอย่าง ของคนทำงานประจำกัน ใส่ใจการลงทุนกันนะครับ!


    รายได้

    มูลค่า

    %

    รายได้จากการทำงาน (Active Income)

    เงินเดือน (เดือนละ 35,000)

    420,000

    68.40%

    โบนัส (2 เดือน)

    70,000

    11.40%

    อื่นๆ - รับจ้างทั่วไป (เดือนละ 5,000)

    60,000

    9.77%

    รวมรายได้จากการทำงาน

    550,000

    89.58%

    รายได้จากสินทรัพย์ลงทุน (Passive Income)



    ดอกเบี้ย - ออมทรัพย์ (200,000*1.5%)

    3,000

    0.49%

    เงินปันผล (500,000 * 5% )

    25,000

    4.07%

    กำไรจากการลงทุนเดือนละ (เดือนละ 3,000)

    36,000

    5.86%

    ค่าเช่า


    0.00%

    อื่นๆ


    0.00%

    รวมรายได้จากสินทรัพย์ลงทุน

    64,000

    10.42%

    รวมรายได้

    614,000

    100.00%

    รายจ่าย

    มูลค่า

    %

    รายจ่ายคงที่ (Fixed Expense)

    ประกันสังคม (เดือนละ 750)

    9,000

    1.47%

    กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ / กบข. (3% ของรายได้)

    12,600

    2.05%

    เบี้ยประกันชีวิต (รายปี)

    20,000

    3.26%

    ผ่อนรถยนต์


    0.00%

    เบี้ยประกันวินาศภัย (รายปี)

    10,000

    1.63%

    ผ่อนบ้าน ( เดือนละ 9,000)

    108,000

    17.59%

    อื่นๆ


    0.00%

    รวมรายจ่ายคงที่ (Fixed Expense)

    159,600

    25.99%

    รายจ่ายผันแปร (Variable Expense)

    อาหาร (เดือนละ 15,000)

    180,000

    29.32%

    เดินทาง/ค่าน้ำมัน/ทางด่วน (เดือนละ 3,000)

    36,000

    5.86%

    สาธารณูปโภค (โทรศัพท์/อินเตอร์เน็ต ทีวี) (เดือนละ 2,000)

    24,000

    3.91%

    ไลฟ์สไตล์ (เดือนละ 3,000)

    36,000

    5.86%

    ช็อปปิ้ง (เดือนละ 2,000)

    24,000

    3.91%

    ท่องเที่ยว (เดือนละ 2,000)

    24,000

    3.91%

    เลี้ยงดูบุตร  (เดือนละ 3,000)

    36,000

    5.86%

    เลี้ยงดูบุพพาการี (เดือนละ 2,000)

    24,000

    3.91%

    อื่่นๆ


    0.00%

    รวมรายจ่ายผันแปร (Variable Expense)

    384,000

    62.54%

    รายจ่ายเพื่อการออมและลงทุน (Investment Expense)



    เงินฝากบัญชี ทั่วไป (ปีละ 10,000)

    10,000

    1.63%

    กองทุนรวมทั่วไป (เดือนละ 2,000)

    24,000

    3.91%

    กองทุนรวม RMF SSF


    0.00%

    หุ้น (เดือนละ2,000)

    24,000

    3.91%

    รวมรายจ่ายเพื่อการออมและลงทุน  (Investment Expense)

    58,000

    9.45%

    รวมรายจ่ายทั้งหมด

    601,600

    97.98%

    กระแสเงินสดคงเหลือ

    12,400

    2.02%

    มาทำความรู้จักงบทรัพย์สินและหนี้สิน

    งบทรัพย์สินและหนี้สิน คือ งบที่แสดงสถานะการเงิน ว่าปัจจุบันเรามีสินทรัพย์อะไรบ้าง? หนี้สินอะไรบ้าง สุดท้ายความมั่งคั่งสุทธิเป็นแบบไหน


    งบนี้จะช่วยแก้ปัญหา คือ ทำงานมาตั้งนาน เราเปลี่ยนเงินเป็นทรัพย์สินอะไรบ้าง และหนี้สินที่เรามีอยู่คืออะไร?


    จากสมการ สินทรัพย์ – หนี้สิน = ความมั่งคั่งสุทธิ


    สินทรัพย์  คือ มูลค่าปัจจุบันของสินทรัพย์ที่มีมูลค่า เช่น บัญชีเงินฝาก กองทุนรวม มูลค่าบ้าน รถ เป็นต้น


    หนี้สิน คือ มูลค่าหนี้คงค้าง เช่น หนี้บัตรเครดิต หนี้บ้าน หนี้ รถ เป็นต้น


    ความมั่งคั่งสุทธิ = สินทรัพย์รวม - หนี้สินรวม


    สินทรัพย์สภาพคล่อง คือ มูลค่าของสินทรัพย์ที่เปลี่ยนเป็นเงินสดได้ทันที มีความเสี่ยงต่ำ เช่น บัญชีเงินฝาก กองทุนรวมตลาดเงิน


    สินทรัพย์ลงทุน คือ มูลค่าของสินทรัพย์ลงทุน เช่น สลากออมสิน กองทุนรวม กองทุนรวม SSF,LTF,RMF และหุ้น


    สินทรัพย์ส่วนตัว คือ มูลค่าของสินทรัพย์ส่วนตัวไว้ใช้งาน อยู่อาศัย เช่น มูลค่าบ้าน มูลค่ารถ มูลค่าของสะสมต่างๆ


    หนี้สินระยะสั้น คือ มูลค่าหนี้คงค้างที่มีอายุน้อยกว่า 1 ปี เช่น หนี้คงค้างบัตรเครดิต


    หนี้สินระยะยาว คือ มูลค่าหนี้คงค้างที่มีอายุมากกว่า 1 ปี เช่น หนี้บ้าน หนี้รถ


    มาลองดูงบทรัพย์สิน/หนี้สิน ตัวอย่าง ของคนทำงานประจำกัน ใส่ใจการลงทุนกันนะครับ!


    สินทรัพย์

    มูลค่า

    %

    สินทรัพย์สภาพคล่อง (Liquid Asset)

    บัญชีฝากออมทรัพย์

    100,000

    1.85%

    กองทุนรวมตลาดเงิน

    50,000

    0.93%

    รวมสินทรัพย์สภาพคล่อง

    150,000

    2.78%

    สินทรัพย์ส่วนตัว (Personal Asset)

    รถ

    600,000

    11.11%

    บ้าน

    3,500,000

    64.81%

    ของสะสม

    300,000

    5.56%

    รวมสินทรัพย์ส่วนตัว

    4,400,000

    81.48%

    สินทรัพย์การลงทุน (Investment Asset)

    กองทุนประกันสังคม

    40,000

    0.74%

    กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

    90,000

    1.67%

    กองทุนรวมทั่วไป

    40,000

    0.74%

    กองทุนรวมเพื่อการออม SSF

    20,000

    0.37%

    กองทุนรวมเพื่อการออม RMF

    50,000

    0.93%

    หุ้น

    500,000

    9.26%

    ทองคำ

    100,000

    1.85%

    อื่นๆ - สินทรัพย์ดิจิตอล

    10,000

    0.19%

    รวมสินทรัพย์เพื่อการลงทุน

    850,000

    15.74%

    สินทรัพย์รวม

    5,400,000

    100.00%

    หนี้สินและความมั่งคั่ง

    มูลค่า

    %

    หนี้สินระยะสั้น (Short-term Liabilities)

    หนี้บัตรเครดิต

    20,000

    0.4%

    อื่นๆ


    0.0%

    หนี้สินระยะสั้นรวม

    20,000

    0.4%

    หนี้สินระยะยาว (Long-term Liabilities)

    รถ


    0.0%

    บ้าน

    2,000,000

    37.0%

    ของสะสม


    0.0%

    หนี้สินระยะยาวรวม

    2,000,000

    37.0%

    หนี้สินรวม

    2,020,000

    37.4%

    ความมั่งคั่งสุทธิ

    3,380,000

    62.6%

    หนี้สินและความมั่งคั่งสุทธิ

    5,400,000

    100.0%

    วิธีตรวจสุขภาพการเงินด้วยตัวเองผ่านการเงิน 4 ด้าน

    หลังจากเราได้เริ่มทำงบการเงินของตัวเองไปแล้ว ทั้งงบรายรับ รายจ่าย รวมไปถึง งบทรัพย์สินและหนี้สิน  


    ครั้งนี้เราจะใช้ตัวเลขจากงบการเงินทั้งหลายมาวิเคราะห์ว่าสุขภาพการเงินของเราเป็นเช่นไร มีอะไรดีแล้ว แล้วมีอะไรต้องปรับปรุงหรือปล่าว?


    วันนี้ผมเลยมีวิธีการตรวจการตรวจสุขภาพการเงินอย่างง่ายมาฝากเพื่อนๆ ครับ


    ลองตรวจดูว่า สุขภาพการเงิน 4 ด้านการเงินของเราปกติไหม? มีอะไรต้องรีบแก้ไขหรือปล่าว?


    ◆ สูตรในการคำนวณ ◆


     ●  ด้านที่ 1. “สถานะการเงิน” เราเป็นยังไง?


    สุขภาพการเงิน

    ควรเป็นแบบไหน

    1. ความมั่งคั่งสุทธิ (ความรวย) = สินทรัพย์ทั้งหมด - หนี้สินทั้งหมด (บาท)

    เป็นบวก ยิ่งบวก ยิ่งรวย

    2. ความอยู่รอด = รายได้รวม / ค่าใช้จ่ายรวม (เท่า)

    > 1 แสดงว่ามีรายรับที่เพียงพอค่าใช้จ่าย


     ●  ด้านที่ 2. “สภาพคล่อง” เราดีอยู่มั้ย?


    สุขภาพการเงิน

    ควรเป็นแบบไหน

    3. สภาพคล่องระยะสั้น = สินทรัพย์สภาพคล่องรวม/หนี้สินระยะสั้นรวม (เท่า)

    > 1 แสดงว่ามีเงินเพียงพอในการจ่ายหนี้ระยะสั้น

    4. สภาพคล่องพื้นฐาน (เงินเก็บฉุกเฉิน) = สินทรัพย์สภาพคล่องรวม / ค่าใช้จ่ายต่อเดือนรวม (เดือน)

    ควรมีอย่างน้อย 3 – 6 เดือน  เพื่อรองรับค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน


     ●  ด้านที่ 3. มี “หนี้สินเกินตัว” อยู่หรือไม่?


    สุขภาพการเงิน

    ควรเป็นแบบไหน

    5. สัดส่วนหนี้สิน vs สินทรัพย์ = หนี้สินรวม / สินทรัพย์รวม (%)

    < 50% แสดงว่ามีสัดส่วนหนี้สินที่เหมาะสม

    6. ความสามารถในการจ่ายหนี้ =   ผ่อนหนี้สินต่อปี / รายรับต่อปี (%)

    < 45% แสดงว่ามีสัดส่วนผ่อนหนี้สินที่เหมาะสม


     ●  ด้านที่ 4. จะมีโอกาส “รวย” ในอนาคต?


    สุขภาพการเงิน

    ควรเป็นแบบไหน

    7. สัดส่วนการลงทุน = สินทรัพย์ลงทุน/ความมั่งคั่งสุทธิ (%)

    > 50% แสดงว่ามีสัดส่วนสินทรัพย์ลงทุนที่ดี

    8. สัดส่วนการออม = (รายจ่ายเพื่อออมและลงทุน + เงินคงเหลือ) / รายรับ (%)

    > 10% แสดงว่าหาเงินเก่งและเก็บเงินเป็น


    ◆ ตัวอย่างในการคำนวณ จากตัวอย่าง งบการเงินข้างบน 


     ●  ด้านที่ 1 “สถานะการเงิน” เราเป็นยังไง?

    1. ความมั่งคั่งสุทธิ(ความรวย) = 5,400,000 - 2,020,000= 3,380,000 บาท มีสินทรัพย์มากกว่าหนี้สิน มีความมั่งคั่ง

    2. ความอยู่รอด = 614,000/ 601,600 = 1.02 เท่า แสดงว่าอยู่รอด มีการใช้จ่ายน้อยกว่ารายได้ที่มี


     ●  ด้านที่ 2 “สภาพคล่อง” เราดีอยู่มั้ย?

    3. สภาพคล่องระยะสั้น = 150,000/20,000 =  เท่า แสดงว่ามีการจ่ายหนี้ระยะสั้นไหวอยู่

    4. สภาพคล่องพื้นฐาน(เงินเก็บฉุกเฉิน) = 150,000/(601,600/12) = 3 เดือน แสดงว่ามีสภาพคล่องเพียงพอรองรับได้ 3 เดือน


     ●  ด้านที่ 3 มี “หนี้สินเกินตัว” อยู่หรือไม่?

    5.สัดส่วนหนี้สิน vs สินทรัพย์ = 2,020,000/5,400,000 = 37.41% แสดงว่ามีสัดส่วนหนี้ที่เหมาะสม

    6.ความสามารถในการจ่ายหนี้ = 108,000/614,000 = 17.59% แสดงว่ามีการผ่อนหนี้สินที่เกินตัว ไม่ควรก่อหนี้เพิ่ม


     ●  ด้านที่ 4 จะมีโอกาส “รวย” ในอนาคตมั้ย?

    7. สัดส่วนการลงทุน = 850,000/3,380,000 = 25.15% แสดงว่าสัดส่วนการลงทุนไม่เหมาะสมควรเพิ่มสินทรัพย์ลงทุน 

    8. สัดส่วนการออม = (58,000+12,400)/614,000 = 11.47% แสดงว่ามีการออมที่ดี

    เห็นมั้ยครับการตรวจสุขภาพการเงินประจำปีและการทำงบการเงินของตัวเอง ไม่ยากเลยใช่มั้ยครับ ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีเอง ก็จะทำให้เพื่อนๆ รู้ตัวเองแล้วว่า การเงินของเราทั้ง 4 ด้านเป็นยังไง ด้านไหน ดีแล้ว ก็พัฒนาให้ดีขึ้นต่อไปครับ แต่ด้านไหนไม่ดี รีบรักษาให้หาย ก่อนมันจะลุกลาม ทำให้การเงินด้านอื่นๆ ไม่ดีนะครับ เพื่อนๆอย่าลืมวางแผนการเงินและตรวจสุขภาพการเงินด้วยนะครับ

    *** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา


    การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

    บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่?
    บทความที่เกี่ยวข้อง
    ราคาเสนอแบบเรียลไทม์