ข่าวคริปโต|ข่าวคริปโตวันนี้|สรุปข่าวคริปโตประจำวัน: เทรนเดอร์หนีตาย เทขาย Bitcoin ขณะที่ยักษ์ใหญ่การเงินเข้าช้อน โดยเฉพาะ ETH

ไฮไลท์ของข่าวคริปโตวันนี้

• สายซิ่งเลือดสาด เทขาย Bitcoin หนีตายกันเจ้าละหวั่น

• Citigroup JP Morgan นำทัพบุก Blockchain อัดฉีดเงินมหาศาล

• SharpLink เดินหน้าช้อน ETH ไม่ยั้ง กวาดเพิ่มอีก $54 ล้าน ดันพอร์ตรวมทะลุ $1.65 พันล้าน

• แฮกเกอร์สุดแสบ ซุ่มรอก่อนสูบเงิน $908,000 ในพริบตาแค่คลิกเดียว!

สายซิ่งเลือดสาด เทขาย Bitcoin หนีตายกันเจ้าละหวั่น

สถานการณ์ Bitcoin ตอนนี้บอกเลยว่าใจคอไม่ดี โดยเฉพาะกับนักลงทุนระยะสั้นที่ล่าสุดเหมือนจะขวัญเสียกันสุดๆ ข้อมูลจาก CryptoQuant เปิดเผยว่าแค่ในวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา เหล่าสายซิ่งพากันเทขาย Bitcoin แบบขาดทุนออกมาใส่มือ Exchange รวมกันกว่า 40,000 BTC

นักวิเคราะห์J. A. Maartunn ถึงกับใช้คำว่า “เลือดสาด” (bleeding BTC) กันเลยทีเดียว ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม ยิ่งไปกว่านั้น ถ้านับยอดรวมทุกกลุ่มที่โอนเข้า Exchange ในวันเดียว ตัวเลขสุทธิพุ่งไปถึง 16,417 BTC แต่ที่น่าขนลุกกว่าคือ ข้อมูลจาก Arab Chain ที่ชี้ว่าการโอนเข้าส่วนใหญ่นั้นมาจากวาฬ หรือนักลงทุนรายใหญ่

ตัวชี้วัด Exchange Whale Ratio พุ่งเกิน 0.70 ซึ่งในอดีตมันคือสัญญาณเตือนว่ากำลังจะมีแรงเทขายมหาศาลตามมา และอาจฉุดให้ราคาร่วงลงอย่างรวดเร็ว แนวโน้มนี้สอดคล้องกับข้อมูลจาก Darkfost ที่บอกว่ายอดโอน BTC เข้า Binance เฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้นจาก 5,300 BTC เป็น 7,000 BTC ในช่วงเดือนที่ผ่านมา บ่งบอกว่าพฤติกรรมนักลงทุนกำลังเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน

อัตราส่วนการถือ Bitcoin ของวาฬลดลง ที่มา: CryptoQuant

บทวิเคราะห์: สัญญาณอันตรายมาพร้อมกันสองทาง ทั้งจากรายย่อยที่ยอมตัดขาดทุน และรายใหญ่ที่ขนเหรียญเข้า Exchange เหมือนเตรียมจะทำอะไรบางอย่าง นี่คือช่วงเวลาที่ต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด

Citigroup JP Morgan นำทัพบุก Blockchain อัดฉีดเงินมหาศาล

สถาบันการเงินดั้งเดิม (TradFi) กลับกำลังเดินเกมรุกเข้าสู่โลก Blockchain อย่างเงียบๆ รายงานล่าสุดจาก Ripple และ CB Insights เผยชื่อยักษ์ใหญ่อย่าง Citigroup, Goldman Sachs และ JP Morgan ที่กลายเป็นหัวหอกในการลงทุนในสตาร์ทอัพด้านบล็อกเชน

ตั้งแต่ปี 2020 ถึง 2024 ธนาคารทั่วโลกอัดฉีดเงินเข้าไปในดีลต่างๆ ถึง 345 ครั้ง โดย Citigroup และ Goldman Sachs นำโด่งที่ 18 ดีลเท่ากัน พวกเขาไม่ได้มาเล่นๆ เพราะมีส่วนร่วมในดีลระดับ Mega-rounds หรือการระดมทุนเกิน $100 ล้านเหรียญถึง 33 รอบ โดยเงินส่วนใหญ่มุ่งไปที่โครงสร้างพื้นฐานการเทรด, Tokenization และโซลูชันการชำระเงิน

 ที่มา: Ripple

บทวิเคราะห์: นี่คือการเดิมพันครั้งใหญ่ของโลกการเงินเก่า พวกเขาไม่ได้มองว่าคริปโตเป็นศัตรูอีกต่อไป แต่เป็นอนาคตที่ต้องเข้าไปมีส่วนร่วมและควบคุมให้ได้ การที่เม็ดเงินมหาศาลและกฎหมายต่างๆ เช่น MiCA ในยุโรป เริ่มเข้ามาสนับสนุน ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่า Blockchain กำลังจะกลายเป็นกระแสหลักอย่างเต็มตัวในเร็วๆ นี้

SharpLink เดินหน้าช้อน ETH ไม่ยั้ง กวาดเพิ่มอีก $54 ล้าน ดันพอร์ตรวมทะลุ $1.65 พันล้าน

บริษัท SharpLink กำลังสร้างตำนานบทใหม่ด้วยการไล่ช้อนซื้อ ETH อย่างบ้าคลั่ง ข้อมูล On-chain ล่าสุดเผยว่า ในช่วงไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา SharpLink ได้กวาด ETH เพิ่มเข้าพอร์ตไปอีก 15,822 ETH คิดเป็นมูลค่าราว $53.9 ล้านเหรียญ ทำให้ตอนนี้พวกเขาถือครอง ETH รวมแล้วมากถึง 480,031 ETH หรือตีเป็นเงินไทยก็ราวๆ $1.65 พันล้านเหรียญสหรัฐ

ความดุดันนี้เกิดขึ้นต่อเนื่องตลอด 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยใช้เงิน USDC กว่า $108.57 ล้านเหรียญ ซื้อ ETH ไปทั้งหมด 30,755 ETH และไม่ใช่แค่ SharpLink เท่านั้น อีกหนึ่งผู้เล่นรายใหญ่อย่าง The Ether Machine ก็เพิ่งทุ่มเงิน $56.9 ล้านเหรียญซื้อไป 15,000 ETH เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้ยอดถือครองรวมของพวกเขาทะลุ 334,757 ETH แซงหน้า Ethereum Foundation ไปเรียบร้อย และเตรียมจะเข้าตลาดหุ้นในชื่อ ETHM อีกด้วย

 ที่มา: Lookonchain

บทวิเคราะห์: การเข้าซื้อระดับนี้ไม่ใช่ฝีมือของนักลงทุนรายย่อย แต่เป็นการสะสมของระดับสถาบันที่มองการณ์ไกล การกระทำที่สวนทางกับความรู้สึกของตลาดแบบนี้ คือสัญญาณของความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้า และอาจเป็นตัวบ่งชี้ว่าผู้เล่นรายใหญ่กำลังเห็นโอกาสมหาศาลที่คนทั่วไปมองไม่เห็น

แฮกเกอร์สุดแสบ ซุ่มรอก่อนสูบเงิน $908,000 ในพริบตาแค่คลิกเดียว!

มีผู้ใช้งานรายหนึ่งต้องสูญเงินกว่า $908,551 หรือประมาณ 33 ล้านบาท ไปในพริบตาเดียว เหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดจากการแฮกระบบที่ซับซ้อน แต่เกิดจากความผิดพลาดเพียงครั้งเดียวเมื่อปีก่อน!

โดยเหยื่อได้เผลอไปกดอนุมัติธุรกรรมบางอย่างบนเว็บไซต์ Phishing ซึ่งเปรียบเสมือนการเซ็นเช็คเปล่าทิ้งไว้ให้โจร แฮกเกอร์ที่เชื่อมโยงกับกลุ่ม pink-drainer.eth ก็แค่เฝ้ารออย่างใจเย็น จนกระทั่งเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม เหยื่อได้โอนเงินก้อนใหญ่เกือบ $1 ล้านเหรียญเข้ามาใน Wallet ที่เคยผูกสัญญานี้ไว้ แฮกเกอร์รออีกหนึ่งเดือนเต็มๆ ก่อนจะลงมือสูบเงินทั้งหมดออกไปในธุรกรรมเดียวเมื่อวันที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา เคสนี้เป็นเครื่องเตือนใจจาก Scam Sniffer ว่าความปลอดภัยของ Wallet สำคัญที่สุดและเราควรตรวจสอบและยกเลิก (Revoke) การอนุมัติเก่าๆ ที่ไม่จำเป็นออกไปเสมอ

 ที่มา: Scam Sniffer

บทวิเคราะห์: แฮกเกอร์ฉลาดพอที่จะรอคอยเป็นปีๆ เพื่อจังหวะที่คุ้มค่าที่สุด บทเรียนสำคัญคือความปลอดภัยไม่ใช่เรื่องที่ทำครั้งเดียวจบ แต่เป็นสิ่งที่ต้องดูแลและตรวจสอบอยู่เสมอ เครื่องมืออย่าง Token Approval Checker บน Etherscan คือเพื่อนแท้ที่ช่วยคุณได้

ดัชนี Fear and Greed Index: 64

Source: https://alternative.me/crypto/