วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 10 พฤศจิกายน 2568

กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้

เทรดทองเดี๋ยวนี้ >     

*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣ 

*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰 

*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁

ราคาทองคำ XAU/USD เปิดตลาดเช้าวันจันทร์อย่างแข็งแกร่ง โดยเคลื่อนไหวในแดนบวกบริเวณ 4,050 ดอลลาร์ โดยได้รับแรงหนุนสำคัญมาจากข้อมูลภาคเอกชนของสหรัฐฯ ที่บ่งชี้ถึงภาวะตลาดแรงงานที่อ่อนแออย่างหนัก ซึ่งกระตุ้นให้นักลงทุนเพิ่มน้ำหนักการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จำเป็นต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้

ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลง อย่างไรก็ตาม แม้จะมีข่าวดีสนับสนุน แต่ทองคำยังคงเผชิญกับแรงต้านทางจิตวิทยาที่สำคัญ และยังไม่สามารถสร้างแรงส่งขาขึ้นรอบใหม่ได้อย่างชัดเจน ท่ามกลางปัจจัยลบที่เริ่มก่อตัวขึ้นเช่นกัน

ตลาดแรงงานส่งสัญญาณอันตราย ปัจจัยบวกชั้นดีของราคาทองคำ

ข้อมูลที่ส่งผลต่อตลาดในขณะนี้คือรายงานจาก Challenger ที่ระบุว่า บริษัทในสหรัฐฯ ได้ประกาศเลิกจ้างงานในเดือนตุลาคมมากกว่า 150,000 ตำแหน่ง ซึ่งนับเป็นการลดลงครั้งใหญ่ที่สุดสำหรับเดือนตุลาคมในรอบกว่า 20 ปี ตัวเลขนี้สะท้อนภาพการชะลอตัวของตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่ชัดเจนและรุนแรงกว่าที่คาดการณ์ไว้

ข่าวร้ายของเศรษฐกิจ กลายเป็นข่าวดีสำหรับราคาทองคำในทันที นักลงทุนในตลาดตอบสนองด้วยการเพิ่มเดิมพันว่าเฟดจะถูกบีบให้ต้องลดอัตราดอกเบี้ย โดยหากอ้างอิงจากเครื่องมือ CME FedWatch ตลาดได้ให้โอกาสเกือบ 66% ที่จะมีการลดอัตราดอกเบี้ย 25 bps ในการประชุมเดือนธันวาคมนี้

กำแพง $4,000 ที่ต้องยืนอยู่ให้ได้ แม้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคดิ่งเหว

แม้จะมีปัจจัยบวกจากตลาดแรงงาน แต่ราคาทองคำยังต้องพยายามยืนเหนือ 4,000 ดอลลาร์ให้ได้ แม้ว่าจะมีรายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่อ่อนแออย่างหนักตอกย้ำเข้ามา

ข้อมูลจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน (UoM) เมื่อวันศุกร์ เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นในเดือนพฤศจิกายน ร่วงลงสู่ระดับ 50.3 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2022 และต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 53.2 อย่างมาก

Joanne Hsu ผู้อำนวยการฝ่ายสำรวจผู้บริโภค ระบุว่าความเชื่อมั่นลดลงประมาณ 6% โดยมีสาเหตุหลักมาจากการประเมินสถานะการเงินส่วนบุคคลในปัจจุบันที่ลดลงถึง 17% และความคาดหวังต่อภาวะธุรกิจในอีกหนึ่งปีข้างหน้าที่ลดลง 11%

Hsu ยังชี้ให้เห็นว่า การปิดหน่วยงานรัฐบาลที่ยืดเยื้อมานานกว่าหนึ่งเดือน กำลังทำให้ผู้บริโภคเริ่มแสดงความกังวลอย่างชัดเจนถึงผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจ

แต่ที่น่าประหลาดใจคือ แม้ข้อมูลจะเลวร้ายเพียงใด ทองคำกลับไม่ได้ตอบรับอะไรมากหลังการรายงานข้อมูล สะท้อนว่าตลาดกำลังเผชิญกับแรงกดดันที่ขัดแย้งกันอยู่

Fawad Razaqzada นักวิเคราะห์ตลาดจาก Forex.com มองว่า ตลาดกำลังอยู่ในภาวะชักเย่อแม้ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอควรจะหนุนทอง แต่ปัญหาคือทองคำกลับเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นที่กำลังย่ำแย่ ทำให้ทองคำไม่ได้รับอานิสงส์ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเท่าที่ควร

ในทางกลับกัน ปัจจัยลบที่คอยกดดันราคาทองคำไว้ คือรายงานจาก Bloomberg ในช่วงเช้าวันจันทร์ที่ระบุว่า การปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ทำสถิตยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ อาจใกล้ถึงจุดสิ้นสุด หลังกลุ่มวุฒิสมาชิกสายกลางตกลงที่จะสนับสนุนข้อตกลงเปิดทำการอีกครั้ง หากข่าวนี้เป็นจริง จะลดความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยลง ซึ่งจะส่งผลลบโดยตรงต่อทองคำ

ความเห็นเสียงแตก Wall Street เป็นกลาง แต่ Main Street มองกระทิงเต็มตัว

ความสับสนในตลาดสะท้อนอย่างชัดเจนผ่านผลสำรวจ Kitco News Gold Survey ประจำสัปดาห์ ในฝั่งนักวิเคราะห์ Wall Street จำนวน 21 รายที่เข้าร่วม ส่วนใหญ่ถึง 59% (13 ราย) มีมุมมอง “เป็นกลาง” ต่อราคาทองคำ ในระยะสั้น

มีเพียง 32% (7 ราย) ที่มองว่าราคาจะสูงขึ้น และอีก 9% (2 ราย) ที่มองว่าราคาจะลดลง

ในขณะที่นักลงทุนรายย่อยบน Main Street กลับมีมุมมองที่แตกต่าง ผลสำรวจออนไลน์ 221 เสียง พบว่า 55.7% (123 ราย) ยังคงมีมุมมอง “กระทิง” และคาดว่าราคาทองคำจะสูงขึ้นในสัปดาห์หน้า มีเพียง 17.6% ที่มองว่าราคาจะลดลง

มุมมองของนักวิเคราะห์ก็แตกออกเป็นหลายทาง Aaron Hill หัวหน้านักวิเคราะห์ตลาดของ FP Markets มองว่านี่คือการหยุดพักคลาสสิกในแนวโน้มขาขึ้นเชิงโครงสร้าง เขายังคงเป้าหมายพื้นฐานไว้ที่ 4,200 ดอลลาร์ ภายในสิ้นปี

แต่ในทางกลับกัน Alex Kuptsikevich นักวิเคราะห์ตลาดของ FxPro ซึ่งเป็นหนึ่งในสองคนที่มองตลาดในแง่ลบ กล่าวว่าแนวโน้มขาขึ้นได้พังทลายลงแล้ว การขายเมื่อราคาดีดตัวขึ้น (Selling on the rise) กำลังกลายเป็นสิ่งที่สมเหตุสมผล

ในระยะสั้น ราคาทองคำดูเหมือนจะติดอยู่ในการซื้อขายแบบไร้ทิศทาง นักวิเคราะห์หลายคน เช่น Barbara Lambrecht จาก Commerzbank และ Michael Brown จาก Pepperstone มองว่า ทองคำมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหว Sideways ไปอีกสักระยะ

โดยตลาดทองคำกำลังรอคอยตัวเร่งปฏิกิริยาใหม่ๆ ท่ามกลางภาวะชะงักงันที่ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ (หนุนทอง) ถูกหักล้างด้วยความคาดหวังว่าวิกฤตการปิดหน่วยงานรัฐฯ จะคลี่คลาย (กดดันทอง) ปัจจัยพื้นฐานระยะยาว เช่น การซื้อของธนาคารกลาง และความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ ยังคงแข็งแกร่ง แต่ในระยะสั้น ตลาดอาจยังคงผันผวนในกรอบเพื่อรอทิศทางที่ชัดเจนต่อไป

สถานการณ์ทางเทคนิคของราคาทองคำในไทม์เฟรม 4 ชั่วโมง ได้ยืนยันสัญญาณบวกที่ชัดเจนขึ้นอย่างมาก จากที่ประเมินไว้ว่าราคาบริเวณ 3,950 ดอลลาร์ (แนวเส้น EMA 200) ได้ทำหน้าที่เป็นแนวรับที่แข็งแกร่ง และราคากำลังพยายามทะลุ Channel ขาลง

ล่าสุดจากกราฟจะเห็นว่าราคาได้ทะลุผ่านกรอบแนวต้านดังกล่าวขึ้นมาได้สำเร็จแล้ว (Breakout) ปัจจุบันราคาซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 4,040 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่ยืนเหนือกลุ่มเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น (EMA 12 และ 26) และยืนเหนือแนวต้านของ Channel ที่กดดันราคามาตลอดได้

การทะลุผ่านครั้งนี้ได้รับการยืนยันจากอินดิเคเตอร์อย่าง ดัชนี RSI ที่ได้พุ่งขึ้นมายืนอยู่เหนือระดับ 60 อย่างชัดเจน สะท้อนถึงโมเมนตัมฝั่งซื้อที่แข็งแกร่งและเข้ามาควบคุมตลาดอย่างเต็มที่ 

ขณะที่ Stochastic RSI ได้ขึ้นไปอยู่ในเขต Overbought แม้ว่าสิ่งนี้จะบ่งชี้ถึงความร้อนแรงของราคาในระยะสั้นมาก และอาจทำให้เกิดการย่อตัวเพื่อพักฐานได้ทุกเมื่อ แต่ในอีกมุมหนึ่ง ก็เป็นการตอกย้ำถึงพละกำลังของแรงซื้อในรอบนี้ว่ามีนัยสำคัญ

สำหรับแนวโน้มราคาทองคำในอีก 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาพรวมได้เปลี่ยนเป็นบวกอย่างชัดเจนในระยะสั้น ถ้าราคาสามารถยืนเหนือแนวต้าน 4,000 ดอลลาร์ได้ เป้าหมายถัดไปคือการมุ่งหน้าทดสอบแนวต้านแรกที่บริเวณ 4,057 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นเป้าหมายที่เกือบจะถึงแล้ว หากแรงซื้อยังคงแข็งแกร่งและสามารถทะลุผ่านแนวนี้ไปได้ ด่านต่อไปที่ต้องจับตามองคือแนวต้านสำคัญที่ 4,087 ดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม ในทางเทคนิค การที่ Stoch RSI อยู่ในระดับสูงมากทำให้นักเทรดต้องระมัดระวังการย่อตัว หากราคาไม่สามารถผ่านแนวต้าน 4,057 ดอลลาร์ไปได้ หรือมีแรงเทขายทำกำไรระยะสั้นออกมา แนวรับแรกที่จะใช้พิสูจน์ความแข็งแกร่งของเทรนด์ขาขึ้นรอบนี้ คือบริเวณแนวรับจิตวิทยา 4,000 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดที่กลุ่มเส้น EMA และขอบ Channel ที่เพิ่งทะลุขึ้นมาบรรจบกัน

การย่อตัวลงมาทดสอบแนวนี้และไม่หลุดต่ำลงไป จะยังคงรักษามุมมองเชิงบวกไว้ได้ แต่หากหลุด 4,000 ดอลลาร์ ลงไปอีกครั้ง แนวรับหลักที่แข็งแกร่งที่สุดยังคงเป็นเส้น EMA 200 (เส้นสีส้ม) บริเวณ 3,950 ดอลลาร์

แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $4,000

• $3,950

• $3,900

แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $4,057

• $4,087

• $4,135