วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 24 มิ.ย. 2568

กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้

เทรดทองเดี๋ยวนี้ >     

*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣ 

*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰 

*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁

วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 24 มิถุนายน 2568 เปิดตลาดมาวันนี้ บอกได้คำเดียวว่าเดือดสุดๆ สำหรับราคาทองคำ ที่ยังคงร้อนแรงไม่มีแผ่วในช่วงตลาดเอเชียเช้านี้ เหตุผลหลักไม่ต้องสืบ มาจากการปะทะกันระลอกใหม่ในตะวันออกกลางที่ระอุยิ่งกว่าเดิมเมื่อมีข่าวใหญ่ว่าอิหร่านเปิดฉากยิงขีปนาวุธถล่มฐานทัพสหรัฐฯ ในกาตาร์ เพื่อเอาคืนที่โรงงานนิวเคลียร์ของตัวเองโดนโจมตีไปเมื่อสุดสัปดาห์ก่อน

สถานการณ์ตอนนี้ตึงเครียดแบบสุดขีด ชนิดที่ว่าข้อมูลเศรษฐกิจต่างๆ ของสหรัฐฯ ที่ประกาศออกมา แทบจะไม่มีใครสนใจเลย เพราะทุกสายตาจับจ้องไปที่ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่กำลังลุกเป็นไฟ

ยังไม่จบแค่นั้น Al Arabiya รายงานอ้างอิงสื่ออิสราเอลว่า อิหร่านไม่ได้ยิงแค่ที่กาตาร์ แต่จัดหนักยิงขีปนาวุธใส่ฐานทัพสหรัฐฯ ทั้งในคูเวตและอิรักด้วย พร้อมกันนี้ยังอนุมัติแผนปิดช่องแคบฮอร์มุซ และยิงขีปนาวุธโจมตีใส่อิสราเอลเป็นการเอาคืนอีกระลอก ทางฝั่งอิสราเอลก็ตอบโต้กลับอย่างหนักหน่วง โดยเข้าโจมตีเรือนจำ Evin ทางตอนเหนือของกรุงเตหะราน

ซึ่ง Reuters รายงานว่า อิสราเอลเรียกการโจมตีครั้งนี้ว่าเป็นการทิ้งระเบิดที่รุนแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมาในเมืองหลวงของอิหร่าน หลังจากที่สหรัฐฯ กระโดดเข้าร่วมวงสงครามเต็มตัว บอกเลยว่าสถานการณ์แบบนี้แหละ ที่เป็นตัวเร่งชั้นดี ดันให้ ราคาทองคำ วิ่งทะยานขึ้นไปอีกขั้น

เกมพลิก? ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ สกัดดาวรุ่งทองคำ

แต่เดี๋ยวก่อน! ในขณะที่ราคาทองคำกำลังวิ่งขึ้นไปอย่างเมามันส์ ก็มีปัจจัยอื่นเข้ามาเบรกเกมซะอย่างนั้น หลังจากมีข้อมูลเปิดเผยว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐฯ ในเดือนพฤษภาคม ดันออกมาดีเกินคาดแบบเซอร์ไพรส์ ยอดขายบ้านมือสองโดยรวมปรับตัวสูงขึ้น 0.8% สวนทางกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะลดลงด้วยซ้ำ ข้อมูลชุดนี้แหละที่ทำให้นักลงทุนใจชื้นขึ้นมาหน่อยว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจจะยังไม่แย่ พอเศรษฐกิจดูดี ความน่าสนใจของทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยก็ลดลงทันที

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยหนุนทองคำก็ยังไม่หมดไปซะทีเดียว เพราะ Michelle Bowman หนึ่งในผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ก็ออกมาส่งสัญญาณในเชิงผ่อนคลาย บอกเป็นนัยๆ ว่าพร้อมจะลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุม FOMC เดือนกรกฎาคมนี้ ถ้าตัวเลขเงินเฟ้อยังควบคุมได้อยู่

ซึ่งการลดดอกเบี้ยจะทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าและเป็นผลดีต่อทองคำโดยตรง ประกอบกับดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ที่อ่อนค่าลง และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลดลง ก็ยังเป็นลมใต้ปีกที่คอยพยุงราคาทองคำเอาไว้อยู่ท่ามกลางข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมาผสมปนเปกันไป ทั้งภาคการผลิตที่เริ่มชะงัก แต่ภาคบริการยังโตได้ดี

งานนี้นักลงทุนต้องจับตาดูการแถลงของประธานเฟด Jerome Powell ต่อสภาคองเกรสในวันนี้ให้ดี รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญๆ ที่จะทยอยประกาศออกมา ทั้งความเชื่อมั่นผู้บริโภคและตัวเลขเงินเฟ้อ PCE ที่เฟดใช้เป็นมาตรวัดหลัก บอกเลยว่าสัปดาห์นี้มีเรื่องให้ลุ้นระทึกกันอีกยาว

เซียนใหญ่ส่ายหัว! มองทองคำไปต่อยาก แนะจับตาสินทรัพย์ตัวใหม่?

ท่ามกลางความผันผวน Jesse Felder กูรูจาก The Felder Report กลับมองต่างมุม เขาให้ความเห็นว่า การที่ราคาทองคำพุ่งทะยานไปสร้างสถิติสูงสุดใหม่เหนือ $3,500 ได้นั้น มันสะท้อนข่าวร้ายต่างๆ ของเศรษฐกิจโลกไปมากแล้ว ทำให้ในระยะสั้นอาจจะนึกภาพไม่ออกว่าจะมีข่าวอะไรใหม่ๆ มาจุดประกายให้ทองคำวิ่งต่อไปได้อีก

ตอนนี้เขามองทองคำเป็นกลางๆ และหันไปให้ความสนใจ “น้ำมัน” เป็นสินทรัพย์ตัวต่อไปที่จะเคลื่อนไหวครั้งใหญ่แทน เขาชี้ว่าตอนนี้อัตราส่วนราคาทองคำต่อน้ำมัน (Gold/Oil Ratio) อยู่ในระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงโควิด-19 ในปี 2020 ซึ่งตอนนั้นราคาน้ำมันเคยดิ่งลงไปจนติดลบด้วยซ้ำ

Jesse Felder บอกว่าสัญญาณนี้กำลังฟ้องว่าโอกาสที่แท้จริงตอนนี้อยู่ที่น้ำมันและหุ้นกลุ่มพลังงานต่างหาก ทองคำอาจจะวิ่งนำหน้าปัจจัยพื้นฐานอย่างอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงและภาวะเศรษฐกิจไปหน่อยแล้ว การที่ราคาพักฐานอยู่ในกรอบ $3,350 - $3,400 จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ และเป็นไปตามรูปแบบในอดีตที่หลังจากการพุ่งทะยานครั้งใหญ่ มักจะตามมาด้วยการซื้อขายในกรอบแคบๆ เป็นเวลาหลายปี

อย่างไรก็ตาม แม้ตอนนี้จะมองว่าน้ำมันน่าสนใจกว่า แต่เขาก็ยังไม่ได้คิดจะขายทองคำทิ้งทั้งหมด ยังคงมีทองคำเป็นส่วนหนึ่งของพอร์ตการลงทุนอยู่ และเชื่อว่าในระยะยาวหลายปีข้างหน้าราคาทองคำจะสูงขึ้นกว่านี้อีกมาก

อย่าเพิ่งหมดหวัง! UBS ชี้เป้าหมายใหญ่ยังอยู่ มองทองคำคือหลุมหลบภัยตัวจริง

ในขณะที่บางคนเริ่มลังเล แต่สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่อย่าง UBS ยังคงเชื่อมั่นในทองคำ โดยมองว่าแม้สถานการณ์ในตะวันออกกลางจะร้อนระอุ แต่ทองคำกลับไม่ได้รับแรงซื้อในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยมากเท่าที่ควร นั่นเป็นเพราะความขัดแย้งยังจำกัดอยู่ในภูมิภาค แต่ Julian Wee นักเขียนบทวิเคราะห์การลงทุนของ UBS บอกว่านักลงทุนควรมองทองคำในมุมของการกระจายความเสี่ยงในพอร์ตโฟลิโอมากกว่าที่จะมองเป็นการเก็งกำไรระยะสั้นตามข่าว

UBS อ้างอิงผลสำรวจของสภาทองคำโลกที่ระบุว่า เหตุผลหลัก 3 อันดับแรกที่ธนาคารกลางทั่วโลกถือครองทองคำ คือ ผลตอบแทนที่ดีในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอน, การเป็นเครื่องมือกระจายความเสี่ยงที่ดีเยี่ยม และการเป็นสินทรัพย์รักษามูลค่าที่ยอดเยี่ยม

UBS ย้ำว่าสภาพแวดล้อมทางภูมิรัฐศาสตร์ในปัจจุบันสนับสนุนปัจจัยเหล่านี้ทั้งหมด และทองคำน่าจะมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนผ่าน หากนักลงทุนเริ่มเคลื่อนย้ายเงินออกจากดอลลาร์สหรัฐ ด้วยเหตุนี้ UBS จึงยังคงมุมมองเชิงบวกต่อราคาทองคำและยังคงเป้าหมายราคาไว้ที่ $3,800 ต่อออนซ์ โดยคาดว่าความต้องการจากธนาคารกลางทั่วโลกและกองทุน ETF จะยังคงแข็งแกร่งต่อไป

นอกจากนี้ พวกเขายังเสนอทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่มองหาผลตอบแทนในช่วงที่ราคาทองคำกำลังพักฐาน นั่นก็คือการลงทุนใน “หุ้นกู้ของบริษัทเหมืองทองคำ” ซึ่งบางตัวให้ผลตอบแทนสูงถึงราว 6% เลยทีเดียว เพราะบริษัทเหล่านี้มีกระแสเงินสดที่ดีและมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งขึ้นมาก

ภาพที่เห็นตอนนี้คือสนุกเลย หลังจากที่ราคาทองคำพยายามจะดิ่งลงไปให้หลุด $3,344 แต่ทำไม่สำเร็จ เหมือนมีใครกระชากกลับขึ้นมาอย่างแรง ทิ้งไว้แค่หางยาวๆ ข้างล่างให้เราเห็นเป็นหลักฐาน นี่แปลง่ายๆ เลยว่า พอราคาลงไปถึงตรงนั้นปุ๊บ ก็มีคนกลุ่มใหญ่รอช้อนซื้อสวนขึ้นมาทันที ทำให้ตอนนี้เหมือนกำลังชักเย่อกันอยู่ ฝั่งขายอยากจะกดลง แต่ฝั่งซื้อก็ยังสู้ไม่ถอย

พอเราซูมออกมาดูภาพใหญ่ๆ ราคาตอนนี้ก็วิ่งเล่นอยู่ใต้เส้นกราฟระยะสั้น (เส้นสีฟ้ากับแดง) ที่มันตัดกันชี้ลงแล้วด้วย เป็นการบอกว่าในระยะสั้นเนี่ย...เทรนด์มันยังเป็นขาลงอยู่ แต่…ด่านสำคัญที่สุดตอนนี้คือ EMA 200 (เส้นสีส้ม) เส้นนี้เป็นเหมือนแนวรับใหญ่ที่คอยประคองราคาเอาไว้อยู่

ทีนี้มาดูเครื่องมือช่วยตัดสินใจกันบ้าง ตัว RSI ก็ยังชี้ว่าฝั่งหมี หรือฝั่งขายยังคุมเกมอยู่ แต่ Stoch RSI ยังลงไม่ลึก ทำให้มีโอกาสที่ราคาจะดีดตัวกลับขึ้นมาได้ทุกเมื่อเหมือนกัน

แล้วเราจะมองทางไหนต่อดีใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า? ง่ายๆ เลยให้จับตาดู แนวรับ $3,344 - $3,325 เป็นหลัก

ถ้าฝั่งหมีกลับมาชนะ แล้วทุบราคาทองคำจนปิดแท่งต่ำกว่าเส้นสีส้มได้จริงๆ แบบไม่มีไส้ไม่มีหางยาวๆ มาช่วย แบบนั้นก็ชัดเลยครับว่าฝั่งซื้อยอมแล้ว สถานีต่อไปที่เราจะได้เจอก็คือแถวๆ $3,293 ซึ่งตรงนั้นเป็นแนวรับของฟีโบนัชชี

แต่ถ้าฝั่งซื้อสู้กลับได้สำเร็จ แล้วราคายืนเหนือเส้นสีส้มนี้ได้สบายๆ แถมยังไต่กลับขึ้นไปยืนเหนือ $3,344 ได้อีกครั้ง แบบนี้จะเข้าทางฝั่งซื้อ ซึ่งเป็นการ “เบรคหลอก” ที่หลอกให้คนขายกัน แล้วราคาก็ดีดกลับ โอกาสที่เราจะได้เห็นราคาวิ่งกลับขึ้นไปหาแนวต้านเดิมแถว $3,372 ก็มีสูงเลยทีเดียว

สรุปคือ ตอนนี้เป็นช่วงวัดใจ ให้เส้น EMA 200 สีส้มเป็นกรรมการ ถ้าอยู่เหนือได้ก็มีลุ้นดีดตัว แต่ถ้าหลุดลงไปจริงๆ ก็เตรียมเจอราคาที่ต่ำลงได้เลย

แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $3,344

• $3,322

• $3,293

แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $3,372

• $3,410

• $3,439