วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 27 ก.พ. 2567

กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้

เทรดทองเดี๋ยวนี้ >      

*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣ 

*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰 

*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁

Gold Spot ในปัจจุบันอยู่ที่บริเวณ $2,030.90 ขณะที่ Gold Futures อยู่ที่บริเวณ $2,0406

ราคาทองคำย่อตัวลงเล็กน้อย หลังจากที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อทองคำปรับตัวสูงขึ้น

ความเชื่อมั่นในตลาดยังคงผสมปนเปกัน แม้ว่าจะเอียงไปในทางลบเล็กน้อย ตลาดเก็งกำไรอัตราดอกเบี้ยได้กำหนดราคาการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed ว่าไม่น่าจะเกิดขึ้นในเดือนมีนาคม แต่น่าจะเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคมหรือเดือนมิถุนายน รายงานการประชุมเดือนมกราคมจากคณะกรรมการ FOMC เผยให้เห็นว่าผู้กำหนดนโยบายระมัดระวังในการลดอัตราดอกเบี้ย สาเหตุหลักมาจากการฟื้นตัวของอัตราเงินเฟ้อเมื่อเร็วๆ นี้ แม้ว่าความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากการกระชับมาตรการทั้งด้านความมั่นคงด้านราคาและการจ้างงานสูงสุดจะมีความสมดุลมากขึ้น แต่ Fed ตั้งใจที่จะมุ่งมั่นต่อภาวะเงินเฟ้อ การมุ่งเน้นนี้เกิดขึ้นแม้ว่าพวกเขาจะรับทราบว่ามีความเสี่ยงทางเศรษฐกิจก็ตาม

ตลาดทองคำยังคงดึงดูดความสนใจของนักลงทุน แม้ว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่ตลาดคาดหวังจะถูกเลื่อนออกไปเนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐได้ส่งสัญญาณว่าจะผ่อนคลายนโยบายการเงินในปีนี้ ไม่ใช่ในเดือนที่จะถึงนี้ โดยนักวิเคราะห์และนักเศรษฐศาสตร์หลายคนคาดหวังว่าธนาคารกลางจะเริ่มใช้วงจรการผ่อนคลายทางการเงินใหม่ในเดือนมิถุนายน

ทางนักวิเคราะห์ยังคงมั่นใจในทองคำ แต่ราคาจะก็น่าจะมีการปรับตัวลดลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และทำให้ตลาดทองคำอาจต้องดิ้นรนต่อไป อย่างไรก็ตาม เนื่องจากนักลงทุนจำนวนมากมองหาความตื่นเต้นในตลาดตราสารทุน นักวิเคราะห์คนอื่นๆ เชื่อว่าการที่ S&P 500 พุ่งเข้าสู่ระดับสูงสุดตลอดกาลอย่างต่อเนื่องยังทำให้เกิดโอกาสสำหรับตลาดทองคำอีกด้วย

ในขณะที่ทองคำเคลื่อนตัวเหนือระดับ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ดัชนี S&P 500 ก็เคลื่อนตัวสร้างจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งแล้วครั้งเล่า ดัชนีหุ้นในวงกว้างสิ้นสุดสัปดาห์ที่ประมาณ 5,100 จุด เพิ่มขึ้นประมาณ 2% จากที่แล้วสัปดาห์ก่อนหน้านี้

S&P ได้รับแรงผลักดันให้สูงขึ้นตามผลประกอบการไตรมาสสี่ที่แข็งแกร่งจาก Nvidia เนื่องจากแนวโน้ม AI ที่กำลังเติบโต ผู้ผลิตชิปจึงแซงหน้ากลุ่มแม่ของ Google อย่าง Alphabet กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดเป็นอันดับสามในสหรัฐฯ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยมูลค่าตลาดเกือบ 2 ล้านล้านดอลลาร์ ปัจจุบัน Nvidia แซงหน้า Microsoft และ Apple

Nicky Shiels หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์โลหะที่ MKS PAMP กล่าวถึงการประเมินมูลค่าของ Nvidia โดยสังเกตว่าบริษัทเทคโนโลยีนี้มีมูลค่ามากกว่า Barrick Gold ถึง 77 เท่า

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางคนกล่าวว่าการมีหุ้นเพียงไม่กี่ตัวที่ขับเคลื่อนโมเมนตัม ตลาดตราสารทุนจึงอาจเปราะบางและเป็นฟองสบู่ได้ พวกเขากล่าวว่าตลาดทองคำอาจได้ประโยชน์จากอุปสงค์ที่ปลอดภัยเนื่องจากหุ้นมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น

Mike McGlone นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสของ Bloomberg Intelligence มองว่าทองคำกำลังสุกงอมที่จะขึ้นไปสูงกว่า 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ เห็นราคากลับคืนมาเนื่องจาก Fed ไม่ผ่อนคลายท่ามกลางการเก็งกำไรในสินทรัพย์เสี่ยง

และไม่ใช่แค่ตลาดทองคำเท่านั้นที่ดึงดูดความสนใจจากผลการดำเนินงานที่ย่ำแย่ เนื่องจากนักลงทุนมองไม่เห็นความฉลาดในภาคเทคโนโลยี ภาคเหมืองแร่ยังคงมีประสิทธิภาพต่ำกว่าปกติแม้ว่าราคาทองคำจะยังคงสูงขึ้นก็ตาม

David Morrison นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสของ Trade Nation กล่าวว่าผลการดำเนินงานที่น่าผิดหวังในภาคเหมืองแร่อาจส่งผลกระทบกับทองคำ อย่างไรก็ตาม เขายังตั้งข้อสังเกตอีกว่าความรู้สึกเชิงลบนี้อาจส่งสัญญาณถึงจุดต่ำสุดสำหรับนักขุด

เพราะการจะบอกว่าคนงานเหมืองไม่ได้รับผลตอบแทนที่เหมาะสมก็ดูจะสรุปได้ง่ายเกินไป นั่นแทบจะไม่น่าแปลกใจเลยเมื่อคุณเปรียบเทียบความไม่พึงพอใจและความไม่แน่นอนของธุรกิจกับบริษัทที่ทันสมัยและงดงามที่เกี่ยวข้องกับ AI

ในแง่ของการเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้น การปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นในปัจจุบันกำลังดึงความสนใจไปอย่างแน่นอน ในเวลาเดียวกัน ทองคำและแร่เงินกำลังดิ้นรนเพื่อโน้มน้าวนักลงทุนว่าพวกมันควรค่าแก่การเป็นเจ้าของในปริมาณที่มีนัยสำคัญ แต่หลังจากที่พุ่งสูงขึ้นในช่วงต้นเดือนธันวาคม ทองคำก็ทรงตัวเหนือ 2,000 ดอลลาร์ได้ค่อนข้างสบายๆ

โดยโลหะมีค่าสามารถใช้เวลาหลายปีโดยไม่เคลื่อนไหวอะไรเลย และจากนั้น การฟื้นตัวที่แข็งแกร่งก็ปรากฏขึ้นอย่างไม่มีที่มา เราจะเห็นสิ่งนี้เกิดขึ้นในปี 2024 หรือไม่นั้น ก็ต้องบอกว่าค่อนข้างเป็นไปได้

ทางด้าน Shiels ยังตั้งข้อสังเกตอีกว่าทองคำได้รับผลกระทบจากกระแส AI แต่เธอยังคงเห็นคุณค่าของโลหะมีค่าในสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน

เนื่องจากทองคำยังถูกห่อหุ้มด้วยความรู้สึกของสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง แม้ว่าราคาจะต่ำกว่าจุดสูงสุดตลอดกาลก็ตาม กระแสโฆษณาด้าน AI และเทคโนโลยียังส่งผลเสียต่อ Gold ETFs อย่างมาก ซึ่งนำไปสู่การไหลออกของนักลงทุนรายใหญ่จากตะวันตก

ตลาดแค่ไม่ได้รับความเชื่อมั่นในสินทรัพย์ทั้งๆที่ราคาอยู่ใกล้ระดับ All Time High ซึ่งนั่นมีบางอย่างผิดปกติ 

แต่โดยปกติแล้วเป็นเวลาที่ดีที่จะเคลื่อนไปกับความเชื่อมั่นในทองคำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อโดยพื้นฐานแล้ว อุปสงค์ทางกายภาพยังคงไม่เพียงพอ

เนื่องจาก Federal Reserve อยู่ในโหมดเฝ้ารอจนถึงเดือนมิถุนายนเป็นอย่างน้อย นักวิเคราะห์ตลาดบางคนกล่าวว่าความสนใจของนักลงทุนจะมุ่งเน้นไปที่ความเชื่อมั่นในตลาดตราสารทุนโดยที่ข้อมูลเศรษฐกิจมีผลกระทบเพียงเล็กน้อย แม้ว่าจะมีรายงานฉบับเต็มออกมาก็ตาม

ตลาดจะได้รับข้อมูลเงินเฟ้อที่สำคัญในสัปดาห์นี้ ตามด้วยการเปิดตัวดัชนีการใช้จ่ายการบริโภคส่วนบุคคลหลัก (PCE) ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ต้องการ ตลาดจะได้รับข้อมูลการขายบ้านและข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับกิจกรรมในภาคการผลิตมากขึ้น

นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่าจะต้องใช้ข่าวเศรษฐกิจที่น่าผิดหวังพอสมควรเพื่อสั่นคลอนความเชื่อมั่นในตลาดตราสารทุน

สัปดาห์นี้จะมีข้อมูลระดับมหภาคเข้ามาค่อนข้างมาก ซึ่งอาจให้ความกระจ่างมากขึ้นต่อแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยทั่วโลก โดยตัวเลขค่าเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ถือเป็นประเด็นสำคัญ

โดยที่ดัชนีราคารายจ่ายการบริโภคส่วนบุคคลหลัก (PCE) ซึ่งเป็นหน่วยวัดอัตราเงินเฟ้อที่ Federal Reserve ต้องการ มีกำหนดในวันพฤหัสบดี โดยเพิ่มขึ้น 0.4% ตามการคาดการณ์รายเดือน

ตัวเลขเงินเฟ้อในยูโรโซน ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย ก็ถึงกำหนดเช่นกันในสัปดาห์นี้ ควบคู่ไปกับการตัดสินใจด้านอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ) และการสำรวจ PMI ของจีน

เจ้าหน้าที่ ECB ย้ำถึงการมุ่งเน้นไปที่อัตราเงินเฟ้อในยูโรโซน โดยเฉพาะภาคบริการและการเติบโตของค่าจ้าง

Christine Lagarde ประธานธนาคารกลางยุโรปกล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า การเติบโตของค่าจ้างอยู่ในระดับปานกลาง แต่ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปได้ว่าสามาถเอาชนะเงินเฟ้อได้แล้ว

โดยที่ Fiona Cincotta นักยุทธศาสตร์การตลาดของ City Index มองว่าอัตราเงินเฟ้อยูโรโซนคาดว่าจะเย็นลงเหลือ 2.5% แต่รายงานการประชุมของ ECB ยังคงแสดงให้เห็นถึงความไม่เต็มใจจาก ECB ที่จะพูดคุยเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย

เธอยังเห็นว่าการคาดการณ์เงินเฟ้อในยูโรโซนเพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาก แต่อารมณ์เชิงบวกจากผลประกอบการได้ดึงเอาแหล่งความน่าสนใจบางส่วนออกจากเงินดอลลาร์ และผลักดันให้เงินยูโรสูงขึ้น

แรงผลักดันหลักที่อยู่เบื้องหลังความแข็งแกร่งของเงินยูโรคือช่องว่างที่แคบลงระหว่างที่นักลงทุนเชื่อว่าอัตราดอกเบี้ยที่สูงของสหรัฐฯ และยูโรโซนจะสิ้นสุดในปีนี้

สายตาของนักลงทุนในสัปดาห์นี้คือ PCE หลักของสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี การอ่านค่าอัตราเงินเฟ้อของผู้ผลิตและผู้บริโภคที่ร้อนแรงได้เพิ่มความเป็นไปได้ที่มาตรการนี้อาจเหนือความคาดหมายเช่นกัน ซึ่งอาจผลักดันความคาดหวังที่ลดลงเมื่อ Fed อาจเริ่มการลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรก

ขณะนี้ตลาดกำลังกำหนดราคาเพียงโอกาสประมาณ 20% ที่ Fed จะเริ่มผ่อนคลายอัตราดอกเบี้ยในเดือนพฤษภาคม เทียบกับโอกาสเกือบ 90% เมื่อเดือนที่แล้ว ตามเครื่องมือ CME FedWatch

ในการแถลงข่าวครั้งล่าสุด ประธาน Fed Jerome Powell กล่าวว่า Fed จะไม่รอให้เศรษฐกิจถดถอยก่อนที่จะลดอัตราดอกเบี้ยเพราะนั่นจะสายเกินไป แต่ยังไม่มีกรณีที่แน่ชัดว่าอะไรจะกระตุ้นให้เกิดการปรับลดอัตราดอกเบี้ย

ในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา Fed ได้จัดการกับปัญหาเงินเฟ้อที่สูง แต่ก็ทำลายเศรษฐกิจไปในกระบวนการนี้ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างคล่องแคล่ว แต่ไม่มีแรงกดดันด้านราคามากเกินไป และช่วยให้อัตราการว่างงานขยับขึ้นในระดับที่ต่ำเป็นประวัติการณ์ แต่นั่นเป็นเพราะอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ประมาณหรือต่ำกว่าเป้าหมาย 2% 

ก่อนหน้านี้ Christopher Waller พูดถึงการที่ไม่เร่งรีบ ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย เมื่อพิจารณาจากตัวเลขการจ้างงาน การเติบโตทางเศรษฐกิจ และอัตราเงินเฟ้อ ที่ร้อนแรงเกินคาด

ราคาทองคำย่อตัวลงเล็กน้อย แต่ยังคงไม่เสียโมเมตัมและอาจจะมีโอกาสกลับเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นที่ชัดเจนอีกครั้ง โดยในกราฟรายวัน เส้นค่าเฉลี่ย EMA 12, 26 กำลังบีบตัวเข้าหากันอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ทางฝั่งของ Stochastic RSI กำลังจะเกิดการตัดกันลง ซึ่งอาจจะทำให้ราคาเกิดการย่อตัวในเร็วๆ นี้ เช่นกัน

แนวรับหลักในวันนี้จะอยู่ที่บริเวณ $2,027 - $2,023 และบริเวณสำคัญคือช่วง $2,016 ที่เป็นแนว Fibonacci ก่อนหน้านี้

ในทางด้านของแนวต้านจะอยู่ที่บริเวณ $2,040 - $2,047 

กราฟทองคำ 1 วัน และกราฟทองคำ 4 ชั่วโมง

แนวรับ ในวันนี้จะอยู่ที่บริเวณ  $2,027 - $2,023 และ $2,018 - $2,016

แนวต้าน ในวันนี้จะอยู่ที่บริเวณ $2,040 - $2,047