วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 26 ม.ค. 2567

กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้

เทรดทองเดี๋ยวนี้ >      

*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣ 

*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰 

*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁

Gold Spot ในปัจจุบันอยู่ที่บริเวณ $2,023 ขณะที่ Gold Futures อยู่ที่บริเวณ $2,023.6

ราคาทองคำในวันที่ผ่านมาฟื้นตัวขึ้นได้เล็กน้อยท่ามกลางข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่ง ถึงแม้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จะคงทรงตัว แต่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลต่างปรับตัวลง ซึ่งราคาทองคำน่าจะได้รับประโยชน์จากจุดนี้

ราคาทองคำมีการซื้อขายที่ขึ้น หลังจากข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ เติบโตเกินคาด ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อกลับเย็นกว่าที่คาดการณ์

สำนักงานวิเคราะห์เศรษฐกิจของสหรัฐฯ (BEA) ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีว่าการอ่านข้อมูลของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายใน หรือ GDP ประเทศไตรมาสที่สี่แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจขยายตัว 3.3% ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่ 2.0% แต่ต่ำกว่าประมาณการไตรมาส 3 ที่ 4.9%

ตัวชี้วัดเงินเฟ้อที่โดดเด่นของ BEA ซึ่งเป็นดัชนีราคาสำหรับการซื้อมวลรวมภายในประเทศอยู่ที่ 1.5% ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์ที่ 2.3% ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคล (PCE) อยู่ที่ 1.7%

หากไม่รวมอาหารและพลังงาน ดัชนีราคา PCE หลักอยู่ที่ 2.0% ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์และใกล้เคียงกับข้อมูลในไตรมาสที่สาม

นักวิเคราะห์จาก Capital Economics ระบุว่าแม้การเติบโตของ GDP จะร้อนแรงเกินคาดในไตรมาสที่สี่ แต่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังคงชะลอตัว โดยอัตราเงินเฟ้อ PCE หลักต่อปีอยู่ที่เป้าหมาย 2% ในไตรมาสที่สี่และผลที่สุดคือการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิยังคงเป็นผลลัพธ์ที่เป็นไปได้มากที่สุด

แต่นักวิเคราะห์เตือนว่ารายงาน GDP ไม่ใช่ข่าวดีสำหรับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทั้งหมด

ตัวเลขที่ออกมาดีเกินคาดส่วนหนึ่งเป็นเพราะสินค้าคงคลังเป็นผลบวกเล็กน้อยต่อการเติบโตของ GDP โดยรวม เมื่อหลังจากมีส่วนสนับสนุนเชิงบวกอย่างมากในไตรมาสที่สาม นักวิเคราะห์ก็คาดว่าจะมีการพลิกกลับในไตรมาสที่แล้ว

การส่งออกสุทธิยังเพิ่มคะแนนการเติบโตของ GDP 0.4% เนื่องจากการส่งออกเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดไว้ 6.3% โดยประการหลังมีสาเหตุมาจากการส่งออกบริการที่ดูน่าสงสัยเล็กน้อยเพิ่มขึ้น 9.5% และนักวิเคราะห์ยังคงคาดหวัง GDP การเติบโตจะชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัดเหลือน้อยกว่า 1% ต่อปีในไตรมาสแรก

นอกจาก GDP แล้ว ตลาดทองคำยังคงได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดี เนื่องจากตลาดแรงงานสหรัฐฯ มองเห็นความผันผวนที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากจำนวนคนงานชาวอเมริกันที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ในวันเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ระบุว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 25,000 รายเป็น 214,000 รายต่อสัปดาห์ในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 20 มกราคม เพิ่มขึ้นจากตัวเลขประมาณการในสัปดาห์ก่อนซึ่งอยู่ที่ 187,000 ราย

ตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานจะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 199,000 ราย

นักเศรษฐศาสตร์ยังคงให้ความสนใจอย่างใกล้ชิดกับตลาดแรงงานสหรัฐ เนื่องจากยังคงเป็นปัจจัยสำคัญเกี่ยวกับการตัดสินใจนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ ธนาคารกลางสหรัฐกล่าวว่าอยากเห็นตลาดแรงงานสหรัฐฯ ชะลอตัวลงอีก ก่อนที่จะเริ่มผ่อนคลายอัตราดอกเบี้ยที่มีข้อจำกัด

ขณะที่ข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นว่าตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐฯ ดีดตัวขึ้นในเดือนธันวาคม

ยอดขายบ้านใหม่เพิ่มขึ้น 8% ในเดือนที่แล้ว ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ หลังจากที่สำนักสำรวจสำมะโนประชากรของสหรัฐฯ และกระทรวงการเคหะและการพัฒนาเมืองของสหรัฐฯ เปิดเผยว่ายอดขายบ้านใหม่เพิ่มขึ้น 8% ซึ่งสอดคล้องกับที่คาดการณ์ไว้ หลังจากที่เพิ่มขึ้น 9% ในเดือนพฤศจิกายน

ตลาดนี้ก็เป็นที่จับตาเช่นเดียวกัน เนื่องจากตลาดที่อยู่อาศัยนี้เป็นปัจจัยสำคัญต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ภาคที่อยู่อาศัยประสบปัญหาเนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วที่สุดในรอบ 40 ปี

อย่างไรก็ตาม สำหรับนักลงทุนที่คาดหวังและมองหาการผ่อนคลายอัตราดอกเบี้ยอาจจะต้องผิดหวัง หลังจากที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีและส่งสัญญาณว่ายังไม่พร้อมที่จะคลายความเข้มงวดของนโยบายทางการเงิน

ธนาคารกลางยุโรปตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมในการประชุมรอบนี้ ซึ่งทำให้อัตราดอกเบี้ยคงที่อยู่ที่ระดับ 4.50%

และหลังจากการประกาศผลการประชุม Christine Lagarde ประธาน ECB กล่าวว่า ยังเร็วเกินไปที่จะหารือเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และธนาคารกลางจะติดตามข้อมูลดังกล่าวต่อไป

แม้ว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในวงกว้างจะผ่อนคลายลงแล้ว แต่ Lagarde กล่าวว่าธนาคารกลางจำเป็นต้องมีการทำงานมากขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่าราคาผู้บริโภคจะลดลงตามเป้าหมาย 2% 

“เราจำเป็นต้องดำเนินการต่อไปในกระบวนการสลายเงินเฟ้อก่อน จึงจะมั่นใจได้อย่างเพียงพอว่าอัตราเงินเฟ้อจะถึงเป้าหมายในเวลาที่เหมาะสมcแล้ว” Lagarde ระบุ

แม้ว่า ECB จะต่อต้านแนวคิดเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้า แต่ Lagarde ก็ไม่ได้ต่อสู้กับความคาดหวังที่ว่าอัตราดอกเบี้ยจะลดลงในที่สุด

Ole Hansen หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์ที่ Saxo Bank กล่าวว่าความคิดเห็นของ Lagarde มีความลังเล

Jack Allen-Reynolds รองหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ยูโรโซนจาก Capital Economics ระบุว่าการลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนเมษายนจะมีโอกาสน้อยลง แต่ก็ยังมีเวลาสำหรับการเคลื่อนไหวในช่วงฤดูร้อน

เพราะหากอัตราเงินเฟ้อในอีก 3 เดือนข้างหน้าอ่อนแอ ธนาคารอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนเมษายน หากตัวเลขเงินเฟ้อลดลงอย่างต่อเนื่อง แม้จะเป็นไปตามการคาดการณ์ของธนาคาร แต่นักลงทุนอาจแปลกใจที่ ECB ต้องรอนานก่อนที่จะเริ่มคลายตัว

นักวิเคราะห์ตราสารหนี้ที่ TD Securities ยังตั้งข้อสังเกตถึงความผ่อนคลายจาก ECB

น้ำเสียงและท่าทางของ Lagarde ในงานแถลงข่าวสร้างความประหลาดใจให้กับนักวิเคราะห์ ในขณะที่ความคาดหวังกว้างๆ คือ Lagarde จะพยายามต่อต้านการผ่อนคลายทางนโยบายอย่างชัดเจน แต่เธอก็ไม่สามารถทำได้เมื่อได้รับโอกาส แต่ Lagarde กลับเลือกที่จะแสดงความเห็นที่คลุมเครือ และไม่เคยให้คำตอบที่ชัดเจนว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะมาถึงหรือไม่

Everett Millman ผู้เชี่ยวชาญด้านโลหะมีค่าที่ Gainesville Coins กล่าวว่าความคิดเห็นล่าสุดจาก ECB และ Lagarde ค่อนข้างไม่มีผลสำหรับทองคำ ซึ่งน่าจะสามารถรักษาราคาให้อยู่ในช่วงปัจจุบันระหว่าง 2,000 ถึง 2,050 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้

Millman กล่าวว่าความสนใจทั้งหมดของตลาดทองคำยังคงอยู่ที่ Federal Reserve ว่าเมื่อใดที่พวกเขาจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย ตลาดตราสารหนี้กำลังเห็นความผันผวนเพิ่มขึ้น เนื่องจากตลาดเห็นโอกาสประมาณ 50/50 ที่ธนาคารกลางสหรัฐจะเริ่มวงจรผ่อนคลายในเดือนมีนาคม

Harry Dent ผู้ก่อตั้ง HS Dent เตือนว่าฟองสบู่กำลังเกิดขึ้นกับสินทรัพย์ทุกอย่าง และอาจจะแตกได้ในที่สุดในปี 2024 

ในเนื้อหาที่ Dent ได้พูดคุยกับ Michelle Makori จาก Kitco News เขาระบุว่าฟองสบู่เป็นอันตรายเนื่องจากเศรษฐกิจถูกกระตุ้นมากเกินไป และเมื่อสินทรัพย์เริ่มถูกขายออก การเคลื่อนตัวลงจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

เขาระบุว่าเราจะไม่รู้จนกว่าจะถึงครึ่งหลังของปีนี้ว่าจะผ่านเรื่องนี้ไปได้หรือไม่ และปัญหาก็คือสิ่งต่างๆ อาจเกิดขึ้นเร็วมากเมื่อถึงเวลานั้น

ฟองสบู่พังซึ่งมักจะเกิดขึ้นตามธรรมชาติ เมื่อผู้คนแค่ลงทุนในสิ่งต่าง ๆ เพราะสิ่งเหล่านั้นกำลังขึ้น

ตลาดมักจะเกิดภาวะถดถอยทุกๆ ทศวรรษ เขาระบุเพิ่มว่าเรามีการเติบโตอย่างรวดเร็วเป็นเวลา 7-8 ปี จากนั้นเราก็จะเข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างช้าๆ เป็นเวลา 2-3 ปี นั่นคือวิถีของเศรษฐกิจ 

แต่นี่คือสิ่งที่สหรัฐฯ ป้องกันมาตั้งแต่ปี 2008 โดยการไม่ยอมให้เกิดความล้มเหลวเพราะกลัวว่าความล้มเหลวจะทำให้เศรษฐกิจพังทลายลง นี่เป็นเรื่องระดับโลกมากขึ้น แทบไม่มีอะไรเลยที่ยังไม่เกิดฟองสบู่

สำหรับทองคำก็อาจจะไม่ใช่ข้อยกเว้น ในปี 2008 ทองคำทรงตัวได้ในช่วงต้นปี และพังทลายลงในสองไตรมาสหลังเท่านั้น จากนั้นก็ปรับตัวลงประมาณ 45% ในช่วงสั้นๆ จากนั้นก็กลับขึ้นอีกครั้ง

Dent เห็นวงจรเดิมๆ ซ้ำๆ กันในครั้งนี้ แต่ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์เช่นนั้น ทองคำอาจแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2,200-2,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวอยู่ใน $2,010 - $2,030 ในสัปดาห์นี้ โดยการที่ราคาไม่ได้มีความเคลื่อนไหวมากนักส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการที่ตลาดเฝ้ารอความเคลื่อนไหวจากธนาคารกลางสหรัฐฯ ในสัปดาห์หน้า

และในความเคลื่อนไหวภายในวัน จะเห็นสัญญาณของ RSI เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบสามเหลี่ยม ซึ่งน่าจะทำให้ราคายังคง Sideway ต่อไปซักระยะ

แนวต้านของราคาในวันนี้ยังใกล้เคียงกับวันก่อนหน้า ซึ่งจะอยู่ที่บริเวณ $2,026 - $2,035

ทางด้านแนวรับจะอยู่ที่บริเวณ $2,017 เป็นจุดแรก และถัดไปจะอยู่ที่ $2,013 - $2,009 

กราฟทองคำ 1 วัน และกราฟทองคำ 4 ชั่วโมง

แนวรับ ในวันนี้จะอยู่ที่บริเวณ $2,017 และ $2,013 - $2,009

แนวต้าน ในวันนี้จะอยู่ที่บริเวณ $2,026 - $2,035