วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 11 ก.ย. 2568

กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้

เทรดทองเดี๋ยวนี้ >     

*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣ 

*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰 

*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁

ราคาทองคำ XAUUSD ในช่วงเช้าวันนี้ยังคงเคลื่อนไหวในระดับสูง แม้จะมีการปรับตัวลงมาบ้างเล็กน้อย สะท้อนถึงสถานะสินทรัพย์ปลอดภัยที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความเชื่อมั่น ท่ามกลางสถานการณ์โลกที่เต็มไปด้วยความผันผวน

หลังจากที่ราคาพุ่งทะยานสร้างสถิติสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์เหนือ $3,670 ดอลลาร์ต่อออนซ์เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ตลาดได้เผชิญกับแรงเทขายทำกำไรออกมาเป็นระยะ แต่ภาพรวมยังคงดูแข็งแกร่ง การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนให้เห็นว่า ปัจจัยพื้นฐานที่ขับเคลื่อนตลาดทองคำยังคงมีน้ำหนักมากกว่าแรงขายระยะสั้น และนักลงทุนจำนวนมากยังคงมองว่าการย่อตัวของราคาคือโอกาสในการเข้าสะสมเพิ่มเติม

PPI ออกมาต่ำกว่าคาด เปิดทางให้เฟดลดดอกเบี้ย

หัวใจสำคัญที่กำหนดทิศทางราคาทองคำในสัปดาห์นี้ คือตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดจากสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ประจำเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากฝั่งผู้ผลิต ที่สร้างความประหลาดใจให้กับตลาดด้วยการปรับตัวลดลง 0.1% จากเดือนก่อนหน้า สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% อย่างสิ้นเชิง

การปรับตัวลดลงครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในรอบสี่เดือน และเมื่อพิจารณาในภาพรวมรายปี ตัวเลข PPI ขยายตัวเพียง 2.6% ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 3.3% อย่างมีนัยสำคัญ

ข้อมูลดังกล่าวเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในฝั่งผู้ผลิต ซึ่งถือเป็นต้นทุนสำคัญของภาคธุรกิจ กำลังชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัด และอาจส่งผลให้เงินเฟ้อฝั่งผู้บริโภค (CPI) ที่จะประกาศตามมาวันนี้มีแนวโน้มอ่อนตัวลงด้วยเช่นกัน

สถานการณ์นี้ยิ่งเพิ่มน้ำหนักให้กับคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจจำเป็นต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงในอนาคตอันใกล้เพื่อประคองเศรษฐกิจที่เริ่มส่งสัญญาณชะลอตัว ดังที่เห็นได้จากการปรับลดตัวเลขการจ้างงานครั้งใหญ่ย้อนหลัง ซึ่งพบว่ามีการจ้างงานน้อยกว่าที่รายงานไปถึง 911,000 ตำแหน่งในช่วงปีที่ผ่านมาจนถึงเดือนมีนาคม

ข้อมูลจาก CME FedWatch tool ชี้ว่าตลาดได้คาดการณ์การลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนกันยายนไปเกือบ 100% แล้ว และยังเพิ่มโอกาสที่จะได้เห็นการลดดอกเบี้ยถึง 0.50% ขึ้นมาเป็นเกือบ 12%

ภูมิรัฐศาสตร์โลกเดือด ปัจจัยหนุนชั้นดีของทองคำ

นอกเหนือจากประเด็นด้านเศรษฐกิจแล้ว สถานการณ์ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ทั่วโลกก็ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างมาก และเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ผลักดันให้นักลงทุนหันมาถือครองทองคำ

เหตุการณ์ล่าสุดที่โปแลนด์ ซึ่งเป็นชาติสมาชิก NATO ได้ทำการยิงโดรนของรัสเซียที่ล่วงล้ำน่านฟ้า ถือเป็นการยกระดับความขัดแย้งขึ้นอีกระดับและอาจบานปลายได้ โดยนายกรัฐมนตรี Donald Tusk ของโปแลนด์ เรียกเหตุการณ์นี้ว่าเป็นการ “ยั่วยุโดยเจตนาจากมอสโก” และได้เริ่มกระบวนการปรึกษาหารือตามมาตราของ NATO ซึ่งเป็นขั้นตอนก่อนการตอบโต้ทางการทหาร

ขณะเดียวกัน สถานการณ์ในตะวันออกกลางก็กลับมาร้อนระอุจนถึงขีดสุด หลังการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลในกรุงโดฮา เมืองหลวงของกาตาร์ ซึ่งสร้างความไม่พอใจอย่างรุนแรงให้กับชาติต่างๆ ในภูมิภาค และอาจทำให้ความพยายามในการเจรจาสงบศึกในกาซ่าต้องหยุดชะงักลงโดยสิ้นเชิง

ความไม่แน่นอนและความขัดแย้งที่ปะทุขึ้นพร้อมกันในหลายจุดของโลกเช่นนี้ ทำให้นักลงทุนต่างพากันเข้าซื้อทองคำเพื่อเป็นหลุมหลบภัยที่ดีที่สุด สำหรับปกป้องความมั่งคั่งของตนเองจากความเสี่ยงที่ไม่อาจคาดเดาได้

มุมมองผู้เชี่ยวชาญ ทองคำมีโอกาสทะยานสู่ 4,000 ดอลลาร์

จากปัจจัยบวกที่รุมล้อมอย่างรอบด้าน ทำให้นักวิเคราะห์และผู้จัดการกองทุนชั้นนำของโลกหลายแห่งต่างออกมาแสดงมุมมองที่เป็นบวกอย่างยิ่งต่ออนาคตของราคาทองคำ

Jerry Prior ผู้จัดการพอร์ตอาวุโสจาก KraneShares ประเมิน ว่าหากเฟดเริ่มวงจรการลดดอกเบี้ยอย่างจริงจังตามที่ตลาดคาดการณ์ ราคาทองคำก็มีโอกาสปรับตัวขึ้นไปทดสอบระดับ 3,800 ดอลลาร์ได้อย่างไม่ยากเย็น

แต่ที่น่าจับตามองยิ่งกว่าคือการวิเคราะห์ของ Philippe Gijsels หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ของ BNP Paribas Fortis ที่คาดการณ์ว่าราคาทองคำอาจพุ่งทะยานไปถึง 4,000 ดอลลาร์ และราคาแร่เงินอาจแตะ 50 ดอลลาร์ภายใน 3-6 เดือนข้างหน้า

เขาให้เหตุผลว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อ่อนแอกว่าที่หลายคนคิด จะบีบคั้นให้เฟดต้องใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รุนแรงกว่าเดิม ซึ่งอาจหมายถึงการกลับมาทำ QE อีกครั้ง

ประกอบกับปัญหาหนี้สาธารณะที่เพิ่มสูงขึ้นของรัฐบาลทั่วโลก และการที่ธนาคารกลางของประเทศต่างๆ โดยเฉพาะจีน พยายามลดการพึ่งพิงเงินดอลลาร์สหรัฐและหันมาสะสมทองคำเป็นทุนสำรองเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะเป็นปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งที่สนับสนุนให้ราคาสินทรัพย์ที่จับต้องได้อย่างทองคำ ปรับตัวสูงขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญในระยะยาว นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของวัฏจักรขาขึ้นครั้งใหญ่ ที่นักลงทุนต้องจับตา

จากภาพกราฟราย 4 ชั่วโมง จะเห็นแท่งเทียนสีแดงที่แสดงแรงขายกดดันราคาลงมาอย่างต่อเนื่องหลังจากที่ไม่สามารถผ่านแนวต้านและจุดสูงสุดเดิมบริเวณ $3,655 ไปได้ การปรับตัวลงครั้งนี้เป็นการยืนยันว่าตลาดกระทิงเริ่มอ่อนกำลังลง และตลาดกำลังเข้าสู่ช่วงของการปรับฐานเพื่อลดความร้อนแรงที่สะสมมาหลายวัน แม้ภาพรวมแนวโน้มหลักยังคงเป็นขาขึ้นก็ตาม

เมื่อดูที่สัญญาณจากอินดิเคเตอร์ จะพบว่า Stochastic RSI ดิ่งหัวลงอย่างรวดเร็วและรุนแรงจากโซน Overbought (เขตซื้อมากเกินไป) ลงมาถึงโซน Oversold (เขตขายมากเกินไป) บ่งชี้ว่าแรงเทขายทำกำไรมีอิทธิพลต่อตลาดอย่างมากในขณะนี้

ขณะเดียวกัน ดัชนี RSI ก็ปรับทิศทางลงตามมา ถึงแม้จะยังประคองตัวอยู่เหนือระดับ 60 แต่ทิศทางที่หักหัวลงต่อเนื่องก็เป็นการยืนยันว่าพละกำลังของกระทิงได้แผ่วลงอย่างชัดเจน

อย่างไรก็ตาม ราคายังคงอยู่เหนือกลุ่มเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (EMA) ซึ่งทำหน้าที่เปรียบเสมือนแนวรับเคลื่อนที่ที่สำคัญ

สำหรับแนวโน้มและกลยุทธ์ในอีก 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณแนวรับสำคัญคือ $3,625 การที่ราคาสามารถยืนเหนือแนวรับนี้ได้ จะเป็นการพิสูจน์ว่าการย่อตัวครั้งนี้เป็นเพียงการ “พักเพื่อไปต่อ” และยังมีโอกาสที่แรงซื้อจะกลับเข้ามาผลักดันราคาให้กลับไปทดสอบแนวต้าน $3,660 ได้อีกครั้ง

แต่ในทางกลับกัน หากแนวรับ $3,625 ถูกทำลายลง จะเป็นสัญญาณอันตรายที่บ่งชี้ว่าแรงขายยังไม่จบ โดยมีแนวรับถัดไปที่บริเวณ $3,600 การหลุดระดับนี้จะถือเป็นการทำลายโครงสร้างขาขึ้นในระยะสั้น และอาจนำไปสู่การปรับฐานที่ลึกกว่าเดิม

ดังนั้น กลยุทธ์ที่ปลอดภัยที่สุดในตอนนี้คือการเฝ้าระวังและรอดูการสร้างฐานของราคาที่แนวรับสำคัญ การรีบเข้าซื้อในขณะที่โมเมนตัมยังเป็นฝั่งลงมีความเสี่ยงสูง เปรียบเสมือนการรับมีดที่กำลังร่วงหล่น ควรรอให้เกิดสัญญาณการกลับตัวที่ชัดเจนบริเวณแนวรับก่อนจึงค่อยพิจารณาเข้าซื้อ

แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $3,625

• $3,600

• $3,580

แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $3,655

• $3,680

• $3,700