วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 22 ก.ค. 2568

กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้

เทรดทองเดี๋ยวนี้ >     

*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣ 

*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰 

*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁

วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 22 กรกฏาคม 2568 เปิดสัปดาห์มาก็ร้อนแรงกันเลยทีเดียวสำหรับราคาทองคำ XAUUSD หลังจากเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ราคาทองคำในตลาดโลกสร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการดีดตัวขึ้นอย่างรุนแรงกว่า 1% ทะยานไปแตะระดับ $3,400 หลังจากที่ร่วงลงไปทดสอบจุดต่ำสุดที่ $3,338 ในช่วงแรกของการซื้อขาย เรียกได้ว่าเป็นการคัมแบ็กที่สวยงามและรวดเร็วมากๆ

สาเหตุหลักที่ทำให้ทองคำกลับมาดีดขนาดนี้ ก็เพราะว่าคู่ปรับตลอดกาลอย่างเงินดอลลาร์สหรัฐและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพากันอ่อนค่าลงอย่างหนัก ท่ามกลางบรรยากาศการลงทุนที่ดูเหมือนจะเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น แต่ในความเสี่ยงนั้นก็ยังมีความไม่แน่นอนซ่อนอยู่เต็มไปหมด

โดยเฉพาะประเด็นเรื่องข้อตกลงทางการค้าที่ยังคงเป็นเหมือนระเบิดเวลา เส้นตายวันที่ 1 สิงหาคมที่ทำเนียบขาวกำหนดไว้สำหรับข้อตกลงกับคู่ค้าสำคัญอย่างสหภาพยุโรป (EU) แคนาดา และเม็กซิโก กำลังใกล้เข้ามาทุกที ทำให้ตลาดยังคงกังวลใจ แถมล่าสุดยังมีข่าวจากฝั่งยุโรปว่า ทูตของ EU เตรียมที่จะประชุมกันเพื่อวางแผนตอบโต้สหรัฐ หากท้ายที่สุดแล้วข้อตกลงการค้าล้มเหลว สถานการณ์จึงยังตึงเครียดและพร้อมปะทุได้ทุกเมื่อ

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องภายในของสหรัฐเองที่น่าจับตา เมื่อมีรายงานว่า Bessent ที่ปรึกษาด้านการคลังของสหรัฐ ได้แนะนำให้ประธานาธิบดี Trump ไม่ปลด Jerome Powell ออกจากตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพราะอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในความเป็นอิสระของเฟด ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง ตลาดอาจเกิดปฏิกิริยารุนแรงและกดดันให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงไปอีก ปัจจัยเหล่านี้เองที่กลายเป็นแรงส่งชั้นดีให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นมาได้ในรอบนี้

มองเกมยาว! ทำไมขาขึ้นทองคำยังไม่จบ? และใครคือผู้เล่นหลัก

เมื่อมองในภาพที่ใหญ่ขึ้น มีนักวิเคราะห์ระดับท็อปอย่าง Tim Hayes จาก Ned Davis Research ออกมาตอกย้ำมุมมองที่น่าสนใจ เขาบอกว่าเทรนด์ที่ทองคำเป็นกระทิง (ขาขึ้น) และเงินดอลลาร์เป็นหมี (ขาลง) นั้นยังคงแข็งแกร่ง และยังไม่เห็นสัญญาณว่าจะกลับทิศในเร็วๆ นี้เลย

Tim Hayes ซึ่งมองว่าทองคำเป็นขาขึ้นมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2023 มองว่าราคาทองคำยังมีโอกาสที่จะปรับตัวสูงขึ้นได้อีกมาก เผลอๆ อาจจะมากกว่ารอบขาขึ้นครั้งใหญ่ในอดีตด้วยซ้ำ ในทางกลับกัน เขาเชื่อว่าเงินดอลลาร์ยังต้องอ่อนค่าลงอีกประมาณ 10% ถึงจะเรียกได้ว่าอยู่ในระดับที่เหมาะสม

ปัจจัยสำคัญที่สุดที่ขับเคลื่อนปรากฏการณ์นี้คือเทรนด์ De-dollarization หรือการลดการพึ่งพิงเงินดอลลาร์ของธนาคารกลางทั่วโลก เราจะเห็นได้ว่าธนาคารกลางหลายประเทศทยอยลดการถือครองดอลลาร์และหันมาสะสมทองคำในทุนสำรองระหว่างประเทศกันมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งนี่คือผู้เล่นรายใหญ่ตัวจริงที่ส่งผลต่อเสถียรภาพของราคาทองคำในระยะยาว

Tim Hayes ยังเสริมอีกว่า ความเชื่อมั่นที่ลดน้อยลงต่อนโยบายและความเป็นผู้นำของสหรัฐฯ กลายเป็นปัจจัยลบโดยตรงต่อเงินดอลลาร์ แต่กลับเป็นปัจจัยบวกให้กับทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยที่คนจะนึกถึงเสมอในยามที่ไม่แน่นอน นอกจากนี้ เขายังแนะนำให้นักลงทุนจับตาดูตลาดหุ้นให้ดี เพราะหากตลาดหุ้นเกิดการเทขายครั้งใหญ่ นั่นอาจจะเป็นตัวจุดชนวนให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นไปอีกระลอกใหม่ได้เลย

อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงของเกมนี้ก็มีอยู่ นั่นคืออัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่อาจสูงขึ้น หากเงินเฟ้อในสหรัฐฯ สูงขึ้นจนเฟดต้องคงดอกเบี้ยไว้ในระดับสูงต่อไป อาจทำให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศอื่นกว้างขึ้น และดึงดูดให้เงินทุนไหลกลับเข้าหาดอลลาร์ ซึ่งจะเป็นการกดดันราคาทองคำนั่นเอง

นักเทคนิคชี้ชะตา สัปดาห์นี้มีลุ้นเบรค

มาดูในมุมของกราฟเทคนิคกันบ้าง David Scutt นักวิเคราะห์ตลาดจาก City Index ให้ภาพที่ชัดเจนมากว่า ตอนนี้ราคาทองคำกำลังเดินอยู่ในกรอบที่แคบลงเรื่อยๆ เหมือนถูกบีบอัดอยู่ระหว่างแนวรับและแนวต้านที่สำคัญ จนมาถึงจุดที่เรียกว่าเป็น “ทางสองแพร่ง” ซึ่งในสัปดาห์นี้ มีโอกาสสูงมากที่เราจะได้เห็นการทะลุออกจากกรอบนี้ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

เขาอธิบายว่าในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ราคาทองคำเหมือนย่ำอยู่กับที่ ฝั่งผู้ซื้อจะเข้ามาอย่างแข็งขันทุกครั้งที่ราคาร่วงลงไปใกล้แนวรับของเทรนด์ขาขึ้น ในขณะที่ฝั่งผู้ขายก็จะออกมาเทขายทำกำไรทุกครั้งที่ราคาพุ่งขึ้นไปเหนือระดับ $3,360 การงัดข้อกันของทั้งสองฝั่งนี้ทำให้เกิดรูปแบบที่เรียกว่า Ascending Triangle หรือสามเหลี่ยมยกตัวสูงขึ้น ซึ่งตามตำราแล้ว รูปแบบนี้มักจะบ่งชี้ว่ามีโอกาสที่จะทะลุแนวต้านขึ้นไปข้างบนมากกว่าจะร่วงลงมา

อย่าโดนหลอก! เบื้องหลังแรงซื้อทองคำ ไม่ใช่แค่การเก็งกำไร

หลายคนอาจจะคิดว่าที่ราคาทองคำผันผวนอยู่ตอนนี้เป็นเพราะนักเก็งกำไร แต่ Suki Cooper นักวิเคราะห์จาก Standard Chartered Bank ได้ให้มุมมองที่ลึกไปกว่านั้น เธอบอกว่าแม้ข้อมูลจะชี้ว่าบรรดากองทุนและผู้จัดการกองทุนยังคงเดิมพันฝั่งขาขึ้นของทองคำเป็นจำนวนมาก แต่ปัจจัยขับเคลื่อนหลักที่เธอจับตามองอย่างใกล้ชิดกลับไม่ใช่การเก็งกำไร แต่เป็น “อุปสงค์การลงทุน” ผ่านกองทุน ETPs ที่อ้างอิงกับทองคำ (Gold-backed ETPs) ทั่วโลกต่างหาก

เธอบอกว่าในช่วงครึ่งแรกของปี 2025 มีเงินทุนไหลเข้ากองทุนทองคำเหล่านี้มากที่สุดในรอบ 5 ปีเลยทีเดียว และที่น่าสนใจคือ ปริมาณการถือครองทองคำผ่าน ETPs ในปัจจุบันยังคงต่ำกว่าจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่เคยทำไว้ในปี 2020 อยู่ถึง 300 ตัน ซึ่งหมายความว่ายังมีช่องว่างให้เงินทุนไหลเข้ามาลงทุนได้อีกมาก นี่คือแรงหนุนที่แท้จริงและยังซ่อนอยู่เบื้องหลัง

นอกจากนี้ เธอยังชี้ให้เห็นความสัมพันธ์ที่ชัดเจนที่สุดของราคาทองคำในตอนนี้ คือความสัมพันธ์กับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยมีค่าสหสัมพันธ์แบบสวนทางกันสูงถึง -70% พูดง่ายๆ คือถ้าดอลลาร์อ่อนค่า ทองคำก็จะแข็งค่าขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งตอนนี้ความกังวลเรื่องหนี้สินของสหรัฐฯ และปัญหาสงครามการค้าก็ยังคงเป็นปัจจัยที่กดดันดอลลาร์และหนุนความน่าสนใจของทองคำต่อไป

ตลาดกระทิงรอบนี้มาแรงจัดซะจนไม่ยอมย่อตัวกลับลงมาที่ฐาน $3,345 ให้ได้เก็บของกันเลยแม้แต่น้อย แต่เลือกที่จะเดินหน้าลุยต่อทันที จนล่าสุดได้ขึ้นไปทดสอบแนวต้านใหญ่ที่ระดับ $3,400 และทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบหลายวันที่บริเวณ $3,405 ก่อนที่จะมีแรงขายทำกำไรกดลงมาเล็กน้อย

เมื่อเรามองภาพรวมทางเทคนิคตอนนี้ ต้องบอกว่าเทรนด์ขาขึ้นนั้นชัดเจนมาก เส้นค่าเฉลี่ย EMA ทั้ง 3 เส้น ยังคงเรียงตัวกันอย่างสวยงามและชี้ขึ้น แต่สิ่งที่เราต้องเริ่มให้ความสำคัญและจับตาดูอย่างใกล้ชิดในตอนนี้คือสัญญาณความอ่อนล้าที่เริ่มปรากฏขึ้นมาให้เห็นแล้ว

สังเกตอินดิเคเตอร์ด้านล่างอย่าง RSI และ Stoch RSI ทั้งสองตัวได้พุ่งขึ้นไปอยู่ในโซน Overbought หรือโซน “ซื้อมากเกินไป” มันกำลังส่งสัญญาณเตือนว่าตลาดอาจจะร้อนแรงเกินไปในระยะสั้น และมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการพักตัวหรือย่อตัวเพื่อลดความร้อนแรงลงมาได้ทุกเมื่อ ประกอบกับแท่งเทียน 4 ชั่วโมงล่าสุดที่ทิ้งไส้เทียนด้านบนยาวเฟื้อย แสดงให้เห็นถึงการต่อสู้ที่ดุเดือดบริเวณแนวต้าน $3,400 และมีแรงขายกดดันลงมาอย่างหนัก

ดังนั้น สำหรับแผนการใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า ต้องเทรดด้วยความระมัดระวังมากขึ้น แม้ภาพใหญ่ยังเป็นขาขึ้น แต่ความเสี่ยงในการย่อตัวระยะสั้นก็มีสูงมากเช่นกัน แนวต้านสำคัญที่ $3,372 ที่เคยเป็นเป้าหมายของเรา ตอนนี้ได้แปรสภาพกลายเป็น “แนวรับใหม่” ไปแล้ว สถานการณ์ตอนนี้คือการวัดใจกันว่า กระทิงจะยังมีแรงเหลือพอที่จะดันราคาให้ทะลุแนวต้านสุดแกร่งที่ $3,400-$3,405 ขึ้นไปยืนได้อย่างมั่นคงหรือไม่

หากทำได้ เป้าหมายต่อไปคือการขึ้นไปท้าทายแนวต้านถัดไปที่โซน $3,417 แต่ในทางกลับกัน หากแรงซื้อเริ่มแผ่วและไม่สามารถผ่านกำแพงนี้ไปได้ ภาพที่เป็นไปได้มากที่สุดคือการย่อตัวเพื่อกลับมาตั้งหลัก ซึ่งแนวรับแรกที่ราคาจะกลับลงมาทดสอบก็คือ $3,372 นี่แหละ

หากราคาย่อลงมาที่โซนนี้แล้วสามารถยืนอยู่ได้ หรือมีสัญญาณซื้อกลับเข้ามาอีกครั้ง ก็ยังถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีของการขึ้นต่อในรอบถัดไป แต่หากหลุดแนวรับ $3,372 ลงมา นั่นจะเป็นสัญญาณเตือนภัยว่าการพักตัวอาจจะลึกกว่าที่คาด และมีโอกาสกลับลงไปหาฐานเดิมที่ $3,345 ได้อีกครั้ง สรุปคือ ตอนนี้เกมอยู่ที่การวัดพลังกันที่ด่าน $3,400 จับตาดูแนวรับ $3,372 ให้ดี เพราะนี่คือจุดตัดสินสำคัญของทิศทางราคาทองคำในระยะสั้น

แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $3,372

• $3,345

• $3,325

แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $3,400

• $3,417

• $3,451