วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 25 ส.ค. 2568

กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้

เทรดทองเดี๋ยวนี้ >     

*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣ 

*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰 

*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁

ราคาทองคำ XAUUSD ดีดตัวขึ้นอย่างร้อนแรงในชั่วข้ามคืน เป็นการเปิดสัปดาห์ใหม่ด้วยความคึกคัก หลังจากถ้อยแถลงครั้งสำคัญของ Jerome Powell ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่เปรียบเสมือนการส่งสัญญาณเปิดทางสู่การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า สร้างความหวังครั้งใหม่ให้กับนักลงทุนในตลาดทองคำทั่วโลก โดยราคาทองคำในเช้าของตลาดเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 3,365 ดอลลาร์ต่อออนซ์

Powell ส่งซิก ทองคำพุ่งทะยานรับสัญญาณลดดอกเบี้ย

ท่ามกลางการจับตามองของนักลงทุนทั่วโลก Jerome Powell ได้กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมประจำปีของธนาคารกลาง โดยวางตัวอย่างระมัดระวังและเป็นกลาง แต่เนื้อหาที่ซ่อนอยู่กลับมีนัยสำคัญอย่างยิ่ง

เขายอมรับว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับความท้าทายสองด้านที่น่ากังวล ทั้งความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น และการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เริ่มส่งสัญญาณชะลอตัว แม้จะมีความเสี่ยงที่สมดุล แต่ Powell ก็ทิ้งท้ายไว้อย่างน่าสนใจ ว่าด้วยนโยบายการเงินที่เข้มงวดในปัจจุบัน อาจถึงเวลาที่เหมาะสมที่จะต้องพิจารณา “ปรับเปลี่ยนจุดยืนทางนโยบาย” คำกล่าวนี้เองที่ตลาดตีความในทันทีว่าเป็นการปูทางไปสู่การลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายนที่กำลังจะถึงนี้ 

ภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของ Fed เมื่อเงินเฟ้อและตลาดแรงงานสวนทาง

เบื้องหลังการส่งสัญญาณครั้งนี้ คือภาพความท้าทายที่ซับซ้อนของเศรษฐกิจสหรัฐฯ Powell ชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจกำลังเผชิญกับโจทย์ใหม่ที่ไม่เคยเจอมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบจากกำแพงภาษีนำเข้าที่สูงขึ้น ซึ่งกำลังปรับเปลี่ยนโฉมหน้าของระบบการค้าโลก และนโยบายคนเข้าเมืองที่เข้มงวดขึ้น ซึ่งส่งผลให้การเติบโตของกำลังแรงงานชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดแรงงาน ซึ่งเคยเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ Fed ลังเลที่จะลดดอกเบี้ย

บัดนี้กลับเริ่มแสดงสัญญาณความเปราะบาง Powell เตือนว่าความเสี่ยงที่ตลาดแรงงานจะทรุดตัวลงกำลังเพิ่มสูงขึ้น และหากเกิดขึ้นจริง อาจนำไปสู่การเลิกจ้างที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

ในขณะเดียวกัน ความกังวลเรื่องเงินเฟ้อก็ยังคงเป็นปัญหาใหญ่ที่มองข้ามไม่ได้ ผลกระทบจากกำแพงภาษีได้เริ่มปรากฏให้เห็นชัดเจนในราคาสินค้าอุปโภคบริโภคแล้ว ซึ่งสถานการณ์ที่ทั้งตลาดแรงงานและเงินเฟ้อต่างก็มีความเสี่ยงเช่นนี้ นับเป็นภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกที่ Fed ต้องตัดสินใจอย่างรอบคอบที่สุด

เสียงสะท้อนจากนักวิเคราะห์ ก้าวแห่งความหวัง แต่หนทางยังไม่สดใส

แม้ตลาดจะตอบรับข่าวในเชิงบวกอย่างเต็มที่ โดย CME FedWatch Tool ชี้ว่าตลาดได้คาดการณ์การลดดอกเบี้ยในเดือนหน้าไปแล้วเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ และยังมองไปถึงการลดดอกเบี้ยอีกอย่างน้อยหนึ่งครั้งก่อนสิ้นปี แต่ในมุมมองของนักวิเคราะห์หลายสำนักยังคงมีความระมัดระวัง

Chris Zaccarelli ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ Northlight Asset Management มองว่า Powell กำลังให้ความสำคัญกับตลาดแรงงานมากกว่าเงินเฟ้อในระยะสั้น และการลดดอกเบี้ยหนึ่งครั้งไม่ได้หมายความว่า Fed จะเดินหน้าลดดอกเบี้ยต่อเนื่อง

สอดคล้องกับ Jeffrey Roach หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก LPL Financial ที่ไม่เชื่อว่า Fed จะสามารถลดดอกเบี้ยต่อเนื่องไปไกลกว่าเดือนกันยายนได้ เนื่องจากความไม่แน่นอนของโครงสร้างเศรษฐกิจในระยะยาว ด้าน Alex Kuptsikevich หัวหน้านักวิเคราะห์ตลาดจาก FxPro ให้ภาพที่น่าสนใจ ว่าราคาทองคำกำลังอยู่ในช่วงสะสมพลังในกรอบกว้างมาตั้งแต่เดือนเมษายน ซึ่งการเคลื่อนไหวที่ยาวนานเช่นนี้มักจะจบลงด้วยการทะยานขึ้นหรือดิ่งลงอย่างรุนแรง โดยมีแนวต้านในฝันอยู่ที่ 4,600 ดอลลาร์ และมีแนวรับสุดโหดที่ 3,000 หรือแม้กระทั่ง 2,200 ดอลลาร์เลยทีเดียว

จับตาตัวเลขเศรษฐกิจและโอกาสในโลหะเงิน

สถานการณ์ราคาทองคำในช่วงนี้ คือแม้จะมีปัจจัยบวกจากการส่งสัญญาณของ Fed แต่การปรับขึ้นอาจมีจำกัด เนื่องจากตลาดได้ซึมซับข่าวนี้ไปแล้ว Chantelle Schieven หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ Capitalight Research กล่าวว่าสิ่งที่จะทำให้ตลาดตื่นเต้นได้อีกครั้ง คือการเปลี่ยนแปลงทิศทางของ Fed ที่ชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับการลดดอกเบี้ยในอนาคต

ดังนั้น ปัจจัยสำคัญที่นักลงทุนต้องจับตาในสัปดาห์นี้ คือดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ Fed ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ตัวเลขนี้จะเป็นตัวชี้ขาดทิศทางนโยบายการเงินหลังจากเดือนกันยายน

ขณะเดียวกัน Philip Streible หัวหน้านักกลยุทธ์ตลาดของ Blue Line Futures ได้ชี้ให้เห็นถึงโอกาสในโลหะเงิน ซึ่งทำผลงานได้ดีกว่าทองคำในช่วงที่ผ่านมาและกำลังน่าสนใจในฐานะสินทรัพย์ที่มูลค่ายังไม่สูงนัก ท่ามกลางภาวะที่ Fed เตรียมลดดอกเบี้ยแต่เงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง

จากภาพการต่อสู้ที่แนวรับสำคัญบริเวณเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (EMA) ที่ระดับ $3,337-$3,338 ปรากฏว่าปราการด่านนี้สามารถทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมและกลายเป็นจุดปล่อยจรวดชั้นดี ส่งผลให้ราคาทองคำทะยานขึ้นอย่างรุนแรงและรวดเร็วในชั่วข้ามคืน

ภาพที่เห็นล่าสุดคือแท่งเทียนสีเขียวยาวที่แสดงถึงแรงซื้อปริมาณมหาศาล ได้ผลักดันราคาให้ทะลวงผ่านแนวต้านสำคัญที่ $3,358 ซึ่งเป็นยอดสูงสุดเดิมไปได้อย่างง่ายดาย และขณะนี้ราคากำลังเคลื่อนไหวอยู่ที่บริเวณ $3,364 ซึ่งเป็นการพลิกสถานการณ์กลับมาอยู่ในมือของฝั่งกระทิงอย่างเต็มรูปแบบ และลบล้างภาพความลังเลของวันก่อนหน้าไปโดยสิ้นเชิง

เมื่อพิจารณาจากอินดิเคเตอร์ทางเทคนิค จะเห็นการปลดปล่อยพลังของฝั่งซื้ออย่างชัดเจน ดัชนี RSI ได้พุ่งทะยานขึ้นอย่างรุนแรงเข้าใกล้เขต Overbought ซึ่งสะท้อนถึงโมเมนตัมเชิงบวกที่แข็งแกร่งอย่างยิ่งในระยะสั้น

ในทำนองเดียวกัน สัญญาณจาก Stochastic RSI ก็ได้ใกล้ขึ้นสู่เขต Overbought และยังคงชี้ทิศทางขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นการยืนยันถึงพละกำลังของฝั่งซื้อที่ยังคงไหลเข้ามาในตลาดอย่างไม่ขาดสาย อย่างไรก็ตาม การที่อินดิเคเตอร์ทั้งสองเริ่มเข้าสู่เขต Overbought พร้อมกันเช่นนี้ เป็นสัญญาณเตือนให้นักลงทุนต้องใช้ความระมัดระวัง เพราะอาจเกิดการย่อตัวเพื่อพักฐานหรือการเทขายทำกำไรในระยะสั้นได้ทุกเมื่อ

สำหรับแนวโน้มใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า เป้าหมายแรกของฝั่งกระทิงคือการมุ่งหน้าขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่บริเวณ $3,372 ซึ่งเป็นเป้าหมายเดิมที่เคยคาดการณ์ไว้ หากโมเมนตัมยังคงแข็งแกร่งและสามารถทะลุผ่านด่านนี้ไปได้ จะเป็นการเปิดทางให้ราคาทองคำมุ่งสู่แนวต้านสำคัญในระดับจิตวิทยาที่ $3,400 ต่อไป

ในทางกลับกัน หากมีแรงขายทำกำไรสลับออกมา แนวรับแรกที่สำคัญจะเปลี่ยนจากแนวต้านเดิมมาเป็นแนวรับใหม่ นั่นคือบริเวณ $3,358 หากราคาสามารถย่อตัวลงมาและยืนเหนือระดับนี้ได้ จะถือเป็นการพักตัวเพื่อไปต่อที่สวยงาม แต่หากหลุดแนวรับนี้ลงมา แนวรับถัดไปจะอยู่ที่กลุ่มเส้นค่าเฉลี่ย EMA ซึ่งขยับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่บริเวณ $3,345-$3,350 ซึ่งจะเป็นแนวรับสุดท้ายที่จะตัดสินว่าภาพกระทิงในรอบนี้จะยังคงอยู่หรือไม่

แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $3,358

• $3,350

• $3,338

แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $3,372

• $3,400

• $3,415