วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 2 ส.ค. 2566

กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้

เทรดทองเดี๋ยวนี้ >      

*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣ 

*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰 

*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁

Gold Spot ในปัจจุบันอยู่ที่บริเวณ $1,947 ขณะที่ Gold Futures อยู่ที่บริเวณ $1,983.60

ราคาทองคำร่วงลงกว่า 1% ในวันอังคารที่ผ่านมา โดยแรงกดดันหลักเกิดจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น รวมถึงผลตอบแทนพันธบัตรที่พุ่งสูงขึ้นเช่นกัน ขณะที่นักลงทุนต่างเฝ้ารอข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐเพิ่มเติมในสัปดาห์นี้ ซึ่งอาจส่งผลต่อท่าทีนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ และที่สำคัญคือการปรับลดอันดับเครดิตเริ่มต้นของผู้ออกสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของสหรัฐอเมริกา (IDR) ) จากระดับ AAA เป็น AA+

เริ่มกันที่ตัวเลขรายงาน JOLTS เมื่อวันอังคาร ซึ่งเป็นมาตรวัดความต้องการแรงงาน ลดลงเหลือ 9.58 ล้านคนในวันสุดท้ายของเดือนกรกฎาคม กรมแรงงานระบุในรายงานการสำรวจการเปิดรับสมัครงานและการหมุนเวียนของแรงงานประจำเดือน

จากการประเมินที่เป็นฉันทามติ นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าตำแหน่งงานว่างจะเหลือ 9.61 ลดลงจาก 9.92 ล้านตำแหน่งที่รายงานในเดือนมิถุนายน

นักวิเคราะห์ยังคงให้ความสนใจอย่างใกล้ชิดกับรายงาน JOLTS เนื่องจากเป็นตัวบ่งชี้ชั้นนำสำหรับสุขภาพของตลาดแรงงาน นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่าโมเมนตัมที่ชะลอตัวลงของจำนวนงานที่มีอยู่อาจบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานเย็นลงอีก

ธนาคารกลางสหรัฐให้ความสนใจอย่างใกล้ชิดกับรายงาน JOLTS เนื่องจากประธาน Jerome Powell ชัดเจนว่าคณะกรรมการจำเป็นต้องเห็นตลาดแรงงานที่อ่อนแอลงก่อนที่จะมั่นใจว่าพวกเขาควบคุมอัตราเงินเฟ้อได้และหยุดการดำเนินนโยบายการเงินที่ก้าวร้าวชั่วคราว

ขณะที่ดัชนีการผลิตของ Institute for Supply Management (ISM) อยู่ที่ 46.4% ในเดือนกรกฎาคม หลังจากที่ตัวเลขออกมา 46% ในเดือนมิถุนายน ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าตัวเลขจะออกมาที่ 46.9%

ดัชนีการจ้างงานหดตัวลงอีก โดยลดลง 3.7 จุดเป็น 44.4% ในเดือนกรกฎาคม สิ่งนี้มาก่อนรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนกรกฎาคมที่คาดการณ์ไว้สูงซึ่งจะเผยแพร่ในวันศุกร์

ดัชนีสำหรับคำสั่งซื้อใหม่ยังคงอยู่ในแดนหดตัว แต่เพิ่มขึ้น 1.7 จุดเปอร์เซ็นต์เป็น 47.3%

ดัชนีราคาก็อยู่ในแดนหดตัวเช่นกัน แต่เพิ่มขึ้น 0.8 จุดเป็น 42.6% จากตัวเลข 41.8% ในเดือนมิถุนายน

“ภาคการผลิตของสหรัฐฯ หดตัวอีกครั้ง แต่การเพิ่มขึ้นของ PMI บ่งชี้ถึงอัตราการหดตัวที่ช้าลงเล็กน้อย” Timothy Fiore ประธานคณะกรรมการสำรวจธุรกิจการผลิตของ ISM กล่าว “การอ่านค่าดัชนี composite ในเดือนกรกฎาคมสะท้อนให้เห็นว่าบริษัทต่าง ๆ ยังคงจัดการผลผลิตที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากความอ่อนตัวของคำสั่งซื้อยังคงดำเนินต่อไป”

ตลาดทองคำกำลังเจอแรงกดดัน แต่ยังคงไม่เห็นโมเมนตัมที่สำคัญใดๆ เนื่องจากตลาดยังคงแยกย่อยข่าวล่าสุดที่ Fitch Ratings ปรับลดอันดับเครดิตเริ่มต้นของผู้ออกสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของสหรัฐอเมริกา (IDR) )  จาก AAA เป็น AA+

“การปรับลดอันดับเครดิตของสหรัฐฯ สะท้อนถึงการถดถอยทางการคลังที่คาดไว้ในช่วง 3 ปีข้างหน้า ภาระหนี้ภาครัฐโดยรวมที่สูงและเพิ่มมากขึ้น และการพังทลายของธรรมาภิบาลเมื่อเทียบกับระดับ AA และบริษัทที่ได้รับเรท AAA ในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา ได้แสดงออกมาให้เห็นถึงการขัดแย้งกันของวงเงินกู้และการลงมติในนาทีสุดท้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า” Fitch กล่าวในการแถลงข่าว

Fitch ยังตั้งข้อสังเกตถึงความขัดแย้งที่ยาวนานหลายเดือนของรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งผลักดันประเทศไปสู่วิกฤตเพดานหนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุของการปรับลดอันดับเครดิตครั้งล่าสุด

“ความขัดแย้งทางการเมืองที่ส่งผลจำกัดหนี้สินที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าและการแก้ปัญหาในนาทีสุดท้ายได้ทำลายความเชื่อมั่นในการบริหารการคลัง นอกจากนี้ รัฐบาลยังขาดกรอบการคลังระยะกลางซึ่งแตกต่างจากบริษัทอื่น ๆ ส่วนใหญ่ และมีกระบวนการจัดทำงบประมาณที่ซับซ้อน ปัจจัยเหล่านี้พร้อมกับปัจจัยหลายประการ อย่างผลกระทบทางเศรษฐกิจตลอดจนการลดภาษีและการริเริ่มการใช้จ่ายใหม่ ๆ มีส่วนทำให้หนี้สินเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา นอกจากนี้ มีความคืบหน้าเพียงเล็กน้อยในการจัดการกับความท้าทายระยะกลางที่เกี่ยวข้องกับการประกันสังคมและค่าประกันสุขภาพที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากประชากรสูงอายุ” Fitch กล่าว

Fitch กล่าวว่าการขาดดุลของรัฐบาลสหรัฐเพิ่มขึ้นเป็น 6.3% ของ GDP ในปี 2023 เพิ่มขึ้นจาก 3.7% ในปี 2022 การขาดดุลคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 6.6% และ 6.9% ของ GDP ในปี 2024 และ 2025 ตามลำดับ

แม้ว่าตลาดทองคำจะไม่เห็นปฏิกิริยามากนักต่อการลดอันดับ แต่นักวิเคราะห์หลายคนกล่าวว่าอาจต้องใช้เวลาสำหรับนักลงทุนในการแยกแยะผลกระทบทั้งหมดของการประกาศ

เมื่อเร็วๆ นี้ John LaForge หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สินทรัพย์ของ Wells Fargo Investment Institute กล่าวว่า เขาคาดว่าหนี้ที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ จะเป็นปัจจัยหนุนที่สำคัญสำหรับทองคำที่สามารถหนุนราคาให้สูงขึ้นได้อย่างน้อยอีก 3 ปีข้างหน้า

ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์จาก Capital Economics กล่าวว่าการปรับลดอันดับเครดิตของ Fitch อาจส่งผลกระทบต่อตลาดค่อนข้างจำกัด เนื่องจากเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจสหรัฐยังคงฟื้นตัวอย่างสมเหตุสมผล

“เป็นเรื่องแปลกเล็กน้อยที่จะปรับลดอันดับเครดิตของสหรัฐฯ ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจดูเหมือนจะพร้อมที่จะต่อสู้ รวมถึงการทำให้อัตราเงินเฟ้อกลับไปสู่เป้าหมายโดยไม่ก่อให้เกิดภาวะถดถอย เป็นที่ยอมรับกันดีว่า แม้ว่าเศรษฐกิจจะดำเนินไปอย่างมีศักยภาพและการว่างงานอัตราต่ำกว่า 4% การขาดดุลของรัฐบาลกลางยังคงใกล้เคียงกับ 6% ของ GDP ในปีงบประมาณปัจจุบัน” นักวิเคราะห์กล่าว

บริษัทวิจัยในสหราชอาณาจักรกล่าวว่า เป้าหมายของธนาคารกลางสหรัฐในการทำให้อัตราเงินเฟ้อกลับลงมาที่เป้าหมาย 2% ยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสหรัฐ

“หลายอย่างขึ้นอยู่กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับอัตราดอกเบี้ย หากเราคิดถูกและอัตราเงินเฟ้อยังคงผ่อนคลายลง Fed จะลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งภายในปีหน้า ซึ่งจะทำให้ต้นทุนการกู้ยืมของรัฐบาลกลางลดลง แต่ถ้าเราคิดผิดและ Fed ถูกบังคับให้รักษาอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าอัตราการเติบโตของ GDP ที่ระบุเป็นระยะเวลานาน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของหนี้อาจไม่ยั่งยืนอย่างรวดเร็ว” นักวิเคราะห์กล่าวเสริม

มีอีกส่วนหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาที่แปลกประหลาด เนื่องจากตลาดฟิวเจอร์สของทองคำในเดือนสิงหาคมหมดอายุและเริ่มต้นไปสู่เดือนธันวาคม ทองคำในเดือนธันวาคมเป็นสัญญาที่มีความเคลื่อนไหวมากที่สุดใน CME และราคาซื้อขายเริ่มต้นสัปดาห์ที่สูงกว่า 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ในขณะที่ตลาดสปอตและฟิวเจอร์สไม่ได้ซื้อขายสอดคล้องกันเสมอไป มีช่องว่างเกือบ $40 ระหว่างสองตลาด ซึ่งอาจทำให้ทองคำอ่อนไหวต่อแรงขายเพิ่มเติม

Jim Wyckoff นักวิเคราะห์ทางเทคนิคอาวุโสของ Kitco ระบุว่าช่องว่างระหว่างราคานั้น “กว้างผิดปกติ”

“สัญญาซื้อขายเดือนธันวาคมที่สูงกว่า $2,000 บ่งชี้ว่านักลงทุนคิดว่าทองคำกำลังสูงขึ้น” Wyckoff กล่าว “มีช่องว่างตามปกติในตลาดสัญญาฟิวเจอร์สล่วงหน้า แต่ไม่มากเท่ากับในตอนนี้ สิ่งที่เขาคิดคือราคาของตลาดสปอตและฟิวเจอร์สจะมาบรรจบกันในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า”

Phillip Streible หัวหน้านักยุทธศาสตร์การตลาดของ Blue Line Futures ตั้งข้อสังเกตว่าตลอดปี 2023 นักลงทุนบางรายที่คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยภายในสิ้นปีนี้ได้เล่นสัญญาซื้อขายล่วงหน้าและออปชั่นที่มีวันที่ยาวนานขึ้น

อย่างไรก็ตาม เขาเสริมว่านักลงุทนบางรายกำลังปรับ Position ของพวกเขา เนื่องจากความคาดหวังเริ่มเปลี่ยนไปตามข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งเกินคาด

“เรากำลังเห็นตลาดปิดช่องว่างระหว่างฟิวเจอร์สและสปอต” เขากล่าว “เขากำลังเฝ้าดูอยู่ว่าทองคำในเดือนธันวาคมจะมีแนวรับที่ $1,982 หรือไม่”

James Stanley นักกลยุทธ์การตลาดของ StoneX กล่าวว่า ในขณะที่ทองคำกำลังซื้อขายที่ระดับแนวรับที่สำคัญ ดูเหมือนว่าจะมีความแข็งแกร่งที่ยืดหยุ่นในตลาด แต่เสริมว่ายังเร็วเกินไปที่จะบอกได้ว่ามันจะคงอยู่หรือไม่

Stanley ยังกล่าวด้วยว่าเขายังคงอ้างอิงราคาฟิวเจอร์สในเดือนสิงหาคมเนื่องจากการหมดอายุเพิ่งเริ่มต้นขึ้น เขาชี้ให้เห็นว่าราคาทองคำมีแนวรับที่สำคัญเหนือ $1,942

“ทองคำอยู่ในจุดต่ำสุดจากสัปดาห์ที่แล้ว ในขณะที่เงินดอลลาร์สหรัฐยังคงแข็งค่าขึ้น” เขากล่าว “หาก $1,942 ทะลุ ไม่มีอะไรจะหยุดราคาไม่ให้กลับไปที่ $1,900 ได้”

Stanley เสริมว่าความเสี่ยงสำหรับทองคำดูเหมือนจะเป็นขาลง เนื่องจากตลาดกำลังประเมินความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

“จนถึงตอนนี้ เศรษฐกิจสหรัฐฯ ค่อนข้างฟื้นตัว แม้ว่า Fed จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งอาจหมายความว่า Fed อาจจะยังไม่เสร็จสิ้น Fed ไม่สามารถหยุดขึ้นอัตราดอกเบี้ยหากอัตราเงินเฟ้อยังคงสูงกว่า 4% ได้” เขากล่าว “การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปจะส่งผลกระทบต่อทองคำ”

ตอนนี้จุดสนใจกำลังไปที่รายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่สำคัญของสหรัฐสำหรับเดือนกรกฎาคมที่ครบกำหนดในวันศุกร์ การจ้างงานโดยรวมคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่งในเดือนกรกฎาคม หลังจากเพิ่มขึ้น 209,000 ตำแหน่งในเดือนมิถุนายน

ราคาทองคำเคลื่อนตัวลงมาที่แนวรับบริเวณสามเหลี่ยม Triangle รวมถึงลงมาทดสอบเส้น MA200 วันของกราฟระดับ 4 ชั่วโมงในขณะนี้ ทำให้มีความเป็นไปได้ที่ในวันนี้ราคาจะมีโอกาสปรับตัวลงอีกหากบริเวณดังกล่าวถูกทำลาย

แนวรับที่สำคัญในวันนี้ซึ่งน่าจะถูกทดสอบอย่างต่อเนื่องคือบริเวณ $1,940 - $1,950 ซึ่งหากเผชิญกับแนวโน้มของดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น อาจจะส่งผลให้ราคาทองคำลงมาถึง $1,935 ได้

อย่างไรก็ตาม หากบริเวณ $1,940 - $1,950 นี้สามารถยันราคาเอาไว้ได้ ก็มีโอกาสที่ราคาจะดีดตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวด้านบนของสามเหลี่ยม Triangle ซึ่งอยู่ที่บริเวณราคา $1,967

แต่เป้าหมายหลักในวันนี้คือราคาทองคำจะต้องพยายามกลับขึ้นมายืนเหนือ $1,950 ให้ได้ ก่อนที่จะมองถึงโอกาสในการปรับตัวขึ้นอีกครั้ง

กราฟทองคำ ระดับ 4 ชั่วโมง

• แนวรับ ในวันนี้จะอยู่ที่บริเวณ  $1,940 - $1,935

• แนวต้าน ในวันนี้จะอยู่ที่บริเวณ $1,950 และ $1,967