วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 17 ก.ค. 2568

กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้

เทรดทองเดี๋ยวนี้ >     

*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣ 

*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰 

*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁

วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 17 กรกฏาคม 2568 สถานการณ์ราคาทองคำ XAUUSD ล่าสุดยังคงอยู่ในภาวะที่เรียกว่าติดหล่ม คือขยับไปไหนไม่ได้ไกล วิ่งวนอยู่ในกรอบแนวรับสำคัญที่ 3,300 ดอลลาร์ และแนวต้านที่ 3,400 ดอลลาร์ มาสักพักแล้ว แม้จะมีข่าวที่น่าจะทำให้ราคาทะยานขึ้นไปได้แรงๆ อย่างประเด็นร้อนทางการเมืองในสหรัฐฯ ที่มีข่าวลือว่า Donald Trump อาจพิจารณาปลดประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ Fed อย่าง Jerome Powell ออกจากตำแหน่ง

ด้านแหล่งข่าวของ Bloomberg ก็อ้างว่า Trump ได้หารือเรื่องนี้กับ ส.ส. จากพรรครีพับลิกัน และส่วนใหญ่ก็เห็นด้วยกับแนวคิดการปลด Powell ซึ่งสะท้อนถึงความขัดแย้งภายในที่อาจส่งผลต่อนโยบายการเงินของสหรัฐฯ ในอนาคต

ซึ่งข่าวทำนองนี้ปกติแล้วจะสร้างความไม่แน่นอนและส่งผลดีต่อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย จนดันราคาพุ่งขึ้นไปแตะ 3,377 ดอลลาร์ได้ในช่วงสั้นๆ แต่สุดท้ายก็กลับลงมาซื้อขายกันที่ระดับประมาณ 3,340 ดอลลาร์เหมือนเดิม ภาพรวมคือมีแรงซื้อเข้ามาพยุง แต่ก็ยังไม่มีแรงส่งมากพอที่จะทะลุแนวต้านสำคัญไปได้

ปัจจัยหนึ่งที่คอยกดดันราคาทองคำไว้ มาจากความต้องการทองคำแท่งจริงๆ หรือ Physical Gold ที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะจากอินเดีย ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ รายงานล่าสุดเผยว่าการนำเข้าทองคำในเดือนมิถุนายนลดลงถึง 40% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เหตุผลหลักก็เพราะราคาทองที่สูงขึ้นจนคนทั่วไปรู้สึกว่าแพงเกินไป ทำให้ชะลอการซื้อออกไปก่อน

ส่องตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ เงินเฟ้อแผ่ว แต่ทำไมทองยังไม่พุ่ง?

อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ตลาดจับตามองอย่างใกล้ชิดคือตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ล่าสุดมีการประกาศดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นเหมือนตัวชี้วัดเงินเฟ้อจากฝั่งผู้ผลิต ปรากฏว่าตัวเลขในเดือนมิถุนายนออกมาทรงตัว ไม่ได้เพิ่มขึ้นเลย สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2%

ส่วนตัวเลข PPI ตลอด 12 เดือนที่ผ่านมาก็เพิ่มขึ้นเพียง 2.3% ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 2.5% เช่นกัน ในทางทฤษฎีแล้ว การที่เงินเฟ้อดูเหมือนจะควบคุมได้ ไม่ได้ร้อนแรงจนน่ากังวล น่าจะเป็นข่าวดีกับทองคำ เพราะมันเปิดช่องให้ Fed อาจตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยได้ในอนาคต ซึ่งการลดดอกเบี้ยจะทำให้ต้นทุนการถือครองทองคำ (ที่ไม่มีผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ย) น่าสนใจขึ้น

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่าภาพรวมยังไม่น่าไว้วางใจขนาดนั้น Jamie Cox จาก Harris Financial Group ให้ความเห็นว่า ตราบใดที่ตลาดแรงงานของสหรัฐฯยังแข็งแกร่ง Fed ก็คงยังไม่รีบร้อนลดดอกเบี้ย และน่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไปจนถึงเดือนกันยายนเป็นอย่างน้อย ทำให้ความหวังเรื่องการลดดอกเบี้ยเร็วๆ นี้ยังคงเลือนราง และเป็นเหตุผลที่ทำให้ราคาทองคำยังไม่สามารถพุ่งทะยานขึ้นไปได้อย่างที่ควรจะเป็น

สงครามการค้าและการเมืองโลก สมรภูมิที่แท้จริงของราคาทองคำ

เมื่อมองในภาพใหญ่ขึ้น นักวิเคราะห์จาก BCA Research อย่าง Roukaya Ibrahim กลับมองว่าสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำจะยังคงทำผลงานได้ดีกว่าโลหะอุตสาหกรรมอย่างทองแดงไปตลอดครึ่งหลังของปีนี้ ปัจจัยหนุนสำคัญมาจากเศรษฐกิจจีนที่ส่งสัญญาณอ่อนแอลงเรื่อยๆ ประกอบกับสงครามการค้าและกำแพงภาษีของสหรัฐฯ ที่ยังคงดำเนินต่อไป

สถานการณ์เหล่านี้จะลดความต้องการใช้โลหะในภาคอุตสาหกรรม แต่จะเพิ่มความต้องการถือครองทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยง Roukaya Ibrahim เชื่อว่ามันเป็นแค่เรื่องของเวลาเท่านั้นที่ราคาทองคำจะสามารถทะลุแนวต้านสำคัญและกลับไปทดสอบจุดสูงสุดตลอดกาลที่เคยทำไว้ที่ 3,500 ดอลลาร์อีกครั้ง

ปัจจัยขับเคลื่อนที่สำคัญที่สุดที่ทำให้ราคาทองคำเป็นขาขึ้นมาเกือบ 3 ปี ยังคงอยู่ นั่นคือความต้องการทองคำจากธนาคารกลางทั่วโลกที่ดูเหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุด ยิ่งนโยบายที่คาดเดายากของ Donald Trump ยิ่งทำให้ความเชื่อมั่นของธนาคารกลางต่างชาติต่อสินทรัพย์สกุลดอลลาร์สหรัฐฯลดลง และหันมาสะสมทองคำมากขึ้นแทน ซึ่งจะสร้างแนวรับที่แข็งแกร่งให้กับราคาทองคำในระยะยาว

สรุปแนวโน้มสำคัญ นักลงทุนต้องมองอะไรต่อ?

โดยสรุปแล้ว สถานการณ์ราคาทองคำในระยะสั้นยังคงเผชิญกับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น จากตัวเลขเศรษฐกิจที่ไม่ได้แย่และประเด็นเงินเฟ้อที่ยังคุกรุ่นอยู่ Fawad Razaqzada นักวิเคราะห์จาก City Index มองว่าการที่ Fed อาจจะชะลอการลดดอกเบี้ยออกไป เป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนค่าเงินดอลลาร์ และเป็นแรงต้านต่อราคาทองคำโดยตรง

อย่างไรก็ตาม เขามองว่าความเสี่ยงขาลงของทองคำก็มีจำกัดเช่นกัน เพราะความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์และสงครามการค้าจะยังคงเป็นปัจจัยที่ทำให้คนต้องการถือทองคำอยู่เสมอ Fawad Razaqzada ยังแนะนำนักลงทุนให้จับตาในระยะสั้นคือแนวรับสำคัญที่ระดับ 3,320 ดอลลาร์ และแนวรับทางจิตวิทยาที่ 3,300 ดอลลาร์ หากราคาทะลุระดับนี้ลงไปอย่างชัดเจน จะถือเป็นสัญญาณที่ไม่ดีนักในทางเทคนิค

ในทางกลับกัน แนวต้านสำคัญจะอยู่ที่บริเวณ 3,350, 3,400 และ 3,430 ดอลลาร์ ซึ่งต้องผ่านด่านเหล่านี้ไปให้ได้ก่อน จึงจะกลับไปคิดถึงการทำจุดสูงสุดใหม่ได้อีกครั้ง ดังนั้น ในช่วงนี้ตลาดจึงยังอยู่ในภาวะรอดูท่าที โดยมีปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ ทั้งตัวเลขยอดค้าปลีกและข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ ซึ่งจะเป็นตัวชี้วัดทิศทางนโยบายของ Fed และราคาทองคำต่อไป

จากที่เราจับตาดูกันที่แนวรับบริเวณ $3,325 ซึ่งเป็นบริเวณเส้นค่าเฉลี่ยระยะยาว EMA 200 ตลาดก็ได้เฉลยคำตอบให้เราเห็นอย่างชัดเจนในกราฟ 4 ชั่วโมงล่าสุด สิ่งที่เกิดขึ้นคือราคาทองคำได้ดิ่งลงไปทดสอบแนวรับดังกล่าวตามคาด แต่สิ่งที่น่าสนใจคือมันไม่ได้แค่แตะแล้วเด้งธรรมดา แต่เป็นการสร้างแท่งเทียนสีเขียวยาวพร้อมกับแรงซื้อที่อัดกลับเข้ามาอย่างหนาแน่น แสดงให้เห็นว่าแนวรับโซนนี้มีนัยสำคัญและแข็งแกร่งมาก จุดวัดใจที่ $3,325 ทำงานได้อย่างดี แม้จะไม่สามารถทะลุแนวต้าน $3,372 ไปได้ก็ตาม

เมื่อเรามาดูอินดิเคเตอร์ประกอบ ก็จะเห็นภาพที่สอดคล้องกันอย่างชัดเจน สัญญาณ Stoch RSI ที่เมื่อวานเราคุยกันว่ามันดำดิ่งอยู่ในเขต Oversold จนน่ากลัว ตอนนี้ได้เกิดสัญญาณกลับตัวพุ่งทะยานขึ้นมาจากโซนต่ำสุดเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นสัญญาณการกลับมาของแรงซื้อในระยะสั้นที่ชัดเจนมาก ขณะที่ RSI เองก็หักหัวขึ้นเล็กน้อยและกำลังจะข้ามผ่านเส้น 50 ขึ้นไป ซึ่งหากทำได้สำเร็จจะเป็นการยืนยันว่าโมเมนตัมได้พลิกกลับมาอยู่ในมือของฝั่งกระทิงอีกครั้ง

ตอนนี้ภาพรวมที่เคยดูแย่เมื่อวานได้เปลี่ยนไปแล้ว การดีดตัวครั้งนี้ไม่ใช่แค่ Technical Rebound ธรรมดา แต่เป็นการดีดกลับอย่างมีพลัง จนราคาสามารถกลับขึ้นมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น EMA 12 และ 26 ได้อีกครั้ง

สำหรับสถานการณ์ใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า สมรภูมิจึงย้ายจากแนวรับ $3,325 กลับขึ้นมาที่ระดับ $3,345 ตอนนี้ราคากำลังพยายามที่จะทดสอบ ซึ่งนี่คือจุดตัดสินชี้ขาดของวันนี้ หากฝั่งกระทิงยังมีแรงส่งมากพอที่จะดันราคาทะลุและยืนเหนือ $3,345 ได้อย่างมั่นคง ภาพรวมจะกลับมาดูดีขึ้นทันที และเป้าหมายถัดไปที่ราคาจะมุ่งหน้าไปหาก็คือแนวต้านที่ระดับ $3,372 ซึ่งเป็นโซนที่เคยทำราคาสูงสุดไว้ในรอบก่อน แต่ในทางกลับกัน หากแรงซื้อเริ่มแผ่วและไม่สามารถทะลุแนวต้าน $3,345 ไปได้ ราคาก็อาจจะย่อตัวกลับลงมาอีกครั้งเพื่อสะสมกำลัง ซึ่งอาจจะทำให้ราคาวิ่งอยู่ในกรอบระหว่าง $3,325 - $3,345 ไปอีกสักพัก

สรุปสั้นๆ สำหรับแผนใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า สถานการณ์พลิกกลับจากที่ดูแย่เมื่อวาน ตอนนี้โมเมนตัมระยะสั้นกลับมาอยู่ฝั่งกระทิงอีกครั้งหลังแนวรับ $3,325 ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม ให้จับตาดูการทดสอบแนว $3,345 เป็นหลัก หากยืนได้ ให้มองเป้าหมายถัดไปที่ $3,372 แต่หากไม่ผ่าน อาจเกิดการย่อตัวลงมาสร้างฐานในกรอบเดิมอีกครั้ง การต่อสู้รอบใหม่ที่แนวต้าน $3,345 นี้จะเป็นตัวกำหนดทิศทางของราคาทองคำในระยะสั้นได้อย่างชัดเจนที่สุด

แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $3,325

• $3,310

• $3,293

แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $3,345

• $3,372

• $3,400