วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 12 พ.ค. 2568

กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้

เทรดทองเดี๋ยวนี้ >     

*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣ 

*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰 

*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁

วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 12 พฤษภาคม 2568 เปิดตลาดเอเชียเช้าวันจันทร์ ราคาทองคำ XAU/USD ก็ดูเหมือนจะโดนมือดีแอบทุบ กดราคาลงมาอยู่แถวๆ $3,275 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ สาเหตุหลักๆ เลยก็มาจากดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ดันแข็งค่าขึ้นมาซะงั้น แถมสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่เมืองเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ก็มีการจับเข่าคุยกันระหว่างสหรัฐฯ กับจีน เรื่องสงครามการค้าที่ยืดเยื้อกันมานานนม ผลปรากฏว่าบรรยากาศมันดันออกมาดูดี๊ดูดี ทั้งสองฝ่ายบอกว่าคืบหน้าไปเยอะมาก

โดยรองนายกฯ จีน He Lifeng ถึงกับบอกว่านี่เป็น “ก้าวแรกที่สำคัญ” ในการฟื้นความสัมพันธ์ทางการค้าเลยทีเดียว ส่วนรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ Scott Bessent ก็คอนเฟิร์มอีกเสียงว่า “คืบหน้าไปมากจริงๆ” ซึ่งข่าวดีแบบนี้แหละที่ทำให้นักลงทุนรู้สึกว่า เอ๊ะ! หรือโลกจะไม่วุ่นวายแล้ว? ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำเลยโดนฉุดลงมาซะงั้น

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนก็ยังจ้องตาไม่กระพริบ รอฟังรายละเอียดเต็มๆ จากฝั่งสหรัฐฯ ที่จะแถลงในวันจันทร์นี้แหละ ถ้ามาตรการที่ออกมามันจึ้งจริงๆ อาจจะทำให้นักลงทุนเทขายทองคำออกมาอีกรอบก็ได้ แต่ในทางกลับกัน ถ้ามันยังคลุมเครือๆ ความไม่แน่นอนนี่แหละที่จะเป็นเกราะกำบังให้ทองไม่ร่วงหนักไปกว่านี้

ด้าน David Meger ผู้อำนวยการฝ่ายซื้อขายโลหะของ High Ridge Futures ก็พูดเปรยๆ ว่าเอาจริงๆ ความไม่แน่นอนต่อเนื่องเรื่องภาษีนี่แหละที่เป็นปัจจัยหนุนสำคัญสุดๆ ของทองคำเลย 

นอกจากนี้ ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคุกรุ่นอยู่ อย่างเรื่องอินเดีย-ปากีสถาน แม้จะมีข่าวดีว่าหยุดยิงกันแล้ว ต่างฝ่ายต่างก็ประกาศชัยชนะ (เอ้า! ยังไง?) แต่ความตึงเครียดที่เกือบจะบานปลายไปเป็นสงครามนิวเคลียร์ มันก็ยังเป็นแบ็คอัพชั้นดีให้ทองคำอยู่เหมือนกัน

กูรูมองไง? ทองจะไปต่อไหวไหม หรือถึงเวลาพักฐาน?

แม้ว่าตลาดทองคำจะยังยืนระยะได้ แต่บรรยากาศในเศรษฐกิจโลกที่เริ่มเปลี่ยนไป มันก็ส่งผลกระทบไม่น้อย นักวิเคราะห์บางคนถึงกับเปรยว่าทองดู “เหนื่อยๆ” นะช่วงนี้

James Stanley นักกลยุทธ์ตลาดอาวุโสจาก Forex.com บอกว่า เขาก็คาดว่าราคาทองคำจะยังทรงตัวอยู่ในระดับสูงได้นะ แต่จะให้พุ่งปรี๊ดปร๊าดไปถึง $3,500 ดอลลาร์ในเร็วๆ นี้ คงยังไม่ใช่ จะบอกว่ากระทิง (ฝั่งซื้อ) หมดแรงแล้วก็พูดไม่ได้เต็มปาก แต่ในขณะเดียวกัน ก็ไม่คิดว่าพวกเขาจะดันราคาไปถึง $3,500 ได้ในเร็ววันนี้หรอก

ส่วนหนึ่งที่ราคาทองคำดูจะนิ่งๆ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาก็เพราะธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ย้ำจุดยืนเดิมว่ายังไม่รีบร้อนจะลดดอกเบี้ย เพราะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังดูดีมีชาติตระกูล แถมความเสี่ยงเรื่องเงินเฟ้อก็ยังสูงอยู่ ถึงแม้ตลาดจะคาดการณ์กันไปแล้วว่าเฟดน่าจะลดดอกเบี้ยช่วงซัมเมอร์นี้ (ประมาณเดือนกรกฎาคม)

นักวิเคราะห์บางคนก็มองว่าโมเมนตัมขาขึ้นของทองคำมันเปลี่ยนโหมดไปเป็น “รอดูท่าที” ซะแล้ว ด้าน Naeem Aslam ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ Zaye Capital Markets บอกว่า นักลงทุนสถาบันมองว่าตลาดมันรับรู้ข่าวเรื่องเฟดจะลดดอกเบี้ยเดือนกรกฎาคมไปเยอะแล้ว ข่าวดีส่วนใหญ่มันถูกย่อยไปในราคาแล้ว Aslam เลยมองว่าในระยะสั้นๆ เนี่ย ทางที่ทองจะไปได้ง่ายสุดอาจจะเป็นขาลง แต่เขาก็เสริมว่าถ้าย่อลงมาก็จะมีคนช้อนซื้ออยู่ดี

“เราเชื่อว่าแนวโน้มระยะยาวยังเป็นขาขึ้น และราคาทองคำจะทะลุ $3,500 ดอลลาร์ได้ เพราะความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ยังคงอยู่เต็มเหนี่ยวเลย”

สงครามการค้า vs. ความไม่แน่นอน: ทองคำยังเป็นหลุมหลบภัยเบอร์หนึ่ง?

นักวิเคราะห์ชี้ว่า ความเสี่ยงระยะสั้นที่ใหญ่ที่สุดของราคาทองคำตอนนี้คือความหวังที่เพิ่มมากขึ้นว่าประธานาธิบดี Donald Trump และคณะทำงานของเขาจะยุติสงครามการค้ากับจีนได้ในที่สุด ข่าวนี้มาก่อนหน้าที่คณะบริหารของ Trump เพิ่งจะประกาศข้อตกลงกับรัฐบาลอังกฤษไปหมาดๆ ซึ่งตามแผนนั้น สหรัฐฯ จะยังคงภาษีนำเข้า 10% กับสินค้าอังกฤษส่วนใหญ่ แต่ก็ยอมถอยเรื่องภาษีนำเข้าบางตัวที่เพิ่งจะขึ้นไป อย่างเช่น รถยนต์และเหล็กกล้า แม้จะประกาศข้อตกลงไปแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปสุดท้าย 

Michael Brown นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสจาก Pepperstone บอกว่าตอนนี้มีความคาดหวังสูงมากว่าการเจรจาสหรัฐฯ-จีน จะนำไปสู่การลดระดับความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นจริง มันจะไม่ใช่ผลดีกับทองคำเลย และอาจจะได้เห็นราคาทองคำลงไปทดสอบแนวรับที่ $3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ก็เป็นได้!

การลดความตึงเครียดหรือลดภาษีบางตัวลง จะเป็นตัวเร่งให้ฝั่งขายกลับมาคุมเกมได้ อย่างน้อยก็ในระยะสั้น การที่ราคามันไปตันๆ แถวๆ กลาง $3,400 สองรอบแล้วเนี่ย ก็เป็นสัญญาณว่าขาขึ้นรอบนี้อาจจะเริ่มล้าๆ ในระยะสั้นเหมือนกัน

แต่เดี๋ยวก่อน! Brown ก็ยังมองบวกในระยะยาวนะ เขาบอกว่าถ้าทองย่อลงมาเนี่ย มันคือโอกาสในการซื้อระยะยาวเลยต่างหาก

โดยเหตุผลที่ทองยังน่าสนใจในฐานะสินทรัพย์ขาขึ้นก็คือ ทองคำยังคงเป็นหลุมหลบภัยที่แท้ทรูท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการเมืองและภูมิรัฐศาสตร์ แถมยังได้ประโยชน์จากเงินทุนไหลเข้า เพราะหลายประเทศ โดยเฉพาะในตลาดเกิดใหม่ กำลังกระจายความเสี่ยงทุนสำรองของตัวเองโดยใช้ทองคำแท่งนี่แหละ ไม่ว่าเรื่องการค้าจะจบยังไง ด้วยความไม่แน่นอนและความผันผวนของนโยบายสหรัฐฯ มันยากที่จะจินตนาการว่ากระแสเงินทุนไหลเข้าทองคำเพื่อกระจายความเสี่ยงนี้จะหายไปในเร็ววัน

กลับมาเกาะติดสถานการณ์ราคาทองคำกันต่อ วันนี้สถานการณ์ยังคงร้อนแรงต่อเนื่อง กราฟล่าสุด ณ เวลาที่เขียนอยู่ที่ $3,269 ต้องบอกว่ายังคงอยู่ในโซนอันตรายที่เราต้องจับตาดูกันอย่างใกล้ชิดเลยทีเดียวเชียวล่ะ

จากที่เราคุยกันว่าแนวรับ $3,278 คือจุดวัดใจสำคัญสุดๆ ปรากฏว่าทองก็ยังคงยืนระยะแถวๆ นี้ไม่ได้สนิทใจเท่าไหร่ ทำให้ตอนนี้เรายังคงต้องให้ความสำคัญกับแนวรับนี้ต่อไป ถ้าหลุด $3,278 อีกครั้งแบบจังๆ คราวนี้มีโอกาสสูงมากที่เราจะได้เห็นการไหลลงไปหาแนวรับถัดไป นั่นก็คือเส้น EMA200 (สีส้มในกราฟ) ที่บริเวณ $3,220 ซึ่งเป็นแนวที่แข็งแกร่งและมีความสำคัญมากๆ เพราะถ้าเส้นนี้ยังเอาไม่อยู่ล่ะก็ เป้าหมายต่อไปที่ราคาทองอาจจะลงไปทักทายก็คือแถวๆ $3,200 ซึ่งเป็นตัวเลขที่เห็นแล้วต้องร้อง จุดนี้ถือเป็นแนวรับสุดท้ายที่ค่อนข้างลึก และถ้าไปถึงตรงนั้นจริง คงต้องมานั่งวางแผนกันใหม่หมดเลยล่ะ

ด้าน RSI ยังคงวนเวียนอยู่ในโซนล่าง แต่ยังไม่ถึงกับ Oversold แบบสุดๆ ซึ่งก็แปลว่าแรงขายยังมีอยู่ แต่ก็เริ่มมีสัญญาณของการชะลอตัวบ้างเล็กน้อย ส่วน Stoch RSI หลังจากลงไปแช่อยู่ในโซน Oversold มาสักพัก ก็เริ่มมีอาการอยากจะเงยหัวขึ้นมาบ้างแล้ว

แต่ อย่าเพิ่งวางใจไป เพราะการดีดตัวขึ้นของ Stoch RSI ในสภาวะที่แรงขายยังคุมตลาดแบบนี้ อาจจะเป็นแค่การรีบาวด์สั้นๆ เพื่อลงต่อ หรืออาจจะแค่แกว่งตัวออกข้างก็ได้ ดังนั้น ใครที่มือไวใจเร็ว คิดจะช้อนซื้อตอนนี้น่ะ เบรกไว้ก่อน

สำหรับ 24 ชั่วโมงข้างหน้านี้ บอกได้คำเดียวว่า ยังไม่จบง่ายๆ ความผันผวนยังคงอยู่ และแนวโน้มหลักก็ยังคงให้น้ำหนักไปทางขาลงอยู่ แนวต้านแรกที่ต้องจับตาดูหากมีการดีดตัวกลับขึ้นไปได้ ก็คือแนว $3,331 ที่เคยเป็นแนวรับสำคัญ ตอนนี้กลายมาเป็นแนวต้านที่แข็งแรงพอตัวเลย ถ้าผ่านด่านนี้ไปได้แบบมีวอลุ่มสนับสนุน เป้าต่อไปก็คือโซน $3,360 - $3,366 ที่เคยเป็นสมรภูมิเดือดของเรานั่นเอง แต่ดูจากทรงกราฟและแรงขายที่ยังกดดันอยู่ การจะกลับไปยืนเหนือโซนนั้นได้ในเร็ววัน คงต้องใช้พลังงานเยอะพอสมควร และอาจจะต้องมีข่าวดีมากๆ มาช่วยกระตุ้นตลาดด้วย

แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $3,278

• $3,220

• $3,200

แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $3,331

• $3,409

• $3,474