วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 17 มิ.ย. 2568

กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้

เทรดทองเดี๋ยวนี้ >     

*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣ 

*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰 

*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁

วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 17 มิถุนายน 2568 ตลาดทองคำกำลังอยู่ในโหมดผันผวนขั้นสุด สวิงแรงแบบไม่เกรงใจใคร โดยเมื่อวาน เปิดฉากมาด้วยการพุ่งทะยานอย่างบ้าคลั่งไปแตะจุดสูงสุดในรอบ 8 สัปดาห์ที่ $3,452 สร้างความหวังให้สาย Long สุดๆ

แต่แล้ว.. จู่ๆ ราคาก็โดนทุบกลับแบบไม่ทันให้ตั้งตัว ดิ่งเหวลงมาซื้อขายกันแถวๆ $3,383 ร่วงไปกว่า 1.45% ในช่วงตลาดอเมริกาเหนือ ทั้งๆ ที่ไฟสงครามในตะวันออกกลางระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านยังคุกรุ่นไม่หายไปไหน งานนี้มันมีอะไรมากกว่าแค่ข่าวสงครามแน่นอน

ราคาทองสวิงโหด ทุบสถิติแล้วดิ่งเหว

ความผันผวนครั้งนี้ เริ่มต้นจากการที่อิสราเอลตัดสินใจเปิดปฏิบัติการทางทหารโจมตีโรงงานนิวเคลียร์และฐานทัพของอิหร่าน พร้อมกับให้เหตุผลสุดเดือดว่า “อิหร่านอยู่ในจุดที่สามารถผลิตระเบิดนิวเคลียร์ได้ในอีกไม่กี่วัน” ซึ่งเป็นข้อมูลที่ขัดแย้งกับหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ อย่างสิ้นเชิง

การกระทำดังกล่าวทำให้โต๊ะเจรจาเรื่องนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่านต้องพังครืนลงมาทันที พอข่าวนี้แพร่ออกไป สัญชาตญาณของนักลงทุนก็สั่งให้วิ่งเข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัยทันที ดันให้ราคาทองคำพุ่งทะยานขึ้นอย่างรวดเร็ว

แต่เรื่องมันพลิกล็อกชนิดที่เซียนต้องกุมขมับ เมื่อมีรายงานข่าวจาก Wall Street Journal ออกมาว่า อิหร่านส่งสัญญาณพร้อมที่จะลดความตึงเครียดและกลับสู่โต๊ะเจรจาอีกครั้ง พอตลาดได้ยินแบบนี้เท่านั้นแหละ บรรยากาศก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ความกลัวหายวับไปกับตา นักลงทุนกลับมาใจชื้นและพร้อมที่จะเสี่ยงอีกครั้ง (Risk-On) ส่งผลให้เกิดแรงเทขายทองคำอย่างมหาศาลเพื่อทำกำไร จนราคาร่วงกราวรูดกลับลงมาที่เดิม

แม้จะมีเจ้าหน้าที่อิหร่านบางส่วนออกมาปฏิเสธข่าวลือดังกล่าว แต่ก็ต้านทานแรงขายที่โถมเข้ามาไม่ไหว นี่คือการสับขาหลอกครั้งใหญ่ที่ทำให้เห็นว่า ปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ในตอนนี้เป็นแค่ตัวเร่งปฏิกิริยาชั่วคราวเท่านั้น แต่ไม่ใช่แกนหลักของเรื่องราวทั้งหมด

ตัวเลขเศรษฐกิจมะกันสุดปั่นป่วน สัญญาณอันตรายที่ซ่อนอยู่

ทีนี้ เรามามองข้ามเรื่องรบกันไปก่อน แล้วมาเจาะดู “ของจริง” ที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังกัน นั่นก็คือสภาพเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาที่กำลังออกอาการแปลกๆ ล่าสุดตัวเลขดัชนีภาคการผลิตของรัฐนิวยอร์ก (Empire State Manufacturing Survey) ที่เปิดเผยออกมานั้น บอกได้คำเดียวว่า “น่าเป็นห่วง” เพราะดิ่งลงไปอยู่ที่ -16 ในเดือนมิถุนายน จากเดือนก่อนหน้าที่ -9.2 ซึ่งย่ำแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะดีขึ้นมาอยู่ที่ -5.5 เยอะมาก

พอไปดูไส้ในของรายงานก็ยิ่งปวดหัว ตัวเลขมันตีกันยุ่งเหยิงไปหมด ยอดสั่งซื้อใหม่ (New Orders) ก็ร่วง การจัดส่งสินค้า (Shipments) ก็แผ่ว แถมซัพพลายเชน (Supply Availability) ก็ดูเหมือนจะแย่ลงไปอีก

แต่ที่พีคคือท่ามกลางข่าวร้ายเหล่านี้ จู่ๆ ตัวเลขการจ้างงาน (Number of Employees) กลับเด้งขึ้นมาเป็นบวกครั้งแรกในรอบหลายเดือน ยังไม่พอ “ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจ” ในอีก 6 เดือนข้างหน้ายังดีดตัวกลับมาเป็นบวกอย่างแข็งแกร่งอีกด้วย! มันคืออะไรกันครับเนี่ย? สภาพเศรษฐกิจที่ทั้งดีและร้ายปะปนกันไปหมดในเวลาเดียวกันแบบนี้ มันคือสัญญาณของความไม่แน่นอนขั้นสุด และเป็นภาพสะท้อนว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังเดินอยู่บนเส้นด้ายที่เปราะบางอย่างยิ่ง

วิกฤตหนี้สหรัฐฯ ระเบิดเวลาที่ Adrian Day ชี้เป้า

กูรูตลาดการเงินอย่าง Adrian Day แห่ง Adrian Day Asset Management ได้ออกมาฟันธงว่า นักลงทุนทองคำทั้งหลาย เลิกโฟกัสเรื่องสงครามได้แล้ว! เพราะสิ่งที่กำลังจะชี้เป็นชี้ตายทิศทางราคาทองคำของจริง คือ “วิกฤตเพดานหนี้ของสหรัฐอเมริกา” ซึ่งเปรียบเสมือนระเบิดเวลาลูกยักษ์ที่รอวันปะทุ

เขาชี้ว่ากระทรวงการคลังสหรัฐฯ กำลังอยู่ในภาวะ “ถังแตก” อย่างแท้จริง เพราะเพดานหนี้ยังไม่ถูกขยาย ทำให้รัฐบาลไม่สามารถออกพันธบัตรเพื่อกู้ยืมเงินใหม่มาใช้จ่ายได้เลย ทำได้แค่หมุนเงินเก่าไปวันๆ

ความเลวร้ายมันอยู่ตรงนี้... ต่อให้สภาคองเกรสสามารถตกลงกันและขยายเพดานหนี้ได้ในที่สุด คำถามที่ใหญ่กว่าคือ ใครจะมาซื้อพันธบัตรล็อตใหม่มหาศาลที่จะถูกอัดฉีดออกมา? ในเมื่อทุกวันนี้ผู้ซื้อรายใหญ่อย่างจีนและญี่ปุ่นต่างก็ลดการถือครองพันธบัตรสหรัฐฯ ระยะยาวลงอย่างต่อเนื่อง การที่ต้องเร่งระบายพันธบัตรจำนวนมหาศาลในระยะเวลาสั้นๆ (อาจจะแค่ 4-6 เดือนสำหรับโควต้าทั้งปี) จะทำให้เกิดภาวะอุปทานล้นตลาด และวิธีเดียวที่จะดึงดูดผู้ซื้อได้คือการเสนอ “อัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้น” ซึ่งนั่นหมายถึงภาระดอกเบี้ยที่รัฐบาลต้องจ่ายก็จะพุ่งสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว สร้างวงจรอุบาทว์ทางการคลังที่ยากจะแก้ไข

Adrian Day ยังชี้ให้เห็นถึงความผิดพลาดในอดีตสมัยโอบามา ที่ไม่ได้ฉวยโอกาสตอนที่ดอกเบี้ยต่ำติดดิน ออกพันธบัตรอายุ 100 ปีเพื่อล็อกต้นทุนทางการเงินระยะยาวไว้ เขาบอกว่ามันเป็นเรื่องที่ “ไร้ความรับผิดชอบอย่างยิ่ง” ในเมื่อประเทศอย่างอาร์เจนตินาที่เคยผิดนัดชำระหนี้มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนยังสามารถออกพันธบัตร 100 ปีได้ แล้วทำไมมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ ถึงไม่ทำ? และความผิดพลาดในวันนั้น กำลังจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงในวันนี้

QE is COMING! ทองเตรียมทะยาน?

เมื่อสถานการณ์บีบคั้นถึงที่สุด และไม่มีใครอยากซื้อพันธบัตรสหรัฐฯ Adrian Day เชื่อว่าจะมีทางออกเพียงทางเดียวเท่านั้นคือ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะต้องเป็น “ผู้ซื้อรายสุดท้าย” โดยการเปิดโปรแกรม QE (Quantitative Easing) หรือการพิมพ์เงินใหม่ออกมาเพื่อซื้อพันธบัตรของรัฐบาลตัวเอง

การกระทำนี้จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อราคาทองคำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะมันคือการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบครั้งมโหฬาร ซึ่งจะทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงอย่างรุนแรง และกระตุ้นให้ความกังวลเรื่องเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น ในสภาวะเช่นนี้ “ทองคำ” จะกลายเป็นสุดยอดหลุมหลบภัยที่นักลงทุนทั่วโลกต่างวิ่งเข้าหา Adrian Day สรุปไว้อย่างน่าสนใจว่า ไม่ว่าเกมนี้จะจบลงแบบไหน ทองคำก็มีแต่ได้กับได้

ดังนั้น สำหรับนักลงทุนในตลาดทองคำแล้ว สถานการณ์ในตอนนี้คือ Win-Win ไม่ว่าหน้าไพ่จะออกมาแบบไหน ปลายทางก็ดูเหมือนจะเป็นสวรรค์ของทองคำอยู่ดี สิ่งที่ต้องทำคือจับตาสถานการณ์หนี้ของสหรัฐฯ ให้ดี และเตรียมตัวรับแรงกระแทกจากการกลับมาของ QE ที่อาจจะส่งให้ราคาทองคำไปไกลกว่าที่เราเคยจินตนาการไว้

จากที่เราเฝ้าลุ้นกันว่ากระทิงจะฝืนไปต่อถึงยอด $3,500 ได้หรือไม่ วันนี้ภาพจากกราฟ 4 ชั่วโมงได้เฉลยทุกอย่างว่ากระทิงไปไม่ไหว! สัญญาณ Overbought จาก RSI ที่เราเตือนกันไว้ได้ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ส่งผลให้เกิดแรงเทขายทำกำไรอย่างหนักหน่วง กดดันให้ราคาทองคำร่วงหลุดแนวรับสำคัญ $3,400 ลงมา

แต่เดี๋ยวก่อน! ในความมืดก็ยังมีแสงให้เห็นอยู่บ้าง สัญญาณจากอินดิเคเตอร์อีกตัวอย่าง Stoch RSI ที่ตอนนี้ลงสู่เขต “ขายมากเกินไป” หรือ Oversold แล้ว สัญญาณนี้กำลังบอกเราว่าแรงเทขายที่เกิดขึ้นนั้นอาจจะหนักหน่วงและรวดเร็วจนเกินไป ซึ่งอาจนำไปสู่การ “เด้งรีบาวด์” ในระยะสั้น หรืออย่างน้อยก็อาจจะทำให้ราคาพยายามยืนหยัดต่อสู้ที่แนวรับปัจจุบันบริเวณ $3,400 ซึ่งเป็นแนวเส้น EMA ได้

ดังนั้น ในอีก 24 ชั่วโมงข้างหน้า สมรภูมิจะเดือดสุดๆ บริเวณแนวนี้แหละ หากฝั่งหมีมีพลังมากพอและทุบแนวรับ $3,400 - $3,372 แตกกระจุย เราอาจได้เห็นราคาทองคำไหลลงไปหาเป้าหมายถัดไปที่บริเวณ $3,344 

แต่หากสัญญาณ Oversold จาก Stoch RSI ทำงาน และมีแรงซื้อกลับเข้ามาสู้ที่แนวรับนี้ เราอาจได้เห็นการเด้งกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้าน $3,410 อีกครั้ง สรุปสั้นๆ ตอนนี้คือ “กระทิงเสียหลัก หมีเริ่มออกโรง” จุดชี้ชะตาคือแนวรับ $3,372 จะเป็นเวทีให้กระทิงได้ตั้งหลักและเด้งสู้ หรือจะกลายเป็นประตูเปิดทางให้ฝูงหมีบุกทะลวงลงไปต่อ

แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $3,372

• $3,344

• $3,293

  
  

แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $3,460

• $3,480

• $3,500