วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 18 ก.ย. 2568

กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้

เทรดทองเดี๋ยวนี้ >     

*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣ 

*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰 

*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁

การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในรอบล่าสุด ได้กลายเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญที่ส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อตลาดการเงินโลก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อทิศทางของราคาทองคำที่ผันผวนพอสมควร โดยราคาวิ่งขึ้นทำจุดสูงสุดตลอดกาลที่ระดับ 3,707 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่ช่วงเช้าวันนี้ ราคาทองคำ XAUUSD จะกลับมาเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 3,660 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ซึ่งการตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% สู่ระดับ 4.00% - 4.25% แม้จะเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ แต่สิ่งที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังมติและถ้อยแถลงของประธานเฟด กลับเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนถึงการเปลี่ยนทิศทางนโยบาย ซึ่งสร้างภาพรวมที่เอื้อประโยชน์ต่อทองคำอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ถอดรหัสการลดดอกเบี้ย ไม่ใช่แค่ลด แต่คือการเปลี่ยนทิศ

หัวใจของการวิเคราะห์ไม่ได้อยู่ที่ตัวเลข 0.25% ที่เฟดปรับลดลง แต่อยู่ที่เหตุผลเบื้องหลังการตัดสินใจ ซึ่งสะท้อนการเปลี่ยนจุดยืนของเฟดอย่างมีนัยสำคัญ

จากเดิมที่มุ่งมั่นต่อสู้กับเงินเฟ้อเป็นอันดับแรก บัดนี้ เฟดได้หันมาให้ความสำคัญกับความเสี่ยงของตลาดแรงงานที่กำลังอ่อนแอลงอย่างชัดเจน

Jerome Powell ประธานเฟด ได้กล่าวในระหว่างการแถลงข่าว ว่าความเสี่ยงด้านลบต่อการจ้างงานที่เคยเป็นเพียงข้อกังวล บัดนี้ได้กลายเป็นความจริงที่ปรากฏขึ้นแล้ว

ท่าทีดังกล่าวเป็นการยอมรับว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังชะลอตัวและจำเป็นต้องได้รับการกระตุ้นทางการเงิน

การเปลี่ยนทิศทางนี้ ส่งผลโดยตรงต่อกลไกตลาดที่ขับเคลื่อนราคาทองคำในทันที

อย่างแรก คืออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ซึ่งเป็นสินทรัพย์คู่แข่งโดยตรงของทองคำ ได้ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 3.997% ทำให้ต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำลดต่ำลงอย่างมาก นักลงทุนจึงมีแรงจูงใจที่จะย้ายเงินทุนออกจากพันธบัตรมาสู่ทองคำมากขึ้น

อย่างที่สอง คือนโยบายดอกเบี้ยขาลง ได้กดดันให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลง และเมื่อดอลลาร์อ่อนค่าลง จะทำให้ราคาทองคำในสกุลเงินดอลลาร์ถูกลงสำหรับผู้ซื้อที่ใช้สกุลเงินอื่นทั่วโลก ซึ่งเป็นการกระตุ้นอุปสงค์ในภาพรวม

ปรากฏการณ์ทั้งสองนี้ทำงานประสานกัน และเป็นแรงส่งสำคัญที่ทำให้ราคาทองคำยังคงยืนหยัดในระดับสูงใกล้ $3,700 แม้จะมีการเทขายทำกำไรระยะสั้นออกมาบ้างก็ตาม

Dot Plot เผยอนาคต สัญญาณดอกเบี้ยต่ำ ท่ามกลางเงินเฟ้อสูง

หากการลดดอกเบี้ยครั้งนี้คือปัจจุบัน “Dot Plot” หรือแผนภาพคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยของกรรมการเฟด ก็คือการฉายภาพอนาคตที่ชัดเจนที่สุด และภาพที่ออกมานั้นเป็นบวกอย่างยิ่งต่อทองคำ

Dot Plot ส่งสัญญาณ ว่าเฟดอาจลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมอีกภายในสิ้นปีนี้ และมีแนวโน้มจะลดต่อเนื่องไปจนถึงปี 2026

สิ่งที่น่าสนใจที่สุด คือการที่เฟดยอมส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงิน ในขณะที่ตัวเลขเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง โดยประมาณการล่าสุด ชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core Inflation) จะอยู่ที่ 3.1% ในปีนี้ และ 2.6% ในปีหน้า ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ 2% อย่างมีนัยสำคัญ

การกระทำเช่นนี้ สามารถตีความได้ว่าเฟด กำลังส่งสัญญาณยอมรับการอยู่ร่วมกับเงินเฟ้อที่สูงกว่าเป้าหมาย เพื่อแลกกับการป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยรุนแรง

สภาวะดังกล่าว เป็นสภาวะในอุดมคติสำหรับทองคำ เพราะมันหมายความว่าอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง (Real Interest Rate) ซึ่งคำนวณจากอัตราดอกเบี้ยนโยบายหักลบด้วยอัตราเงินเฟ้อ จะยังคงอยู่ในระดับต่ำหรืออาจติดลบไปอีกนาน

ในสภาวะเช่นนี้ การถือครองเงินสดหรือพันธบัตรจะให้ผลตอบแทนที่แท้จริงที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้นักลงทุนทั่วโลกต้องมองหาสินทรัพย์ที่สามารถรักษามูลค่าและป้องกันความมั่งคั่งจากอำนาจซื้อที่ลดลง ซึ่งทองคำคือคำตอบที่เป็นที่ยอมรับมาอย่างยาวนาน

พายุการเมือง ความเสี่ยงที่ประเมินค่าไม่ได้

นอกเหนือจากปัจจัยด้านเศรษฐกิจและนโยบายการเงินแล้ว บรรยากาศการแถลงข่าวของ Jerome Powell ยังถูกปกคลุมด้วยเงามืดของความไม่แน่นอนทางการเมืองอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นบ่อยครั้งนัก

ผู้สื่อข่าวได้ซักฟอกประเด็นความเป็นอิสระของเฟดอย่างหนักหน่วง โดยพุ่งเป้าไปที่การแต่งตั้งบุคคลที่มีความใกล้ชิดกับฝ่ายบริหารอย่าง Stephen Miran เข้ามาเป็นกรรมการ

และแรงกดดันทางการเมืองต่อเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่นๆ เช่น Lisa Cook และข้อเสนอจากรัฐมนตรีคลัง Scott Bessent ที่ต้องการให้มีการทบทวนภารกิจของเฟด

แม้ Powell จะพยายามตอบคำถามอย่างสุขุม และยืนกรานในหลักการความเป็นอิสระ แต่ภาพลักษณ์ที่ปรากฏออกมา คือสถาบันกำกับนโยบายการเงินที่สำคัญที่สุดของโลกกำลังถูกแทรกแซงทางการเมืองอย่างหนัก

ความเสี่ยงเชิงสถาบันเช่นนี้ เป็นสิ่งที่ประเมินค่าเป็นตัวเลขได้ยาก แต่มันส่งผลกระทบโดยตรงต่อความเชื่อมั่นในค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ในฐานะสกุลเงินสำรองของโลก

เมื่อความเชื่อมั่นในผู้ดูแลค่าเงินถูกสั่นคลอน นักลงทุนและธนาคารกลางทั่วโลกจะเริ่มกระจายความเสี่ยงออกจากสินทรัพย์สกุลดอลลาร์ และหันไปหาสินทรัพย์ที่เป็นกลางและได้รับการยอมรับในระดับสากล ซึ่งก็คือทองคำ สถานการณ์นี้จึงเปรียบเสมือนแรงผลักดัน ที่คอยหนุนราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยขั้นสูงสุด

จากภาพการเคลื่อนไหวของราคาทองคำล่าสุด โดยแนวรับสำคัญที่บริเวณ 3,655 ดอลลาร์ ซึ่งเราได้เฝ้าจับตาในฐานะแนวรับของขาขึ้นในระยะสั้น กำลังถูกทดสอบอย่างหนักหน่วง

แท่งเทียนราย 4 ชั่วโมงล่าสุด บ่งชี้ถึงแรงขายที่ถาโถมเข้ามา การหลุดแนวรับสำคัญนี้ถือเป็นสัญญาณลบที่ชัดเจน และเป็นการเปลี่ยนภาพรวมทางเทคนิคจากที่เคยเป็นภาวะพักตัวในแนวโน้มขาขึ้น เข้าสู่โหมดของการปรับฐานหรือการย่อตัวได้

เมื่อเจาะลึกลงไปในส่วนของอินดิเคเตอร์ทางเทคนิค ยิ่งเป็นการตอกย้ำภาพของการอ่อนแรงที่ชัดเจนขึ้น ดัชนี RSI ได้ปรับตัวลดลงมาเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งเป็นเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างฝั่งกระทิงและฝั่งหมี การเคลื่อนไหวเช่นนี้สะท้อนว่าโมเมนตัมของตลาดได้เปลี่ยนข้างมาอยู่ฝั่งขายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ขณะที่ Stochastic RSI ซึ่งเป็นอินดิเคเตอร์ที่ไวต่อการเคลื่อนไหวของราคา ได้ดิ่งหัวลงอย่างรวดเร็วจนเข้าใกล้เขตขายมากเกินไป (Oversold) เป็นการยืนยันถึงแรงเทขายที่รุนแรงในรอบล่าสุดนี้

แม้ว่าการเข้าสู่เขต Oversold อาจนำไปสู่การดีดตัวทางเทคนิค (Technical Rebound) ได้ แต่ตราบใดที่ยังไม่มีสัญญาณการกลับตัวที่ชัดเจน แรงกดดันฝั่งขายก็จะยังคงเป็นฝ่ายคุมเกมต่อไป

สำหรับแนวโน้มและกลยุทธ์ในอีก 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาพรวมได้เปลี่ยนเป็นมุมมองเชิงลบในระยะสั้น แนวรับที่เคยเป็นฐานสำคัญบริเวณ 3,655 ดอลลาร์ ได้สลับบทบาทกลายเป็นแนวต้านสำคัญด่านแรกที่จะคอยสกัดกั้นการฟื้นตัวของราคา

หากราคามีการดีดตัวกลับขึ้นไปทดสอบบริเวณนี้แล้วไม่สามารถผ่านไปได้ จะถือเป็นจังหวะในการเปิดสถานะขายหรือเป็นสัญญาณยืนยันการลงต่อ โดยมีแนวต้านถัดไปที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นคือบริเวณ 3,680 ดอลลาร์

ในทางกลับกัน เมื่อแนวรับสำคัญพังลง เป้าหมายของการปรับฐานในระลอกนี้จะเคลื่อนตัวลงไปหาแนวรับถัดไปตามลำดับ โดยมีเป้าหมายแรกอยู่ที่บริเวณ 3,625 ดอลลาร์

และหากแรงขายยังคงรุนแรงต่อเนื่อง ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะได้เห็นราคาลงไปทดสอบแนวรับจิตวิทยาที่สำคัญที่บริเวณ 3,600 ดอลลาร์ ในลำดับถัดไป

ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้จึงควรปรับเปลี่ยนจากการรอซื้อเมื่อย่อตัว มาเป็นการรอขายเมื่อราคาดีดตัว (Sell on Rally) หรือชะลอการเข้าซื้อไปก่อนจนกว่าราคาจะแสดงสัญญาณการหยุดลงและสร้างฐานใหม่ที่บริเวณแนวรับสำคัญได้อย่างมีนัยสำคัญ

แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $3,655

• $3,625

• $3,600

แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $3,680

• $3,700

• $3,725