วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 23 พ.ค. 2568

กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้

เทรดทองเดี๋ยวนี้ >     

*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣ 

*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰 

*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁

วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 23 พฤษภาคม 2568 เมื่อวานหลังเปิดตลาดมาก็เอาเรื่องเลยจากที่ลุ้นๆ ไปแนวต้านทำจุดสูงสุดในรอบสองสัปดาห์แท้ๆ วันนี้กลับหัวทิ่มลงมาอยู่ที่ประมาณ 3,300 ดอลลาร์

สาเหตุหลักๆ ก็มาจากเจ้าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่วันนี้มันแข็งค่าขึ้นมาซะงั้น ดัชนี DXY ที่วัดความแข็งแกร่งของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ ดีดตัวขึ้นมา 0.18% แตะ 99.86 จุด กดดันให้ราคาทองคำซึ่งซื้อขายเป็นดอลลาร์ต้องม้วนเสื่อกลับบ้านแทบไม่ทัน ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ก็แอบย่อตัวลงจากจุดสูงสุดของวันไปบ้าง

แต่เรื่องยังไม่จบแค่นั้น! สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ดันมาอนุมัติงบประมาณของ Donald Trump ซึ่งข่าวว่าถ้าผ่านฉลุยถึงวุฒิสภาเมื่อไหร่ จะทำให้เพดานหนี้พุ่งไปอีก $4 ล้านล้านดอลลาร์!

งานนี้ Moody’s ถึงกับออกมาลดอันดับความน่าเชื่อถือหนี้รัฐบาลสหรัฐฯ กันเลยทีเดียว ทำให้บรรยากาศในตลาดโดยรวมยังคงอึมครึม แม้จะแอบมีแรงซื้อเข้ามาบ้าง แต่ก็ยังเปราะบางเหมือนใจคนอกหักนั่นแหละ

ตัวเลขเศรษฐกิจมะกันมาแปลก PMI แจ่ม-ว่างงานนิ่ง แต่บ้านดิ่งเหว!

มาดูฝั่งตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ กันบ้าง บอกเลยว่าออกมาแต่ละตัวนี่ทำเอาตลาดงงเป็นไก่ตาแตก เริ่มจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของ S&P Global ทั้งภาคการผลิตและภาคบริการเดือนพฤษภาคม ออกมาดีเกินคาด! ดีดตัวขึ้น บ่งบอกว่าเศรษฐกิจอเมริกายังไหวอยู่ ไม่ได้จะล้มตึงกันง่ายๆ

แต่ถึงจะดี ข้อมูลก็ชี้ว่าความเชื่อมั่นยังต่ำเตี้ยเรี่ยดินอยู่ดี เพราะกังวลเรื่องผลกระทบจากกำแพงภาษี ทั้งเรื่องอุปสงค์ ซัพพลายเชน และราคาสินค้า

Chris Williamson หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ธุรกิจของ S&P Global Market Intelligence บอกว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นบางส่วน อาจมาจากการเร่งสั่งซื้อสินค้าก่อนเส้นตาย 90 วันของมาตรการภาษีจะมาถึง ทำให้เกิดการกักตุนวัตถุดิบมากสุดในรอบ 18 ปี แถมปัญหาซัพพลายเชนก็กลับมาหนักกว่าช่วงไหนๆ ตั้งแต่โควิดระบาดปี 2022 ราคาขายสินค้าบริการเลยพุ่งปรี๊ด เพราะบริษัทผลักภาระภาษีให้ลูกค้าเต็มๆ

ด้านตลาดแรงงาน ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 17 พฤษภาคม ออกมาที่ 227,000 ราย ลดลงเล็กน้อย 2,000 รายจากสัปดาห์ก่อน และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 230,000 รายนิดนึง

ส่วนค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ซึ่งมองว่าสะท้อนภาพตลาดแรงงานได้ดีกว่า ก็ขยับขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 231,500 ราย ขณะที่จำนวนผู้ที่ยังคงรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องพุ่งขึ้นไปที่ 1.903 ล้านรายในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 10 พฤษภาคม

สรุปคือตลาดแรงงานยังทรงๆ ไม่ได้แย่ แต่ก็ไม่ได้เปรี้ยงปร้างจนน่าตื่นเต้น ราคาทองคำเลยยังดิ้นๆ หาทางไปต่อไม่ถูก

แต่ที่ทำเอาตลาดสะดุ้งอีกรอบคือยอดขายบ้านมือสองเดือนเมษายน ที่ประกาศโดย National Association of Realtors (NAR) ร่วงลง 0.5% ไปอยู่ที่ 4.00 ล้านยูนิตต่อปี แย่กว่าที่ตลาดคาดว่าจะลดลงแค่ 4.10 ล้านยูนิต

Lawrence Yun หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ NAR บอกว่ายอดขายบ้านยังต่ำกว่าระดับปกติถึง 75% ทั้งๆ ที่มีตำแหน่งงานเพิ่มขึ้นถึง 7 ล้านตำแหน่ง ความต้องการซื้อบ้านยังอั้นอยู่มหาศาล ถ้าดอกเบี้ยสินเชื่อลดลงเมื่อไหร่ ความต้องการนี้จะทะลักออกมาแน่นอน ตอนนี้สต็อกบ้านมีอยู่ 1.45 ล้านยูนิต เพิ่มขึ้น 20.8% จากปีก่อน ทำให้ผู้ซื้ออยู่ในสถานการณ์ที่ดีกว่าในการต่อรองราคา

ส่องกล้องมองลึก! ETF เอเชียตื่น-แบงก์ชาติซุ่มเก็บของ! อิหร่าน-อิสราเอลระอุ หนุนทองจริงดิ?!

แม้ตัวเลขเศรษฐกิจจะทำเอามึนตึ้บ แต่สถานการณ์โลกที่ยังร้อนระอุ โดยเฉพาะความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่คอยพยุงราคาทองคำไม่ให้ดิ่งลงเหวไปมากกว่านี้

ล่าสุดมีข่าวลือให้แซ่ดว่าอิสราเอลกำลังเตรียมตัวจะบึ้มโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน ถ้าการเจรจาระหว่างอิหร่านกับสหรัฐฯ ล้มเหลว! แค่คิดก็เสียวไส้แล้ว! ถ้าเกิดเรื่องจริงขึ้นมา รับรองว่าทองมีสิทธิ์พุ่งกระฉูด!

Suki Cooper นักวิเคราะห์โลหะมีค่าจาก Standard Chartered ออกมาให้ทัศนะน่าสนใจว่า การที่ราคาทองคำทะยานขึ้นมารอบนี้มีปัจจัยขับเคลื่อนหลายอย่างที่ซับซ้อนกว่าเดิม

หนึ่งในนั้นคือแรงซื้อจากกองทุน ETF ในเอเชียที่เพิ่งจะตื่นตัวและไหลเข้ามาอย่างคึกคักในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา ซึ่งก่อนหน้านี้แทบไม่มีบทบาทเลยในช่วงที่ทองแรลลี่มาตลอดปี 2024 

นอกจากนี้ แรงซื้อจากธนาคารกลางทั่วโลกที่เริ่มสะสมทองคำอย่างหนักตั้งแต่ปี 2022 ก็ยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนหลักที่ทำให้ราคาทองคำมีฐานที่แข็งแกร่ง ไม่ใช่แค่แบงก์ชาติเดียว แต่มากันเป็นขบวนด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน ทั้งการกระจายความเสี่ยง หรือเป็นเป้าหมายการลงทุนเชิงกลยุทธ์

Cooper ยังย้ำว่าการที่ทองคำสามารถยืนเหนือระดับ $2,000 ได้อย่างยั่งยืนต้องใช้เวลาถึง 5 ปี แต่การทะยานขึ้นมายืนเหนือ $3,000 กลับใช้เวลาแค่ไม่กี่สัปดาห์! นั่นเพราะมันมีปัจจัยหนุนเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นความกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอย ความเสี่ยงจากสงครามการค้าและกำแพงภาษี รวมถึงความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ มันไม่ใช่แค่ความสัมพันธ์แบบเดิมๆ กับอัตราผลตอบแทนที่แท้จริงอีกต่อไปแล้ว!

เซียนฟันธง! สิ้นปีทองอาจย่อ? จับตาเซอร์ไพรส์ดอกเบี้ย-สงครามการค้าภาคต่อ!

หลายคนอาจจะมองว่าราคาทองคำขึ้นมาสูงขนาดนี้ ตลาดมันจะแน่นเอี๊ยดไปด้วยคนซื้อแล้วหรือเปล่า?

Suki Cooper บอกว่า “ยังไม่ถึงจุดนั้น” เมื่อดูจากข้อมูลต่างๆ เช่น Tactical positioning ซึ่งยังอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับจุดสูงสุดในปี 2019 หรือปริมาณการถือครองของ ETF ที่ยังต่ำกว่าจุดพีคในปี 2020 อยู่ถึง 400 ตัน แถมรอบนี้ยังมีแรงซื้อใหม่ๆ จากฝั่งจีนเข้ามาเสริมทัพอีกต่างหาก แสดงว่ายังมีพื้นที่ให้เติบโตได้อีก

อย่างไรก็ตาม Cooper คาดการณ์ว่าในช่วงปลายปีนี้ ราคาทองคำอาจมีการปรับฐานหรือย่อตัวลงประมาณ 10% จากระดับปัจจุบัน

ปัจจัยที่อาจกดดันราคาทองคำคือ หากมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในสหรัฐฯ และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์เริ่มคลี่คลายลง อาจทำให้ทองคำเริ่มทรงตัวในระดับสูง แต่ก็ยังน่าจะยืนเหนือ $3,000 ดอลลาร์ได้ แต่! ถ้ามีการลดอัตราดอกเบี้ยแบบเซอร์ไพรส์ตลาด นั่นอาจเป็นปัจจัยที่ดันให้ราคาทองคำดีดตัวขึ้นไปอีกระลอกได้เช่นกัน!

สรุปคือราคาทองคำเวลานี้ยังเต็มไปด้วยความผันผวนสุดขั้ว มีทั้งปัจจัยบวกปัจจัยลบตีกันให้วุ่น นักลงทุนต้องจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิดชนิดห้ามกระพริบตา ไม่งั้นอาจตกรถไม่รู้ด้วย งานนี้ใครสายซิ่งก็ต้องบริหารความเสี่ยงกันให้ดี ส่วนใครสายถือยาวก็ต้องใจนิ่งๆ หน่อย

วันนี้สถานการณ์พลิกผันยิ่งกว่าซีรีส์เกาหลี จากที่เมื่อวานยืนหล่อๆ ท้าชนอยู่ที่ $3,336 วันนี้โดนพี่หมีตบสวนหน้าสั่น ไหลลงมาอยู่ที่ $3,300 เรียกว่ากำลังยืนวัดใจกันตรงแนวรับสำคัญที่ $3,293 ซึ่งเป็นทั้งฐานเก่าที่เคยเป็นแนวต้านสุดแกร่ง และยังเป็นแนว 38.2% ของ Fibonacci Retracement ที่เราขีดเส้นรอไว้เลย

ด้านเส้น EMA เส้นฟ้า (EMA12) ที่เคยวิ่งแรงตอนนี้เริ่มออกอาการโน้มตัวลงมาคลอเคลียกับเส้นแดง (EMA26) ส่วนราคาเองก็กำลังเกาะแกะอยู่แถวเส้นแดงนี่แหละ เหมือนกำลังวัดใจว่าจะเอาไงต่อดี

ส่วนคู่หูอินดิเคเตอร์ RSI กับ Stoch RSI นี่ก็แสบไม่เบา RSI ที่เคยร้อนแรงทะลุปรอท ตอนนี้ลงมาแถวโซน 50 เรียกว่าลดความแรงลงเยอะ ส่วน Stoch RSI หลังจากขึ้นไปเหนือโซน Overbought จนขาใหญ่เขาเทขายทำกำไรกันไปรอบนึง ตอนนี้ก็ดิ่งลงมาในโซนล่างเรียบร้อย และเริ่มมีอาการดีดพร้อมจะเด้งกลับ ซึ่งอาจจะเป็นสัญญาณว่าแรงขายเริ่มซา

24 ชั่วโมงข้างหน้ายังคงต้องจับตาดู $3,293 เป็นหลัก ถ้าแนวรับนี้ยังเหนียว ยืนต้านแรงขายได้สำเร็จ มีโอกาสสูงที่เราจะได้เห็นการดีดตัวกลับขึ้นไปทดสอบด่านแรกแถว $3,320-$3,330 ถ้าพลังกระทิงกลับมาจริง ทะลวงด่านนี้ไปได้สวยๆ เป้าหมายต่อไปก็ยังคงเป็น $3,373 ที่เราเคยหมายตาไว้

แต่! ถ้า $3,293 เกิดอ่อนแอ บอกเลยว่าสถานีต่อไปจอดที่ $3,228 ซึ่งเป็นแนวรับ 50% Fibonacci และเป็นปราการเหล็กด่านสำคัญ ถ้าแตกตรงนี้อีก...เตรียมตัวเจอพี่หมี!

แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $3,293

• $3,228

• $3,163

แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $3,322

• $3,370

• $3,439