วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 16 ธันวาคม 2568

กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้

เทรดทองเดี๋ยวนี้ >     

*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣ 

*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰 

*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁

เริ่มต้นเช้าวันอังคารที่ 16 ธันวาคม 2025 ด้วยภาพที่นักลงทุนหลายคนจับตามองอย่างใกล้ชิด เมื่อราคาทองคำ XAUUSD ในตลาดโลก ดีดตัวขึ้นไปทดสอบระดับ 4,355 ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดใหม่นับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนตุลาคม

การเคลื่อนไหวนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่เป็นผลพวงมาจากแรงเก็งกำไรที่เพิ่มสูงขึ้นเกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ดูเหมือนจะผ่อนคลายมากกว่าที่คาดการณ์ไว้

แม้ว่า Fed จะเพิ่งประกาศลดดอกเบี้ยครั้งที่สามของปีไปเมื่อสัปดาห์ก่อน แต่ตลาดการเงินกลับมองข้ามช็อตไปไกลกว่านั้น โดยมีการกำหนดราคาไว้ล่วงหน้าแล้วว่าเราอาจจะได้เห็นการลดดอกเบี้ยอีกอย่างน้อยสองครั้งภายในสิ้นปีหน้า สวนทางกับคาดการณ์เดิมใน Dot Plot ที่มองว่าจะลดเพียงครั้งเดียว

ปัจจัยนี้เองที่เป็นตัวลดต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ ทำให้สินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ยอย่างทองคำกลับมามีความน่าสนใจอีกครั้ง

สัญญาณเศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่งกลิ่นไม่ดี เมื่อภาคการผลิตนิวยอร์กดิ่ง

ในขณะที่ทุกคนกำลังรอคอยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (NFP) และยอดค้าปลีกที่จะประกาศในคืนวันนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจชุดแรกจาก New York Federal Reserve ได้ส่งสัญญาณเตือนที่ชัดเจนและรุนแรง

ดัชนีภาคการผลิต Empire State Manufacturing Survey ประจำเดือนธันวาคม ร่วงลงอย่างหนักไปอยู่ที่ระดับติดลบ 3.9 ซึ่งผิดไปจากที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่บวก 9.8

ตัวเลขที่น่าผิดหวังนี้สะท้อนให้เห็นว่าภาคการผลิตกำลังหดตัว คำสั่งซื้อใหม่ลดลงเหลือศูนย์ และการขนส่งสินค้าก็ติดลบ

ข้อมูลนี้กลายเป็นแรงหนุนชั้นดีที่โหมกระพือให้ราคาทองคำดีดตัวกลับขึ้นมายืนเหนือ 4,339 ดอลลาร์ หรือบวกเกือบ 1% ในระหว่างวัน เพราะความอ่อนแอของเศรษฐกิจจริงจะเป็นแรงกดดันให้ Fed จำเป็นต้องเดินหน้าลดดอกเบี้ยเพื่อประคองสถานการณ์

ซึ่งสอดคล้องกับท่าทีของ Susan Collins ประธาน Fed สาขาบอสตัน ที่ออกมายอมรับว่าความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อเริ่มลดลง และเริ่มเทน้ำหนักไปที่การสนับสนุนการลดดอกเบี้ยเพื่อรักษาสมดุลของตลาดแรงงาน

เดิมพันความขัดแย้งและยุทธศาสตร์ชิงทรัพยากรของมหาอำนาจ

ประเด็นที่น่าสนใจที่สุดและเป็นมุมมองสำหรับนักลงทุนระยะยาวในเวลานี้ ไม่ใช่แค่เรื่องดอกเบี้ย แต่เป็นความเคลื่อนไหวทางภูมิรัฐศาสตร์ที่มีความขัดแย้งในตัวเองอย่างสิ้นเชิง

ในด้านหนึ่งเรามีข่าวดีเรื่องการเจรจาสันติภาพระหว่างยูเครนและรัสเซีย ที่มีรายงานว่าคืบหน้าไปมากในการประชุมที่เบอร์ลิน ข่าวนี้ทำหน้าที่ลดความตึงเครียดและลดความต้องการถือสินทรัพย์ปลอดภัยในระยะสั้น

แต่ในอีกด้านหนึ่งซึ่งเป็นภาพที่ใหญ่กว่า คือการเคลื่อนไหวของทุนจีน โดยล่าสุด CMOC Group ยักษ์ใหญ่จากจีนได้ทุ่มเงินกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ เพื่อเข้าซื้อกิจการเหมืองทองคำในบราซิลจาก Equinox Gold Corp

ดีลนี้ไม่ใช่แค่การลงทุนทั่วไป แต่มันคือการส่งสัญญาณว่าจีนกำลังเร่งสะสมทรัพยากร Real Assets เข้าสู่มือ

การที่มหาอำนาจยอมจ่ายเงินสดมหาศาลเพื่อเป็นเจ้าของแหล่งผลิตทองคำโดยตรง สะท้อนให้เห็นว่าในระยะยาว ความต้องการทองคำทางกายภาพจากฝั่งตะวันออกยังคงแข็งแกร่งมาก และพวกเขามองว่าราคาทองคำในปัจจุบันยังคุ้มค่าที่จะเข้าลงทุนเพื่อเป็นเจ้าของซัพพลายเชน

เป้าหมาย 5,000 ดอลลาร์ และคำเตือนจาก Société Générale

เมื่อพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานทั้งหมด นักวิเคราะห์จาก Société Générale ธนาคารยักษ์ใหญ่ของฝรั่งเศส จึงยังคงคำแนะนำให้นักลงทุน “ซื้อเมื่อย่อตัว” หรือ Buy the dips โดยพวกเขามองเป้าหมายราคาทองคำไว้สูงถึง 5,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายในสิ้นปี 2026

เหตุผลสำคัญไม่ได้อยู่ที่แค่เรื่องสงครามหรือดอกเบี้ยระยะสั้น แต่คือการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการเงินโลก ที่ธนาคารกลางประเทศต่างๆ พยายามกระจายความเสี่ยงออกจากสินทรัพย์สกุลดอลลาร์สหรัฐฯ และหันมาถือครองทองคำมากขึ้นเรื่อยๆ

ทาง Société Générale ยังคงสัดส่วนการลงทุนในทองคำไว้ที่ 10% ของพอร์ตโฟลิโอแบบ Multi-asset พร้อมทั้งลดน้ำหนักพันธบัตรรัฐบาลและหุ้นกู้ลง

มุมมองนี้ตอกย้ำว่าทองคำไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องมือเก็งกำไร แต่เป็นสินทรัพย์ที่จำเป็นต้องมีเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายเกินไปของสหรัฐฯ และความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่อาจเกิดขึ้นในปีหน้า

ดังนั้นสำหรับนักเทรดและนักลงทุน การโฟกัสที่ความผันผวนรายวันอาจทำให้เสียโอกาส แต่การมองเห็นเทรนด์ใหญ่ที่เงินทุนระดับโลกกำลังไหลเข้าสู่สินทรัพย์จริง คือกุญแจสำคัญในการทำกำไรจากรอบใหญ่นี้

ต่อเนื่องจากการวิเคราะห์ก่อนหน้าที่เราได้เห็นสัญญาณเตือนจากอินดิเคเตอร์ ล่าสุดกราฟราคาทองคำในราย 4 ชั่วโมง ณ ระดับ 4,314 ดอลลาร์ ได้ยืนยันพฤติกรรมตามที่คาดการณ์ไว้

โดยหลังจากที่ราคาพยายามพุ่งขึ้นไปทดสอบแนวต้านด่านหินบริเวณ 4,327 ดอลลาร์ (Fibonacci 88.70%) ก็เกิดแรงเทขายทำกำไรออกมาเล็กน้อย ทำให้เกิดไส้เทียนด้านบนที่แสดงถึงแรงปฏิเสธราคา (Rejection) ในระยะสั้น

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าสนใจคือแม้จะเผชิญแรงขาย แต่ราคากลับไม่ได้ร่วงลงแรงอย่างที่ฝ่ายหมีคาดหวัง การที่ราคายังคงประคองตัวยืนเหนือระดับ 4,300 ดอลลาร์ได้ แสดงให้เห็นถึงโครงสร้างขาขึ้นที่แข็งแกร่งมาก

โดยพฤติกรรมนี้เรียกว่าเป็นการ “พักตัวออกข้างเพื่อรอขึ้นต่อ” มากกว่าจะเป็นการกลับตัวลง ซึ่งเป็นการซึมซับแรงขายเพื่อสะสมพลังรอบใหม่

เมื่อพิจารณาสัญญาณจากภาพกราฟล่าสุด จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของโมเมนตัม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของ Stochastic RSI ที่ก่อนหน้านี้เกิดสัญญาณ Dead Cross ในโซน Overbought

ปัจจุบันเส้นสัญญาณได้ดิ่งลงมาสู่โซนกลางอย่างรวดเร็วเพื่อลดความร้อนแรง ในขณะที่ตัวราคาจริงกลับย่อตัวลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ปรากฏการณ์นี้บ่งบอกว่ากระทิงยังคงคุมเกมอยู่อย่างเบ็ดเสร็จ เพราะสามารถเคลียร์สถานะ Overbought ของอินดิเคเตอร์ได้โดยที่ราคาไม่เสียทรง

หากในอีกไม่กี่แท่งเทียนข้างหน้า Stochastic RSI สามารถลงมาแตะโซน Oversold แล้ววกตัวกลับขึ้นไปใหม่ได้ในขณะที่ราคายังยืนเหนือ 4,300 ดอลลาร์ นั่นจะเป็นสัญญาณ Buy Signal รอบใหม่ที่มีพลังมหาศาล

สำหรับแนวโน้มใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหวในกรอบ Sideway Up โดยมีกรอบล่างสำคัญที่ต้องจับตาคือบริเวณ 4,276 - 4,300 ดอลลาร์ ซึ่งทำหน้าที่เป็นแนวรับหลัก

หากกราฟย่อลงมาแตะบริเวณนี้แล้วไม่หลุด จะเป็นจุดเข้าสะสมของนักลงทุนรอบใหม่เพื่อลุ้นดีดกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 4,327 ดอลลาร์อีกครั้ง

และหากสามารถทะลุผ่านแนวต้านนี้ไปได้ เป้าหมายถัดไปจะอยู่ที่ High เดิมและกรอบบนของ Regression Trend Channel ที่บริเวณ 4,355 ดอลลาร์ (Fibonacci 94.20%) ทันที

สรุปสั้นๆ คือ ตราบใดที่ราคายังเลี้ยงตัวอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยและแนวรับ 4,276 ดอลลาร์ การย่อตัวในระยะสั้นนี้คือโอกาสทองสำหรับขาขึ้น ไม่ใช่สัญญาณแห่งความกลัวแต่อย่างใด

แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $4,300

• $4,276

• $4,256

แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $4,327

• $4,354

• $4,384