วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 10 มิ.ย. 2568

กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้

เทรดทองเดี๋ยวนี้ >     

*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣ 

*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰 

*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁

วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 10 มิถุนายน 2568 เปิดตลาดมาวันนี้ ราคาทองคำ XAUUSD ยังคงโดนกดดันให้ราคาอยู่แถวๆ $3,307 ท่ามกลางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนตัวลงเล็กน้อย แต่บอกเลยว่านี่เป็นแค่ความนิ่งก่อนพายุ เพราะทุกสายตาทั่วโลกกำลังจับจ้องไปที่การเจรจาการค้ารอบใหม่สุดเดือดระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนที่กรุงลอนดอน ซึ่งวันนี้เข้าสู่วันที่สองแล้ว งานนี้บอกเลยว่าผลจะออกมาทางไหน มีผลต่อราคาทองคำเต็มๆ แบบไม่ต้องสืบ

โดยทางฝั่งสหรัฐฯ ก็ส่งทีมใหญ่ นำโดยรัฐมนตรีคลัง Scott Bessent, รัฐมนตรีพาณิชย์ Howard Lutnick และผู้แทนการค้า Jamieson Greer มาแบบจัดเต็ม ส่วนจีนก็ไม่น้อยหน้า ส่งรองนายกรัฐมนตรี He Lifeng ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมเจรจาการค้า มาคุมเกมด้วยตัวเอง

บรรยากาศเรียกว่าตึงสุดๆ แต่ประธานาธิบดี Donald Trump ก็ยังออกมาบอกว่าการพูดคุยน่าจะไปได้สวย ซึ่งวงในแอบกระซิบมาว่า สหรัฐฯ อาจยอมถอนข้อจำกัดการส่งออกเทคโนโลยีบางอย่าง เพื่อแลกกับการที่จีนจะกลับมาส่งแร่หายาก (Rare Earth) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของอุตสาหกรรมพลังงาน, กลาโหม และเทคโนโลยีขั้นสูงให้กับสหรัฐฯ เหมือนเดิม

Kevin Hassett ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติของสหรัฐฯ ถึงกับบอกว่าขอแค่จับมือเชคแฮนด์กันให้ได้ ทุกอย่างก็จบ สหรัฐฯ พร้อมจะผ่อนคลายมาตรการควบคุมการส่งออกทันที หวังว่าจะเป็นการประชุมสั้นๆ ที่จบลงด้วยการจับมืออย่างยิ่งใหญ่

แต่ในทางกลับกัน นักวิเคราะห์อย่าง Bart Melek จาก TD Securities มองว่าถ้าผลเจรจาออกมาเป็นบวก ตลาดคลายกังวล ดอลลาร์แข็งขึ้นมาทันที อาจจะกดดันราคาทองคำให้ย่อตัวลงมาได้เล็กน้อยในระยะสั้น แต่ก็ไม่น่าจะหนักหนาสาหัสอะไรมากนัก

มังกรตุนทองไม่ยั้ง! ปัจจัยหนุนหลังที่ทำให้ราคาทองไม่ร่วง

ถึงแม้ว่าเกมวัดใจระหว่างสหรัฐฯ-จีนจะทำให้ตลาดเสียวๆ แต่ราคาทองคำก็ยังมีกองหนุนชั้นดีคอยพยุงอยู่เบื้องหลัง เรื่องแรกที่ต้องยกให้เลยคือ พี่จีนเขาเอาจริง

ธนาคารกลางของจีน (PBoC) เดินหน้ากว้านซื้อทองคำเข้าคลังเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกันแล้วในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา Krishan Gopaul นักวิเคราะห์อาวุโสจากสภาทองคำโลก (World Gold Council) ชี้ว่าแค่ในเดือนพฤษภาคมเดือนเดียว จีนก็ตุนทองเพิ่มไปอีกเกือบ 2 ตัน ทำให้ยอดซื้อสุทธิตั้งแต่ต้นปี 2025 พุ่งไปแล้วกว่า 17 ตัน และมีทองคำในครอบครองรวมมหาศาลถึง 2,296 ตันเลยทีเดียว

การที่มหาอำนาจทางเศรษฐกิจเบอร์ต้นๆ ของโลกยังคงเชื่อมั่นและสะสมทองคำอย่างต่อเนื่องแบบนี้ มันคือสัญญาณบวกที่ชัดเจนและเป็นแรงซื้อสำคัญที่ช่วยประคองราคาทองคำไว้ไม่ให้แกว่งลงแรง

นอกจากแรงซื้อจากมังกรแล้ว อีกหนึ่งปัจจัยคลาสสิกที่ยังคงทำงานอยู่เสมอคือความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะสถานการณ์ในตะวันออกกลางที่ยังคงร้อนระอุ ล่าสุดมีข่าวเรื่องที่อิสราเอลเข้าสกัดและควบคุมลูกเรือของเรือบรรเทาทุกข์ที่จะมุ่งหน้าไปยังฉนวนกาซา เหตุการณ์ลักษณะนี้แหละที่คอยกระตุ้นให้นักลงทุนต้องวิ่งเข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำอยู่เสมอ เพราะเมื่อโลกวุ่นวาย ทองคำคือหลุมหลบภัยที่ดีที่สุด ดังนั้น ตราบใดที่สถานการณ์โลกยังไม่นิ่งสนิท ก็ยังมีแรงหนุนให้ราคาทองคำคึกคักได้เสมอ

จีนจ่อเปิดตลาดทองคำเต็มสูบ! ท้าชนลอนดอน-นิวยอร์ก

อีกหนึ่งเรื่องที่ต้องจับตาแบบห้ามกะพริบ และอาจเป็นตัวเปลี่ยนเกมราคาทองคำในระยะยาวเลยก็คือ การเคลื่อนไหวล่าสุดของจีนที่ไม่ได้เป็นแค่ “ผู้ซื้อ” รายใหญ่ แต่กำลังจะก้าวขึ้นมาเป็น “ผู้คุมเกม” ตลาดทองคำโลก!

ล่าสุดตลาดซื้อขายล่วงหน้าเซี่ยงไฮ้ (SHFE) ได้ประกาศแผนการที่จะเปิดตลาดซื้อขายทองคำล่วงหน้าในประเทศให้นักลงทุนและโบรกเกอร์ต่างชาติสามารถเข้ามาซื้อขายได้โดยตรงแบบเต็มรูปแบบแล้ว นี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งประวัติศาสตร์ เพราะจากเดิมที่ต่างชาติต้องเทรดผ่านตัวกลางในประเทศเท่านั้น ต่อไปนี้จะสามารถเข้ามาลุยในตลาดจีนได้เลย แถมยังสามารถวางหลักประกันเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐฯ หรือสกุลเงินต่างประเทศอื่นๆ ได้อีกด้วย

เป้าหมายของจีนนั้นชัดเจนมาก คือการทำให้เซี่ยงไฮ้กลายเป็นศูนย์กลางการซื้อขายและกำหนดราคาทองคำของโลก ท้าชนกับเจ้าตลาดเดิมอย่างลอนดอน (LME) และนิวยอร์กโดยตรง ก่อนหน้านี้ธนาคารกลางจีนก็เพิ่งประกาศแผนการยกระดับตลาดทองคำเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Gold Exchange) สู่ความเป็นสากล ซึ่งรวมถึงการสร้างคลังสินค้าสำหรับส่งมอบในต่างประเทศด้วย

การเคลื่อนไหวทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าจีนต้องการมีอิทธิพลต่อราคาทองคำให้สมกับสถานะที่เป็นทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภคทองคำรายใหญ่ที่สุดของโลก หากแผนนี้สำเร็จ เราอาจจะได้เห็นอำนาจการกำหนดราคาทองคำย้ายจากโลกตะวันตกมาสู่โลกตะวันออก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อตลาดทองคำทั่วโลกอย่างแน่นอน

ส่องเศรษฐกิจมะกัน เงินเฟ้อเริ่มแผ่ว แต่ Fed ยังไม่ขยับ

ข้ามฟากมาดูที่ฝั่งสหรัฐฯ กันบ้าง ข้อมูลล่าสุดจากธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขานิวยอร์ก (New York Fed) ชี้ให้เห็นว่าชาวอเมริกันเริ่มหายใจโล่งขึ้นเล็กน้อย เพราะความกังวลเกี่ยวกับทิศทางเงินเฟ้อในอนาคตเริ่มลดลงในเดือนพฤษภาคม

โดยผลสำรวจคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อในอีก 1 ปีข้างหน้าจะอยู่ที่ 3.2% ลดลงจาก 3.6% ในเดือนเมษายน ขณะที่การคาดการณ์ราคาสินค้าต่างๆ เช่น น้ำมัน ค่าเช่า ค่ารักษาพยาบาล ก็มีแนวโน้มชะลอตัวลง ข้อมูลชุดนี้อาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ใจชื้นขึ้นมาบ้างว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้ออาจไม่ได้รุนแรงอย่างที่กลัว

อย่างไรก็ตาม ด้วยตัวเลขเงินเฟ้อที่ยังคงสูงกว่าเป้าหมายที่ 2% อยู่พอสมควร ประกอบกับเศรษฐกิจโดยรวมที่ยังแข็งแกร่ง ทำให้ตลาดแทบจะฟันธงได้เลยว่าในการประชุมรอบวันที่ 17-18 มิถุนายนนี้ Fed จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 4.25%-4.50% เหมือนเดิมแน่นอน

แต่ประเด็นที่ยังเป็นตัวแปรสำคัญและสร้างความไม่แน่นอนได้อย่างที่สุดก็คือนโยบายภาษีนำเข้าของประธานาธิบดี Donald Trump ที่เปลี่ยนแปลงไปมาจนยากจะคาดเดา ซึ่งพร้อมจะสร้างความปั่นป่วนให้กับทั้งตัวเลขเงินเฟ้อและตลาดการเงินได้ทุกเมื่อ ดังนั้น สถานการณ์ราคาทองคำในช่วงนี้จึงเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ชนิดที่ว่าพลาดไปแค่วันเดียวอาจตกรถได้เลยทีเดียว

จากภาพกราฟ 4 ชั่วโมง ราคาล่าสุดเคลื่อนไหวอยู่แถวๆ 3,308 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ล่อแหลมและยืนอยู่บนเส้นด้ายของจริง บรรยากาศตอนนี้ต้องบอกว่ามาคุสุดๆ แรงเทขายกดดันราคาจนหลุดแนวเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น (เส้นสีแดงและสีฟ้า) ลงมาเป็นที่เรียบร้อย

จุดที่ต้องโฟกัสแบบไม่ให้พลาดเลยคือ แนวรับสำคัญบริเวณ 3,293 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นแนวรับจาก Fibonacci 38.2% พ่วงด้วยปราการด่านสำคัญอย่างเส้นค่าเฉลี่ย EMA 200 (เส้นสีส้ม) ที่รอชนอยู่แถวๆ 3,285 ดอลลาร์ โซนนี้คือจุดยุทธศาสตร์ตัดสินแพ้ชนะของรอบนี้เลยก็ว่าได้ ถ้าหากแนวรับสุดแกร่งนี้ยังต้านทานพลังขายไม่อยู่ เตรียมตัวเห็นการดิ่งเหวรอบใหม่ได้เลย เพราะมันหมายความว่าแรงขายนั้นแข็งแกร่งของจริง และพร้อมจะลากลงไปต่อ

ไปดูอินดิเคเตอร์อย่าง RSI ก็ยังคงปักหัวลงต่ำกว่าระดับ 50 บ่งบอกว่าโมเมนตัมฝั่งหมีนั้นคุมเกมเอาไว้ได้หมดจดและยังมีพื้นที่ให้ไหลลงได้อีก 

ขณะที่ Stoch RSI ดิ่งขึ้นมาหลังจากลงไปอยู่ที่โซน Oversold ก่อนหน้านี้ แต่ก็ยังไม่มีสัญญาณการกลับตัวที่ชัดเจนพอที่จะให้เราวางใจได้เลย

ดังนั้นภาพรวมใน 24 ชั่วโมงข้างหน้าจึงยังคงเสี่ยงที่ราคาจะปรับตัวลงต่อ หากราคาหลุดแนวรับ 3,285 ไปได้เมื่อไหร่ สถานีต่อไปที่ต้องไปเยือนคือแนวรับถัดไปที่ 3,227 ดอลลาร์ ทันที

อย่างไรก็ตาม หากราคากลับไปยืนเหนือโซน 3,330 ได้สำเร็จ ก็อาจเป็นการ “เด้งสู้” เพื่อกลับไปแนวต้านเดิมที่ 3,360 อีกครั้ง แต่บอกได้คำเดียวว่าภารกิจนี้ฝั่งซื้อเหนื่อยหนักแน่นอน

สรุปคือ ตอนนี้โมเมนตัมเป็นของฝั่งหมี โอกาสที่ราคาจะไหลลงต่อมีสูงกว่าการเด้งกลับ นักเทรดที่มีสถานะซื้ออยู่ต้องวางแผนบริหารความเสี่ยงให้รัดกุม ส่วนใครที่ยังไม่มีของและคิดจะเข้าซื้อ ขอให้ใจเย็นๆ รอดูการต่อสู้ที่แนวรับสำคัญ 3,285-3,293 ให้จบเกมก่อน อย่าเพิ่งรีบร้อนเข้าไปรับมีดเพราะอาจจะเจ็บตัวได้

แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $3,293

• $3,228

• $3,136

แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $3,322

• $3,372

• $3,410