วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 19 ธันวาคม 2568

กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้

เทรดทองเดี๋ยวนี้ >     

*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣ 

*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰 

*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁

ตลาดการลงทุนทั่วโลกกำลังเผชิญกับชุดข้อมูลที่น่าสนใจอย่างยิ่ง โดยเฉพาะความเคลื่อนไหวของราคาทองคำ XAUUSD ที่มีการปรับตัวลดลงมาอยู่ต่ำกว่าระดับ 4,320 ดอลลาร์ในช่วงเช้าวันนี้

แม้ว่าภาพรวมของข่าวเศรษฐกิจจะดูเหมือนเป็นแรงหนุนสำคัญให้กับโลหะมีค่า แต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้สะท้อนให้เห็นถึงกลไกตลาดที่มีความซับซ้อนมากกว่าแค่การอ่านค่าตัวเลขเพียงอย่างเดียว

เพราะในช่วงที่ผ่านมามีการทำกำไร และการล้างสถานะฝั่งซื้อจากกลุ่มนักเทรดฟิวเจอร์สระยะสั้น ซึ่งเป็นเรื่องปกติเมื่อราคาวิ่งขึ้นมาถึงจุดที่มีนัยสำคัญ อย่างไรก็ดี หากเราเจาะลึกลงไปในไส้ในของข้อมูลเศรษฐกิจที่เพิ่งประกาศออกมา จะพบว่าพื้นฐานของทองคำยังคงมีความแข็งแกร่งรองรับอยู่ค่อนข้างมาก

โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค หรือ CPI ของสหรัฐฯ ประจำเดือนพฤศจิกายนที่ออกมาต่ำกว่าคาดอย่างน่าประหลาดใจ โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลงมาอยู่ที่ 2.7% 

ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 3.1% และเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) ก็ลดลงเหลือ 2.6% จากที่คาดไว้ 3.0% ซึ่งข้อมูลนี้เป็นสัญญาณชัดเจนว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ มีเหตุผลเพียงพอที่จะเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ยต่อไปในปีหน้า

วิกฤตภาคการผลิตสหรัฐฯ และแรงกดดันที่ทำให้ทองคำยังเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจ

ความน่าสนใจของตลาดในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาไม่ได้หยุดอยู่แค่เรื่องเงินเฟ้อ แต่ยังมีประเด็นของดัชนีภาคการผลิตจาก Philadelphia Fed ที่ประกาศออกมาแย่กว่าที่ตลาดประเมินไว้ค่อนข้างมาก โดยตัวเลขดิ่งลงไปอยู่ที่ -10.2 ในเดือนธันวาคม จากเดิมที่เดือนพฤศจิกายนอยู่ที่ -1.7  ขณะที่เหล่านักเศรษฐศาสตร์มองโลกในแง่ดีว่าควรจะกลับมาเป็นบวกที่ 3.0 ด้วยซ้ำ

การหดตัวของภาคการผลิตอย่างรุนแรงนี้สะท้อนให้เห็นถึงรอยร้าวในระบบเศรษฐกิจที่เริ่มชัดเจนขึ้น ซึ่งโดยปกติแล้วเมื่อเศรษฐกิจส่งสัญญาณชะลอตัว ราคาทองคำมักจะได้รับอานิสงส์ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยทันที

สังเกตได้จากช่วงนาทีที่ตัวเลขนี้ถูกปล่อยออกมาพร้อมกับ CPI ราคาทองคำสปอตได้พุ่งย้อนกลับขึ้นไปแตะระดับสูงสุดขที่ 4,343 ดอลลาร์ต่อออนซ์ก่อนจะมีการย่อตัวลงมาในภายหลัง

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเสริมจากฝั่งยุโรปที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่เดิม โดยดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ที่ 2.00%

แม้ ECB จะส่งสัญญาณว่าความกังวลเรื่องเงินเฟ้ออาจจะยังไม่หมดไปในปี 2026 แต่การที่ไม่มีเซอร์ไพรส์ในเชิงนโยบายการเงินที่เข้มงวดเกินไป ก็ทำให้ทองคำในสกุลเงินยูโรยังคงรักษาระดับฐานแนวรับที่แข็งแกร่งเอาไว้ได้ แม้จะมีการย่อตัวลงตามทิศทางของราคาทองคำในสกุลเงินดอลลาร์ก็ตาม

เกมการเมืองของ Trump และความตึงเครียดกับเวเนซุเอลาที่หนุนสถานะทองคำ

อีกหนึ่งมิติที่นักลงทุนจะมองข้ามไม่ได้เลยคือปัจจัยทางการเมืองและภูมิรัฐศาสตร์ที่เริ่มทวีความรุนแรงขึ้น

ประธานาธิบดี Donald Trump ได้ออกมาให้สัมภาษณ์อย่างชัดเจนว่า ประธาน Fed คนต่อไปจะต้องเป็นคนที่เชื่อในการลดอัตราดอกเบี้ย “เท่านั้น” และเขากำลังเตรียมประกาศชื่อผู้ที่จะมาสืบทอดตำแหน่งต่อจาก Jerome Powell ในเร็วๆ นี้

กระแสกดดันทางการเมืองที่มีต่อธนาคารกลางสหรัฐฯ เช่นนี้ ยิ่งทำให้นักลงทุนในตลาดคาดการณ์ว่าทิศทางดอกเบี้ยขาลงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

ในขณะเดียวกัน สถานการณ์ระหว่างสหรัฐฯ และเวเนซุเอลาก็กำลังร้อนระอุ หลังจากมีรายงานว่ารัฐบาลเวเนซุเอลาสั่งให้กองทัพเรือคุ้มกันเรือขนส่งน้ำมันเพื่อตอบโต้คำสั่ง “ปิดล้อม” ของ Donald Trump ที่พุ่งเป้าไปที่อุตสาหกรรมน้ำมันของเวเนซุเอลา

ความเสี่ยงจากการเผชิญหน้าทางการทหารเช่นนี้เป็นเชื้อไฟชั้นดีที่คอยพยุงราคาทองคำเอาไว้ไม่ให้ร่วงลงไปลึกนัก แม้ตลาดการเงินจะประเมินโอกาสการลดดอกเบี้ยในเดือนมกราคมไว้เพียง 26.6% ตามข้อมูลจาก CME FedWatch Tool แต่ด้วยแรงกดดันจากทั้งภายในและภายนอกประเทศ ทำให้มุมมองของนักวิเคราะห์หลายคนเริ่มเปลี่ยนไป

วิเคราะห์กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนผ่านของนโยบายการเงิน

สำหรับนักลงทุนและนักเก็งกำไรกำไรที่กำลังเฝ้าติดตามราคาทองคำในช่วงปลายปี 2025 นี้ ประเด็นสำคัญที่ Chris Zaccarelli จาก Northlight Asset Management ให้ความเห็นไว้น่าจะเป็นแนวทางที่ดี

เขาชี้ให้เห็นว่าข้อมูลเงินเฟ้อที่ออกมาดีกว่าคาดในวันที่ผ่านมาช่วยคลายความกังวลของเจ้าหน้าที่ Fed บางส่วนที่เคยลังเลเรื่องการลดดอกเบี้ยเพราะกลัวเงินเฟ้อจะค้างตัวสูง ซึ่งในตอนนี้ความกังวลนั้นดูจะเบาบางลงไปมาก

สอดคล้องกับความเห็นของ Jamie Cox จาก Harris Financial Group ที่มองว่ามาตรการการเงินที่เข้มงวดนั้นไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป เนื่องจากผลกระทบเรื่องเงินเฟ้อจากกำภาษีได้ผ่านจุดนั้นมาแล้ว และทางเดินสู่การลดดอกเบี้ยในเดือนมกราคมปีหน้าดูจะเปิดกว้างมากขึ้น

สรุปได้ว่าแม้ในระยะสั้นเราจะเห็นการปรับฐานของราคาเนื่องจากปัจจัยทางเทคนิคและการขายทำกำไรหลังจากที่ราคาดีดตัวขึ้นรับข่าวเงินเฟ้อ แต่ภาพรวมในระยะกลางถึงยาวยังคงมีปัจจัยหนุนที่แข็งแกร่ง ทั้งจากแนวโน้มดอกเบี้ยขาลง ภาคการผลิตที่อ่อนแอ และความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์

นักลงทุนควรติดตามดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก University of Michigan ที่จะประกาศออกมาในวันนี้ต่อเพื่อดูทิศทางที่ชัดเจนยิ่งขึ้นของความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงและสินทรัพย์ปลอดภัยในก้าวต่อไป

ราคาทองคำเริ่มส่งสัญญาณการพักตัวที่ชัดเจนมากขึ้นหลังจากไม่สามารถยืนระยะเหนือแนวต้านสำคัญที่ระดับ Fibonacci 88.70% หรือบริเวณ 4,328 ดอลลาร์ตามที่ได้ประเมินไว้

โดยล่าสุดราคาได้ย่อตัวลงมาเคลื่อนไหวอยู่ที่ประมาณ 4,315 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งในทางเทคนิคถือเป็นการปรับฐานในช่วงสั้นหลังจากที่ราคาเผชิญกับแรงเทขายทำกำไรในช่วงที่ผ่านมา

สังเกตได้จากแท่งเทียน 4 ชั่วโมงล่าสุดที่มีไส้เทียนด้านบนค่อนข้างยาวสะท้อนถึงแรงปฏิเสธราคาจากโซนแนวต้านด้านบน และในขณะนี้ราคากำลังลงมาทดสอบแนวรับของเส้นค่าเฉลี่ย EMA ในระยะสั้น ซึ่งจะเป็นจุดวัดใจสำคัญว่าแรงซื้อจะสามารถกลับมาพยุงราคาไว้ได้หรือไม่

ขณะที่ด้านโมเมนตัมก็เริ่มมีการเปลี่ยนทิศทางอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะดัชนี Stoch RSI ที่แสดงภาพการตัดกันลงของเส้นสัญญาณจากโซน Overbought อย่างรุนแรง ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนถึงการเข้าสู่รอบการย่อตัวหรือการพักฐานในระยะสั้นที่อาจกินเวลาต่อเนื่องในช่วง 24 ชั่วโมงข้างหน้า

สอดคล้องกับดัชนี RSI ที่เริ่มหักหัวลงและปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับประมาณ 53 ซึ่งแม้ว่าจะยังอยู่ในโซน Bullish แต่ก็แสดงให้เห็นถึงกำลังของฝั่งซื้อที่เริ่มแผ่วลงอย่างเห็นได้ชัด

อย่างไรก็ตาม หากมองในภาพกว้างผ่าน Regression Trend Channel ราคาทองคำยังคงรักษาระดับอยู่ในกรอบแนวโน้มขาขึ้นขนาดใหญ่ได้อยู่ โดยมีฐานแนวรับสำคัญทางจิตวิทยาที่ระดับ 4,300 ดอลลาร์ ซึ่งหากราคายังสามารถประคองตัวไม่ให้หลุดระดับนี้ได้ ภาพรวมของโครงสร้างราคาจะยังคงเป็นเพียงการย่อตัวเพื่อสะสมพลังรอบใหม่

สำหรับแนวโน้มในอีก 24 ชั่วโมงข้างหน้า หากราคาทองคำมีแรงเทขายกดดันต่อเนื่องจนหลุดระดับ 4,300 ดอลลาร์ลงไป มีโอกาสสูงที่ราคาจะไหลลงไปทดสอบแนวรับถัดไปที่บริเวณ 4,276 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับ Fibonacci 78.60% และเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญของโซนแนวรับในอดีต

ในทางตรงกันข้าม หากราคาได้รับแรงหนุนจากปัจจัยพื้นฐานหรือมีแรงซื้อกลับที่แนวรับ 4,300 ดอลลาร์จนสามารถกลับไปยืนเหนือ 4,328 ดอลลาร์ได้อีกครั้ง จะเป็นการเปิดโอกาสให้ทองคำกลับไปทดสอบเป้าหมายเดิมที่ 4,354 ดอลลาร์ และ 4,384 ดอลลาร์ตามลำดับ

สรุปในเชิงกลยุทธ์ช่วงนี้คือนักลงทุนควรเพิ่มความระมัดระวัง เนื่องจากสภาวะตลาดปัจจุบันกำลังอยู่ในช่วงของการเลือกทางระหว่างการลงไปสร้างฐานที่ต่ำกว่าเดิม หรือการดีดตัวกลับเพื่อรักษาแนวโน้มขาขึ้นที่สมบูรณ์เอาไว้ต่อไป

แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $4,300

• $4,276

• $4,256

แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $4,327

• $4,354

• $4,370