วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 11 ส.ค. 2568

กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้

เทรดทองเดี๋ยวนี้ >     

*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣ 

*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰 

*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁

ราคาทองคำเปิดตลาดสัปดาห์ใหม่ในเช้าวันจันทร์ที่ 11 สิงหาคม 2568 ด้วยการเคลื่อนไหวที่น่าจับตา โดยมีการย่อตัวลงเล็กน้อยมาเคลื่อนไหวใกล้ระดับ 3,375 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ บรรยากาศการลงทุนในช่วงเช้าของตลาดเอเชียดูเหมือนจะถูกกดดันจากการฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม การย่อตัวครั้งนี้ยังคงเป็นการเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ขณะที่นักลงทุนทั่วโลกต่างรอคอยการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อสำคัญของสหรัฐฯ หรือ CPI ที่จะมีขึ้นในวันอังคารนี้ ซึ่งจะเป็นตัวแปรสำคัญที่อาจชี้ชะตาทิศทางของราคาทองคำในระยะถัดไป

ข่าวลือภาษี บทพิสูจน์ความแกร่งของทองคำเหนือ 3,400 ดอลลาร์

สัปดาห์ที่ผ่านมาอาจเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสัปดาห์ที่น่าจดจำของตลาดทองคำ เมื่อราคาทองคำต้องเผชิญกับความผันผวนอย่างรุนแรงจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน เมื่อมีข่าวแพร่ออกมาว่าสหรัฐฯ อาจเรียกเก็บภาษีนำเข้าทองคำแท่งจากสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการหลอมทองคำที่สำคัญของโลก

ข่าวดังกล่าวสร้างความตื่นตระหนกไปทั่วตลาดและผลักดันให้ราคาทองคำพุ่งทะยานอย่างบ้าคลั่ง สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า (Comex) ทะยานขึ้นสร้างสถิติสูงสุดใหม่ตลอดกาลที่ 3,534.10 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ราคาทองคำ Spot ก็พุ่งทะลุแนวต้านจิตวิทยาที่ 3,400 ดอลลาร์

แม้ว่าในเวลาต่อมา ทำเนียบขาวจะออกมาสยบข่าวลือดังกล่าว โดยระบุว่าเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อนและยืนยันว่ายังไม่มีแผนการเก็บภาษีทองคำ แต่สิ่งที่น่าสนใจ คือแม้จะมีแรงเทขายทำกำไรออกมาอย่างรวดเร็วหลังข่าวชี้แจง ราคาทองคำกลับไม่ได้ร่วงลงไปไกลนัก แต่สามารถยืนรักษาฐานะที่แข็งแกร่งไว้ได้ เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยได้อย่างชัดเจน ว่าแม้ข่าวร้ายจะคลี่คลายไป แต่ราคาก็ยังคงยืนอยู่ได้ในระดับสูง แสดงถึงพลังซื้อที่ยังคงหนาแน่นอยู่เบื้องหลัง

เบื้องหลังความผันผวน แรงซื้อจากธนาคารกลางและเดิมพันลดดอกเบี้ย

นอกเหนือจากประเด็นข่าวลือเรื่องภาษีแล้ว ปัจจัยพื้นฐานที่คอยสนับสนุนราคาทองคำยังคงแข็งแกร่งอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่ส่งสัญญาณผ่อนคลายมากขึ้น

ความเห็นล่าสุดจาก Michelle Bowman หนึ่งในผู้ว่าการเฟด ระบุว่าข้อมูลตลาดแรงงานที่อ่อนแอลง ทำให้ยิ่งมั่นใจว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งภายในปี 2025 เป็นสิ่งที่เหมาะสม ส่งผลให้นักลงทุนในตลาดให้น้ำหนักเกือบ 89% ว่าเฟดจะตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ การคาดการณ์ดังกล่าวเป็นผลบวกโดยตรงต่อทองคำ เพราะการลดดอกเบี้ยจะช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ย

ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีแรงซื้อที่ทรงพลังจากธนาคารกลางทั่วโลก โดยเฉพาะธนาคารกลางแห่งประเทศจีน (PBOC) ที่ข้อมูลล่าสุดในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าได้เข้าซื้อทองคำเป็นเดือนที่ 9 ติดต่อกันในเดือนกรกฎาคม การเข้าซื้ออย่างต่อเนื่องของหนึ่งในผู้เล่นรายใหญ่ที่สุดของโลกอย่างจีน เป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนถึงอุปสงค์หรือความต้องการทองคำที่แข็งแกร่งในระดับมหภาค

สัปดาห์แห่งตัวเลขเศรษฐกิจ จับตาสัญญาณเงินเฟ้อและมุมมองนักวิเคราะห์

สำหรับสัปดาห์นี้ ปฏิทินเศรษฐกิจจะกลับมาคึกคักอีกครั้งและเต็มไปด้วยตัวเลขสำคัญที่จะมีผลต่อการตัดสินใจของนักลงทุน เริ่มจากเช้าวันอังคารกับการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางออสเตรเลีย ตามมาด้วยไฮไลท์สำคัญคือตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) หรืออัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในวันเดียวกัน จากนั้นในวันพฤหัสบดี จะมีการประกาศดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) และตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ก่อนจะปิดท้ายสัปดาห์ในวันศุกร์ด้วยข้อมูลยอดค้าปลีกและดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน ซึ่งจะฉายภาพรวมสุขภาพเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภคชาวอเมริกัน

ในส่วนของมุมมองจากผู้เชี่ยวชาญ พบว่าบรรดานักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ถึง 60% กลับมามีมุมมองเป็นบวกต่อราคาทองคำอย่างเต็มตัว เช่นเดียวกับนักลงทุนรายย่อยที่ยังคงเชื่อมั่นในทิศทางขาขึ้น

James Stanley นักกลยุทธ์อาวุโสจาก Forex.com มองว่าแนวโน้มยังคงเป็นขาขึ้น และชี้ไปที่แนวต้านสำคัญบริเวณ 3,435 ดอลลาร์ และเป้าหมายที่ใหญ่กว่านั้นคือระดับ 3,500 ดอลลาร์ ในขณะที่แนวรับสำคัญที่ต้องจับตาคือบริเวณ 3,350 ดอลลาร์ ซึ่งได้พิสูจน์ความแข็งแกร่งมาแล้วในสัปดาห์ก่อนหน้า

โดยสรุปแล้ว สัปดาห์นี้จะเป็นอีกสัปดาห์ที่นักลงทุนในตลาดทองคำต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะทุกตัวเลขที่ประกาศออกมาจะเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญในการคาดการณ์ทิศทางของราคาทองคำต่อไป

ราคาทองคำได้แสดงพลังของฝั่งกระทิงอย่างชัดเจน โดยสามารถดีดตัวจากฐานแนวรับ 3,360-3,372 ดอลลาร์ ขึ้นไปทดสอบแนวต้านเป้าหมายที่โซน 3,400 ดอลลาร์ ได้สำเร็จตามคาด 

แต่หลังจากที่ราคาพุ่งขึ้นไปแตะบริเวณแนวต้านสำคัญที่ 3,405 ดอลลาร์ ก็ไม่สามารถผ่านไปได้ กลับถูกแรงเทขายกดดันอย่างหนักหน่วง จนเกิดเป็นแท่งเทียนสีแดงยาวใหญ่ในกราฟราย 4 ชั่วโมง ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าพลังของฝั่งกระทิงเริ่มแผ่วลง และฝั่งหมีได้กลับเข้ามาคุมเกมอีกครั้ง

การร่วงลงมาครั้งนี้ได้พาราคาดิ่งลงมาทดสอบที่แนวรับสำคัญซึ่งเป็นจุดชี้ชะตาในระยะสั้นทันที โดยปัจจุบันราคาซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 3,375 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นโซนแนวรับเดิมที่เคยเป็นฐานส่งราคาขึ้นไป และยังเป็นบริเวณที่เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average) และเส้นแนวรับ Fibonacci 23.6% ที่ 3,373 ดอลลาร์ มาบรรจบกัน ทำให้โซนนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง

เมื่อหันมามองที่ Indicators ก็ยิ่งเป็นการตอกย้ำถึงสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงของฝั่งกระทิง เริ่มจาก Stochastic RSI ได้ส่งสัญญาณขายที่ชัดเจนที่สุด โดยเส้นได้ตัดกันในเขตซื้อมากเกินไป (Overbought) และดิ่งหัวลงอย่างรวดเร็ว บ่งชี้ว่าแรงซื้อได้หมดลงแล้วและโมเมนตัมได้เปลี่ยนข้างไปอยู่กับแรงขายอย่างสมบูรณ์ ขณะที่ RSI ซึ่งเป็นมาตรวัดโมเมนตัมของราคา ก็ได้ยืนยันภาพเดียวกัน โดยได้ร่วงจากโซนเหนือระดับ 60 ลงมาป้วนเปี้ยนอยู่บริเวณเส้นกลางที่ระดับ 50 ซึ่งเป็นการบอกกลายๆ ว่าโมเมนตัมขาขึ้นที่เคยมีมาก่อนหน้านี้ได้ถูกลบล้างไปจนหมดสิ้นแล้ว และตลาดกำลังเข้าสู่ภาวะการต่อสู้ที่ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบอย่างชัดเจน หรือกำลังรอเลือกทิศทางใหม่อีกครั้ง

ดังนั้น สำหรับทิศทางในอีก 24 ชั่วโมงข้างหน้าจึงขึ้นอยู่กับการตัดสินของราคาที่แนวรับ 3,372 ดอลลาร์เป็นสำคัญ ในกรณีที่แรงขายยังคงเป็นฝ่ายคุมเกม และสามารถกดดันให้ราคาหลุดและปิดต่ำกว่าแนวรับนี้ได้อย่างเด็ดขาด จะเป็นการยืนยันสัญญาณขาลง และมีเป้าหมายถัดไปอยู่ที่แนวรับบริเวณ 3,350 ดอลลาร์ และ 3,338 ดอลลาร์ ตามลำดับ

ในทางกลับกัน หากฝั่งกระทิงสามารถปกป้องแนวรับนี้ไว้ได้ ก็อาจเห็นการเคลื่อนไหวในลักษณะแกว่งตัวออกข้าง (Sideways) เพื่อสะสมกำลัง แต่การจะกลับไปเป็นขาขึ้นที่แข็งแกร่งอีกครั้งยังคงเป็นเรื่องท้าทาย และจำเป็นต้องเห็นแรงซื้อที่มากพอจะผลักดันราคาให้กลับไปยืนเหนือแนวต้าน 3,405 ดอลลาร์ให้ได้เสียก่อน ซึ่งดูเหมือนว่าในระยะสั้นนี้ โอกาสของภาพแรกจะมีน้ำหนักมากกว่า

แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $3,372

• $3,350

• $3,338

แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $3,400

• $3,415

• $3,439