วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 29 ตุลาคม 2568

กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้

เทรดทองเดี๋ยวนี้ >     

*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣ 

*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰 

*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁

ราคาทองคำ XAUUSD เมื่อวานปรับตัวลงไปแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ ทำจุดต่ำสุดที่บริเวณ 3,887 ดอลลาร์ การปรับตัวลงครั้งนี้ถือเป็นการพักฐานต่อเนื่องจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่เคยทำไว้ หลังจากนักลงทุนเริ่มเทขายทำกำไร ประกอบกับความหวังที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งลดทอนเสน่ห์ของทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยลงไปอย่างชัดเจน

อย่างไรก็ตาม ตลาดกำลังอยู่ในภาวะที่ปัจจัยระยะสั้นและระยะยาวกำลังขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือด เพราะในขณะที่ข่าวการค้ากดดันราคา ค่ำคืนนี้ทุกสายตากำลังจับจ้องไปที่การตัดสินใจอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ซึ่งอาจเป็นตัวแปรสำคัญที่จะพยุงราคาทองคำไม่ให้ร่วงลงไปลึกกว่านี้

แรงเทขายระยะสั้น เมื่อข่าวดีการค้า สั่นคลอนความต้องกาทองคำ

การปรับฐานของราคาทองคำในรอบนี้ มีสาเหตุหลักมาจากการที่นักลงทุนลดการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากสัญญาณตึงเครียดทางการค้าและภูมิรัฐศาสตร์เริ่มผ่อนคลายลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่าทีล่าสุดจากฝั่งสหรัฐฯ และจีน

ประธานาธิบดี Donald Trump ของสหรัฐฯ ได้ออกมากล่าวว่า เขาคาดหวังว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้ากับจีนได้ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า สอดคล้องกับที่เจ้าหน้าที่ของทั้งสองฝ่ายออกมาระบุเมื่อวันอาทิตย์ว่า พวกเขาได้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นแล้ว และผู้นำทั้งสองจะพยายามสรุปข้อตกลงนี้ให้เสร็จสิ้นในการประชุมระดับสูงปลายสัปดาห์นี้

เมื่อความเสี่ยงใหญ่ที่เคยหนุนตลาดอย่างประเด็นสงครามการค้าเริ่มคลี่คลาย นักลงทุนที่ถือทองคำมาตั้งแต่ต้นปี ซึ่งราคาทองคำได้ปรับตัวขึ้นมากว่า 50% แล้ว จึงไม่ลังเลที่จะเทขายทำกำไรออกมา ทำให้เกิดแรงกดดันอย่างที่เห็น

ปัจจัยที่ต้องจับตาค่ำคืนนี้ Fed จ่อหั่นดอกเบี้ยสวนทางตลาด 

แม้ว่ากระแสระยะสั้นจะไม่เป็นใจ แต่ในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า ตลาดกำลังจะเผชิญกับอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญ นั่นคือการประชุมนโยบายการเงินของ Fed (FOMC) ซึ่งจะสิ้นสุดในวันนี้ (ตามเวลาสหรัฐฯ)

ในขณะนี้ ตลาดให้น้ำหนักอย่างเต็มที่ว่า Fed จะตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% (25 basis points) โดยเครื่องมือ CME FedWatch Tool ชี้ว่า มีความเป็นไปได้เกือบ 100% ที่จะเกิดเหตุการณ์นี้

หากเป็นเช่นนั้นจริง นี่จะเป็นการลดดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งที่สอง หลังจากลดไปแล้วในการประชุมเดือนกันยายน ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยเป้าหมายของ Fed Funds Rate ลดลงมาอยู่ที่ 3.75% - 4.00%

ประเด็นนี้สำคัญอย่างยิ่งต่อราคาทองคำ เพราะการลดอัตราดอกเบี้ยจะช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ โดยทฤษฎีแล้ว อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงควรจะช่วยพยุงและสนับสนุนราคาทองคำ

ดังนั้น สถานการณ์ปัจจุบันจึงเป็นการต่อสู้กันระหว่างข่าวดีการค้าที่กดดันราคา กับนโยบายการเงินผ่อนคลายที่คอยหนุนราคา ซึ่งต้องติดตามอย่างใกล้ชิดว่าตลาดจะให้น้ำหนักกับปัจจัยใดมากกว่ากันในคืนนี้

ยักษ์ใหญ่การเงินเร่งเก็บทองคำเข้าคลังของตัวเองในลอนดอน

ในขณะที่นักเทรดระยะสั้นกำลังวุ่นอยู่กับข่าวรายวัน ขยับออกไปมองภาพที่ใหญ่ขึ้น เรากลับพบสัญญาณกระทิงที่แข็งแกร่งอย่างมากจากกลุ่มสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ ซึ่งสะท้อนความเชื่อมั่นต่ออนาคตของตลาดทองคำในระยะยาว

รายงานล่าสุดจาก Bloomberg เปิดเผยว่า Citigroup Inc. และ Morgan Stanley กำลังอยู่ในกระบวนการจัดตั้ง “ห้องนิรภัย” (Vaults) ของตนเองในกรุงลอนดอน ซึ่งเป็นศูนย์กลางการซื้อขายทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ความเคลื่อนไหวนี้มีเป้าหมายชัดเจนคือการท้าทายตำแหน่งผู้เล่นหลักอย่าง JPMorgan ที่ครองส่วนแบ่งตลาดส่วนใหญ่ในปัจจุบัน

ปัจจุบัน ตลาดลอนดอนซึ่งเก็บทองคำมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ มีธนาคารที่ทำหน้าที่เป็นผู้ให้บริการชำระบัญชี และมีห้องนิรภัยของตนเองเพียง 4 แห่ง ได้แก่ JPMorgan, HSBC Holdings Plc, UBS Group AG และ ICBC Standard Bank Plc

การที่ Citigroup และ Morgan Stanley กำลังจะกระโดดเข้ามาในธุรกิจนี้ สะท้อนว่าพวกเขามองเห็นโอกาสมหาศาล ท่ามกลางความสนใจของนักลงทุนที่เพิ่มสูงขึ้น และราคาทองคำที่พุ่งทะยาน

ภาพใหญ่ยังกระทิง LBMA คาดการณ์ราคา $4,980 และแรงซื้อจากธนาคารกลางที่ยังไม่แผ่ว

สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มธนาคารยักษ์ใหญ่ คือมุมมองจากผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมโดยตรง ในการประชุม 2025 LBMA Global Precious Metals Conference ที่เพิ่งจบไป ผลสำรวจความคิดเห็นของผู้เข้าร่วมประชุม (ซึ่งประเมินศักยภาพของทองคำต่ำเกินไปอย่างมากในช่วงสองปีที่ผ่านมา) กลับมาชี้ชัดว่า ตลาดกำลังไล่ตามราคา

ผู้ร่วมประชุมคาดการณ์ว่า ราคาทองคำจะพุ่งขึ้นไปทดสอบระดับ 4,980.30 ดอลลาร์ ภายในช่วงเวลานี้ของปีหน้า ซึ่งสะท้อนถึงการเพิ่มขึ้นอีกราว 25% จากระดับราคาปัจจุบัน

แม้ว่าปีนี้ทองคำจะให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 1979 (บวกกว่า 50% YTD) แต่ผู้ร่วมประชุม 40% ก็ยังคงคาดว่าทองคำจะเป็นสินทรัพย์ที่ทำผลงานได้ดีที่สุดในกลุ่มโลหะมีค่าไปจนถึงปี 2026

อีกหนึ่งสาเหตุที่หนุนตลาดในระยะยาวคือ ธนาคารกลางทั่วโลก แม้ว่าความต้องการซื้อทองคำจากภาคส่วนนี้จะชะลอตัวลงเล็กน้อยในช่วงที่ผ่านมาจากราคาที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ทิศทางระยะยาวยังคงชัดเจน

ดังนั้น แม้ว่าราคาทองคำจะร่วงหลุด 4,000 ดอลลาร์ จากแรงกดดันระยะสั้นเรื่องการค้า แต่ภาพรวมที่ใหญ่กว่านั้นยังคงแข็งแกร่งอย่างยิ่ง ทั้งจากการที่สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่กำลังลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน, มุมมองเชิงบวกจากผู้เชี่ยวชาญที่คาดการณ์ระดับเกือบ 5,000 ดอลลาร์ และแรงหนุนที่มั่นคงจากธนาคารกลางทั่วโลกที่ยังคงต้องการกระจายความเสี่ยง การย่อตัวในครั้งนี้จึงอาจเป็นเพียงการสลัดนักลงทุนระยะสั้นออกไป ก่อนที่แนวโน้มขาขึ้นในระยะยาวจะดำเนินต่อไป

จากที่ได้ประเมินไว้ในวันก่อนหน้า สัญญาณการดีดตัวระยะสั้นจาก Stochastic RSI ที่เราจับตาดูอยู่ได้ล้มเหลวลงอย่างชัดเจน ราคาทองคำไม่สามารถสร้างฐานบริเวณ 4,000 ดอลลาร์ได้ และถูกแรงเทขายกดดันอย่างหนัก ทำให้ราคาปรับตัวลดลงทะลุแนวรับจิตวิทยา 4,000 ดอลลาร์ ลงมาอย่างรุนแรงตามที่ได้เตือนไว้

อย่างไรก็ตาม การร่วงลงครั้งนี้ไม่ได้ไร้ทิศทาง แต่กลับหยุดลงอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อราคาทองคำดิ่งลงไปบริวเณเส้นค่าเฉลี่ยระยะยาว EMA 200 (เส้นสีส้มหนาในกราฟ) และแนวรับ Fibonacci 38.2% ที่บริเวณ 3,903 ดอลลาร์ การที่ราคาสามารถหยุดและดีดตัวกลับขึ้นมาจากบริเวณนี้ได้ทันที แสดงให้เห็นว่าจุดนี้คือฐานแนวรับที่ตลาดให้ความสำคัญอย่างมาก

สิ่งที่น่าสนใจอย่างยิ่งในตอนนี้คือสัญญาณจากอินดิเคเตอร์ ซึ่งสนับสนุนการดีดตัวรอบนี้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะดัชนี Stochastic RSI ที่ได้สร้างสัญญาณ Bullish Crossover ครั้งใหม่ (เส้น %K สีน้ำเงิน ตัดขึ้นเหนือเส้น %D สีส้ม) และกำลังมุ่งหน้าออกจากเขต Oversold (ขายมากเกินไป)

นี่คือสัญญาณซื้อทางเทคนิคในระยะสั้นที่ค่อนข้างแข็งแรง ประกอบกับดัชนี RSI ที่เริ่มหักหัวขึ้นจากโซนล่าง สะท้อนว่า Momentum ฝั่งขายได้ชะลอตัวลงแล้ว และมีแรงซื้อเริ่มกลับเข้ามาพยุงราคา

ดังนั้น ราคาทองคำในอีก 24 ชั่วโมงข้างหน้า จึงมีโอกาสสูงที่ราคาจะพยายามดีดตัวกลับทางเทคนิค (Technical Rebound) ต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายแรกคือกลับไปทดสอบแนวต้านจิตวิทยาที่ 4,000 ดอลลาร์อีกครั้ง

หากมีแรงส่งมากพอ เป้าหมายถัดไปคือการทดสอบแนวต้าน 4,057 ดอลลาร์  อย่างไรก็ตาม ต้องมีจุดบริหารความเสี่ยงที่ชัดเจน หากการดีดตัวรอบนี้ล้มเหลวอีกครั้ง และราคาทองคำกลับลงไปซื้อขายต่ำกว่าแนวรับ EMA 200 หรือหลุด 3,900 ดอลลาร์อย่างเด็ดขาด นั่นจะเป็นสัญญาณลบอย่างรุนแรง และจะเปิดประตูให้ราคาทองคำดิ่งลงสู่เป้าหมายถัดไปที่แนวรับ Fibonacci 50.0% บริเวณ 3,747 ดอลลาร์ทันที

แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $3,950

• $3,903

• $3,823

แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $4,000

• $4,057

• $4,135