วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 15 ก.ย. 2568

กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้

เทรดทองเดี๋ยวนี้ >     

*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣ 

*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰 

*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁

ราคาทองคำ XAUUSD เช้าวันจันทร์ที่ 15 กันยายน ยังคงเคลื่อนไหวเหนือระดับ 3,25 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปัจจัยสำคัญที่ยังคงผลักดันราคาทองคำ มาจากความคาดหวังของนักลงทุนทั่วโลกที่มองว่าเฟดกำลังจะประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกของปีในการประชุมสำคัญที่กำลังจะมาถึงในวันพุธนี้ ซึ่งการคาดการณ์ดังกล่าวมีน้ำหนักมากขึ้นหลังจากตัวเลขในตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ออกมาอ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ไว้อย่างชัดเจน

ธนาคารกลางสหรัฐฯ ผู้เป็นปัจจัยหลักชี้ชะตาทองคำสัปดาห์นี้

หัวใจสำคัญที่นักลงทุนทองคำต้องจับตาอย่างใกล้ชิดในสัปดาห์นี้ คือการประชุมของเฟดในช่วงกลางสัปดาห์ ตลาดส่วนใหญ่คาดการณ์กันว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% (25 basis points) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่เริ่มส่งสัญญาณชะลอตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากตัวเลขการจ้างงานที่เติบโตช้าลงอย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม ยังมีนักวิเคราะห์บางส่วนที่มองไปไกลกว่านั้น และมองว่ามีความเป็นไปได้เล็กน้อยที่เฟดอาจจะสร้างความประหลาดใจด้วยการลดดอกเบี้ยถึง 0.50% (50 basis points) หากมองว่าเศรษฐกิจมีความเสี่ยงที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอยจริงๆ

Daniel Pavilonis นักยุทธศาสตร์การตลาดอาวุโสจาก RJO Futures ให้ความเห็น ว่าการที่เฟดจำเป็นต้องลดดอกเบี้ยเพื่อรับมือกับตัวเลขจ้างงานที่อ่อนแอและเงินเฟ้อที่ไม่แน่นอน กำลังผลักดันให้ราคาสินทรัพย์กลุ่มโลหะมีค่าปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากมีความเสี่ยงที่เงินเฟ้ออาจจะอยู่ในระดับสูงเป็นเวลานานในอนาคต

สัญญาณเศรษฐกิจสหรัฐฯ อ่อนแอ หนุนราคาทองพุ่ง

นอกเหนือจากตลาดแรงงานแล้ว ข้อมูลเศรษฐกิจอีกหนึ่งตัวที่ตอกย้ำภาพความอ่อนแอของเศรษฐกิจสหรัฐฯ คือดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน ซึ่งตัวเลขล่าสุดออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก สะท้อนให้เห็นว่าชาวอเมริกันมีความกังวลต่อสภาวะเศรษฐกิจมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง

Joanne Hsu ผู้อำนวยการฝ่ายสำรวจผู้บริโภคระบุ ว่าผู้คนยังคงมองเห็นช่องโหว่หลายอย่างในระบบเศรษฐกิจ ทั้งความเสี่ยงต่อภาคธุรกิจ ตลาดแรงงาน และปัญหาเงินเฟ้อที่กระทบต่อเงินในกระเป๋าของพวกเขาโดยตรง ความเชื่อมั่นที่ลดลงนี้เองที่ส่งผลให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยงและหันมาพักเงินในทองคำ ทำให้ราคาทองคำดีดตัวขึ้นทันทีหลังการประกาศตัวเลขดังกล่าว

Bill Adams หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก Comerica Bank เสริมว่าตอนนี้ เฟดกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าลำบากใจ ด้านหนึ่งต้องต่อสู้กับเงินเฟ้อที่ยังคงสูง แต่อีกด้านหนึ่งก็ต้องเผชิญกับตลาดแรงงานที่อ่อนแอลงอย่างน่าเป็นห่วง ซึ่งสถานการณ์นี้ทำให้การตัดสินใจนโยบายการเงินมีความซับซ้อนอย่างยิ่ง

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของข้อมูลเศรษฐกิจที่ดูไม่ค่อยสู้ดีนัก ยิ่งเพิ่มแรงกดดันให้เฟดต้องดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย ซึ่งเป็นผลดีต่อทิศทางของทองคำโดยตรง

นักวิเคราะห์มองทิศทางทองคำ มีทั้งโอกาสและความเสี่ยง

ในมุมมองของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ ทิศทางราคาทองคำในระยะยาวยังคงเป็นขาขึ้นอย่างชัดเจน Robert Minter ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์ ETF ของ abrdn เชื่อว่าการลดดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปของเฟด จะช่วยหนุนให้ราคาทองคำสามารถทะลุแนวต้านสำคัญที่ 3,700 ดอลลาร์ไปได้ 

แต่เขายังมองว่าความเสี่ยงส่วนใหญ่ยังคงเป็นด้านบวก หมายความว่ามีโอกาสที่ราคาจะพุ่งสูงกว่าที่คาดไว้ หากเฟดตัดสินใจลดดอกเบี้ยแรงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ เช่น ลดถึง 0.50% เพื่อป้องกันความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งสถานการณ์นี้ยังไม่ได้ถูกสะท้อนในราคาปัจจุบัน และอาจดันให้ทองคำพุ่งขึ้นไปอีกมาก

ในขณะที่ Ole Hansen หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์ของ Saxo Bank มอง ว่าแม้หลังการประชุมเฟดอาจเกิดแรงเทขายทำกำไรระยะสั้น แต่ภาพรวมยังคงแข็งแกร่ง และการย่อตัวที่เกิดขึ้น ถือเป็นโอกาสในการเข้าซื้อ โดยให้เป้าหมายระยะต่อไปที่ 3,800 ดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังความผันผวนระยะสั้น Michael Brown นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Pepperstone เตือน ว่าตลาดอาจจะมองโลกในแง่ดีเกินไปเกี่ยวกับการลดดอกเบี้ยของเฟด และมีความเป็นไปได้ที่เฟดจะสร้างความผิดหวังให้กับตลาด หากส่งสัญญาณว่าจะชะลอการลดดอกเบี้ยในครั้งถัดไป ซึ่งอาจทำให้เกิดแรงเทขายในทองคำ พันธบัตร และหุ้นได้ แต่อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังมองว่าการย่อตัวของทองคำเป็นโอกาสในการซื้อสะสมอยู่ดี

นอกจากนี้ อีกหนึ่งปัจจัยภายนอกที่ต้องจับตาคือการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งมีตัวแทนระดับสูงอย่าง Scott Bessent รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ และ He Lifeng รองนายกรัฐมนตรีจีนเข้าร่วม

หากการเจรจามีทิศทางที่ดีและช่วยลดความตึงเครียดลงได้ ก็อาจทำให้นักลงทุนกล้ากลับไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น และลดความน่าสนใจของทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยลงชั่วคราวได้เช่นกัน

กราฟราคาทองคำในราย 4 ชั่วโมง จะเห็นได้ว่าแนวโน้มล่าสุดเริ่มมีลักษณะของการเคลื่อนที่ในกรอบด้านข้าง หรือ Sideway มากขึ้น ซึ่งสะท้อนถึงสภาวะที่ตลาดกำลังขาดความเชื่อมั่นในการเลือกทิศทางอย่างชัดเจน

ปัจจัยสำคัญเบื้องหลังการเคลื่อนไหวในลักษณะนี้ คือการที่นักลงทุนส่วนใหญ่กำลังชะลอการซื้อขาย เพื่อรอคอยความชัดเจนจากผลการประชุมของเฟด ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ใหญ่ที่จะส่งผลกระทบต่อทิศทางของสินทรัพย์ทั่วโลก

กรอบการเคลื่อนไหวของราคาในขณะนี้ค่อนข้างชัดเจน โดยมีแนวรับสำคัญที่บริเวณ $3,625 ดอลลาร์ ซึ่งราคาได้ลงมาทดสอบหลายครั้งและยังสามารถยืนอยู่ได้ แสดงให้เห็นถึงแรงซื้อที่ยังคงหนาแน่นอยู่บริเวณนี้

ในขณะที่แนวต้านด้านบนจะอยู่ในโซน $3,655 - $3,680 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นบริเวณที่แรงขายกั้นไม่ให้ราคาปรับตัวขึ้น การที่ราคาวิ่งขึ้นลงอยู่ในกรอบนี้ บ่งบอกถึงการต่อสู้กันระหว่างแรงซื้อและแรงขายที่ยังไม่มีฝ่ายใดเป็นผู้ชนะอย่างเด็ดขาด

ในส่วนของอินดิเคเตอร์ทางเทคนิค ก็สนับสนุนมุมมองของตลาด Sideway ได้เป็นอย่างดี เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (EMA) เริ่มเคลื่อนตัวในแนวราบและบีบตัวเข้าหากันมากขึ้น สะท้อนถึงการขาดโมเมนตัมในการขับเคลื่อนราคาไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งอย่างชัดเจน

ขณะที่ดัชนี RSI วิ่งวนอยู่บริเวณกึ่งกลางแถวระดับ 50 ซึ่งเป็นโซนที่บ่งบอกถึงสภาวะสมดุลของตลาด ส่วน Stochastic RSI ที่พึ่งปรับตัวขึ้นจากโซน Oversole ก็ยังไปได้ไม่ไกล และยังคงเคลื่อนไหวอยู่โซนตรงกลางเช่นกัน

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในช่วง 24 ชั่วโมงข้างหน้า การเคลื่อนไหวของราคาทองคำจึงมีแนวโน้มที่จะยังคงแกว่งตัวอยู่ในกรอบ $3,625 - $3,660 ต่อไป

ดังนั้น กลยุทธ์ที่ปลอดภัยที่สุดคือการ “รอดูสถานการณ์” (Wait and See) และรอให้ราคาเลือกทิศทางที่ชัดเจนหลังข่าวออก โดยจุดตัดสินใจที่สำคัญ คือหากราคาสามารถทะลุผ่านแนวต้าน $3,680 ขึ้นไปได้อย่างแข็งแกร่ง จะเป็นสัญญาณยืนยันการกลับไปสู่แนวโน้มขาขึ้นอีกครั้ง

แต่ในทางกลับกัน หากราคาไม่สามารถยืนเหนือแนวรับ $3,625 และหลุดลงไปอย่างเด็ดขาด ก็จะเป็นสัญญาณเตือนถึงการปรับฐานที่อาจลึกกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยมีเป้าหมายถัดไปที่ $3,600 ดอลลาร์

แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $3,625

• $3,600

• $3,580

แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $3,655

• $3,680

• $3,700