วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 18 มี.ค. 2568

กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้

เทรดทองเดี๋ยวนี้ >     

*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣ 

*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰 

*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁

วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ประจำวันที่ 18 มีนาคม 2568 ราคาทองคำ XAU/USD พุ่งสูงขึ้นกว่า 0.40% ทะยานขึ้นแตะระดับ 3,003 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นับเป็นวันที่สองติดต่อกันที่ราคาทองแตะหลัก 3,000 ดอลลาร์ แรงหนุนสำคัญมาจากชุดข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่บ่งชี้ชัดว่าเศรษฐกิจกำลังชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ

บรรยากาศการลงทุนเริ่มคลายความกังวล สะท้อนจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ปรับตัวสูงขึ้น แม้จะเผชิญกับรายงานยอดค้าปลีกสหรัฐฯ เดือนกุมภาพันธ์ที่อ่อนแอ นอกจากนี้ ดัชนีภาคการผลิตของธนาคารกลางนิวยอร์ก ยังดิ่งลงอย่างรุนแรง จุดประกายความกังวลว่าเศรษฐกิจอาจกำลังจะเข้าสู่ภาวะถดถอย

ตลาดการเงินจึงเริ่มคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงถึง 64 เบสิสพอยต์ภายในสิ้นปีนี้ เหตุการณ์สำคัญที่นักลงทุนจับตามองในสัปดาห์นี้คือการประชุมนโยบายการเงินของ Fed ในวันพุธ ตามด้วยการแถลงข่าวของประธาน Fed Jerome Powell และการเปิดเผยสรุปการคาดการณ์เศรษฐกิจ (Summary of Economic Projections)

ในระหว่างนี้ ราคาทองคำยังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ลดลงและค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ลดลง 1 เบสิสพอยต์ มาอยู่ที่ 4.308% ขณะที่ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ (US Dollar Index) ซึ่งวัดค่าเงินดอลลาร์เทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลัก 6 สกุล ลดลง 0.35% มาอยู่ที่ 103.37

ภาคการผลิตนิวยอร์กดิ่งหนักสุดในรอบปี ส่งสัญญาณเตือนเศรษฐกิจถดถอย

ตลาดทองคำยังคงรักษาระดับราคาบริเวณ 3,000 ดอลลาร์ แต่นักวิเคราะห์หลายรายคาดการณ์ว่าโลหะมีค่านี้จะดึงดูดความต้องการในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น หลังจากข้อมูลจากธนาคารกลางนิวยอร์กแสดงให้เห็นถึงการหดตัวอย่างรุนแรงในภาคการผลิตของภูมิภาค

ธนาคารกลางในภูมิภาครายงานว่าดัชนี Empire State Manufacturing Survey ร่วงลงอย่างรุนแรงเหลือ -20.0 จากระดับ 5.7 ในเดือนกุมภาพันธ์ ข้อมูลนี้อ่อนแอกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้มาก เนื่องจากการคาดการณ์เดิมอยู่ที่ -1.9 ส่งผลให้ภาคการผลิตของนิวยอร์กกำลังประสบกับการลดลงที่เลวร้ายที่สุดในรอบหนึ่งปีเต็ม

รายงานยังชี้ให้เห็นถึงภัยคุกคามจากภาวะเศรษฐกิจชะงักงันพร้อมเงินเฟ้อสูง (stagflation) ที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาปัจจัยการผลิตเพิ่มขึ้นเร็วที่สุดในรอบสองปี ดัชนีราคาที่จ่าย (Prices Paid Index) เพิ่มขึ้นเป็น 44.9 จาก 40.0 ในเดือนกุมภาพันธ์ นับเป็นเดือนที่สามติดต่อกันที่ราคาปัจจัยการผลิตปรับตัวสูงขึ้น

องค์ประกอบของรายงานแสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอในวงกว้าง ดัชนีคำสั่งซื้อใหม่ (New Orders Index) ลดลงเหลือ -14.9 จากระดับ 11.4 ในการอ่านครั้งก่อน ขณะที่ดัชนีการจัดส่ง (Shipments Index) ลดลงเหลือ -8.5

รายงานยังเน้นย้ำถึงความอ่อนแอในตลาดแรงงาน โดยดัชนีจำนวนพนักงาน (Number of Employees Index) ลดลงเหลือ -4.1 จาก -3.6 ในเดือนกุมภาพันธ์

ยอดค้าปลีกสหรัฐฯ ต่ำกว่าคาด ทองคำฟื้นตัวจากจุดต่ำสุด

ตลาดทองคำฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดของช่วงการซื้อขายเมื่อวาน หลังจากข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคชาวอเมริกันเติบโตในอัตราที่อ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือนที่แล้ว

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ประกาศเมื่อวันจันทร์ว่า ยอดค้าปลีกสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเพียง 0.2% ในเดือนกุมภาพันธ์ ตามหลังการปรับลดลง 1.2% ในเดือนมกราคม ตัวเลขนี้แย่กว่าที่คาดการณ์ไว้มาก เนื่องจากฉันทามติของนักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.6% ในตัวเลขหลักของเดือนกุมภาพันธ์

ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 3.1% ต่ำกว่าที่คาดไว้ที่ 3.5% และลดลงจาก 3.9% ในเดือนมกราคมที่มีการปรับปรุงตัวเลข

ยอดขายหลัก (Core sales) ซึ่งไม่รวมยอดขายยานพาหนะ เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนที่แล้ว ต่ำกว่าการคาดการณ์ที่ 0.4% และเทียบกับการลดลง 0.6% ในเดือนมกราคม ข้อมูลนี้ยิ่งตอกย้ำว่าผู้บริโภคกำลังระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้นท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ

ความกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอยหนุนราคาทองคำ ขณะที่เหรียญเงินดิ่งหนัก

การขายทำกำไรในตลาดหุ้นและความกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่เพิ่มสูงขึ้นกำลังขับเคลื่อนความต้องการทองคำอย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่ยอดขายเหรียญเงินกำลังลดลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากต้นทุนและอัตรากำไรที่สูงทำให้ผู้ซื้อเริ่มถอยห่าง ตามการวิเคราะห์ของนักวิเคราะห์โลหะมีค่าที่บริษัท Heraeus

ในการอัปเดตล่าสุด นักวิเคราะห์ระบุว่าท่าทีที่พยายามเลี่ยงความเสี่ยงในปัจจุบันของตลาดกำลังเพิ่มความน่าดึงดูดให้กับทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

ความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่อาจเกิดขึ้นในสหรัฐฯ กลับมาเป็นจุดสนใจอีกครั้ง โดยตลาดหุ้นเริ่มแสดงสัญญาณของความตึงเครียด ดัชนี S&P 500 ตอนนี้ต่ำกว่า 2% เมื่อเทียบกับวันที่ 5 พฤศจิกายน 2024 เมื่อ Donald Trump ได้รับเลือก เนื่องจากความไม่แน่นอนที่ยังคงมีอยู่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางการค้าส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน

เมื่อวันที่ 7 มีนาคม กองทุนเฮดจ์ฟันด์ได้ยกเลิกสถานะหุ้นรายตัวในระดับที่เทียบเท่ากับเดือนมีนาคม 2020 สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญไปสู่การลดความเสี่ยง

ด้านเรื่องเศรษฐกิจถดถอย ส่วนต่างของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี และ 2 ปี กลับมาเป็นบวกในช่วงปลายปี 2024 หลังจากอยู่ในช่วงติดลบตั้งแต่เดือนตุลาคม 2022 ในทางประวัติศาสตร์

การกลับมาเป็นบวกเช่นนี้มักเกิดขึ้นก่อนการถดถอยทางเศรษฐกิจประมาณ 6-12 เดือน ซึ่งทำให้ไตรมาสแรกของปี 2025 อยู่ในช่วงเริ่มต้นของหน้าต่างนี้ การเปลี่ยนแปลงในความคาดหวังทางเศรษฐกิจนี้ ประกอบกับความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์และการค้าที่เพิ่มขึ้น ได้เสริมสร้างตำแหน่งของทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

Heraeus กล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงนี้กำลังปรากฏชัดในสถานะการลงทุนในตลาดฟิวเจอร์สแล้ว ผู้จัดการการลงทุนยังคงถือทองคำสุทธิมากกว่าปกติถึง 65% ของเวลานับตั้งแต่เดือนมกราคม 2020

นักวิเคราะห์ระบุว่านับตั้งแต่ต้นปี 2025 ความสนใจเปิดสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 10% ในทางตรงกันข้าม ความสนใจเปิดสัญญาซื้อขายเงินล่วงหน้าลดลง 13% ในเพียงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนกุมภาพันธ์ หลังจากที่การเลื่อนภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ต่อแคนาดาและเม็กซิโกได้รับการยืนยัน พร้อมกับการขู่เพิ่มภาษีทั่วโลก

นักวิเคราะห์ระบุเพิ่มว่าที่น่าสังเกตคือ การหมุนเวียนเข้าสู่ทองคำนี้ เกิดขึ้นแม้ว่าตลาดหุ้นจะยังคงแข็งแกร่งสำหรับช่วงส่วนใหญ่ของปี 2025 (การลดลงเริ่มต้นในวันที่ 20 กุมภาพันธ์)

และแม้ว่าการขายทำกำไรในตลาดหุ้นสหรัฐฯ อาจจะอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่ทองคำกำลังดึงดูดกระแสเงินทุนจากการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงแล้ว 

ในเดือนมกราคม กระแสเงินทุนสุทธิไหลเข้ากองทุน ETF ทองคำในสหรัฐฯ มีมูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ ในขณะที่ตัวเลขในเดือนกุมภาพันธ์อยู่ที่เกือบ 8 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นยอดรวมรายเดือนสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2022

หากข้อมูลเศรษฐกิจยังคงอ่อนแอลงและสงครามภาษีทั่วโลกทวีความรุนแรงขึ้น ทองคำจะยังคงได้รับประโยชน์ต่อไป

ราคาทองคำกำลังเคลื่อนไหวที่ $3,004 ซึ่งเป็นจุดสำคัญมากเพราะเป็นการทะลุระดับจิตวิทยา $3,000 และตรงกับแนวต้าน 127.20% Fibonacci ที่ $3,004 พอดี นี่เป็นสัญญาณบวกที่ชัดเจนต่อเนื่องจากการวิเคราะห์ก่อนหน้า

ภาพรวมทางเทคนิคยังคงบ่งชี้แนวโน้มขาขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยราคาทะลุผ่านแนวต้านสำคัญ ทั้งยังเคลื่อนตัวอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ทั้งหมด โดยเฉพาะ EMA 12 (แดง) และ EMA 26 (ฟ้า) ที่ชี้ขึ้นชัดเจนและการเรียงตัวของเส้นค่าเฉลี่ยยังคงเป็นรูปแบบตลาดขาขึ้นที่สมบูรณ์

ดัชนี RSI กำลังเคลื่อนไหวที่ประมาณ 70 ซึ่งใกล้เขต Overbought แต่ยังไม่ได้แสดงการก่อตัวของ Bearish Divergence แบบชัดเจน ส่วน Stochastic RSI มีการปรับตัวลง แต่ยังไม่ได้แสดงสัญญาณขายที่ชัดเจน

ในระยะ 24 ชั่วโมงข้างหน้า คาดว่าราคาจะทดสอบแนวต้านถัดไปที่ $3,019 (แนวเส้น 141.40%) และหากผ่านได้อาจไปถึง $3,037 (แนวเส้น 161.80%) อย่างไรก็ตาม เนื่องจากราคาปรับตัวขึ้นมาเร็วและแรง มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการพักฐานระยะสั้นลงมาทดสอบแนวรับที่ $3,000 (ระดับจิตวิทยา) และ $2,976 (แนวรับจากเส้น EMA ระยะสั้น)

รูปแบบแท่งเทียนล่าสุดแสดงการทรงตัวในกรอบแคบหลังจากการปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดกำลังดูดซับแรงขายและเตรียมพร้อมสำหรับการเคลื่อนไหวครั้งใหม่ แสดงถึงความสนใจของตลาดที่มีต่อทองคำในระดับนี้

นักลงทุนควรติดตามแนวต้านสำคัญที่ $3,019 และ $3,037 พร้อมกับระมัดระวังการเกิดภาวะ Overbought ที่อาจนำไปสู่การปรับฐานระยะสั้น ในกรณีที่มีการพักฐาน แนวรับสำคัญอยู่ที่ $3,000, $2,976 และ $2,956 ตามลำดับ แนวโน้มหลักยังคงเป็นขาขึ้น จึงควรพิจารณาใช้จังหวะพักฐานเป็นโอกาสในการเข้าซื้อเพิ่ม

แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $2,975

• $2,956

• $2,935

แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $3,004

• $3,019

• $3,037