Palantir ทำผลงานเกินคาดใน Q3 แต่ซ่อน "ฟองสบู่ AI" ไว้ภายใน

แหล่งที่มา Tradingkey

TradingKey – หลังตลาดปิดการซื้อขายในวันที่ 4 พฤศจิกายน บริษัท Palantir Technologies (PLTR) หรือที่ถูกขนานนามว่า “ราชาแห่งแอปพลิเคชัน AI” ได้ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ปีงบประมาณ 2025 ซึ่งออกมาดีกว่าคาดอย่างมาก ทั้งรายได้เติบโตทะยาน ยอดออเดอร์พุ่ง และกำไรทำสถิติใหม่ — แต่ราคาหุ้นกลับร่วงทันทีในช่วงหลังตลาด

สิ่งที่เพิ่มแรงกดดันมากขึ้นคือการที่ Michael Burry ผู้จัดการกองทุนชื่อดังจาก “The Big Short” เปิดเผยว่าได้เปิดสถานะ “ชอร์ต” หุ้น Palantir มูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์

คำถามจึงเกิดขึ้นว่า — ทำไมผลประกอบการดีเยี่ยม แต่ราคาหุ้นกลับร่วง?

ภาพรวมงบ Q3 ของ Palantir

Palantir รายงานรายได้ไตรมาส 3 อยู่ที่ 1.18 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 63% YoY และ 18% QoQ ถือเป็นครั้งที่ 21 ติดต่อกันที่บริษัททำรายได้เกินประมาณการของตลาด (คาดไว้ที่ 1.09 พันล้านดอลลาร์)

ที่โดดเด่นกว่านั้นคือ กำไรสุทธิพุ่งจาก 140 ล้านดอลลาร์ (ปีก่อนหน้า) เป็น 480 ล้านดอลลาร์ ในปีนี้ เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่า YoY และ 46% QoQ

แยกตามกลุ่มธุรกิจ

1. กลุ่มธุรกิจเชิงพาณิชย์ (Commercial Business)

ยังคงเป็นเครื่องยนต์หลักของการเติบโต รายได้เชิงพาณิชย์เพิ่มจาก 30.6 พันล้านดอลลาร์ → 39.7 พันล้านดอลลาร์ ในไตรมาสเดียว (+30% QoQ) และตอนนี้คิดเป็นเกือบ “ครึ่งหนึ่ง” ของรายได้รวมทั้งหมด

แรงขับเคลื่อนสำคัญมาจากการใช้งาน AIP (Artificial Intelligence Platform) ที่เป็น “เทมเพลตมาตรฐาน” สามารถนำไปใช้ซ้ำได้ในหลายอุตสาหกรรม ทำให้บริษัทขยายได้เร็วขึ้นและมี อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Margin) สูงถึง 82%

ขณะที่ อัตรากำไรสุทธิ (Net Margin) พุ่งแตะ 40% เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 7.7 จุดเปอร์เซ็นต์

ลูกค้ารายใหญ่เริ่มขยายการใช้บริการจาก “โมดูลเดี่ยว” ไปสู่ “โซลูชันครบชุด” ของ AIP มากขึ้น มูลค่าสัญญาใหม่จากลูกค้าธุรกิจเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่าในไตรมาสเดียว แตะ 1.31 พันล้านดอลลาร์

2. กลุ่มธุรกิจภาครัฐ (Government Business)

ยังคงเป็นฐานรายได้ที่มั่นคงรายได้ภาครัฐเพิ่มจาก 42.6 พันล้านดอลลาร์ → 48.6 พันล้านดอลลาร์ (+14% QoQ) แม้สหรัฐฯ ยังคงเป็นลูกค้าหลัก แต่ Palantir ก็กำลังขยายสู่ต่างประเทศ เช่น สหราชอาณาจักร เยอรมนี และโปแลนด์ ซึ่งช่วยเพิ่มรายได้ในกลุ่มพันธมิตร NATO อย่างต่อเนื่อง

Palantir-Rev-by-Segments

Data Sources: Reuters, TradingKey As of: November 4, 2025 

Palantir-Rev-Structure

ที่มา: Reuters, TradingKey November 4, 2025 

คำถามสำคัญจากนักลงทุน

1. ลูกค้ารายใหญ่เพิ่มขอบเขตการใช้งานหรือไม่?

ใช่ — ทั้งภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะในสหรัฐฯ Palantir เพิ่มลูกค้าใหม่สุทธิ 62 รายในไตรมาสนี้ ในจำนวนนี้ 50 รายเป็นลูกค้าเชิงพาณิชย์ และ 45 รายอยู่ในสหรัฐฯ ธุรกิจขยายตัวไปไกลกว่าเดิม ครอบคลุมภาค สาธารณสุข พลังงาน การผลิต และอื่น ๆ

Palantir-Net-Adds-of-Different-Customers

ที่มา Reuters, TradingKey November 4, 2025 

2. การแปลงคำสั่งซื้อและตัวชี้วัดการดำเนินงานเป็นอย่างไร?

มูลค่าสัญญารวม (TCV) ในไตรมาส 3 อยู่ที่ 2.76 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 490 ล้านดอลลาร์จากไตรมาสก่อน ขณะที่มูลค่ารายได้รอรับรู้ (RPO) อยู่ที่ 2.6 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 66% YoY แต่เติบโตเพียง 180 ล้านดอลลาร์ QoQ — ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า

Palantir-TVC-Booked-Value

ที่มา Reuters, TradingKey November 4, 2025 

3. ลูกค้าเก่ายังภักดีต่อแบรนด์หรือไม่?

ยังคงแข็งแกร่งมาก — ยอดใช้จ่ายจากลูกค้าเดิมเติบโตถึง 134% YoY อัตราการรักษาลูกค้า (Net Dollar Retention) ของกลุ่มลูกค้าเชิงพาณิชย์ในสหรัฐฯ อยู่ที่ 130% หมายความว่า ลูกค้าเดิมใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเฉลี่ยมากกว่า 30% ต่อปี นอกจากนี้ ยอดหนี้สินจากสัญญาลูกค้า (รวมเงินมัดจำ) เพิ่มขึ้น 50 ล้านดอลลาร์จากไตรมาสก่อน

4. ทิศทางของธุรกิจภาครัฐและพันธมิตรด้านกลาโหม?

สหรัฐฯ และพันธมิตร NATO กำลังเพิ่มงบประมาณกลาโหมในปีงบประมาณหน้า Palantir ได้เริ่มนำระบบ AIP ไปใช้ใน “การฝึกซ้อมร่วมทางทหาร” และคาดว่าจะขยายรายได้ในช่องทางนี้ได้อีก บริษัทประเมินว่ามี “ดีลรอการลงทุน (Pipeline) ที่อาจสูงกว่า 5 พันล้านดอลลาร์

งบดุล (Balance Sheet): แข็งแกร่ง และมีสภาพคล่องสูง

ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2025

  • อัตราส่วนสภาพคล่อง (Current Ratio) อยู่ที่ 6.43 ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม (1.5) หลายเท่า
  • บริษัทไม่มีหนี้สินที่ก่อดอกเบี้ย (interest-bearing debt)
  • เงินสดและหลักทรัพย์เทียบเท่าเงินสดอยู่ที่ 6.4 พันล้านดอลลาร์ คิดเป็น 78.9% ของสินทรัพย์รวม

เรียกได้ว่า Palantir มี “กระสุน” เพียงพอสำหรับการลงทุนวิจัย AI และการขยายตลาดทั่วโลกต่อเนื่อง

กระแสเงินสด (Cash Flow): คุณภาพกำไรสูง และแข็งแรงมาก

  • กำไรสุทธิไตรมาส 3: 476 ล้านดอลลาร์
  • กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน (Operating Cash Flow): 508 ล้านดอลลาร์
  • ส่วนต่างเพียง 32 ล้านดอลลาร์ แสดงถึง “คุณภาพกำไร” ที่แท้จริง
  • กระแสเงินสดอิสระปรับปรุงแล้ว (Adjusted FCF): 540 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 46% ของรายได้

เงินสดส่วนเกินเหล่านี้ช่วยให้บริษัทสามารถลงทุนต่อยอด R&D โดยเฉพาะ AIP และเพิ่มงบขยายฐานลูกค้าเชิงรุกได้เต็มที่

แล้วทำไมราคาหุ้น Palantir ถึงร่วง?

แม้ผลประกอบการจะยอดเยี่ยมทุกด้าน แต่ตลาดกลับตอบสนองอย่างระมัดระวัง ราคาหุ้น Palantir พุ่งขึ้น 3% ระหว่างวัน แต่กลับ ร่วง 4.3% หลังตลาดปิด ทันทีหลังประกาศงบ

คำตอบสั้น ๆ คือ: ราคาหุ้นแพงเกินไปแล้ว

ณ ปัจจุบัน มูลค่าตลาดของ Palantir อยู่ใกล้ 500 พันล้านดอลลาร์ คิดเป็นอัตรา ราคาต่อรายได้ (P/S) ราว 100 เท่า และ ราคาต่อกำไร (P/E) พุ่งถึง 640 เท่า แม้จะเติบโตปีละกว่า 50% ต่อเนื่องหลายปี แต่ระดับราคาปัจจุบันได้ “สะท้อนความสมบูรณ์แบบ” ไปแล้ว เพียงการชะลอตัวเล็กน้อย ก็อาจทำให้เกิดการปรับฐานอย่างรุนแรง

โดยภาพรวมแล้ว สมมติฐานเรื่องขนาดตลาดรวมที่เข้าถึงได้ (Total Addressable Market: TAM) ในระยะยาวยังดู “เกินจริง” อยู่ นักลงทุนสายกระทิงบางรายประเมิน TAM ของ Palantir ไว้ที่ 1 ล้านล้านดอลลาร์ — เกือบ 10 เท่าของตัวเลขราว 120,000 ล้านดอลลาร์ที่บริษัทเคยระบุไว้เองในเอกสารยื่น IPO อีกทั้งแม้แต่เป้าหมาย “เติบโต 10 เท่าใน 5 ปี” ของ CEO อย่าง Alex Karp ก็ยังยากจะสอดคล้องกับการประเมิน TAM ที่มองโลกในแง่ดีถึงขนาดนั้น

ยิ่งไปกว่านั้น จุดแข็งบางอย่างของ Palantir อาจกลายเป็นข้อจำกัดในอนาคต:

  • ความผูกพันอย่างลึกซึ้งกับกองทัพสหรัฐฯ แม้ช่วยให้คว้าสัญญาด้านกลาโหมของรัฐบาลกลาง (เช่น ดีลมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์กับกองทัพบกสหรัฐฯ ล่าสุด) แต่อาจจำกัดการยอมรับในภูมิภาคที่อ่อนไหวทางภูมิรัฐศาสตร์ รัฐบาลยุโรปหลายประเทศกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวของข้อมูล อธิปไตยด้านดิจิทัล และความมั่นคง ซึ่งอาจกดเพดานศักยภาพการเติบโตนอกสหรัฐฯ
  • แม้ AIP จะรองรับการนำโมดูลกลับมาใช้ซ้ำข้ามอุตสาหกรรม แต่การใช้งานจริงระดับลึกยังต้องอาศัยการปรับแต่งอย่างมาก Palantir มักต้องส่งวิศวกรไปทำงานร่วมกับลูกค้าที่หน้างานเพื่อวางโครงสร้างพื้นฐานร่วมกัน สิ่งนี้จำกัดสเกลการขยายตัวและทำให้ต้นทุนการได้มาซึ่งลูกค้ายังคงสูง

4 ความเสี่ยงหลักที่นักลงทุนต้องจับตา

1. TAM ที่เกินจริง (Unsupported TAM Projection)

จาก 120 พันล้านดอลลาร์ในยุค IPO ถูกขยายเป็น 1 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งยังไม่สอดคล้องกับผลลัพธ์จริง การเติบโตในสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง (รายได้จากหน่วยงานรัฐบาลโต 53% YoY) แต่การขยายไปต่างประเทศอาจถูกจำกัดจากปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์และข้อกำหนดด้านข้อมูล

2. ข้อจำกัดด้านการปรับแต่ง (Customization Bottleneck)

แม้ระบบ AIP จะมีโมดูลแบบสำเร็จรูป แต่การติดตั้งจริงยังต้องใช้ทีมวิศวกร onsite จึงยังไม่สามารถสร้าง “economy of scale” ได้เต็มที่ และต้นทุนต่อการขยายลูกค้ายังสูง

3. ความอ่อนไหวทางภูมิรัฐศาสตร์

สถานะของ Palantir ในฐานะบริษัทเทคโนโลยีสายทหาร ทำให้หลายประเทศลังเลจะใช้ระบบ โดยเฉพาะประเทศในยุโรปและ NATO ที่ให้ความสำคัญกับอธิปไตยทางข้อมูล

4. มูลค่าหุ้นแตะเพดาน

ด้วยอัตรา P/E มากกว่า 600 เท่า และ P/S เกิน 100 เท่า ราคาหุ้นของ Palantir แพงกว่า Nvidia (P/S ~45 เท่า) หลายเท่า การรักษาอัตราเติบโตระดับ 50% ต่อปีต่อเนื่องหลายปีถือเป็นโจทย์ยาก และหากพลาดเพียงเล็กน้อย ราคาหุ้นอาจถูกปรับลดลงอย่างรุนแรง

แม้ Palantir จะรายงานผลประกอบการที่ยอดเยี่ยมและมีสภาพคล่องทางการเงินสูง แต่ราคาหุ้นในปัจจุบันสะท้อน “ความคาดหวังที่เกินจริง” จนเกือบแตะระดับฟองสบู่ นักลงทุนจึงควรระมัดระวัง เพราะแม้บริษัทจะยังมีศักยภาพเติบโตจาก AI และภาครัฐ แต่เมื่อการประเมินมูลค่าทะยานไปไกลเกินพื้นฐาน ความผันผวนก็อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ

ลิงค์เดิม

เนื้อหานี้แปลโดย AI ซึ่งอาจมีข้อผิดพลาดจากข้อจำกัดทางเทคโนโลยีและภาษา จึงไม่สามารถรับประกันความถูกต้อง และความสมบูรณ์ของเนื้อหาได้ทั้งหมด ในการนำข้อมูลไปใช้ โปรดอ้างอิงจากต้นฉบับ และใช้วิจารณญาณประกอบการตัดสินใจ ทั้งนี้ บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายหรือความเข้าใจผิดใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการใช้เนื้อหาดังกล่าว

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: เพื่อการอ้างอิงเท่านั้น ผลการดำเนินงานในอดีตไม่ได้บ่งบอกถึงผลลัพธ์ในอนาคต
placeholder
การคาดการณ์ราคาน้ำมัน WTI: น้ำมันดิบท้าทาย SMA 50 วัน ขณะที่การคว่ำบาตรของสหรัฐฯ กระตุ้นขาขึ้นใหม่West Texas Intermediate (WTI) พุ่งขึ้นในวันพฤหัสบดี ขยายการปรับตัวขึ้นเป็นวันที่สามติดต่อกัน หลังจากที่สหรัฐฯ ได้กำหนดมาตรการลงโทษต่อบริษัทพลังงานขนาดใหญ่ของรัสเซีย Rosneft และ Lukoil ซึ่งกระตุ้นความกังวลเกี่ยวกับอุปทาน
ผู้เขียน  FXStreet
10 เดือน 24 วัน ศุกร์
West Texas Intermediate (WTI) พุ่งขึ้นในวันพฤหัสบดี ขยายการปรับตัวขึ้นเป็นวันที่สามติดต่อกัน หลังจากที่สหรัฐฯ ได้กำหนดมาตรการลงโทษต่อบริษัทพลังงานขนาดใหญ่ของรัสเซีย Rosneft และ Lukoil ซึ่งกระตุ้นความกังวลเกี่ยวกับอุปทาน
placeholder
AUDUSD ปรับตัวสูงขึ้นอยู่ที่ประมาณ 0.6550 ก่อนการประกาศนโยบายการเงินของ RBAในช่วงเซสชันการซื้อขายยุโรปวันจันทร์ คู่ AUDUSD เคลื่อนไหวสูงขึ้น 0.11% ที่บริเวณ 0.6555 คู่เงินออสซี่ปรับตัวขึ้นเนื่องจากดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD) ทำผลงานได้ดีกว่าสกุลเงินคู่แข่งก่อนการประกาศนโยบายการเงินของธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ในวันอังคาร
ผู้เขียน  FXStreet
11 เดือน 03 วัน จันทร์
ในช่วงเซสชันการซื้อขายยุโรปวันจันทร์ คู่ AUDUSD เคลื่อนไหวสูงขึ้น 0.11% ที่บริเวณ 0.6555 คู่เงินออสซี่ปรับตัวขึ้นเนื่องจากดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD) ทำผลงานได้ดีกว่าสกุลเงินคู่แข่งก่อนการประกาศนโยบายการเงินของธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ในวันอังคาร
placeholder
USD/JPY ลดลงใกล้ 153.2 เนื่องจากความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการปิดรัฐบาลสหรัฐในช่วงเช้าของตลาดลงทุนเอเชียวันพุธ คู่ USDJPY ดึงดูดผู้ขายบางส่วนมาที่บริเวณ 153.2 ดอลลาร์สหรัฐ (USD) ขยับลงเมื่อเทียบกับเงินเยนของญี่ปุ่น (JPY) ท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการปิดรัฐบาลของสหรัฐฯ ที่ยังคงดำเนินอยู่
ผู้เขียน  FXStreet
8 ชั่วโมงที่แล้ว
ในช่วงเช้าของตลาดลงทุนเอเชียวันพุธ คู่ USDJPY ดึงดูดผู้ขายบางส่วนมาที่บริเวณ 153.2 ดอลลาร์สหรัฐ (USD) ขยับลงเมื่อเทียบกับเงินเยนของญี่ปุ่น (JPY) ท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการปิดรัฐบาลของสหรัฐฯ ที่ยังคงดำเนินอยู่
placeholder
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการปิดรัฐบาลสหรัฐฯในช่วงเวลาการซื้อขายของเอเชียในวันพุธ ราคาทองคํา (XAUUSD) ขยับสูงขึ้นใกล้ $3,950 ความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการปิดรัฐบาลของสหรัฐฯ ที่ยังคงดำเนินอยู่ รวมถึงความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์และความไม่แน่นอน อาจช่วยหนุนกระแสการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อราคาทองคํา
ผู้เขียน  FXStreet
4 ชั่วโมงที่แล้ว
ในช่วงเวลาการซื้อขายของเอเชียในวันพุธ ราคาทองคํา (XAUUSD) ขยับสูงขึ้นใกล้ $3,950 ความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการปิดรัฐบาลของสหรัฐฯ ที่ยังคงดำเนินอยู่ รวมถึงความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์และความไม่แน่นอน อาจช่วยหนุนกระแสการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อราคาทองคํา
placeholder
ราคาน้ำมันดิบ WTI ยังคงลดลงใกล้ระดับ $60.00 จากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังในสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต (WTI) ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 60.00 ดอลลาร์ในช่วงเวลาการซื้อขายของเอเชียในวันพุธ ราคาน้ำมัน WTI ยังคงปรับตัวลดลงท่ามกลางการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ
ผู้เขียน  FXStreet
2 ชั่วโมงที่แล้ว
น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต (WTI) ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 60.00 ดอลลาร์ในช่วงเวลาการซื้อขายของเอเชียในวันพุธ ราคาน้ำมัน WTI ยังคงปรับตัวลดลงท่ามกลางการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ
goTop
quote