การคาดการณ์ราคาเงิน: XAG/USD ปรับตัวสูงขึ้นเมื่อการปรับลดอันดับเครดิตของ Moody’s ทำให้ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง
- ราคาทองคำเงินปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากความอ่อนแอของดอลลาร์สหรัฐช่วยเพิ่มความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยทางเลือก
- ความเสี่ยงด้านเครดิตทำให้แนวโน้มของสหรัฐฯ มืดมนขึ้น ส่งผลให้ความต้องการสินทรัพย์ทางเลือกเพิ่มขึ้น
- XAG/USD ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ต่ำกว่า $33.00 ขณะที่ช่วงแคบจำกัดโมเมนตัมขาขึ้น
โลหะเงิน (XAG/USD) กำลังซื้อขายอยู่ที่ระดับสูงขึ้นเล็กน้อยในวันจันทร์ โดยรักษาระดับเหนือ $32.00 ในช่วงเซสชั่นของสหรัฐฯ เนื่องจากความอ่อนแอโดยรวมของดอลลาร์สหรัฐช่วยกระตุ้นความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยทางเลือก การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ Moody’s ปรับลดอันดับเครดิตของสหรัฐฯ ซึ่งเพิ่มความกังวลในตลาดเกี่ยวกับความยั่งยืนทางการคลังและแนวโน้มการเติบโตในระยะยาว
ในขณะที่เขียน ราคาทองคำเงินเพิ่มขึ้น 0.05% ในวันนั้น โดยราคาสปอต XAG/USD ล่าสุดอยู่ที่ประมาณ $32.30 โลหะนี้กำลังพยายามที่จะกลับคืนสู่เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อย่างง่าย 50 วันที่ใกล้ $32.75 ซึ่งได้จำกัดการเพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
การปรับลดอันดับเครดิตของสหรัฐฯ โดย Moody’s ทำให้ดอลลาร์ถอยกลับ
เมื่อวันศุกร์ Moody’s Investors Service ได้ปรับลดอันดับเครดิตของสหรัฐฯ จาก AAA เป็น AA1 โดยอ้างถึงความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับระดับหนี้ที่พุ่งสูงขึ้น ความไม่แน่นอนทางนโยบาย และผลกระทบในระยะยาวจากอัตราดอกเบี้ยที่สูง นี่เป็นการปรับลดอันดับเครดิตจากหน่วยงานหลักสุดท้ายที่ทำให้สหรัฐฯ สูญเสียอันดับเครดิตระดับสูงสุด ซึ่งทำให้เกิดความตื่นตระหนกเกี่ยวกับเส้นทางการคลังของประเทศและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาว
หลังจากนั้น ดอลลาร์สหรัฐได้เผชิญกับแรงกดดันใหม่ โดยดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ลดลงเมื่อผู้ลงทุนประเมินสถานะของเงินดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัยที่โดดเด่นของโลก
เนื่องจากโลหะเงินมีราคาเป็นดอลลาร์ ความอ่อนแอสัมพัทธ์ของ USD ได้เพิ่มความน่าสนใจของโลหะมีค่า
ภัยคุกคามจากภาษี ความไม่แน่นอนทางการค้า และการเปลี่ยนแปลงนโยบายของเฟดทำให้โลหะเงินยังคงอยู่ในความสนใจ
ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่กำลังดำเนินอยู่และภัยคุกคามจากภาษีของรัฐบาลทรัมป์ก็ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกในตลาดเช่นกัน
ทำเนียบขาวได้ย้ำในช่วงสุดสัปดาห์ว่าภาษีที่สูงอาจถูกนำกลับมาใช้ใหม่กับประเทศที่ไม่เจรจาใน "เจตนาดี" ซึ่งทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดทางการค้าและห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก
ในขณะเดียวกัน ความสนใจของตลาดได้เปลี่ยนไปที่การพูดคุยของเจ้าหน้าที่เฟดในสัปดาห์นี้
เจ้าหน้าที่เฟดห้าคนมีกำหนดจะพูดในวันจันทร์ และนักเทรดกำลังจับตามองอย่างใกล้ชิดเพื่อหาสัญญาณเกี่ยวกับแนวโน้มของอัตราดอกเบี้ยและว่าเฟดจะรักษาท่าทีที่เข้มงวดไว้ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการคลังและการเมืองที่เพิ่มขึ้นหรือไม่
XAG/USD เคลื่อนไหวในช่วงแคบต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่สำคัญ ขณะที่โมเมนตัมหยุดชะงัก
โลหะเงิน (XAG/USD) กำลังซื้อขายอยู่ที่ระดับสูงขึ้นเล็กน้อยใกล้ $32.33 ในวันจันทร์ แต่ยังคงถูกจำกัดอยู่ในช่วงการรวมตัวที่แคบต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อย่างง่าย 50 วันที่ $32.75
โลหะนี้ประสบปัญหาในการสร้างโมเมนตัมที่ยั่งยืน โดยมีแนวต้านเกิดขึ้นรอบ ๆ โซน $33.00 ถึง $33.23 ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กำหนดโดยจุดสูงสุดล่าสุดและอุปสรรคแนวนอน
ในด้านลบ แนวรับทันทีอยู่ที่ระดับ 61.8% Fibonacci retracement ของช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายนที่ $32.07 ตามด้วยเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 วันที่ $31.96
ความอ่อนแอเพิ่มเติมอาจเปิดเผยจุดกึ่งกลางของการเคลื่อนไหวที่กล่าวถึงข้างต้นที่ $31.29
โมเมนตัมยังคงเป็นกลาง โดยสะท้อนจากดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI) ที่อยู่ใกล้ 47.57 ซึ่งไม่มีสัญญาณทิศทางที่ชัดเจน
เว้นแต่ XAG/USD จะทะลุขึ้นไปเหนือ $33.23 หรือหลุดลงต่ำกว่า $31.96 คู่เงินนี้น่าจะยังคงเคลื่อนไหวในช่วงแคบในระยะสั้น ขณะที่นักเทรดรอคอยปัจจัยพื้นฐานที่จะขับเคลื่อนการเคลื่อนไหวครั้งถัดไป
กราฟรายวันของโลหะเงิน (XAG/USD)
โลหะเงิน FAQs
แร่เงินเป็นโลหะมีค่าที่มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนอย่างมากในหมู่นักลงทุน ในอดีต โลหะเงินถูกใช้เป็นสินทรัพย์สะสมมูลค่าและเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน แม้ว่าจะได้รับความนิยมน้อยกว่าทองคํา แต่นักลงทุนอาจหันไปใช้โลหะเงินเพื่อกระจายพอร์ตการลงทุนของตนเพื่อสะสมมูลค่า หรือเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในช่วงที่มีอัตราเงินเฟ้อสูง นักลงทุนสามารถซื้อโลหะเงินจริงในรูปแบบของเหรียญ ในรูปแบบของแท่งหรือซื้อขายผ่านตัวกลางเช่น Exchange Traded Funds ซึ่งอ้างอิงราคาโลหะเงินในตลาดต่างประเทศ
ราคาโลหะเงินสามารถเคลื่อนไหวได้จากปัจจัยหลายประการ ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์หรือความกลัวต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงอาจทําให้ราคาโลหะเงินเพิ่มขึ้นจากสถานะสินทรัพย์ปลอดภัย แม้ว่าจะได้รับความสนใจน้อยกว่าทองคําก็ตาม ในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทน โลหะเงินมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง การเคลื่อนไหวของโลหะเงินยังขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของดอลลาร์สหรัฐ (USD) เพราะสินทรัพย์โลหะเงินซื้อขายด้วยราคาเป็นดอลลาร์ (XAGUSD) ดอลลาร์ที่แข็งค่ามีแนวโน้มที่จะรักษาราคาโลหะเงินไว้ แต่หากดอลลาร์อ่อนค่าลง มีแนวโน้มที่จะผลักดันราคาโลหะเงินให้สูงขึ้น ปัจจัยอื่นๆ เช่น อุปสงค์การลงทุน อุปทานการขุด (โลหะเงินมีมากกว่าทองคํามาก) และอัตราการนำกลับมาใช้ก็อาจส่งผลต่อราคาโลหะเงินได้เช่นกัน
โลหะเงินมีการใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคส่วนต่างๆ เช่น อิเล็กทรอนิกส์หรือพลังงานแสงอาทิตย์ เนื่องจากโลหะเงินสามารถนําไฟฟ้าได้สูงที่สุดชนิดหนึ่งเมื่อเทียบกับโลหะทั้งหมด มากกว่าทองแดงและทองคํา ความต้องการโลหะที่เพิ่มขึ้นสามารถทำให้ราคาโลหะเงินเพิ่มขึ้นได้ การเปลี่ยนแปลงในระบบเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จีน และอินเดียยังสามารถส่งผลต่อการแกว่งตัวของราคาโลหะเงิน ในสหรัฐฯ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจีน ภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของพวกเขาใช้โลหะเงินในกระบวนการต่างๆ ในอินเดีย ความต้องการโลหะมีค่าของผู้บริโภคเพื่อเอาไปสร้างเครื่องประดับก็มีบทบาทสําคัญในการกําหนดราคาโลหะเงินเช่นกัน
ราคาโลหะเงินมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวตามราคาทองคํา เมื่อราคาทองคําสูงขึ้น โลหะเงินมักจะเคลื่อนไหวามความเหมาะสม อย่างไรก็ตาม สถานะของสินทรัพย์ทั้งสองไม่ได้อยู่ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยที่มีความคล้ายคลึงกัน อัตราส่วนเปรียบเทียบทองคําและโลหะเงินจะให้ข้อมูลของจํานวนออนซ์ของโลหะเงินที่จําเป็นเพื่อให้เท่ากับมูลค่าของทองคําหนึ่งออนซ์ อัตราส่วนเปรียบทียบนี้อาจช่วยในการกําหนดการประเมินมูลค่าสัมพัทธ์ระหว่างโลหะทั้งสอง นักลงทุนบางคนอาจพิจารณาว่าหากอัตราส่วนนี้สูง จะหมายความว่าโลหะเงินมีมูลค่าต่ำเกินไป หรือทองคํามีมูลค่าสูงเกินไป ในทางตรงกันข้าม อัตราส่วนที่ต่ำอาจบ่งบอกว่าทองคํามีมูลค่าต่ำกินไปเมื่อเทียบกับโลหะเงิน
บทความแนะนำ
