EURUSD ทรงตัวอยู่เหนือ 1.0700 ในวันที่ USD อ่อนค่าและตัวเลข PMI เอาชนะตัวเลขคาดการณ์ได้
- ในวันพุธ EURUSD เคลื่อนไหวอยู่ที่ประมาณ 1.0700 ท่ามกลางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง
- ดัชนี PMI เบื้องต้นของยูโรโซนแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจได้รับแรงหนุนการฟื้นตัวในเดือนเมษายน
- S&P Global ชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจของสหรัฐฯ ยังคงขยายตัวในเดือนเมษายน แม้ว่าจะชะลอตัวลงกว่าในเดือนมีนาคม
ในช่วงเช้าของตลาดลงทุนเอเชียวันพุธ คู่ EURUSD ยืนเหนือแนวต้านทางจิตวิทยา 1.0700 ข้อมูล PMI ของสหรัฐฯ ที่อ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือนเมษายนฉุดค่าเงินดอลลาร์ให้อ่อนค่าลง และสร้างปัจจัยหนุนให้กับ EURUSD นักลงทุนจะได้รับแรงหนุนมากขึ้นจากดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจและความคาดหวังของตลาดจาก IFO ของเยอรมนี รวมถึงข้อมูลคําสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมีนาคมของสหรัฐฯ
ในภาพรวมนั้น กิจกรรมทางธุรกิจในเดือนเมษายนของยูโรโซนขยายตัวอย่างรวดเร็วที่สุดในรอบเกือบหนึ่งปี โดยมีการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในภาคบริการหลักของยุโรป ตามการสํารวจดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ล่าสุดของ HCOB ที่ประกาศเมื่อวันอังคาร ดัชนี PMI Composite ของยูโรโซนปรับตัวดีขึ้นสู่ระดับ 51.4 ในเดือนเม.ย. จากระดับ 50.3 ในเดือนมี.ค. ซึ่งดีกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 50.8 ตัวเลขดังกล่าวทําสถิติสูงสุดในรอบเก้าเดือน
ในขณะเดียวกัน ดัชนี PMI ภาคบริการของกลุ่มยูโรโซนแตะระดับสูงสุดในรอบ 11 เดือน โดยเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 52.9 ในเดือนเมษายนจาก 51.5 ในเดือนมีนาคม ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 51.8 ดัชนี PMI ภาคการผลิตของยูโรโซนอยู่ที่ 45.6 ในเดือนเมษายน เทียบกับตัวเลข 46.1 ในเดือนมีนาคม อ่อนแอกว่าที่คาดไว้ที่ 46.5 หลังจากประกาศข้อมูลดังกล่าว เงินยูโร (EUR)แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ท่าทีที่ผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจจํากัดขาขึ้นของ EURUSD
ผู้กําหนดนโยบายของ ECB เน้นย้ำถึงความจําเป็นในการลดอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งในปีนี้ แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่สูงขึ้นจะชะลอการดำเนินนโยบายผ่อนคลายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และความตึงเครียดในตะวันออกกลางทําให้ราคาน้ำมันอยู่ในระดับสูงก็ตาม คริสตีน ลาการ์ด (Christine Lagarde) ประธาน ECB ให้ความเห็นว่าธนาคารกลางอาจลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4% ในเดือนมิถุนายน แต่ยังคงเปิดทางเลือกสําหรับการดําเนินการเพิ่มเติม
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ดัชนี PMI คอมโพสิตจาก S&P Global เบื้องต้นของสหรัฐฯ ซึ่งติดตามข้อมูลจากทั้งภาคการผลิตและภาคบริการ ลดลงเหลือ 50.9 ในเดือนเมษายนจากการประกาศครั้งก่อนหน้านี้ที่ 52.1 ในขณะเดียวกัน ดัชนี PMI ภาคการผลิตลดลงสู่ระดับ 49.9 ในเดือนเมษายน จาก 51.9 ในการประก่าศครั้งก่อน ซึ่งอ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 52.0 ดัชนี PMI ภาคบริการลดลงสู่ระดับ 50.9 เทียบกับ 51.7 ในการประกาศก่อนหน้านั้น ซึ่งแย่กว่าระดับ 52.0 ที่คาดไว้ รายงานระบุว่ากิจกรรมทางธุรกิจในเดือนเมษายนของสหรัฐอเมริกายังคงขยายตัว แม้ว่าจะชะลอตัวลงกว่าในเดือนมีนาคม ข้อมูลตัวเลขที่ลดลงจะส่งผลกระทบต่อดอลลาร์สหรัฐ (USD) และจํากัดขาขึ้นของ EURUSD
บทความที่เกี่ยวข้อง
